ฮ่องกง 28 มิถุนายน 2552

วันอาทิตย์ ที่ 28 มิถุนายน 2009



วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ฮ่องกง ยังเที่ยวไม่ครบเลย มาเก๊าก็ไม่ได้ไป เซินเจิ้นก็ไม่ได้ไป ช้อปก็ไม่ได้ช้อป


ที่แรกที่จะไปวันนี้คือ Repulse Bayอากาศวันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝน

พอออกจากสถานี MTR แล้ว เราก็มาเจอภาพข้างล่างนี้ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ถ้าใครรู้ช่วยบอกทีนะ






ป้ายรถเมล์ที่จะไป repulse bay จะอยู่ตรงข้ามกับสถานี MTR ต้องข้ามสะพานลอยไป

เราลงจากรถบัสก่อนป้าย Repulse Bay ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าหาดอะไร คือตอนแรกนึกว่าเป็น Repulse bay เดินเล่นอยู่พักใหญ่ได้
ภูเขาในรูปคือที่ตั้งของ Ocean Park วันนี้กระเช้าไฟฟ้าทำงานปกติ





จากนั้นเราก็นั่งรถสายเดิมไป Repulse Bay

เดินเที่ยวอยู่ซักพักได้ หาดทรายไม่สวยเลย สู้บ้านเราไม่ได้

สามีเราชอบวัดจีนมาก








หลังจากกลับมาจาก Repulse Bay เรากับสามีก็กลับมานอนพักที่ห้องเพราะสามีเรารู้สึกเพลียๆเหมือนจะไม่สบาย
พอตกกลางคืนก็ไปหาของกินแถวนั้น เดินไปเดินมาไปเจอร้าน ไอริชโปเตโต้
เรากับสามีก็ยังคิดว่าเป็นมันฝรั่งมาจากไอร์แลนด์จริงๆเหรอ

หมดแล้วสำหรับการทัวร์ฮ่องกง ไม่ได้ไปเที่ยวหลายที่หรือทำกิจกรรมอย่างที่คิด
แต่ก็ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง สามีเราหลงรักฮ่องกงไปเลยแหละ
เพราะว่าสะอาดมาก การเดินทางสะดวก ของกินอร่อย ดูเป็นระเบียบ

ตัวเราอยากจะบอกว่าไม่ได้ชอบเป็ดฮ่องกงอ้ะ ชอบเป็ด MK มากกว่า
หลังจากการลองชิมมาหลายร้าน ทั้งร้านธรรมดาและที่เป็นภัตาคารอาหาร

ส่วนก๋วยเตี๋ยวเราก็เฉยๆนะ ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูแดง หมูสับ เป็ดย่าง แต่เราชอบที่ลูกชิ้นกับเกี๋ยวน้ำ

ทริปนี้ไม่ได้ทำการช้อปเลยเพราะว่าเราบริหารเงินไม่ดี คือใช้ไปเรื่อย
ไม่จดไม่ใส่ใจอะไร พอมารู้อีกทีอ้าว เงินเหลือแค่นี้เอง เลยต้องระงับการซื้อทุกอย่าง
ใจจริงก็เสียดายมากเหมือนเพราะเราชอบใส่รองเท้าส้นสูง แล้วรองเท้าส้นสูงที่ฮ่องกงก็สวยดี

เราว่าถ้าไม่ใช่ราคาของของแบรนด์เนมที่ถูกกว่าเมืองไทย เสื้อผ้ากระเป๋าที่ไม่ได้มียี่ห้อ ก็ไม่ได้ดีไปกว่าเมืองไทยนะ (ยกเว้นรองเท้า)
เราไปเดินแพลทตินัม ยังคิดเลยว่าดีกว่าฮ่องกงอีก

สิ่งนึงที่ขอแนะนำคือเค้กที่ฮ่องกง อันนี้ก็ลองมาหลายร้าน อร่อยใช้ได้เลยค่ะ
เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพไว้

เราว่าเราถ่ายภาพไว้เยอะแล้วนะ แต่พอมารีวิวมันก็ขาดโน่นขาดนี่ เสียดายเหมือนกัน

อ้อมีอีกเรื่องนึง วันรุ่งขึ้นเราก็นั่ง Lufthansa กลับไอร์แลนด์
แต่เครื่องมีปัญหาเนื่องจากมีปุ่มที่โชว์ว่ามีไฟไหม้ในตัวเครื่อง
มีเจ้าหน้าที่หลายคนมาหาเหมือนกันว่ามันไหม้ตรงใหน สามีเราก็สติแตกไปเลยจะลงจากเครื่องให้ได้
เค้าก็เดินไปคุยกับกัปตันแล้วก็พนักงานต้อนรับซึ่งเป็นผู้ชายตัวใหญ่มาก ไม่รู้คุยกันอีท่าใหน
พนักงานคนนั้นเตะนิ้วเท้าโป้งของสามีจนเล็บเปิดเลยแหละ

ตอนนั้นเราโมโหสามีเราอยู่เพราะทำตัวงี่เง่า พอสามีเรามาบอกว่าแอร์เดินเตะเล็บเปิดเลย เราก็ไม่สนนะ
แต่พอเห็นเลือดเราก็ตกใจอ้ะ คนที่นั่งอยู่รอบๆก็มามุงดู แอร์ก็ตกใจ เค้าก็หยิบอุปกรณ์การทำแผลมาให้
แต่เราทำแผลให้สามีเพราะดูเหมือนแอร์ยังช็อคอยู่เลยตอนเห็นเลือด

สงสารสามีเรามากเพราะนิ้วเท้าโป้งของสามีเราใหญ่มาก คือสามีเราเป็นคนเท้าใหญ่ ใส่รองเท้าเบอร์ 14
พนักงานคนนั้นก็เอา voucher มาให้สามีเรา 25 ยูโร เราก็โอเคนะไม่ได้คิดจะเอาเรื่องอะไรเพราะเค้าก็ไม่ได้ตั้งใจ
พอเค้ารู้ว่าเราชอบชอคโกแลต ก็ไปเอาชอคโกแลตมาให้เรากินเยอะมาก
เรายังพูดติดตลกเลยว่า ช่วยทำให้เล็บสามีเราเปิดอีกทีได้ไหม เราจะกินชอคโกแลตเยอะๆ

Create Date : 12 สิงหาคม 2552		0 comments
Last Update : 22 สิงหาคม 2552 22:31:26 น.
Counter : 851 Pageviews.
Share Tweet