รับลมหนาวภูหินร่องกล้า ทุ่งพญาเสือโคร่ง ซากุระไทยแลนด์ ภูลมโล จังหวัดพิษณุโลก
 สวัสดีปีใหม่อีกครั้งครับ ก็ผ่านไปแล้วครึ่งเดือนสำหรับเดือนมกราคมนี้ หลาย ๆ คนก็ยังขี้เกียจทำงานกันอยู่ อยากออกเที่ยวต่างจังหวัดอยู่บ้าง อารมณ์แบบว่า เธอไปก่อน เดี๋ยวฉันไปทีหลัง ก็มีเหมือนกัน แถวไม่ต้องแย่งใครแบบช่วงเทศกาลซะอีก หรือ อาจจะติดใจ ยังไม่ขี้เกียจเที่ยวต่างจังหวัดก็มีเหมือนกัน ก็ Entry ประจำสัปดาห์นี้ ก็ขอพาเข้าสู่ดงธรรมชาติเลยหละกัน ซึ่งผมได้ไปมาก่อนในช่วงวันที่ 2 มกราคม 2559 ที่ผ่านมานี่เอง 


จุดเริ่มต้นของทริปนี้ ตือ อยากใช้วันหยุดปีใหม่ พบปะ พาครอบครัว พ่อและแม่ รวมตัวกันไปชมธรรมชาติ รับลมหนาว โดยทริปนี้ แม่ผมเป็นคนหาสถานที่จะไป รวมถึงที่พักทุกอย่างเอง ครบทุกอย่าง ส่วนผมหรอ แน่นอนครับ พลหลับตลอดทริป 5555 (จริง ๆ ก็ขับรถนี่แหละ)

การเดินทาง จากกรุงเทพ ใช้เส้นทางถนนสายเอเชียตลอดทาง มุ่งหน้าเข้านครสวรรค์ และเข้าไปตามป้ายพิษณุโลก ซึ่งทางนั้นอาจจะมีหลุมบ่อหลายช่วงบ้างตอนช่วงนครสวรรค์ เข้า พิษณุโลก จากนั้น ผมก็อิงจาก GPS ข้างล่างนี้เลย มุ่งสู่ทางหลวงหมายเลข 2331 (แต่จริง ๆ ก็เข้าได้หลากเส้นทางอยู่)




สถานที่ท่องเที่ยว : อุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า, พิษณุโลก Thailand
พิกัด GPS : 17° 0' 17.56" N 100° 59' 21.37" E





เมื่อถึงสถานที่เป้าหมายแล้ว ผมก็ไปจุดประชาสัมพันธ์ จุดบริการบ้านพัก เพื่อรับกุญแจห้องพัก ที่แม่ผมเองได้ทำการ Booking เอาไว้ ซึ่งจริง ๆ ต้องบอกเลยว่า ถ้าคิดมาอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ช่วงประมาณปีใหม่ - กุมภาพันธ์ ต้อง Booking ห้องพักล่วงหน้ารอได้เลยหลาย ๆ เดือน เพราะเต็มตลอดเวลาแน่นอน



จากจุดบริการบ้านพัก ลงมาถึงที่พัก ก็ไม่ไกลมากครับ สามารถเดินเล่นได้ตามอัธยาศัยได้เลย จะปั่นจักรยานก็ได้ ถ้าเตรียมจักรยานมา แต่ผมก็ซํกรูปนึงก่อนหละกัน ก่อนที่จะไม่รูปตัวเองหลังจากนี้ 555 



อันดับแรกหลังจากนี้ ก็ขอเข้าที่พักผ่อนของอุทยานก่อนเลย เพื่อนำสัมภาระลงจากรถ และก็ลุยท่องเที่ยวบริเวณอุทยานกันต่อไป 



บรรยากาศภายในบ้านพัก ถือว่ายังใหม่พอควรเลย พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ทำกิจกรรมหลังห้องพักได้ โดยห้องพักผมที่ได้จองนั้น สามารถรองรับได้ 4-6 คน โดยห้องนั้น จะมีทั้งห้องเตียงนอนคู่ และ เตียงนอนเดี่ยว พร้อมกับห้องน้ำ มีน้ำอุ่นคอยบริการให้แก้หนาวจากสภาพอากาศในช่วงนี้เลย



แต่ก็อย่าลืมนะครับ มาเที่ยวอุทยาน ก็มีกฏข้อห้ามต่าง ๆ เช่นกัน เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สภาพแวดล้อมโดยรอบ และ การอยู่แบบส่วนรวม เพราะไม่ใช่มีเรามาเที่ยวแค่กลุ่มเดียวเท่านั้น และนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ จะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้เหมือนกัน





ที่พักกลางเต็นท์ ทางอุทยานก็มีเช่นกัน พร้อมรับลมหนาวช่วงกลางคืน และ รับตะวันช่วงเช้า บรรยากาศเรียบร้อยมากและไมเสียงดังอีกต่างหาก





เก็บของเข้าที่พักแล้ว ต่อมา ก็ขับรถออกจากที่พักไม่ไกลมาก มุ่งหน้าเข้าสู่กิจกรรมเดินทางไกล กับ "ลานหินปุ่ม" และ "ผาชูธง"




ไม่รอช้าครับ เดินเข้าเลยหละกัน ปฏิบัติการเดินทางไกล (หรือเปล่า) กำลังเริ่มขึ้นแล้ว





สถานที่ และ ระยะทางการเดินเท้า ที่ผมกล้าเอ่ยปากได้เลยว่า "คุณหลอกดาว" เพราะอุปสรรคการเดินทางนี่แหละ เรียกได้ว่า ถ้ามีเหล่า ส.ว. มาเดินด้วย ช่วยกันดูแลดี ๆ นะครับ อาจจะเกิดอาการล้าได้แน่นอน





เดินเข้ามานีดนึง โดยไปตามคำแนะนำ ให้เดินเวียนขวา (จริง ๆ ก็ไม่นิดนะ) เราก็จะได้เป็นเป้าหมายบางอย่างที่เราต้องไปให้ได้ นั่นคือ "ผาชูธง" ซึ่งอย่างไร เราต้องไปถึงแน่นอน





ระหว่างทางเดิน ก็จะเจออะไรระหว่างทางไปเรื่อย ๆ สิ่งแรกที่ผมเห็นก็คือ "ผาหัวใจหิน" ซึ่งหินก้อนนี้จะมีลักษณะรูปร่างคล้ายรูปหัวใจ ถ้าดูจากบริเวณรอบ ๆ แล้ว





เดินเข้ามาอีกนิด เราก็จะเจอ "ผานาคราช" ดูจากลักษณะแล้ว ไม่กล้าปีนขึ้นไปเลยงานนี้ TT





ก่อนถึงลานหินปุ่ม เราก็จะเจอ "เนินเราสู้" และเรายังคิดจะสู้อยู่ไหมหละ ถ้าถึงจุดนี้ ก็ใกล้ Checkpoint ลานหินปุ่มแล้ว ^^ 





อีก 40 เมตรเท่านั้น!!! จะสุดทางลานหินปุ่ม และเป็นจุดชมวิวของลานหินปุ่มเค้าแล้ว แต่จุด ๆ นี้ควรระวังหินปุ่มด้วย เพราะทางไม่เรียบแน่นอน จะมีหินเป็นปุ่ม ๆ ตามพื้นตลอดบริเวณนี้





เยสสสส ถึงแล้ววว สุดทางลานหินปุ่ม พร้อมเห็บ Check point ครึ่งทาง นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนก็ต่างถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันไป





ไหน ๆ มาเป็นผู้พิชิตลานหินปุ่ม ก็ต้องจัดภาพวิวสวย ๆ บริเวณลานนี้ซักหน่อย บรรยาศ ณ ตอนนั้นไม่ถึงกะหนาว สบาย ๆ และธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์พอสมควรเลย





เดินออกจาก Checkpoint ลานหินปุ่มไม่ไกลมาก ประมาณ 550 เมตร ก็จะถึงลานชูธงแล้ว ทางเดินนั้น จะไม่มีอุปสรรคพวกหินปุ่มแล้ว เป็นทางเรียบ ๆ (เสียดายรูประหว่างเดินทางเสียไปตั้ง 10 รูป TT)





ป่าไม้บนผาชูธง ยังอุดมสมบูรณ์เหมือนกับลานหินปุ่ม  และสวยงามไม่แพ้กันเลย





ถึงผาชูธง ก็้ต้องมีธงซิ เย้ Trophy Unlock แล้ววว (ฟิลลิ่งเกมเข้าร่างแปป)




อีกมุมหนึ่งของผาชูธง นักท่องเที่ยวต่างปีนขึ้นไปชมวิวอย่างสนุกสนานกันเลียทีเดียว








เมื่อเดินลานหินปุ่มและผาชูธงกันไปแล้ว อย่าช้าครับ รีบไปลานหินแตกต่อเลย เพราะเวลาที่ผมไป พระอาทิตย์กำลังตกดินแล้ว จึงต้องรีบเดินเข้าไปถ่ายจุดชมวิวให้ได้ (จุดนี้จะมีรูปน้อยไปหน่อย)





นึกว่าจะเดินมาไม่ทันซะแล้ว แต่สุดท้าย ก็ทันจนได้ และได้ชมทันเวลากำลังตกพอดีเลย
 (ประมาณ 17:45 ก็เริ่มตกแล้ว)





ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกนั้น ค่อนข้าวไวมาก ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็หมดแสงเป็นที่เรียบร้อยครับ ลาก่อนแสงวันนี้ และเจอกันเช้ารุ่งขึ้น







เช้ารุ่งขึ้นแล้ว เป็นเวลา 05:30 ผมก็ได้นั่งรถเจ้าหน้าที่อุทยาน นำโดย คุณต่อ ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ขับรถขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ พร้อมสัมผัสบรรยากาศแสนจะหนาว ซึ่งจะพาเราไปรับตะวันอรุณเบิกฟ้า บนยอดภูลมโล และจะมองเห็นภูทัพเบิกได้เลยด้วยตาเปล่า (ก็ภูลมโลมันสูงกว่านิ)



ตะวันกำลังขึ้นขอบฟ้าอีกครั้งหนึ่งแล้ว พร้อมลมหนาวไม่ถึงกะแรงมาก อยู่ใสสภาวะกำลังดีเลยทีเดียว แต่มือผมก็ยังสั่นเช่นเดิม





อีกซักรูป ตะวันเบิกฟ้า โอ้ววว แม่ตะวันน้อย มันช่างงามซะเหลือเกินจริง ๆ  เมื่อหมดแสงตะวันเช้าแล้ว ก็เดินทางลงไปข้างล่างกันต่อหละกัน








และแล้วก็ถึงเป้าหมายหลัก "พญาเสือโคร่ง" หรือ "ซากุระเมืองไทย" ช่วงวันที่ 3 มกราคม 2559 ซึ่งก็ยังไม่เห็นดอกเต็มต้นซะเท่าไหร่ ช่วงวันที่ 10 มกราคม 2559 คงบานได้เต็มที่แล้ว และสวยงามกว่านี้ และจะบานถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 หลังจากนั้นก็ต้องรอถึงฤดูการบานอีกที


ต้นไม้พวกนี้ จะเป็นทางอุทยานแห่งชาติ และชาวดอยช่วยกันปลูก ดูแลรักษากันอีกทีหนึ่ง จากที่ได้ยินเล่าต่อ ๆ กันมาครับ





พ่อผมเองก็บอกว่า "กลัวมาไม่ถึง ก็เลยชอถ่ายรูปคู่กับป้าย ภูลมโล ซักหน่อย (ที่จริงมีกรอบ IG ให้ถ่ายด้วย แต่รูปที่ถ่ายไว้ ผล. ที่บ้านขอสงวนไม่เผยแพร่ลง Blog 555)





ลงมาจุดสุดท้าย มาที่ ตลาดนัดเด็กดอย เป็นแหล่งชุมชนของชาวดอยที่ทางอุทยานแบ่งให้ทำมาหากิน และเป็นที่สร้างรายได้ให้กับชาวดอยเองด้วย




ภายในตลาดนัดนั้น จะเป็นตลาดนัดเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มาก ปกติจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายของ แต่ตลาดนี้ จะเป็นเด็กดอยขายของทั้งหมด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตลาด ของขายแต่ละอย่างจะเป็นประเภทผัก ผลไม้ ที่ชาวดอยปลูกกันเอง และราคาไม่แพงเลย เริ่มต้นแค่ 10 บาท ก็ซื้อกลับไปฝากได้แล้ว หลังจากนั้น ก็เดินทางกลับที่พัก เก็บของกลับบ้านอย่างปลอดภัย



คุยท้ายเรื่อง :: ก็จริง ๆ แล้วสถานที่เที่ยวสวย ๆ ในเมืองไทยก็ยังมีเยอะพอสมควรครับ แต่ที่ผมประทับใจที่นี่จริง ๆ คือ บรรยากาศที่พัก และ การเป็นกันเองของเจ้าหน้าที่อุทยาน อำนวยการมาดีโดยตลอด รวมถึงพี่ต่อ ที่นำเที่ยวยิดภูลมโลด้วย และช่วงที่ผมไปดอกพญาเสือโคร่งก็ยังไม่บานอย่างเต็มที่ 100% แต่หลาย ๆ คน ก็ได้ไปช่วงบานพอดี (แอบอิฉฉาเล็กน้อย) อย่างไรก็ตาม ถ้าท่องเที่ยวกันแล้ว ตามสถานที่ไหนก็แล้วแต่ ก็อยากให้รักษาสลานที่กันด้วยนะครับ จะได้มีที่สวยงามดูกันเรื่อย ๆ ก็ Blog นี้ ก็ขอลาไปก่อนครับผม และมาเจอกันใหม่ในศุกร์หน้าครับ จะเป็นเรื่องอะไร ก็คอยติดตามกันดูครับผม ปีนี้ หลากหลายกว่าเรื่องการ์ตูนแน่นอน





Create Date : 14 มกราคม 2559
Last Update : 22 มกราคม 2559 22:03:42 น.
Counter : 2890 Pageviews.

1 comments
  
คราวนี้ได้เข้าใจจิตใจพ่อเลยใช่มั้ย สมัยก่อนเค้าขับรถ เค้าเหนื่อยมากแน่ๆ ก็ยังเก็บอาการ

ที่พักยังไงพี่ก็ชอบบ้านมากกว่า เต้นท์มันเสี่ยงจะเจอพวกเลื้อนๆ ถ้าไม่เจอก็ดีไป เจอพวกนักดนตรีขึ้นมาไม่ได้นอนกันเลย ดีไม่ดีทะเลาะกันด้วย

ส.ว. เราก็ต้องเข้าใจเค้านะ ต้องมีพักบ้างอะไรบ้าง

Check point เหมือนจุดเซฟในเกมนะ ถึงแล้วต้องเซฟ 555


ปีนี้กะเขียนหลากเลยเลยรึดีๆ ของพี่ เดือนละ 4 บล็อก ตะพาบ 2 การ์ตูน 1 อื่นๆ 1
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 มกราคม 2559 เวลา:23:20:38 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไอเอิร์ธ
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



MySong Like this week



New Comments
มกราคม 2559

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31