DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
 
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

คลี่คลายคดีกระสุนปริศนา ฝังติดกระดูก 'เศรษฐินี'


หัวกระสุนปริศนา 6 หัว ที่พบในกระดูกของ นางนงเยาว์ เรืองเพชร อายุ 41 ปี สาวใหญ่ซึ่งเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ใน จ.สงขลา หลังมีการฌาปนกิจ ทำให้ญาติของผู้ตายพุ่งเป้าว่า ผู้ตายถูกฆาตกรรมอำพรางอย่างเหี้ยมโหด และเตรียมขอรื้อคดีให้ตำรวจสืบสวนหาที่มาของกระสุนดังกล่าว
ย้อนกลับไปช่วงเกิดเหตุ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ม.ค. ร.ต.ท.สมพร เพชรหนองชุม ร้อยเวร สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง เข้าตรวจสอบเถ้ากระดูกนางนงเยาว์ หลังญาตินำศพผู้ตายกลับมาเผาที่วัดบ้านเกิด แต่เศษกระดูกที่เหลือจากการเผาพบมีหัวกระสุนปืนติดอยู่ที่ลำคอ แขน กะโหลก  
ด.ต.นิทัศน์ แก้วนุ้ย  อายุ 48 ปี ญาติของผู้ตาย  เล่าว่า นางนงเยาว์เสียชีวิตที่บ้านพักซอย 17 ถนนราษฎร์อุทิศ  ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ต่อมาพบศพในช่วงเย็นของวันที่ 14 ม.ค. ซึ่งญาติได้แจ้งให้ ร้อยเวร สภ.เมือง จ.สงขลา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำศพส่งพิสูจน์ที่ รพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
โดยตำรวจและแพทย์สรุปสาเหตุการตายมาจากหัวใจล้มเหลว!!
ด.ต.นิทัศน์ เล่าว่า หลังพบหัวกระสุน ได้ประสานงานไปยัง ร้อยเวร สภ.เมือง จ.สงขลา ท้องที่เกิดเหตุ โดยคาดว่าหากผู้ตายถูกฆาตกรรมอำพรางจริง คนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิดผู้ตายเอง เพราะก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายเคยทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องบ้านและที่ดินในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ที่มีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดข้อกังขาขึ้นว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะพบหัวกระสุนอยู่ในร่างของผู้ตาย สามารถเล็ดลอดสายตาของตำรวจ รวมถึงแพทย์ผู้ชันสูตรศพไปได้?? 
ต่อมา วันที่ 22 ม.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 2 รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ ผู้อำนวยการ รพ.มอ. นพ.สุวิทย์ เรืองกิตติสกุล หน.หน่วยนิติเวชและพิษวิทยา ร่วมกันชี้แจงกรณีการชันสูตรพลิกศพนางนงเยาว์ โดยสรุปการตายจากสาเหตุหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน แต่พบว่ามีวัตถุโลหะคล้ายกระสุน ปืนติดอยู่ตามกระดูกของศพ ทำให้ญาติเคลือบแคลงสงสัยในผลการชันสูตรพลิกศพ ของ รพ.มอ.  
นพ.เรืองศักดิ์ ชี้แจงว่า ทาง สภ. เมือง จ.สงขลา ได้มีหนังสือที่ สข.0129 (318/251) ลงวันที่ 15 ม.ค. ส่งศพเพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการตายของนางนงเยาว์ โดยระบุว่าศพถูกพบเมื่อวันที่ 14 ม.ค. เวลา 18.05 น. ที่บ้านพักของผู้ตาย โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองร่วมกับแพทย์ รพ.สงขลานครินทร์ ได้ชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุ พบว่าสภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอน โดยศพเริ่มเน่าเหม็น เสียชีวิตมาประมาณ 3-4 วัน ไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย แต่แพทย์ไม่ระบุสาเหตุการตายได้ จึงได้ส่งศพมาทำการผ่าชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายที่หน่วยนิติเวชศาสตร์และพิษ  วิทยา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. เวลา 14.30 น.
ผอ.รพ.มอ. กล่าวว่า ทางแพทย์นิติเวชได้เริ่มชันสูตรพลิกศพเวลา 15.30- 17.00 น. ปรากฏว่าผิวหนังทุกส่วนยังอยู่ในสภาพที่ยังสามารถระบุบาดแผลได้ และไม่พบบาดแผลจากของมีคม รวมทั้งบาดแผลกระสุนปืน โดยถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียดทุกขั้นตอน จากนั้น รพ.มอ.ได้ทำการผ่าศพและตรวจอวัยวะภายในทั้งหมด ร่วมกับตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบ จึงได้ออกหนังสือรับรองการตายของนางนงเยาว์ โดยระบุสาเหตุการเสียชีวิตเป็นหัวใจล้มเหลวโดยมิปรากฏเหตุ
ด้าน นพ.สุวิทย์ ชี้แจงว่า ลักษณะศพตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 2-3 วัน เสื้อผ้าไม่มีรอยกระสุนปืน ตามร่างกายไม่มีบาดแผลอะไรทั้งสิ้น ผ่าอวัยวะภายในมาทำการตรวจไม่มีสิ่งแปลกปลอมอะไรเลย ยืนยัน 100% ไม่มีร่องรอยของมีคมและกระสุนปืน แต่ที่สงสัย คือ ทำไมมีกระดูกเยอะและกระดูกชิ้นเล็ก ๆ ที่ตะกั่วเกาะติด และเป็นกระดูกช่วงบน เช่นที่ต้นแขน ต้นคอและกระดูกสันหลัง ขณะนี้รอผลชิ้นส่วนเนื้อที่ส่งให้ทางพยาธิวิทยาตรวจ คาดว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
“ผมยืนยันว่าการชันสูตรศพและการดูแลรักษา มอ.ทำด้วยคุณภาพที่สูงสุด  ดำรงไว้เพื่อให้ผู้มาใช้บริการไว้วางใจ” คือคำยืนยันจากแพทย์ผู้ชันสูตรศพของอดีต เศรษฐินีรายนี้
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.พัชรพงษ์ พานิชประเสริฐ ผกก.สภ.เมือง จ.สงขลา กล่าวว่า ในที่เกิดเหตุอยู่บนที่นอนในห้องนอนชั้นล่างของบ้าน ชั้นบนก็มีสภาพเหมือนกับไม่ค่อยได้มีคนขึ้นไปอยู่ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด หลังจากที่ได้รับรายงานเรื่องพบหัวกระสุนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่ง จนท.ระดับสารวัตร ไปประสานขอรับเถ้ากระดูกและหัวกระสุนของนางนงเยาว์
เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นหัวกระสุนคล้าย ๆ ลูกปราย และได้ส่งมอบให้ตำรวจวิทยาการจังหวัดสงขลา ดำเนินการตรวจพิสูจน์แล้ว ในเบื้องต้นขณะนี้ผลการชันสูตรสาเหตุการตายของแพทย์ยังไม่ออกมา ดังนั้น จึงถือว่าคดีของนางนงเยาว์ ยังเป็นคดีตายแบบธรรมชาติอยู่ แต่พอมีข่าวออกมาและมีการพบหลักฐานใหม่ ทางตำรวจ สภ.เมือง พร้อมดำเนินการในทางคดีที่เกี่ยวข้องต่อไป
กระสุนดังกล่าวไปติดอยู่กับเศษ กระดูกผู้ตายได้เช่นไร ถือเป็นปริศนาที่ต้องติดตามแบบห้ามกะพริบตา!!.
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์




 

Create Date : 27 มกราคม 2553
10 comments
Last Update : 27 มกราคม 2553 2:41:32 น.
Counter : 3085 Pageviews.

 

ใครมีความเห็นยังไงเข้ามาแชร์กันนะครับ

 

โดย: DR.MOO CAN DO 27 มกราคม 2553 2:23:46 น.  

 

ใครมีความรู้ช่วยเข้ามาแชร์หน่อย กระสุนลูกปราย เบอร์ 12 เป็นกระสุนตะกั่วล้วน ถ้าถูกความร้อนในเตาเผาศพ มันจะเสียรูปร่างไปหรือไม่ครับ ใครรู้ช่วยตอบด้วย

 

โดย: DR.MOO CAN DO 27 มกราคม 2553 2:28:15 น.  

 


ไม่เสียรูปร่างค่ะ กระสุนปืนจะยังคงสภาพเดิม เพราะความร้อนที่เผา ยังไม่สูงพอที่จะทำให้กระสุนปืนเสียรูปร่างได้

 

โดย: ยายอิ้ด (AsWeChange ) 27 มกราคม 2553 6:49:34 น.  

 

แต่ละท่านมีความเห็นกันอย่างไรบ้างครับ เกี่ยวกับคดีนี้

 

โดย: DR.MOO CAN DO 27 มกราคม 2553 7:12:12 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: นนนี่มาแล้ว 28 มกราคม 2553 0:02:09 น.  

 

ต้องดูที่กระดูกด้วยว่ามีร่องรอยเสียหายจากกระสุนหรือเปล่า
เพราะเป็นไปได้ว่าจะเป็นของอย่างอื่นที่อยู่ในเสื้อผ้า/โลงของผู้ตาย หรืออยู่ในเตาเผาแล้วเหลืออยู่ก็เป็นได้

 

โดย: หวาก IP: 10.218.228.143, 203.146.63.187 28 มกราคม 2553 13:02:20 น.  

 

น่าสนใจมากครับคุณหวาก แต่ผมมีข้อสังเกตตามรูปข่าวหนังสือพิมพ์ดังนี้ครับ
1. กระสุนที่พบบริเวณต้นแขนดูไม่เสียรูปร่าง แต่กระสุนที่พบบริเวณกะโหลกดูเสียรูปร่าง (ไม่แน่ใจว่าจากความร้อน หรือกระแทกกับกระดูก)
2. กระสุนที่บริเวณต้นแขนมีรอยแตกของกระดูกร่วมด้วย (ไม่แน่ใจว่าจรอยแตกดังกล่าวเกิดจากหัวกระสุนกระแทก หรือจากความร้อน)
ใครมีความเห็นอะไรเพิ่ทเติมเข้ามาคุยกันนะครับ

 

โดย: DR.MOO CAN DO 28 มกราคม 2553 15:06:47 น.  

 

น่าสนใจมากๆค่ะ เป็นกำลังให้คุณหมอคลี่คลายได้โดยเร็วนะคะ

 

โดย: เพลงค่ะ IP: 118.173.184.108 28 มกราคม 2553 15:27:37 น.  

 

มีใครเอากระสุนลูกซองใส่ไปในโลงศพก่อนเผา แล้วกระสุนประทุขึ้นมาหรือเปล่าครับ

 

โดย: คนสัญจร IP: 203.144.144.165 30 มกราคม 2553 3:03:25 น.  

 

เรารู้จักกับผู้ตาย.......เคยามเปิดร้านข้ายข้าวแกง ที่ อ.มะนัง จ.สตูล.......เขาเป็นคนน่ารัก.......นิสัยดีด้วย

 

โดย: ......... IP: 118.173.177.3 4 กุมภาพันธ์ 2553 9:15:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.