Weekend in London กับพี่เย็นซ์อีกรอบ :-)

หมดทริป Marseille ได้สองอาทิตย์กว่าๆ ก็ตะลอนไปลอนดอนต่อ แต่คราวนี้เป็นทริปส่วนตัว เพราะอาทิตย์นี้พี่เย็นซ์ไปร่วม European SharePoint Best Practices Conference แล้วก็ชวนเราไปสวีทวีคเอนก่อนที่จะต้องไปร่วม conference นี้ แก้ตัวจากที่เราเคยชวนไปแจมที่ Marseille แต่ไปไม่ได้

ไปคราวนี้หมดไปหลายเลย แต่ไม่ได้หมดเพราะช็อปปิ้งให้ตัวเอง ซื้อของให้ตัวเองแค่ 25 ปอนด์ นอกนั้นหมดไปกับการเป็นแม่ยกให้พี่เย็นซ์ เพราะพี่เย็นซ์ตั้งเป้าไว้แล้วว่าอยากจะไปเหมาเสื้อ ของ Ralpe Lauren (แบบสำหรับ Big & Tall) มา เนื่องจากติดใจจัดตั้งแต่ได้ไปซื้อมาใช้ เมื่อตอนที่ไป Orlando เมื่อสองปีที่แล้ว

สรุปว่าไปร้านแรกในลอนดอนตรงข้ามกับ Harrods เลยพี่เย็นซ์สอยเสื้อโปโลไปสองตัว จ่ายเองหมดไปร้อยกว่าเกือบสองร้อยปอนด์ พอวันรุ่งขึ้นไปดูอีกร้านไม่ไกลจาก Harrods เท่าไหร่เหมือนกัน ภรรยาอย่างเราก็ทั้งช่วยเลือก คอมเม้นท์ และจ่ายให้ด้วยซะเลย เนื่องจากอยากให้สามีแต่งตัวหล่อๆ และสงสารสามีที่เดนมาร์กไม่ค่อยมีเสื้อผ้าเก๋ๆ เท่ห์ สำหรับคนตัวโต ก็เลยได้เสื้อเชิ๊ตมา 4 ตัว และ sweat shirt แบบมี hood อีก 1 ตัวหมด (พี่เย็นซ์ชอบอะไรที่เป็นแนวๆ hippop มาก) ไปเกือบ 400 ร้อยปอนด์ ตอนแรกอึ้งๆ พอคูณเป็นเงินโครนก็กรี๊ด แต่เอาละวะ ไหนๆ ก็ได้ภาษีคืน พี่แกก็ให้เราออกค่าบ้านน้อยกว่าที่แกออกเยอะ ออกค่าโรงแรม ก็ต้องซื้อให้พี่แกหน่อย



นอกนั้นก็กินเที่ยวกันตามประสาสองสามีภรรยา ไม่มีลูก สไตล์สบายๆ ไปเรื่อยๆ ไปดู Buckingham Palace, Big Ben อีกรอบ และวันอาทิตย์ตอนเช้าก็ไปเดิน Camden town คนเยอะมาก แต่ก็มีของให้ดูเยอะมากๆ ทั้งของกิน เสื้อผ้า อะไรต่อมิอะไร สรุปว่าได้เข็มกลัดเก๋ๆ น่ารักๆ มาในราคา 1 ปอนด์


มาอีกแล้ว ห้องนอน โรแมนติคดีนะ แล้วก็สวยเรียบ ใช้โทนสีสบายๆ ดี ครั้งนี้เราไปพักที่ Radisson Edwardian Bloomsbury Street Hotel จริงๆ แล้วจองไปที่ Radission Edwardian Kenilworth Hotel แต่ว่าโดนจับเปลี่ยนมาที่ Bloomsbury ซึ่งห้องก็โรแมนติคกว่านะ ห้องน้ำกว้างดีด้วย ดีเหมือนกันแฮะ โรงแรมสองที่นี้ก็ห่างกันไม่เกิน 50 เมตรเอง ก็ไม่ต่างกันมากในเชิงของที่ตั้ง










พาพี่เย็นซ์ไปกินติ่มซำที่โซโหอร่อยมาก จากนั้นก็พาพี่แกทัวร์ไชน่าทาวน์ต่อ



ไปเจอคาเฟ่นี้ พี่เย็นซ์เล่นมุข อุ้ย This is my cafe หุหุ



แบ็คกราวน์คุ้นๆ อีกแล้ว คือ Picadilly Circus นั่นเอง



สภาพพี่เย็นซ์ ณ หน้า Buckingham Palace





Royal Guard ชุดคล้ายๆ กับ Royal Guard ที่เดนมาร์ก



เดินต่อจาก Buckingham Palace ผ่าน St. James Park จนมาถึง Big Ben






Westminster Abbey ปิดซะแล้ว เสียดาย











London Eye



Camden Town คนเยอะมากกกกกก



แต่ละร้านตกแต่งได้เท่ห์มาก












รถเข็นขายโดนัท น่ากินมาก



พิซซ่าบ้าง



ขนมขบเคี้ยว



บรรยากาศนี่แถวสยามก็ว่าได้ ของกินเรียงราย



คราวนี้ก็รวบรวมอาหารอร่อยๆ ที่ได้กินมาในลอนดอนบ้าง

เช้าวันเสาร์ พี่เย็นซ์ชวนแวะสตาร์บัค แบบว่าหิวจัด เลยซัด Latte แก้วใหญ่ คนละแก้ว แล้ว Savoury cheese pastry อร่อยมากกก



ลืมถ่ายภาพตอนกินติ่มซำ เนื่องจากหิวจัด เลยมีแต่ภาพจากมื้อเย็น โดยเป้าหมายของเราคือ British cuisine เราเลยได้ขาแกะอบ Lambshank กับมันฝรั่งบด ส่วนพี่เย็นซ์สั่ง Fish & Chips






ขนมหวานของพี่เย็นซ์ Coconut Cream Caramel



ขนมหวานของเรา Ginger Poached Pear กับ ไอติม :)



อาหารเช้าของวันอาทิตย์ (วันที่เราต้องกลับเดนมาร์ก) เป็น English Breakfast ของแท้แน่นอน



สำหรับมื้อเที่ยงแวะกินที่คาเฟ่แถวๆ Knightbridge เพราะต้องพานังพี่เย็นซ์ไปซื้อเสื้อ ออกจากร้านตัวเราเบาหวืด ฉะนั้นต้องกินอะไรหนักๆ

เราสั่ง Warm chicken sandwich with melted cheese & bacon อร่อยมาก แต่ว่าอ้วนกระหน่ำขอบอก



สั่งชามะนาวเย็นๆ มาคู่กัน



พี่เย็นซ์สั่งเบอเกอร์ สั่งมาแล้วก็บอกว่ารู้งี้สั่งแบบเรามาก็ดี



หมดแล้ว สั้นมากๆ เลยทริปนี้ แต่ก็สนุกดี ไปกันแค่สองคนอยากจะไปไหนทำอะไรก็สะดวก ขากลับเดนมาร์กก็ต้องกลับคนเดียว เพราะพี่เย็นซ์ต้องอยู่ประชุมอีกสามวัน จากนั้นพี่เย็นซ์ก็ตามไปเจอที่มิลานทีเดียวเลย ส่วนข้าเจ้าก็ทำหน้าที่บอร์ดี้การ์ดพาพ่อแม่สามีขึ้นเครื่องไปลงที่มิลาน แล้วไปสมทบกับพี่เย็นซ์ที่นั่น

พอถึงโคเปน เอากระเป๋าเรียบร้อย ก็ไปเดินหาว่ารถอยู่ไหนหว่า เดินหาอยู่ 20 นาที ก็ไม่เจอ มืดก็มืด จะร้องไห้อยู่แล้ว เลยโทรถามพี่เย็นซ์ที่อังกฤษ พี่แกก็บอกว่าใกล้ๆ ที่จ่ายเงินค่าจอดไงเธอ ปรากฎว่าพี่เย็นซ์อธิบายไม่ถึงครึ่งนาทีหาเจอเลยคร๊าบ เปิ่นอีกแล้วงานนี้

หมดทริปนี้จะมาเล่าทริปหน้าที่ไปอีสเตอร์และเยี่ยมน้องที่อิตาลี่มา

Create Date : 17 เมษายน 2552		5 comments
Last Update : 12 กรกฎาคม 2552 17:24:52 น.
Counter : 1963 Pageviews.
Share Tweet