เมื่อไปดู Bon Jovi Concert- Lost Highway...Live in Toronto 2007
ในที่สุดวันที่เรารอคอยก็มาถึงซักที เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2007 ที่ Bon Jovi จะได้มาแสดงคอนเสิร์ตที่ Toronto เรานัดกับอีกสามสาวคือ Vanessa, Ina และ Kristin ให้ไปเจอกันที่ Union Station เพื่อจะได้เข้าไปยัง Air Canada Centre (สถานที่แสดงคอนเสิร์ต) พร้อมๆ กัน เมื่อเจอกันเรียบร้อยเราก็พากันเข้าไปในสถานที่แสดง งานนี้แต่ละคนตื่นเต้นกันมาก เพราะเป็นการชมคอนเสิร์ต Bon Jovi ครั้งแรกของเราสี่สาว หลังจากที่เราก็เป็นแฟน Bon Jovi มาสิบกว่าปี เริ่มรู้จักและชอบ Bon Jovi จากอัลบั้ม These Days ก่อน แล้วค่อยๆ หาข้อมูลและย้อนกลับไปฟังเพลงในอัลบั้มเก่าๆ จากนั้นด้วย และเคยตั้งใจไว้ว่าถ้ามีโอกาสจะไปดูคอนเสิร์ตของ Bon Jovi ซักครั้งหนึ่งในชีวิตให้ได้ แต่ก่อนจะไปครั้งนี้แต่ละคน (ทั้งสี่สาว) ก็ไม่ค่อยได้ติดตามผลงานของ Bon Jovi ในอัลบั้มใหม่ๆ 2 อัลบั้มที่ผ่านมามากนัก แต่เราก็ยังคงชอบในผลงานของ Bon Jovi ในยุค 90 อยู่ก็เลยต้องมา
พอเวลา 1 ทุ่ม ก็มีวงดนตรี (เราไม่รู้จักอ่ะ สงสัยจะแก่แล้ว) ออกมาแสดงเพื่อ warm up ผู้ชม ก่อนที่ Bon Jovi จะออกมา สังเกตว่าพวกวัยรุ่นจะรู้จักวงนี้ และรู้จักหลายๆ เพลงที่วงนี้เล่น (แต่เราก็ยังไม่รู้จัก) หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า วงนี้ก็แสดงเสร็จ และให้ staff ขึ้นมาเตรียมความพร้อมของเวทีสำหรับ Bon Jovi เราก็นั่งตื่นเต้นว่าเมื่อไหร่จะออกกันมา และประมาณ 2 ทุ่ม ก็เริ่มมีดนตรีขึ้น แต่จะเป็นแค่ acoustic guitar กับ ไวโอลีน เท่านั้น และไฟบนเวทีก็จะมืดๆ หน่อย ซักพักก็เริ่มมีเสียงกรี๊ดขึ้นมา เพราะ 4 หนุ่มใหญ่ประจำวงเริ่มทะยอยกันขึ้นมา โดยเริ่มจาก Tico Torres ซึ่งเป็นมือกลอง หลังจากนั้นก็เป็นพี่หยิก David Bryan สุดยอดมือคีย์บอร์ดและพี่ Richie Sambora สุดยอดแห่งมือกีตาร์ ซึ่งพอแต่ละคนออกมา ก็มีเสียงกรี๊ดสนั่นทีนึง และท้ายสุดก็เป็นพี่ Jon Bon Jovi คราวนี้ก็มีเสียงกรี๊ดลั่นสุดๆ (เราก็ร่วมกับเค้าด้วย ฮิฮิ) โดยเริ่มเล่นเพลง Lost Highway ที่เป็นเพลงฮิตของอัลบั้มใหม่ (ซึ่งเราเคยฟังมานิดหน่อย) หลังจากนั้นก็สลับด้วยเพลง You Give Love a Bad Name ซึ่งเพลงนี้จะมาจากอัลบั้มยุคแรกๆ เลย ซึ่งเราจะตามทันหน่อย และจากนั้นก็สลับด้วยเพลงจากอัลบั้มชุดใหม่ๆ อีก ก็ตามได้บ้าง ไม่ได้บ้าง (ที่จำได้ก็มี We got it going on, Who say you can't go home, Have a nice day, You want to make a memory) และก็มีสลับกับเพลงที่เป็นสุดยอดอมตะของ Bon Jovi เช่น Keep the Faith, Its My Life, Bad Medicine, Ill Be There for You, Bed of Roses, Living on a Prayer, In These Arms และ Wanted Dead or Alive
เล่นไปได้ชั่วโมงกว่าๆ พี่ Jon Bon Jovi ก็หายแว๊บไปปล่อยให้ Richie Sambora ฉายร้องเพลง 1 เพลง จากนั้นพอจบ พี่ Jon ก็ไปโผล่เวทีข้างๆ เล็กๆ ทางฝั่งซ้าย พร้อมกับกีตาร์ พร้อมทั้งเล่นเพลง Bed of Roses ระหว่างนั้นที่มีคนดูพยายามจะจับมือกับพี่ Jon นั้น พี่ Jon ก็คว้ามือผู้ชมสาวคนนึงขึ้นมาบนเวทีแล้วก็จับมือเต้นรำ พอเต้นได้แป๊ปนึง พี่ Jon ก็ขอบคุณผู้หญิงคนนั้นด้วยการหอมแก้มผู้หญิงคนนั้น (กรี๊ดๆๆๆ พี่จอนน่ารักมากกกกก และกรี๊ดอีกรอบว่าอยากเป็นผู้หญิงคนนั้นจัง คาดว่าผู้หญิงคนนั้นคงเป็นลมสลบไป 1 รอบด้วยความปลื้มสุดๆ)
เสร็จแล้วพี่ Richie ก็โผล่มาแจมพี่ Jon ที่เวทีเล็ก แล้วก็เล่นเพลง Cant help falling in love แบบ acoustic โอ้วว้าววว พอเล่นเสร็จก็ต่อด้วยเพลง Ill be there for you... กรี๊ดต่ออีกรอบ เพราะชอบเพลงนี้มากกกก ปลื้มมากๆ เลย และเมื่อทำนองเพลง Living on a prayer ขึ้น ก็มีเสียงกรี๊ดสนั่น hall (เราก็กรี๊ดด้วย ฮิฮิ) และแทบทุกคนที่มาคอนเสิร์ตลุกขึ้น ร้องและเต้นไปกับเพลง
เราดีใจมากที่ตัดสินใจมาดูคอนเสิร์ตนี้ ทั้งวงเล่นได้เต็มที่มาก พี่ Jon ก็น่ารักมาก ดูจริงใจและเป็นธรรมชาติสุดๆ พี่ Richie นี่ก็ดีดกีตาร์ได้สุดยอดมากๆ มือพลิ้วสุดๆ คุยกับเพื่อนสาวที่ไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันและสรุปว่า พี่ Jon ต้องเป็นคนโรแมนติคมากๆ เพราะเพลงที่แต่งแต่ละเพลงโรแมนติคมาก เช่น เพลง Always (เสียดายไม่ได้เล่นเพลงนี้ในคอนเสิร์ต), Bed of Roses, Ill be there for you, Never say goodbye (ไม่ได้เล่นเพลงนี้เหมือนกัน), This aint a love song, In these arms, Thank you for loving me และยังมีอีกสารพัดเลย แถมพี่แกยังแต่งงานมาตั้งไม่รู้กี่ปี มีลูก 4 คน ยังรักกับภรรยาเหนียวแน่นเลย
เพลงในอัลบั้มชุดใหม่ไม่ค่อยรู้จัก ข้ามไปละกัน ก็มาต่อด้วย Keep the faith
แล้วก็สลับด้วยเพลงจากอัลบั้มใหม่อีกแล้ว We got it going on
แล้วก็ตามด้วย It's my life.... เพลงนี้ขึ้นปุ๊ปกรี๊ดสนั่น hall เกือบแตก
แล้วก็ Bad medicine
เพลง You want to make a memory จากอัลบั้ม Lost Highway
หลังจากนั้นก็เป็นเพลงโปรดคือ I'll be there for you เสียดายว่าวิดีโอคลิปเราขนาด 144 mb เลยโหลดลง youtube ไม่ได้ ก็เลยไปหาและขอยืมของคนที่ไปคอนเสิร์ตวันเดียวกันมา แถมคนนี้เค้าได้ใกล้ชิดพี่จอน มากกว่าอีก
แล้วก็กรี๊ดกันต่อกับ Bed of roses
แล้วก็จากอัลบั้มชุดที่แล้ว Have a nice day
แล้วก็ตามด้วยอีกเพลงจากอัลบั้มที่แล้ว Who say you can't go home