Bloggang.com : ป่ามืด : พระอรหันต์นิพพานแล้วไปไหน

พระอรหันต์นิพพานแล้วไปไหน

๔๖. ปัญหา คนธรรมดาตายแล้วย่อมเกิดในภพต่าง ๆ ตามกรรม ส่วนพระอรหันต์ผู้สิ้นกรรมแล้ว ไปเกิดที่ไหน ?

พุทธดำรัสตอบ “....ดูก่อนวัจฉะ คำว่า จะเกิดดังนี้ไม่ควรเลย.... คำว่า ไม่เกิดดังนี้ก็ไม่ควร.... คำว่าเกิดก็มี ไม่เกิดก็มี ดังนี้ก็ไม่ควร.... คำว่าเกิดก็มีใช่ ไม่เกิดก็มิใช่ ดังนี้ก็ไม่ควร

“.....ธรรมนี้เป็นธรรมลุ่มลึก ยากที่จะเป็นยากที่จะรู้ สงบระงับประณีตไม่ใช่ธรรมที่จะหลั่งถึงได้ด้วยความตรึกละเอียด บัณฑิตจึงจะรู้ได้ ธรรมนั้นอันท่านผู้มีความเห็นเป็นอย่างอื่น มีความพอใจเป็นอย่างอื่น มีความชอบใจเป็นอย่างอื่น มีความเพียรในทางอื่น อยู่ในสำนักของอาจารย์อื่น รู้ได้โดยยากดูก่อนวัจฉะ...... เราจักย้อนถามท่านในข้อนี้..... ถ้าไฟลุกโพลงอยู่ต่อหน้าท่านท่านจะพึงรู้หรือไม่ว่าไฟนี้ลุกโพลงอยู่ต่อหน้าเรา”
วัจฉะ “ข้าพเจ้าพึงรู้ว่า ไฟนี้ลุกโพลงอยู่ต่อหน้าเรา”
พุทธะ “...... ไฟที่ลุกโพลงอยู่ต่อหน้าท่านนี้อาศัยอะไรจึงลุกเล่า ท่านถูกถามอย่างนี้แล้ว จะพึงพยากรณ์ว่าอย่างไร ?
วัจฉะ “......ข้าพเจ้าถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์อย่างนี้ว่า ไฟที่ลุกโพลงอยู่ต่อหน้าเรานี้ อาศัยเชื้อคือหญ้าและไม้จึงลุกอยู่”
พุทธะ “......ถ้าไฟนั้นพึงดับไปต่อหน้าท่าน ท่านพึงรู้หรือว่า ไฟนี้จะดับไปต่อหน้าเราแล้ว ?”
วัจฉะ “ ...... ข้าพเจ้าพึงรู้ว่าไฟนี้ดับไปต่อหน้าเราแล้ว.....”
พุทธะ “......ไฟที่ดับไปต่อหน้าท่านแล้วนั้นไปยังทิศไหนจากทิศนี้.... ท่านถูกถามอย่างนี้แล้ว จะพึงพยากรณ์ว่าอย่างไร ?”
วัจฉะ “...... ข้อนั้นไม่สมควร เพราะไฟนั้นอาศัยเชื้อคือหญ้าและไม้จึงลุกแต่เพราะเชื้อนั้นสิ้นไป และเพราะไม่มีของอื่นเป็นเชื้อ ไฟนั้นจึงถึงความนับว่า ไม่มีเชื้อ ดับไปแล้ว”
พุทธะ “......ฉันนั้นเหมือนกัน วัจฉะ บุคคลเมื่อบัญญัติว่าเป็นสัตว์ พึงบัญญัติเพราะรูปใด...... เพราะเวทนาใด....... เพราะสัญญาใด........ เพราะสังขารใด เพราะวิญญาณใด รูป...... เวทนา...... สัญญา.....สังขาร..... วิญญาณนั้น ตถาคตละได้แล้ว มีมูลรากอันขาดแล้ว ทำให้เห็นดุจตาลยอดด้วน ถึงความมี มีความไม่เกิดขึ้นต่อไปเป็นธรรมดา ตถาคตพ้นจากการนับว่ารูป....... เวทนา...... สัญญา.... สังขาร...... วิญญาณ มีคุณอันลึกอันใคร ๆ ประมาณไม่ได้ หยั่งถึงได้โดยยาก เปรียบเหมือนมหาสมุทรฉะนั้น ไม่ควรจะกล่าวว่าเกิด ไม่ควรจะกล่าวว่าไม่เกิด ไม่ควรจะกล่าวว่าเกิดก็มีไม่เกิดก็มี ไม่ควรจะกล่าวว่าเกิดก็หามิได้ ไม่เกิดก็หามิได้”

อัคคิวัจฉโคตตสูตร ม. ม. (๒๔๘-๒๕๑)
ตบ. ๑๓ : ๒๔๕-๒๔๘ ตท.๑๓ : ๒๐๙-๒๑๑
ตอ. MLS. II : ๑๖๕-๑๖๖

Create Date : 25 กันยายน 2548

Last Update : 27 พฤศจิกายน 2549 23:57:53 น.

43 comments

Counter : 756 Pageviews.

สาธุ อนุโมทนาทุกท่านค่ะ

โดย: ป่ามืด

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:3:53:02 น.

ลาสวัสดีไปฝันก่อนนะคะ

โดย: ป่ามืด

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:3:53:56 น.

สวัสดีจ้า พี่ป่ามืด

ไปฝันด้วยย พี่รอก่อน

โดย: ตะวันสีชมพู

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:4:08:17 น.

แอบบบบบบบบ กระซิบ"คิดถึงพี่ป่ามือค่ะ

โดย: หนี่หนีหนี้

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:5:44:27 น.

คนธรรมดาตายแล้วไปไหน?

โดย: ฟ้าหม่นคนดี

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:6:21:02 น.

โดย: "แมวน้ำ"

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:6:27:03 น.

อรุณสวัสดิ์ค่ะ

โดย: rebel

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:6:35:02 น.

วันนี้มานั่งอ่าน คติธรรมยามเช้าครับ รู้สึกดีจังครับ..
ขออนุญาตadd นะครับผมพี่ป่ามืด

โดย: อัยคุง

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:6:50:31 น.

อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่ป้ามืด

มารับฟังเรื่องราวดีๆแต่เช้าเลย

อนุโมทนา สาธุด้วยคนนะคะ

โดย: ลำพูริมน้ำ

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:7:01:41 น.

ธรรมสวัสดียามเช้าค่ะ
พี่ป่ามืด

“.....ธรรมนี้เป็นธรรมลุ่มลึก ยากที่จะเป็นยากที่จะรู้ สงบระงับประณีตไม่ใช่ธรรมที่จะหลั่งถึงได้ด้วยความตรึกละเอียด บัณฑิตจึงจะรู้ได้ ธรรมนั้นอันท่านผู้มีความเห็นเป็นอย่างอื่น มีความพอใจเป็นอย่างอื่น มีความชอบใจเป็นอย่างอื่น มีความเพียรในทางอื่น อยู่ในสำนักของอาจารย์อื่น รู้ได้โดยยากดูก่อนวัจฉะ...... เราจักย้อนถามท่านในข้อนี้..... ถ้าไฟลุกโพลงอยู่ต่อหน้าท่านท่านจะพึงรู้หรือไม่ว่าไฟนี้ลุกโพลงอยู่ต่อหน้าเรา”

นั่นซีคะ
หลายขณะ ที่เราหลงลืมพิจารณา รับรู้ไปอย่างมีสติด้วยซ้ำว่า ไฟนั้นลุกโพลงอยู่ต่อหน้าเรา ...

ระยะนี้พิมต้อง หาอุบายสารพัด ทำใจให้ตั้งมั่นก่อน แล้วจึงค่อยพิจารณาดูจิตตัวเอง ไม่อย่างนั้นจิตไม่มีกำลังเลย ...
อิ่มใจค่ะ มาบล๊อกนี้แล้วอิ่มใจ..แปลกนะคะ ทำไมเรารู้ว่าอะไรดีที่สุด ตรงที่สุด ลัดที่สุด เที่ยงที่สุด แต่เรายังไปหลงกับไฟ ที่ลุกโชนอยู่ได้ ไม่เห็นว่าเป็นไฟ
พระพุทธพจน์ ทุกบท มีค่าสำหรับพิม แต่เหมาะสำหรับ บล๊อกนี้และ พี่ป่ามืด ของน้องๆ จริงๆค่ะ

อนุโมทนา ในธรรม
สาธุนะคะ

โดย: แก้มเล่า

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:8:00:13 น.

สวัสดีค่ะ คุณป่ามืด

มีความสุขในวันอาทิตย์นะคะ

โดย: รักดี

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:8:08:09 น.

แวะมาอ่านธรรมะค่ะ.
ขอบคุณที่เขียนให้อ่านนะคะ..

โดย: srisawat IP: 203.151.140.118 วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:9:31:02 น.

ธรรมสวัสดี..ครับ

โดย: กุมภีน

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:10:21:14 น.

+
+
+นิพพานแล้ว คงไปสวรรค์ชั้นดาวดึง มังค๊า
+เพราะที่นั้นคงจะมีไว้สำหรับคนดีเท่านั้นค๊า
+หวัดดีวันหยุดด้วยค๊า

โดย: about_love

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:11:00:36 น.

ขออนุโมทนาสาธุค่ะ..ธรรมสวัสดีนะคะคุณป่ามืด...

ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่ห่งใย
อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเช่นกันนะคะ...
แล้วอย่าไปจอดรถเอนหลับที่ที่อันตรายล่ะ..เป็นห่วงค่ะ...

.

โดย: pataree

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:11:09:41 น.

แวะมาราตรีสวัสดิ์ จะไปนอนฝัน แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไรดีวันนี้ อิอิ

โดย: นางฟ้า ธัญญ่า IP: 71.104.114.88 วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:11:55:36 น.

สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า

ไม่มีวันหน้าวันหลัง

รู้แต่ว่าจะจริงจังไม่ว่าวันไหน

ถึงจะอยู่ห่างกี่พันหมื่นกี่ล้านไมล์

ยังคงมั่นว่า.คิดถึงและห่วงใย เธอ..

**มีความสุขมากๆๆกับหยุดพักผ่อนนะจ้า**

โดย: จอมแก่นแสนซน

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:12:11:37 น.

สวัสดีพี่ป่ามืด สงสัยวันนี้ยังไม่ตื่นแน่ ๆ

โดย: ZAZaSassY

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:12:25:02 น.

โดย: พฤษภาคม 2510

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:12:41:45 น.

หวัดดีคะ แวะมาฟังธรรมเช่นเคยคะ ขอบคุณคะ

โดย: asariss

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:12:50:52 น.

สวัสดีค่พี่ป่ามืด
บุญรักษาค่ะ

โดย: พลอยสีรุ้ง

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:14:38:16 น.

อนุโมทนา สาธุครับ

โดย: noom_no1

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:15:43:42 น.

สาธุ อนุโมทนาครับ

โดย: เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:16:54:08 น.

ดีจ้าพี่ป่ามืด ... งงอ่ะ เรานึกว่าเราเม้นท์ไปแล้วซะอีกแต่ว่าหาที่ตัวเองเม้นท์ไม่เจอ อ่ะไม่เป็นไรเพราะอาจจะฝันไปก็ได้ กริ กริ

วันนี้พี่ป่ามืดทำไรมั่งเอ่ย ข้างบนยังมะล่ายอ่านแจ่มๆ เลยค่ะ เอาว่าแวะมาทักทายกันก่อนนะค่ะ ตอนนี้กำลังดูบล็อกอยู่เพราะเหมือนว่ากรรมจะสนองเพราะบ่นเรื่องบล็อกช้าไปสองสามวันแล้ว หนนี้เลยบล็อกเจ๊งเลย

โดย: JewNid

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:17:05:28 น.

เคยสงสัยข้อนี้อยู่เหมือนกันครับ...

ที่แท้ กองไฟที่ดับไปไหน ก็ไม่มีทางรู้

โดย: Nutty Professor

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:17:28:51 น.

"ถ้าไฟลุกโพลงอยู่ต่อหน้าท่านท่านจะพึงรู้หรือไม่ว่าไฟนี้ลุกโพลงอยู่ต่อหน้าเรา”

ไม่มีอันไหนอ่านแล้วไม่คงเลยครับ น้า...

MLS II คืออะไรคับ?

Mummy's Lovely Secret?

โดย: namit

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:18:07:32 น.

"ไม่ใช่ธรรมที่จะหลั่งถึงได้ด้วยความตรึกละเอียด"

โดย: พักผ่อน IP: 202.176.124.147 วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:18:54:00 น.

อนุโมธนาค่ะ พี่ป่ามืด เมื่อไม่มีเชื้อไฟ ไฟก็ไม่ลุกโพลงต่อไป...จึงควรตัดไฟแต่ต้นลมนะคะ (เกี่ยวไม๊เนี่ย)

คิดถึงนะคะ

โดย: หมูแพนด้า...ปวดหัวจัง IP: 133.1.128.95 วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:19:13:06 น.

ธรรมสวัสดีค่ะ วันนี้อ่านแล้วต้องพิจารณาหนักค่ะ

โดย: ป้ามด

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:19:15:50 น.

ตามป้ามดมาสวัสดีค่ะ

...

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie

) วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:19:24:20 น.

ที่รู้ๆตอนนี้โอเล่กลับไปนอนต่อจ้าคุณป่ามืด

โดย: Oley IP: 67.51.130.69 วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:19:38:31 น.

“อันภิกษุ ผู้พ้นจากการเกาะเกี่ยวยึดถือพึงใคร่ในอารมณ์ใดๆแล้ว ย่อมบังเกิดญาณความรู้แจ้งขึ้นภายในจิตอันสงบแจ่มใสปราศจากอวิชชาความมืดมัวว่า วิมุตติ ความหลุดพ้นนั้นบัดนี้เป็นผลประจักษ์แล้ว นี้คือความเกิดเป็นครั้งที่สุด สิ้นความเกิดใหม่ในภพโน้นแล้ว

เราพ้นแล้ว ความหลุดพ้นได้ประจักษ์แล้ว ชาติหยุดอยู่เพียงนี้แล้ว กรณียะของเราสำเร็จแล้ว โลกนี้หยุดอยู่แก่เราไม่สืบต่อไปอีกแล้ว”

พระตถาคตทรงแสดงธรรมแก่กามนิตในห้องโถงบ้านช่างปั้นหม้อ

“DER PILGER KAMANITRA” (กามนิต / ภาคพื้นดิน)

นิพนธ์โดย คาร์ล อดอล์ฟ เจลลิรูป

แปลโดยเสฐียรโกเศศ - นาคะประทีป

ปล. เคยอ่านเจอมานานแล้วครับ เลยนำมาสมทบครับผม สาธุ สาธุ สาธุ

โดย: ธามาดา

วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:20:27:07 น.