คุณเชื่อไหม! มีคดีฆาตกรรมคดีหนึ่งใช้เวลาถึง 3,000 กว่าปี กว่าจะพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้
คุณเชื่อไหมครับว่ามีคดีฆาตกรรมอยู่คดีหนึ่งซึ่งใช้เวลาถึง 3,000 กว่าปี จึงจะสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริง และทำความจริงให้ปรากฏแก่ชาวโลกได้ ทั้งที่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ว่านี้ก็พากันล้มหายตายจากไปนมนานกาเลแล้ว คดีที่ผมพูดถึงนี้ก็คือ คดีสังหารตุตันคามุน ครับ ผมคิดว่าคุณผู้อ่านคงจะรู้จักชื่อเสียงของตุตันคามุนกันมาพอสมควร เพราะพระองค์คือฟาโรห์องค์ที่ 12 ในราชวงศ์ที่ 18 ยุคราชธานีใหม่ของอียิปต์ ครองราชย์ระหว่าง 1325-1334 ปี ก่อนคริสตกาล ทรงเป็นโอรสของ อาเมนโฮเทป ที่ 4 ผู้ปฏิรูปลัทธิเทวนิยมของอียิปต์ จากการนับถือเทพเจ้าหลายองค์มาเป็นการนับถือสุริยเทพอาเตนเพียงองค์เดียว โดยทรงเปลี่ยนพระนามของพระองค์จาก อาเมนโฮเทป เป็น อาเคนเตน และตั้งชื่อลูกชายว่า ตุตันคาเตน ซึ่งหมายถึงรูปอันมีชีวิตของสุริยเทพอาเตน เมื่ออาเคนเตนสิ้นพระชนม์ ตุตันคาเตนได้ขึ้นครองราชย์ต่อมา โดยใช้พระนามว่าตุตันคามุน เนื่องจากในเวลาที่ขึ้นครองราชย์นั้น ตุตันคามุน มีอายุเพียง 10 ชันษา การบริหารบ้านเมืองจึงอยู่ในมือของอำมาตย์ หรือ วิเซียร์อัยย์ พระองค์อภิเษกสมรสกับอังเคเซนปาอาเตน พี่สาวร่วมบิดาซึ่งเป็นธิดาของพระนางเนเฟอร์ติตี ตุตันคามันครองราชย์เพียง 9 ปี ก็สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน วิเซียร์อัยย์ ได้สร้างสุสานให้พระองค์ที่หุบผากษัตริย์ซึ่งเป็นสถานที่ฝังพระศพของฟาโรห์ พร้อมทั้งนำเครื่องใช้และเครื่องบูชาซึ่งส่วนใหญ่ทำด้วยทองคำบรรจุไว้ในสุสานกว่า 3,000 ชิ้น เพื่อให้พระองค์ได้นำไปใช้ในปรโลกตามคตินิยม อย่างไรก็ตามโดยที่ทรงครองราชย์เพียงระยะสั้นๆ และไม่ทรงมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญ ทำให้พระองค์ไม่เป็นที่รู้จัก และไม่ปรากฏพระนามในประวัติศาสตร์เลยด้วยซ้ำ กาลเวลาผ่านไปถึง 3,000 ปี จนถึงต้นทศวรรษที่ 1900 ได้มีการขุดค้นโบราณสถานในอียิปต์อย่างกว้างขวาง และเริ่มพบหลักฐานเกี่ยวกับตุตันคามุนเป็นครั้งแรก ลอร์ดคาเนวอน เศรษฐีชาวอังกฤษ ได้ให้ความสนับสนุนทางการเงินแก่ โฮเวิร์ด คาร์เตอร์ นักโบราณคดีชาติเดียวกันเพื่อทำการสำรวจหาสุสานตุตันคามุน จนถึงเดือนพฤศจิกายน ปี 1922 ขณะขุดค้นใกล้ๆ สุสานของฟาโรห์รามซิสที่ 6 ก็ได้พบทางลับที่ลงไปสู่สุสานของตุตันคามุนโดยบังเอิญ ซึ่งนับเป็นการค้นพบโบราณสถานครั้งสำคัญของโลก เพราะสุสานไม่เคยถูกเปิดมาก่อน และสมบัติมีค่าทุกชิ้นอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ และที่น่าตื่นเต้นก็คือ มัมมี่ที่เก็บรักษาไว้ได้อย่างดี และหน้ากากปิดพระพักตร์พระศพที่ทำด้วยทองคำประดับอัญมณีอย่างประณีตงดงาม ซึ่งทำให้ตุตันคามุนกลายเป็นฟาโรห์ที่โด่งดังที่สุดและมีผู้รู้จักมากที่สุดไปในทันที และภาพหน้ากากพระศพเป็นเสมือนสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของประเทศอียิปต์ไปโดยปริยาย พระองค์เป็นทูตสันถวไมตรีคนสำคัญ มีการนำเครื่องทองส่วนพระองค์ที่ค้นพบในสุสานไปจัดแสดงนิทรรศการตามเมืองต่างๆ ทั่วโลก ในปี 1968 และ 1978 มีการชันสูตรมัมมี่ของตุตันคามุน เละพบเศษกระดูกแตกในกะโหลกพระเศียร กระดูกพระอุระและซี่โครงด้านหน้าหายไป ทำให้มีการสันนิษฐานว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยการถูกตีด้านหลังพระเศียร หรืออาจมีบาดแผลฉกรรจ์ที่พระอุระ และผู้ต้องสงสัย หมายเลขหนึ่งว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมรายนี้ก็คือ วิเซียร์อัยย์ นั่นเอง ในปี 2005 มัมมี่ของตุตันคามุนได้รับการสแกนด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยตลอดทั้งร่าง และได้ข้อสรุปว่า ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย เศษกระดูกในกะโหลกน่าจะเกิดขึ้นภายหลังการสิ้นพระชนม์แล้ว ส่วนกระดูกพระอุระและซี่โครงด้านหน้าที่หายไปยังไม่มีข้อสรุป แต่ก็ไม่น่าจะเกิดจากบาดแผลหรือการถูกทำร้าย สำหรับสาเหตุของการสิ้นพระชนม์นั้นสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากไข้มาลาเรีย คดีฆาตกรรมตุตันคามุนได้ปิดลงเรียบร้อยแล้ว และทำให้วิเซียร์อัยย์หลุดพ้นจากการเป็นจำเลยของสังคมเสียทีครับ คดีของคนเป็นๆ บางคดีก็น่าจะยุติลงได้แล้วเหมือนกัน ไม่ต้องรอให้ถึง 3,000 ปี หรอกครับ
Create Date : 22 เมษายน 2553 |
Last Update : 22 เมษายน 2553 23:39:41 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1062 Pageviews. |
|
|
จริงเท็จขึ้นอยู่กับสารคดีที่ดูนะ