ลำไย ( Logan )
ลำไย(1)มีรสหวานฉ่ำชื่นใจหากทานพอประมาณจะกลายเป็นยาบรรเทาหวัด แก้ปวด
ลำไย(2)แก้ไข้มาลาเรีย วิงเวียนศีรษะส่วนดอกยังรักษานิ่ว+ริดสีดวงทวารได้
ลำไย ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกชนิดหนึ่ง ซึ่งมีรสหวานอร่อยและยังทำรายได้เข้าประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ลำไยมีสารอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลกลูโคส ซูโคสและฟรุกโตสและวิตามินชนิดต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี 1




ลักษณะ/พันธุ์ :

1. ลำไยเครือหรือลำไยเถา มีลำต้นเลื้อยคล้ายเถาวัลย์ ลำต้นไม่มีแก่น ใบเล็ก และสั้น ผลเล็กผิวผลสีชมพูปนน้ำตาล เนื้อผลบางมีกลิ่นคล้ายกำมะถันปลูกไว้สำหรับเป็นไม้ประดับมากกว่ารับประทานผล

2. ลำไยต้น แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
- ลำไยพื้นเมือง หรือลำไยกระดูก
- ลำไยกระโหลก

คุณค่าทางโภชนาการ:

ลำไย ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกชนิดหนึ่ง ซึ่งมีรสหวานอร่อยและยังทำรายได้เข้าประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ลำไยมีสารอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลกลูโคส ซูโคสและฟรุกโตสและวิตามินชนิดต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี 1 และบี 2 สูง โดยเนื้อลำไยมีรสหวานและมีสรรพคุณแก้ผอมแห้งแรงน้อย นอนไม่หลับ ขี้ลืม ใจสั่น บำรุงร่างกาย บำรุงประสาท ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยบำรุงกำลังของสตรี ภายหลังจากการคลอดบุตร ส่วนลำไยแห้งนั้นจะมีสรรพคุณในการบำรุงหัวใจ ระบบประสาท ช่วยย่อยอาหาร ช่วยบำรุงกำลัง และบำรุงโลหิต

การนำไปใช้ประโยชน์:

นอกจากจะรับประทานผลสดแล้ว ยังนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ลำไยทั้งเปลือกอบแห้ง ลำไยดอง ลำไยกวนปรุงรส ลำไยแช่อิ่ม น้ำลำไยผง น้ำลำไยสด น้ำลำไยแห้ง ลำไยกวน ลำไยกระป๋อง หรือบรรจุขวดในน้ำเชื่อม นอกจากนี้ยังทำเป็นอาหารคาว หวาน เช่น ข้าวต้มลำไย ข้าวเหนียวเปียกลำไย คุกกี้ลำไย เค้กลำไย พายลำไย ขนมปังลำไย แกงเผ็ดลำไย แกงจืดลำไยสอกไส้ เป็นต้น ส่วนคุณค่าทางยาสมุนไพร เนื้อลำไย ยังสามารถนำมาดองเหล้าเก็บไว้ 10 วัน รับประทานเป็นยาบำรุงโดยการนำมาตุ๋นกับน้ำตาลรับประทานเป็นยาบำรุงเลือดให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แก้หวัด แก้ไข้มาเลเรีย แก้ปวด ห้ามเลือด รักษาเกลื้อน แก้วิงเวียนศรีษะ ส่วนดอกลำไยช่วยในการขับนิ่ว โรคมาลาเรีย ริดสีดวงทวารหนัก




เรื่องจากอินเตอร์เน็ท




Create Date : 11 สิงหาคม 2554
Last Update : 11 สิงหาคม 2554 15:18:58 น.
Counter : 7125 Pageviews.

38 comments
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง



* รอ(สุวรรณเกษร) *

ยามดอกฝนโปรยประคองละอองสาย
บรรจบมลายลับสิ้นสู่ดินผืน
ให้หนึ่งรากปลูกฝังมุ่งหวังยืน
ร่วมฝนฟื้นคืนคร่ำกลับอำไพ

ผ่านรอยยิ้มพิมพ์หลักบนอักษร
ลบตรมตอนโศกศัลย์กลับสรรใหม่
เนิ่นนานเอยคร่ำคอยอย่างน้อยใจ
สะอื้นไห้ท่ามฟ้าอยู่ครานั้น

เหลือรอยร้างสร้างขวัญในวันนี้
ยอมยินดีทั้งผองตรึกตรองฝัน
หวังรอยยิ้มหนึ่งวางเป็นรางวัล
ลดรอยทัณฑ์อ้างว้างเคว้งคว้างเคียง

ทะเลโล่งลมคลื่นเสียงครื้นครึก
พอดื่นดึกกลับเงียบไร้เลียบเสียง
หากหนึ่งใจดวงนี้หันคลี่เรียง
แสงตะเกียงหนึ่งภาพหันทาบทรวง

หวังแสงไฟพาจิตอธิษฐาน
มาประทานพบสรรค์ในชั้นสรวง
ช่วยดับเถิดถวิลหวังใจทั้งปวง
ดับรอยห่วงอาลัยระทดฤทัยคอย

อย่ารัญจวนไหวหวิวให้หิวหา
อย่างตั้งตารอเยี่ยงใจเบี่ยงบ่อย
ยอมตามตรึงภักดิ์สมัครพลอย
หมายล่วงรอยรอเนาไม่เศร้าตรม
โดย: ญามี่ วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:21:19:03 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง

*ฝน*


เหลียวกลับหลังแล้วพะวงให้หลงใหล
ละอองไอสายฝนเวียนวนเยี่ยม
สายน้ำไหลวกเลียบหวังเทียบเทียม
สิ้นรอยเหลี่ยมมลายกับสายชล

เย็นนัยจิตมิดขวัญประหวั่นหา
เสียงเปาะแปะคราใกล้ยินในฝน
เพลินเพลงพิณส่งพรายมาร่ายดล
น้ำบนถนนลุล้ำตามทำนอง

ตรงเบื้องหน้าน้ำมาคอยท่าพร้อม
มองรอบล้อมน้ำขังกำลังล่อง
แรงกับแรงพลิ้วพัดหวังรัดครอง
สุดตาตรองลึกเร้นเฉกเช่นราง

เงียบงันนานบนทางอันว่างเปล่า
เหลือรอยน้ำกับเราให้เหงาข้าง
เกิดหนาวใกล้ให้เฝ้าบนเผาคราง
สะท้อนอ้างว้างบนเพลงบรรเลงรอ

สิ้นสุดแล้วสินะทุกข์ขณะแล้ง
พื้นดินแห้งกลับชอุ่มชื้นชุ่มห่อ
รอยเย็นซึมหลุมร้างคอยสร้างทอ
พะนอต่อแผ่นดินดุจถวิลเคียง
โดย: ญามี่ วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:22:26:15 น.
  
เมื่อพายุเข้ามา ทุกอย่างก็สลาย..


สวัสดีวันร้อนๆ ใกล้พายุมาค่ะน้องเมือง ร้อนมากๆค่ะ38แล้วค่ะ

*พายุมา*

หมายประสิทธิ์สุดสร้างชื่น.....................เชิดชู
ได้สุขเฝ้ามองดู...................................ดาษแจ้ง
หล่นค้างกลับอดสู................................สุดเทวษ
ภัยร่างรู้รอยแกล้ง................................ก่อร้ายส่งมหันต์

สรรค์สืบจิตหวั่นพลิ้ว..............................พะนอลม
หมายนฤมิตชะลอคม.............................เคลื่อนร้อน
พายุสัจจ์และส่งสม................................สร้างสุข
หายเร่าร้อนมาช้อน................................ชุ่มน้ำซึ้งผสาน

กาลกลับร่ายแล้งรด...............................ระทมวาง
จิตจ่อจินต์ร่วมพราง................................พรั่นพ้อ
มาดหมายมุ่งรู้สาง..................................เสมอสวาดิ
ตราบชีพหมดสิ้นท้อ................................ทุกข์นั้นคงหาย

สายโศกเลื่อนแต้มตื่น..............................ตรมภวังค์
ลอยเฟื่องบนความหวัง.............................วรรคแล้ว
โลกทัศน์ขื่นขมฝัง...................................ฝากโหด ร้ายเฮย
สิ้นสดับพจน์ผ่องแผ้ว................................ผ่านพร้อมยินเสียง

เมียงหมองเข้าข่มแพ้................................พลันเผา
หม่นเหม่อละอองน้ำเนา.............................เหนี่ยวไว้
เดือนเด่นจิตกลับเหงา...............................เงียบสนิท
ไร้ลู่ซึ้งสิ้นใกล้.........................................ก่องฟ้ากลบสวรรค์
โดย: ญามี่ วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:13:17:33 น.
  
สวัสดีวันฝนตกแดดออกค่ะน้องเมือง อิอิ


* พายุ *

คืนแรมโคมขับเข้า......................แขวนหาว
พรายพร่างสาดแพรวพราว............พริบโพ้น
ปริศนาเคลื่อนให้สาว..................สืบสุข
จันทร์ประทีปฟากฟ้าโน้น.............นึกเร้นมาหา

ดาริการะยิบแจ้งจบ......................เจนกาล
พายุมารุกราน.............................รับรู้
เวิ้งว้างเห่จินต์ประสาน...................เสริมหม่น
ร่วมพากย์แจ้งใจกู้........................ก่อล้มจมกระแส

แลอำพนโอภาสพริ้ง.......................พบงาม
แสงส่องจิตล้นหนาม......................เหนี่ยวแพ้
หฤทัยหวั่นเวียนถาม.......................ถึงรุ่ม ร้อนแล
ในคลื่นลมมิอาจแก้........................กรุ่นร้ายข่มเหง

เพลงพรหมลอยล่องเอื้อน.................ออกสอน
กลกฏขัดอาวรณ์.............................แวดเร้า
พากย์ผลก่อทางถอน........................ถมเจ็บ
ลืม,ลบคราวปวดเศร้า.......................โศกนั้นจมสลาย

วายวอดยังเร้นเหน็บ.........................หนาวใจ
พายุก่อทุกข์ไป...............................ปิดล้อม
ตราบโลกพลิกพานไหว.....................เวียนอยู่
หนึ่งโศกฝากร้าวพร้อม.......................พิศรู้กาลหวัง
โดย: ญามี่ วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:19:17:30 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง


* พายุ *

หวิวหวิวหวีดคร่ำร้อง.........................เรียบลม
เวิ้งสุดปลิวเทียบระดม.......................ดื่นล้น
ฝนโปรยเรื่อยเข้าผสม.......................สู่ฝั่ง โพ้นเนอ
เชื่อมฝั่ง,รูปผ่านพ้น..........................เพียบท้นขอบถนน

สายฝนคลื่นวาดคุ้ง...........................คืบขนาน
ตาที่แล้งจำจาร................................เจ็บสะอื้น
โพล้เพล้เกาะโน้นปาน........................แปลกถิ่น
รอยเรียบสนิทเปียกชื้น.......................ช่อชั้นล้วนพิศวง

หลงท่ามคลื่นวิชชุเยื้อง.......................เยือนครวญ
แววกระหน่ำล้วนเรรวน........................ร่วมรู้
น้ำค้างคลื่นผสมหวน...........................หันจับ
หนักยุคมาเดินสู้.................................สบช้ำมองสมัย

ภัยวัฏฏะรอบหล้า...............................ลือกระแส
มัวหม่นยากปรับแปร...........................ปราบร้าย
คิดหมายมาดเผลอแผล.......................ผลักผ่าน
อุโฆษคร่ำเดินท้าย.............................ทุกข์เข้ามาหา

พายุขบวนเคลื่อนครื้น..........................คอยเคียง
เผยมอดไหม้มาเมียง...........................มุ่งล้อม
เจ็บจารจ่อมชิดเฉียง.............................ฉากนั่น
เสมือนสั่นโศกยืนพร้อม........................พากย์เศร้าโรยละโหย
โดย: ญามี่ วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:22:12:06 น.
  
พรุ่งนี้วันอาทิตย์ได้นอนนานๆชอบไหมคะ อิอิ ฝันดีค่ะน้องเมือง



* ยามเย็น *

หมอกโอบไอล่องเร้นเฉกเช่นสาย
แดดส่องกลายไหม้มอดยากกอดหา
ลับแลบังฉากฉายรำบายมา
อัศจรรย์ไคลคลายามลาเรือง

ตะวันว้างกลางทะเลระเหระหน
ถวิลรนเนาหนี้ในสีเหลือง
รอยร้อยอ่อนรำบายใช่หมายเคือง
จับนัยเนืองโศกศัลย์ตะวันรอน

ใจประจักษ์มั่นคงไม่สงสัย
บาดอาลัยให้ตั้งแต่สั่งสอน
ตะวันลาประเทศเลยเขตนคร
ตรึง,ตามตอนแสงลับไม่กลับมอง

หงอยเหงามาระวางในหว่างวิถี
งำอย่างดีไม่ให้เงามาเฝ้าต้อง
เคว้งคว้างซุกให้ใคร่ดังใจปอง
จินต์จ่อมจองประสมระดมคราง

หมายมนตราหมื่นหนุนให้คุ้นเร่า
กวาดไกวเหงาไกลกมลไม่หม่นหมาง
ตะวันลับอยู่เย็นให้เห็นบาง
อะคร้าวบ้างภิรมย์อารมณ์เพลิน
โดย: ญามี่ วันที่: 27 สิงหาคม 2554 เวลา:20:39:57 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง



* ยามเย็น *

รุ่งรังสีแสงสบพอพลบค่ำ
มืดออกดำพิษร้อนค่อยผ่อนหาย
อ้อยส้อยวันมาหาเวลากลาย
กาลเส้นสายจะจับขยับทาง

จิตไหว้วายุพัดมาจัดร้อย
ครื้นเครงคอยฝ่าฝืนส่งชื่นข้าง
ถอนสะอื้นสร่างเศร้าลอยเบาบาง
ยามเย็นยังย่างไหวมิไปลับ

กลิ่นเกสรเสาวคนธ์บ้างหล่นร่วง
หอมดอกดวงพวงผกาเย็นมาจับ
เมืองมืดลงพาใจหันในนับ
คอยจะหลับกรุ่นกลิ่นโบยบินเคียง

ยามไร้แสงส่องดินถึงถิ่นสวรรค์
สายสร้อยพันกลบกลืนไร้คลื่นเสียง
แสงหงอยลอยควันฟุ้งหมายมุ่งเมียง
ลาลับเยี่ยงร้อยวารผ่านกาลแล้ว

เมื่อฟ้ามืดมนมัวไปทั่วสถาน
ยากคิดอ่านตรึกตรองร่ำผ่องแผ้ว
แสงเรืองไม่ช้าทียังมีแวว
เก็จพรายแก้ววอมวับยังระยับเชิญ
โดย: ญามี่ วันที่: 29 สิงหาคม 2554 เวลา:21:04:06 น.
  
สวัสดีวันร้อนๆอีกวันค่ะน้องเมือง



* กลบท สารถีชักรถ ๑,๒ *

หอมสวาทแหนหวงถนอมรสหอมสวาท
เจ็บอกคลาดรอยเหน็บคลายเจ็บอก
รื่นรกหวังซ่านกลืนซึ้งรื่นรก
เลือนลดหมกมุ่นเตือนฟุ้งเลือนลด

ตื่นฝันเคลิ้มเคลิ้มฝืนซ่านตื่นฝัน
หมายหมดพลันคล้ายคล้ายราญหมายหมด
รุ้งพจน์ประสงค์ประสงค์ปรุงในรุ้งพจน์
เมียงพาดระทดเคืองคาดคาดพาดเมียง

ขัดข้องมลายมลายลัดลดขัดข้อง
ใสเสียงจองเพลงไหวใสใสเสียง
คอยเคียงพิสมัยพิสมัยพลอยมาคอยเคียง
ป่าปานเลี่ยงนิทรานิทราไกลป่าปาน

หรรษาด้วยจุมพิตชุ่มหรรษา
หอมหวานพาจินต์ล้อมหวิวหอมหวาน
สำราญหลงไหลร่ำแสนสำราญ
ใจปองน้ำตาลใฝ่คืบใจปอง

หอมขลังซ่านก่อกล่อมให้หอมขลัง
เดินต้องยังพฤกษ์เพลินจิตเดินต้อง
หมายมองหมื่นหอมร่ายเข้าหมายมอง
ละเมอล่องไม่ผละจินต์ละเมอ
โดย: ญามี่ วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:15:52:13 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง


* กลบทสารถีชักรถ ๒ *

ละอองสายหล่นล่องละอองสาย
สู่ถิ่นฝันผายรินสู่ถิ่นฝัน
สัมพันธ์ฝนเวียนวนส่งสัมพันธ์
จากวารนั้นใฝ่ฝากหวานจากวาร

อักษรรสจำหลักรอยอักษร
พบ,ผ่าน,จรร่ายลบรสพบผ่าน
เนิ่นนานหวังรอยเพลินไกลเนินนาน
หอมนัยหวานครากล่อมยังหอมนัย

จำเผยวันเรียงคร่ำครุ่นจำเผย
สงสัยเอยหักหลงความสงสัย
อาลัยรอยปรารถนายังอาลัย
แพ้พรชัยผ่าวแผลเหลียวแพ้พร

ระเหยกลิ่นแหงนเงยหอมระเหยกลิ่น
นั่งสลอนทอถิ่นพรั่งพร้อมนั่งสลอน
ลีลาจรไคลคลาลีลาจร
ทั่วแดนรอนหล่นรั่วหอมทั่วแดน

สายฝนพิรี้พิไรร่ายท่าสายฝน
ถวิลแสนมนต์หนถิ่นหวงถวิลแสน
ทดแทนหมายในพจน์คิดทดแทน
ไม่มีแม้นผ่าวไหวคล้ายไม่มี
โดย: ญามี่ วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:21:01:04 น.
  
คืนนี้หลับฝันดีนะคะน้องเมือง


กลบทสารถีชักรถ๒

* หอม๓ *

สัณฐานหอมกัปกัลป์เป็นสัณฐาน
จึงเผาผลาญหวามคนึงใคร่จึงเผา
กล่อมเกลาจันทร์หอมระบายกล่อมเกลา
พลิ้วบางเบาโบยลิ่วทิ้งพลิ้วบาง

ผกาดอกกลิ่นชายช้าชักผกาดอก
ภิรมย์ข้างออกสนิทสนมภิรมย์ข้าง
เคลิ้มคราง..ผะแผ่วเริ่มใจเคลิ้มคราง
ริ้วรอยพรางปรอยปลิวปลอบริ้วรอย

เสน่หาสุมสนิทฤทธิ์เล่ห์เสน่หา
พิศวาสปล่อยกลิ่นพาอำนาจพิศวาทปล่อย
เคียงคอยรัญจวนเบี่ยงหมายเคียงคอย
กลับใจลอยเพลินสดับยากกลับใจ

หวานอ้อยส้อยใจพานในหวานอ้อย
เคลิ้มไหวคล้อยหลงเติมเคล้าเคลิ้มไหว
ละมุนละไมหอมพัดหนุนสู่ละมุนละไม
คว้างคืนไกลจินต์ร่างลอยคว้างคืน

หน้าหลังหอมตรึกตราทั้งหน้าหลัง
เร้นรื่นรั้งหอมเต้นรอเร้นรื่น
หยัดยืนท่ามหลงรัดยอมหยัดยืน
กรองกลืนกลิ่นหอมล่องคิดกรองกลืน
โดย: ญามี่ วันที่: 3 กันยายน 2554 เวลา:23:14:33 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง


กลบทเลวงวางตรวจ คำว่า “เลวง”
อ่านว่า[ละ-เวง] ว. ปลิว, ฟุ้งไป; เสียงอื้ออึง.

* เลวงวางตรวจ๑ *

เหมือนมาดหมายนฤมิตชวนชิดชื่น
เร่าเร้ารื่นฉันทลักษณ์เทิดทักท่วง
วรรณวัจน์เวียนปรับแปลกทรุดแทรกทรวง
ดื่มด่ำดวงเกินเกษมปรีด์เปรมปาน

กลอนกล่อมเกื้อเหนือนานหักหาญหวน
ละเลิงหลงรัญจวนเสริมสรวลสาน
มุ่งมาดเมียงลำนำจินต์จำจาร
ร้อยร่องรานผนึกผูกปลดปลูกปรอย

กวีเกลื่อนก่นตระหนักเจนจักเจ็บ
หนาวหน่ายเหน็บศิลป์ศรพร่ำพรพล่อย
ตรึกตรองตรมรู้แก้วเพริศแพรวพลอย
ฤๅร้าวรอยค่อนแคะเวียนแวะวาง

เขียนขับขานภาษานำหน้านั่น
เว้น,วรรค,วรรณจำนิ่งย้ำยิ่ง,อย่าง
คือค้น,เคืองนัยใจหวาด,ไหว,ว้าง
ก่อนกางเกณฑ์ตรากฏเรียนรสราย

สร้างสิ่งสุขรักษ์สื่อร่วมรื้อ,ร้อย
แค้นเคืองคอยเปล่าเลยผลเผยผ่าย
เจตน์จัดจุ่งสุขาแปลบ,ปร่า,ปลาย
ได้เดียวดายตัวตนทอดท้นทัน
โดย: ญามี่ วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:22:01:06 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง



* เลวงวางตรวจ ๒ *

รสร้อยเรียงฉันทลักษณ์เลือนหลักแหล่ง
ครื้นเครงคลาดหวิดแหว่งกลแกล้งก่อ
พจน์พากย์พลอยสลับแปรเคลียแค่คลอ
ตื่นตกตอหนอเราเรียบเร่าเร้า

เฟื่องฟุ้งเฟ้นฉันทลักษณ์จำจักจิต
มาดมั่นหมายนฤมิตชมชิดเช่า
เจตน์จดจารประเล้าประโลมน้าวโน้มเนา
ฝ่าฝันเฝ้าสำเร็จกฏเก็จกาญจน์

วากย์วัจน์เวียนชวนฉงนทอดทนท่วง
ระรวยรินถิ่นทรวงสู่สรวงสาน
ตามตรึกตราลานทองกล่อมกรองกานท์
มั่นหมายม่านเปรมโปรดอิ่มเอมอวล

แลลอยลำกำกับจะจับแจ้ง
กลไกลการณ์แถลงไขสดใสสรวล
ยิ้มแย้มยามกังสดาลเนานานนวล
แคว้งคว้างครวญอลังการ์พลันพาเพลิน

เบิกบานบ่มฉันทลักษณ์ให้หักหวน
แหนหวงหามวลมั่นเสกสรรเสริญ
หยุดยั้งเยี่ยมหรรษาโดยดาเดิน
คล้อยเคลียเคล้าหยอกเอินใช่เชิญชม
โดย: ญามี่ วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:23:56:32 น.
  
สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วค่ะน้องเมือง เหนื่อยๆ อิอิ





* โคลงผวน๑ *

พลีแทน แผ่นที่ สร้าง............................สอนเสริม
แรงซัด ลัดแซง เติม..............................ตระหนักหล้า
มิตรค้าน ม่านคิด เหิม...........................หักบอก
ในครึ่ง หนึ่งใคร ช้า..............................ชักแล้วทำฉงน

ล้นเฆี่ยน เรียนค้น คิด...........................ความนัย
ผันเปลี่ยน เพียรปัน หทัย.......................ท่ามว้าง
สิ้นบัง สั่งบิน ขัย..................................ขานขื่น
พลันว่าง พรางวัน คว้าง..........................คิดบ้างในสรวง

เกิด,ร่วง กลวง,เลิศ นั้น..........................นับดู
สอนคิด สิทธิ์ค่อน พรู............................เพียบห้อม
ใดหัด ดัดให้ หู.....................................หันสนิท
ฤทธิ์คัด รัดคิด พร้อม..............................เพิ่มรู้อนันต์สนอง

ผองเริ่ม เพิ่มร้อง ไล่................................และถาม
เงียบยก งกเหยียบ ความ.........................เคลื่อนเร้า
ไม่รู้ หมู่ไล้ หวาม...................................แวดยั่ว จิตนา
รู้เถิด เลิศ “ทู้”เฝ้า..................................ฝากซึ้งเสริมศร

เกลียดย้อน ก่อนเหยียด คล้อย...................คืบตรอง
คลาด,ผิด,คิด,พลาด ครอง........................คู่ได้
ไม่หัด มัดให้ ผอง....................................ผลัดสลับ
โง่เหยียบ เงียบโย้ ไห้...............................หัดแกล้งโยกถวิล
โดย: ญามี่ วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:13:01:44 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง
................................

ใกล้วันไหว้พระจันทร์แล้ว ...
มีโปรแกรมไปไหนกันบ้างไหมคะ?



* โคลงผวน ๒ *

เด่นเลือน เดือนเล่น พริ้ง..................แพรวหาว
พรายหมื่น พื้นหมาย ดาว.................ดาษครื้น
รางวับ รับวาง ขาว............................ขนานขนาบ
ล้วนจั่น รัญจวน ฟื้น..........................ฟ่องฟุ้งกระเซ็นหาย

สาดหาย ทรายหาด ริ้ว.......................เรียงทะยอย
หนามง่วน นวลงาม ซอย.....................ซึ่งซึ้ง
เฉือนดุจ ฉุดเดือน หงอย.....................เงยสนิท สนมเฮย
ฝันง่าย ฝ่ายงัน อึ้ง.............................แอบอ้อยส้อยหวัง

ฝั่งสรรค์ ฝันสั่ง เอื้อ............................อาทร
มิตรใคร่ ไม่คิด จร..............................จากแพร้ว
หาอ้าง ห่างอา วรณ์.............................วุ่นแวด หวานนา
โสมชัก ซักโฉม แคล้ว..........................คลาดคล้ายสนองสม

เสริมลม สมเริ่ม เรื้อง............................ราศี
ดาวหว่าง ด่างวาว มณี...........................ณ พริ้ง
เสี้ยวแรก แทรกเหลียว หนี.....................นัยสวาดิ
อ่อนศัพท์ อัปสร สะอิ้ง..........................อุ่นถ้อยอธิษฐาน

หวานหลง วงล้าน รอบ...........................เรืองโพยม
ในแอบ แนบไอ ประโลม........................ประณีตแก้ว
อ้อมกอด ออดกล่อม โสม......................เสริมกระหวัด
จองไพล่ ใจผ่อง แผ้ว............................ผ่านฟ้ากมลไหว
โดย: ญามี่ วันที่: 10 กันยายน 2554 เวลา:21:59:12 น.
  


สวัดีตอนเย็นที่ไม่..เย็นค่ะน้องเมือง

* โคลงดั้นวิวิธมาลี *

หนาวลมแล้งสวาดิเอื้อ....................อุ่นไอ
นึกซึ่งซึ้งประโลมกมล.....................หมื่นห้อม
เหนือตะวันจักงำไหว......................วนวก
สวาทวาดพจน์พร้อมสร้าง................ส่งเสนอ

เหม่อวันวารรจเรขล้วน.....................ลือประโคม
อวลเอ่ยลำนำเสมอ.........................สบใกล้
จินต์ร่ายตื่นตามโสม........................โสตสดับ
หวานอุ่นโอบไล้ล้วน.........................ลื่อนถนอม

ผลพิศวาสเพลินแต่งต้อง...................ตรึงสรวง
ใจจักรจนาสรรค์หอม........................หัดชม้อย
ครวญถวิลคร่ำในหวง........................หันห่ม
อ้อนออดเรืองร้อยน้อม......................หน่วงไสว

หมายรูปปรารถนาพิลาสพร้อม............พรหวาน
หวามรสผ่องแผ้วใน..........................นิทรว้าง
ฉมดื่นดื่มด่ำผสาน............................ผนึกแน่น
รัตติกาลร้างรู้...................................ร่วมปรารถนา

เพราเพรงพากย์พ้นรุ่ง........................รอคอย
เบาเบี่ยงรังสิมันต์ลา...........................ลับแพร้ว
ปรับเปล่าเปลี่ยวเหงาหงอย..................เงยสนุก ครื้นเอย
รื่นหล่นคืนแกล้วกล้า..........................ก่อขนาน
โดย: ญามี่ วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:15:41:53 น.
  
ได้เวลานอนแล้ว...หลับฝันดีค่ะน้องเมือง



* โคลงดั้นวิวิธมาลี ๓*

ประจักษ์แจ้งรจเรขไว้...................หวานถวิล
เพียรวับจิตจ่อแจง.......................เจตต์รู้
หวังเกลากล่อมสร้างศิลป์............ศรีศักดิ์
รุกเชี่ยวเหลียวสู้ซึ้ง......................ซึ่งหวาม

หลากกระแสสินธุ์ออดว้าง............วกเวียน
แวดวัจน์วัฏฏะยาม.......................หยาดเฝ้า
ฝันฝากผลักใจเขียน.....................ขับกล่อม
วรรณวับหวานเร้าอ้อน.................อุ่นไหว

จินตนาการสร้างผ่อง-...................แผ้วขยาย
หอมกรุ่นกลิ่นแก้วไกล..................ก่อเกื้อ
มองฟากม่านมืดสยาย..................เยือนจับ
ฉมชุ่มอวลเนื้อเคลิ้ม.....................ค่ำเกษม

สวาดิจรูญจำรัสร้อย.....................รจนา
ปรนปรับอวลไอเอม......................แอบก้าว
รอบกาลใคร่หรรษา.......................ษมาปริ่ม
ประนังร่าเริงอะคร้าวอะเคื้อ.............คืบถึง

พิสมัยจิตพะนอกลิ่นไล้.....................ลมยอ
พานเสน่ห์เคลียเคล้าคลึง..................คาดฟุ้ง
ปรารถนาสัจจ์บทหนอ.....................เนตรสบ รอเฮย
พลิ้วพลิกพรั่งรุ้งล้อม........................เหลือบกราย
โดย: ญามี่ วันที่: 14 กันยายน 2554 เวลา:0:36:37 น.
  
สวัสดีค่ะน้องเมือง

..................

สวัสดีวันร้อน ร้อน แต่ไม่ร้อน.. เธอ ค่ะ อิอิ



* โคลงห้าพัฒนา *

เคียงร่วมฟ้า...................ฟากโพยม
แจ่มจันทร์ประโลม..........แหล่งหล้า
จันทร์เลื่อนโฉม...............ฉายฉ่ำ
จวบร้างว้า......................วับมลาย

หมายแม้นคิด..................คอยถวิล
วิเศษปัถพิน....................เพิ่มครื้น
หลากสวยศิลป์................ศานต์สว่าง
โลกช้อยชื้น.....................ชักสมาน

ปานเคลิ้มคืบ..................เคลื่อนพรม
เอมอิ่มระดม....................ดาษแจ้ว
เกษมสรวลผสม................เสริมสวาดิ
เพลินแพร้วแผ้ว..................ผลักไหว

ไหลหล่นล้วน.....................ละเลิงหลง
ใจจ่อมจำนง......................แนบถ้อย
บนรอยประสงค์..................ส่งสนุก
หวามล้ำร้อย.......................เรียบสะสม

ลมแล่นเน้น.........................นัดพิสมัย
หลอมอาลัย.........................เหลือบเร้น
นัยปราศรัย..........................ศีตวาบ
ศุภแจ้งเว้น...........................วาดสวรรค์
โดย: ญามี่ วันที่: 16 กันยายน 2554 เวลา:13:31:06 น.
  
สวัสดีค่ะน้องเมือง

.......................

สวัสดีวันอาทิตย์ที่ร้อนๆอีกวัน
สงสารคบ้านจมน้ำจังเลย..เฮ้อ



* โคลงห้าพัฒนา ๓ *

มโหรีเตร่เต้น.................ตรึงตาม
หนาวเย็นยาม................ยั่นว้าง
พลิ้วแผ่วถาม..................ถึงสุข
ออดอ้อยอ้าง...................แอบหงอย

ผล็อยข้างขยับ.................เยือนยล
ลึกซึ้งวน..........................แวดล้อม
หลับใหลฝน.....................ฝากฉ่ำ
เพลงริ้วร้อย.....................เรียกหา ระรวยหา

ครามิติชม้อย....................มั่งหมาย
แสงจันทร์กระจาย..............จับหล้า
แววหวานปราย..................ปลื้มปรี่
นำพร้อยคว้า......................ค่ำหวัง

ฟังแผ่วเคลิ้ม......................เคียงดู
พลอยเพลินพรู...................เพิ่มอะคร้าว
หวามแลหรู........................ร้อยสนิท
อนันต์โน้มน้าว.....................เหนี่ยวพิสมัย

ฤทัยวูบเวิ้ง...........................หว่างชะลอ
วรรควาบทอ........................เทิดพริ้ง
กลิ่นหอมหนอ......................นัดเก็บ
ใจคล้ายทิ้ง...........................ทอดหวน ทางหวน
โดย: ญามี่ วันที่: 18 กันยายน 2554 เวลา:14:44:30 น.
  
สวัสดีค่ะน้องเมือง

ยังไม่ร้อนเลย พราะไทยไม่มีแดดหรือเปล่าหนอ...
น้ำเลยท่วมแล้วท่วมอีก



* กลบทกระแตไต่ไม้ *

(ซ้ำคำจาก ๓,๒,๑(หน้า-หลัง) ทุกวรรคสลับกันตลอด)

หนาวนัยนึกอื้ออึงคะนึงนึกนัยหนาว
หาจะสุดเอ่ยกล่าวผ่าวจะหา
ลาแล้วสิทธิ์หวานหอมคิดอำลา
คลายศรัทธาคราวตระหนักศรัทธาคลาย

ชอบแต่เชิญแรงรอนเฟ้นแต่ชอบ
สายไปแล้วคำตอบดูจะสาย
ปรายคราแปลบปวดเร่าแปลบคราปราย
พัวพันวายเวียนนึกศึกพัน,พัว

หน่ายดูรักคราวตรองรักดูหน่าย
คั่วรสร้อยหมายคลาดร้อยรสคั่ว
ตัวเหลือเพียงซาบซึ้งคราวเหลือตัว
เคียงเกรงกลัวคราวพบมาใกล้เคียง

เหน็บช้ำคำแคว้งคว้างคำช้ำเหน็บ
เลี่ยงแล้วเก็บทรวงสลายคิดแล้วเลี่ยง
เมียงความรักเคยหวามยามมองเมียง
ใจราญเสี่ยงระทดระทวยเสี่ยงราญใจ

รักสิบสูญมลายพลันไร้สิบรัก
ไหม้นัยหมักลืมกักมาพบไหม้
ในรอบโหรงเหว่ว้าโหรงรอบใน
ซมซานไปในเวิ้งอย่างซมซาน..
โดย: ญามี่ วันที่: 19 กันยายน 2554 เวลา:20:31:54 น.
  
หลับฝันดีค่ะ ...ตื่นมาให้น้ำหายท่วมแล้วนะคะ


ท่วมในหนาวโลกทรุดหนาวในท่วม
ถวิลคิดร่วมมือร่วมคิดถวิล
บินหนีสิ้นมลทินหวังได้บิน
รอนร้าวผ่านจินต์ได้ผ่านร้าวรอน

สอยติดสรวงมืดดับมาติดสอย
หลอนค่อยคอยเข้าพรางร่างร้อยหลอน
นอน,นั่งยังดาษผ่าวยังนั่งนอน
เนาอยู่ร้อนราญรบพบอยู่เนา

ท่วมทุกข์ราวมากเหลือราวทุกข์ท่วม
เขลาสงบสวมโศกเศร้ายากสงบเขลา
เบาสิ้นสุขกระจายหมดสิ้นบางเบา
ยังอยู่อย่างเหงาหงอยเห็นอยู่ยัง

ฝันนิมิตจ่อมเหลือนิมิตฝัน
สั่งเหมือนลางวันดับตรึกตรองสั่ง
ฟังโลกร้อนส่งสารร้อนโลก,ฟัง
ชโลมหวังหยาดหยดไม่อุ่นชโลม

หนอคลาไคลกระบวนสลดผ่านปีหนอ
โหมฮึกเบาร่อยหลอเบาฮึกโหม
โครมคึ่กเสียงไล่ลับเสียงคึ่กโครม
จำประโลมสอนตนคิดประโลมจำ
โดย: ญามี่ วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:21:23:06 น.
  


โดย: ญามี่ วันที่: 22 กันยายน 2554 เวลา:0:56:16 น.
  
สวัสดีค่ะน้องเมือง


กลบทกินนรรำ

โดย: ญามี่ วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:1:05:14 น.
  



สวัสดีวันพายุมาค่ะน้องเมือง

โดย: ญามี่ วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:13:56:23 น.
  
สวัสดีเย็นวันอาทิตย์ค่ะน้องเมือง ทานข้าวให้อร่อยนะคะ


อดีตกาลหอมเอยเกินเอ่ยฝัน
สวัสดิ์วันแสนเทวษเสเท็จถาม
คิดถึงเสียงกระซิบลับลิบยาม
ครื้น,เคลิ้ม,คุ้นในความมองตามตรึง

ประหนึ่งลำนำฝันรำพันหา
ปรารถนาทุกอารมณ์ระดมถึง
รับรู้ทั่วหัวใจไฉนคลึง
สำนึกซึ้งค่อยโหมประโลมลง

งามเงียบในความเหงาที่เฝ้าอยู่
ความรู้สึกพ้นผ่านประสานประสงค์
สัญจรแห่งอาวรณ์คิดอ้อนคง
แผ่วบทเพลงลอยหลงประจงจาร

เนิ่น..นาน..ยาวสะท้อนร้ายรอนเร่า
บทบรรเทาร่ำไรหว่างไหวพล่าน
ระโหยหาระงมอารมณ์วาร
ก้องราวปานจินตนาลับลาไกล

หมอกบางเบาลอยกรอชะลอส่าย
เงาเหงาหงอยอออายมิกลายไหว
อดีตกาลเลื่อนลอยค่อยค่อยไป
หนึ่งในใจจ่อมจมตามลมเลือน
โดย: ญามี่ วันที่: 2 ตุลาคม 2554 เวลา:21:15:42 น.
  


สวัสดีเย็นวันอังคาร ทานข้าวให้อร่อยนะคะน้องเมือง
โดย: ญามี่ วันที่: 4 ตุลาคม 2554 เวลา:19:49:52 น.
  


หลับฝันดีค่ะน้องเมือง
...................

กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒

ใดใดในหล้า.....................โสมนัสหรรษา
รอยแรงศรัทธา..................ก่อพลังมหาศาล
ละอองในอาทร..................ไม่จรจากสถาน
ประโลมเล้าเสียงหวาน.........ไม่ผ่าวอนิจจัง


กระบวนในสายกาล..............ฝากแจ้งแถลงสาร
หลายสิ่งปราการ...................ล้วนกำหนดหวัง
ไม่คิดกอบกู้.........................ไร้รู้รอยชัง
เสพสิ้นสิ่งระวัง......................มุ่งแต่ปรารถนา


สายสิ้นถวิลครวญ..................ลืมระบุหันหวน
แม้นฉมเชิญชวน....................เหมือนไม่ประสา
นัยจินต์มุ่งมาด.......................ราววาดวิชา
วิเศษประดา..........................เสพแล้วเลือนหลง


ใจถืออักษร............................ตราตรึงทุกตอน
ขวนขวายลี้หลอน...................ให้สุดหมดประสงค์
อาสัญไม่เหงา........................ขอเฝ้าจำนง
ชีวาดำรง................................บนมั่นสวาดิปอง


ตราบโลกรู้รักษ์........................ใจพร้อมนัยประจักษ์
การุญแรงภักดิ์.........................มาชิดสนิทสนอง
เนารักภาวนา..........................สัญญาเพียรประคอง
ยิ่งเลือนหม่นหมอง...................อิ่มนัยเกษมสันต์
โดย: ญามี่ วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:21:33:19 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง




~โคลงสามสุภาพ~

โปรยดอกฝนละอองสาย..............บรรจบปลายใคร่คว้าง
ดอกหนึ่งหลงเลือนร้าง.................ผ่านฟ้าหงอยเหงา

ม่านหมอกล่องลอยเบา.................หันเหเกลาโสรจหล้า
ดวงเด่นยังลอยฟ้า.........................เลื่อนซ้อนประกายหมอง

ผืนนภาวังเวงครอง........................ขมทำนองหม่นเศร้า
พิศหวั่นวับวอมเย้า........................ยั่วแล้วเลือนถอย

หว่างกระซิบนัยคอย.....................แว่วเวียนรอยวกข้อง
ตาเงียบประสบพ้อง......................จิตเว้นมองสมัย

เพียงหยาดซับขวัญหทัย.................แนวสงสัยลากล้ม
รอนะใจยังก้ม.................................ย่ำเวิ้งรอคอย
โดย: ญามี่ วันที่: 10 ตุลาคม 2554 เวลา:22:39:56 น.
  
เมื่อน้ำมายุง เชื้อโรคคงเยอะ ระวังสุขภาพหน่อยนะคะ

หลับอย่างมีความสุข..ฝันแต่วันน้ำลดนะคะน้องเมือง



~โคลงสาม~

วันคืนแห่งสายฝน...............สบว่ายวนแวดล้อม
วัฏฏะแปรเปลี่ยนพร้อม.........จิตต้องมองเห็น


อนาถกับลำเค็ญ..................มองเห็นเพ็ญสว่างฟ้า
วิชชุครืนคร่ำหน้า..................เหนื่อยร้าวไฉนเหมือน


วังเวงคราโสมเลือน................ทะยานเคลื่อนบอกรู้
เงียบสงัดยากกล่อมกู้.............ข่มร้ายคราเหงา


รอเรื่ออรุณแผดเผา...............ให้น้ำเบาเหือดแห้ง
ลมเอ่ยจงจดแจ้ง...................เหตุนี้หวั่นไหว


จ่อมจมในน้ำไกล...................มอดหัวใจสุดยั้ง
ใครเล่าจะมารั้ง......................รับรู้ช้ำหา

โดย: ญามี่ วันที่: 11 ตุลาคม 2554 เวลา:23:26:11 น.
  
สวัสดีตอนเย็นที่ฝนเริ่มลงค่ะน้องเมือง


เพื่อนทั่วไป . . . ไม่เห็นคุณร้องไห้ เพื่อนแท้ . . . มีหัวไหล่ไว้คอยซับน้ำตาให้ เพื่อนทั่วไป . . . ถือขวดไวน์ติดมือมางานปาร์ตี้ของคุณ เพื่อนแท้ . . . จะมาแต่หัววันเพื่อช่วยเตรียมงาน เพื่อนทั่วไป . . . คาดหวังให้คุณอยู่เคียงข้างเขาเสมอ เพื่อนแท้ . . . คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป
สร้างกริตเตอร์
| .postjung.com">ฟังเพลง | ดารา | เกมส์
โดย: ญามี่ วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:17:59:02 น.
  
หลับฝันดีนะคะน้องเมือง


โดย: ญามี่ วันที่: 16 ตุลาคม 2554 เวลา:0:45:51 น.
  
หลับฝันดีค่ะ น้องเมือง
ขอให้บ้านได้เขตรัฐช่วยดูดน้ำให้นะคะ



ขอองค์พระประทานพรอย่าร้อนรุ่ม
ช่วยคลายกลุ้มเวียนวงในสงสาร
ให้เย็นชื่นในทรวงรอดบ่วงมาร
ไร้ไฟผลาญให้ระอามรรคาใจ

ความเป็นจริงปรากฏเป็นบทสอน
น้ำคะนองตอนตื่นยากฝืนไหว
ได้รู้เห็นเช่นทุกข์มาปลุกใด
ยากทำใจกับนิ่งประวิงเย็น

ในวุ่นวายหากเงียบค่อยเลียบคิด
ตรองตามติดประสานในการเห็น
ต้องมีผลปรากฏในบทเป็น
ใช่ลำเค็ญขาดทางดูว่างวาย

ประจักษ์ขื่นแจ้งใจยากไถ่ถาม
ทุกทุกความในการณ์สถานหาย
ล้วนแต่มีที่มาปัญหากลาย
เวลาหมายใช่มั่นมาสรรเรียง

ทุกอย่างโลกแปรเปลี่ยนยามเวียนหา
ในศรัทธาคล้ายยื่นแต่คลื่นเสียง
น้ำโหมมาแล้งนานมาผ่านเคียง
รู้ในเบี่ยงโลกแปรให้แก้พลัน
โดย: ญามี่ วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:23:41:10 น.
  
สวัสดีค่ะน้องเมือง

โดย: ญามี่ วันที่: 22 ตุลาคม 2554 เวลา:0:13:35 น.
  


สวัสดีค่ะ น้องเมืองมีความสุขในวันหยุดมากๆนะคะ
โดย: ญามี่ วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:16:12:51 น.
  


แม้นว่าพรุ่งนี้ยังมีน้ำ..ท่วม แต่ถ้าเราอดทน
อดทน และอดทน เราก็จะผ่านไปได้ดัง..อดีตอีกหน
ฝันดีค่ะน้องเมือง
โดย: ญามี่ วันที่: 24 ตุลาคม 2554 เวลา:22:37:59 น.
  
สวัสดีค่ะน้องเมือง หลังพ้นวันนี้แล้ว เราคงหมดทุกข์ได้เสียทีน่ะคะ



บางขณะชีวิตออกฤทธิ์สอน
ชีวาจรลี้เศร้าทุกข์เข้าสู่
บางขณะรอนลำเค็ญมาเป็นครู
ให้ตระหนักต้องสู้พร้อมดูทาง

สุดหาทางไหนหลักประจักษ์รู้
ไร้ประตูในนอกเข้าออกขวาง
ทุกสิ่งใช่แจ่มเพริดบรรเจิดวาง
เห็นเพียงรางรางเลือนคอยเตือนกมล

รักษ์ในชีพเกินถามไถ่ตามประสงค์
ได้แต่ปลงออมแรงหาแห่งหน
น้ำกับน้ำใดกันที่ทันยล
ใจยังหม่นเกินนั่งกับหวังเคียง

คงสิ้นสุดร้าวรานในกาลนี้
ขอแค่มีที่สงบไม่พบเสียง
คร่ำครวญไห้อ้างว้างร่ำร่างเรียง
อยู่อย่างเกี่ยงและท้อชะลอนาน
โดย: ญามี่ วันที่: 29 ตุลาคม 2554 เวลา:20:29:14 น.
  


หลับฝันดีค่ะน้องเมือง

~กลบทก้านต่อดอก~

จันทร์ลดเลื่อนวังเวงเกินจินต์ถวิล
หมายสุบินลืมหมองสงสัยขัย
เมื่อยล้าเหนื่อยนานฝันอาลัยวัย
เหมือนหทัยผูกจิตคิดร่ายชาย

จันทร์พิศวาสสลบไสลอาบองค์หลง
เร้นประสงค์กลบกลัวพรรณรายหาย
เหมือนทุกข์ยามสุดแล้วเคียงคลายปลาย
เรื่องชื่น,วาย ยุคเข็ญขับปร่า,ล้า

จันทร์เรืองฤทธิ์เรียงร่ายเจือสรรค์ฝัน
มณฑาพันหอมให้หรรษาหา
พิสมัยนัยฝันปรายเปลี่ยวมาพา
ให้อุรารับเรียกสนิทในใจ

จันทร์ประเวประวิงเหมือนอารมณ์สม
ไร้รอยตรมชวนสนิทสนมไวไหว
ได้ยิ้มอิ่มเอี่ยมเทียบเทียมในใจ
หอมไม่ไกลแกล้งรำบายลอยคอย

จันทร์กระจ่างแจ่มจรัสถึงหันฝัน
เป็นของขวัญปริศนาให้สอยบ่อย
สนิทในหลงใหลหทัยปล่อยปรอย
ลืมชื่นช้อยตะลึงตะไลร่ำคำ
โดย: ญามี่ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:12:50 น.
  
สวัสดีค่ะมีความสุขมากๆนะคะน้องเมือง

โคลงสี่สุภาพ

กรองมธุพจน์ร้อย............เรียบเรียง
ให้ท่านประสบเคียง..........คลี่พร้อม
ให้สุขสงบใสเสียง............สลอนสวาดิ
จันทร์รุ่งมาเลื่อนล้อม.......หลับไว้สวรรค์สม

จมจำกระทงผ่องแผ้ว........ผันมา
โลกฝั่งดาริกา..................กลับใกล้
หมายมาดมั่นปรารถนา......โน้มสนิท
ทรวงชิดเสน่ห์เคลิ้มให้.......ห่มห้วงถวิลหอม

ให้นฤมิตคิดด้วย..............ด่ำดวง
ท่ามพาทย์เพลงชิดทรวง...แทรกล้ำ
เหงาหงอยผ่านสุดสรวง.....สู่สวัสดิ์
ธรรมรสมาฉ่ำค้ำ..............เคลื่อนต้านตรมเส

เห่กล่อมจิตรุ่งเรื้อง............ร่วมสราญ
เริงร่ากว่าวันวาน................วับแพร้ว
ให้พานพบเลอสถาน...........ถึงซึ่ง ซึ้งเอย
กอบกล่อมใจจรัสแก้ว.........เกิดพร้อมสว่างไสว

โศกเศร้าไกลบทเบื้อง..........โบกโบย
หมายรูปรอยหมดโปรย.........เปิดสะท้อน
ให้นิมิตหัตถ์ผ่านโผย.............ผันสะกิด
ทุกท่านพบเพลงต้อน............แต่งแต้มพิลาสฝัน
โดย: ญามี่ วันที่: 10 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:23:37 น.
  
หลับฝันดีค่ะน้องเมือง



~กาพย์ฉบัง๑๖~

ฟ้าหม่นหมอกลอยสายไอ...............เงียบเหงาส่ายไหว
เห็นรอยไอรำบายเบา

ปรากฏพจน์ร่ายพราวเพลา.............หยาดน้ำซึมเนา
เห็นอักษรรางรางมา

ท่ามหยดน้ำเหมือนภูผา...................ให้ค้นและหา
ใครบางคนคอยแอบมอง

ในเมฆที่ดูเลื่อนล่อง.........................ช่างคล้ายใครจอง
ที่พร้อมชายชำเลืองแวว

เมฆลอยผ่านพลิ้วแพรว...................ยาวเรียงระแนว
เห็นเป็นใครโบกมือลา

หนาวเหน็บเริ่มเลื่อนทาบทา..............เหมือนอยู่ริมท่า
ก่อนจะลับสายเย็นเย็น

โดย: ญามี่ วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:23:40:04 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นภันต์
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สิงหาคม 2554

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
11 สิงหาคม 2554