คลี่คลายคดีกระสุนปริศนา ฝังติดกระดูก 'เศรษฐินี'
หัวกระสุนปริศนา 6 หัว ที่พบในกระดูกของ นางนงเยาว์ เรืองเพชร อายุ 41 ปี สาวใหญ่ซึ่งเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ใน จ.สงขลา หลังมีการฌาปนกิจ ทำให้ญาติของผู้ตายพุ่งเป้าว่า ผู้ตายถูกฆาตกรรมอำพรางอย่างเหี้ยมโหด และเตรียมขอรื้อคดีให้ตำรวจสืบสวนหาที่มาของกระสุนดังกล่าว ย้อนกลับไปช่วงเกิดเหตุ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ม.ค. ร.ต.ท.สมพร เพชรหนองชุม ร้อยเวร สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง เข้าตรวจสอบเถ้ากระดูกนางนงเยาว์ หลังญาตินำศพผู้ตายกลับมาเผาที่วัดบ้านเกิด แต่เศษกระดูกที่เหลือจากการเผาพบมีหัวกระสุนปืนติดอยู่ที่ลำคอ แขน กะโหลก ด.ต.นิทัศน์ แก้วนุ้ย อายุ 48 ปี ญาติของผู้ตาย เล่าว่า นางนงเยาว์เสียชีวิตที่บ้านพักซอย 17 ถนนราษฎร์อุทิศ ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ต่อมาพบศพในช่วงเย็นของวันที่ 14 ม.ค. ซึ่งญาติได้แจ้งให้ ร้อยเวร สภ.เมือง จ.สงขลา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำศพส่งพิสูจน์ที่ รพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยตำรวจและแพทย์สรุปสาเหตุการตายมาจากหัวใจล้มเหลว!! ด.ต.นิทัศน์ เล่าว่า หลังพบหัวกระสุน ได้ประสานงานไปยัง ร้อยเวร สภ.เมือง จ.สงขลา ท้องที่เกิดเหตุ โดยคาดว่าหากผู้ตายถูกฆาตกรรมอำพรางจริง คนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิดผู้ตายเอง เพราะก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายเคยทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องบ้านและที่ดินในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ที่มีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดข้อกังขาขึ้นว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะพบหัวกระสุนอยู่ในร่างของผู้ตาย สามารถเล็ดลอดสายตาของตำรวจ รวมถึงแพทย์ผู้ชันสูตรศพไปได้?? ต่อมา วันที่ 22 ม.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 2 รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ ผู้อำนวยการ รพ.มอ. นพ.สุวิทย์ เรืองกิตติสกุล หน.หน่วยนิติเวชและพิษวิทยา ร่วมกันชี้แจงกรณีการชันสูตรพลิกศพนางนงเยาว์ โดยสรุปการตายจากสาเหตุหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน แต่พบว่ามีวัตถุโลหะคล้ายกระสุน ปืนติดอยู่ตามกระดูกของศพ ทำให้ญาติเคลือบแคลงสงสัยในผลการชันสูตรพลิกศพ ของ รพ.มอ. นพ.เรืองศักดิ์ ชี้แจงว่า ทาง สภ. เมือง จ.สงขลา ได้มีหนังสือที่ สข.0129 (318/251) ลงวันที่ 15 ม.ค. ส่งศพเพื่อชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการตายของนางนงเยาว์ โดยระบุว่าศพถูกพบเมื่อวันที่ 14 ม.ค. เวลา 18.05 น. ที่บ้านพักของผู้ตาย โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองร่วมกับแพทย์ รพ.สงขลานครินทร์ ได้ชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุ พบว่าสภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอน โดยศพเริ่มเน่าเหม็น เสียชีวิตมาประมาณ 3-4 วัน ไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย แต่แพทย์ไม่ระบุสาเหตุการตายได้ จึงได้ส่งศพมาทำการผ่าชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายที่หน่วยนิติเวชศาสตร์และพิษ วิทยา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. เวลา 14.30 น. ผอ.รพ.มอ. กล่าวว่า ทางแพทย์นิติเวชได้เริ่มชันสูตรพลิกศพเวลา 15.30- 17.00 น. ปรากฏว่าผิวหนังทุกส่วนยังอยู่ในสภาพที่ยังสามารถระบุบาดแผลได้ และไม่พบบาดแผลจากของมีคม รวมทั้งบาดแผลกระสุนปืน โดยถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียดทุกขั้นตอน จากนั้น รพ.มอ.ได้ทำการผ่าศพและตรวจอวัยวะภายในทั้งหมด ร่วมกับตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบ จึงได้ออกหนังสือรับรองการตายของนางนงเยาว์ โดยระบุสาเหตุการเสียชีวิตเป็นหัวใจล้มเหลวโดยมิปรากฏเหตุ ด้าน นพ.สุวิทย์ ชี้แจงว่า ลักษณะศพตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 2-3 วัน เสื้อผ้าไม่มีรอยกระสุนปืน ตามร่างกายไม่มีบาดแผลอะไรทั้งสิ้น ผ่าอวัยวะภายในมาทำการตรวจไม่มีสิ่งแปลกปลอมอะไรเลย ยืนยัน 100% ไม่มีร่องรอยของมีคมและกระสุนปืน แต่ที่สงสัย คือ ทำไมมีกระดูกเยอะและกระดูกชิ้นเล็ก ๆ ที่ตะกั่วเกาะติด และเป็นกระดูกช่วงบน เช่นที่ต้นแขน ต้นคอและกระดูกสันหลัง ขณะนี้รอผลชิ้นส่วนเนื้อที่ส่งให้ทางพยาธิวิทยาตรวจ คาดว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ผมยืนยันว่าการชันสูตรศพและการดูแลรักษา มอ.ทำด้วยคุณภาพที่สูงสุด ดำรงไว้เพื่อให้ผู้มาใช้บริการไว้วางใจ คือคำยืนยันจากแพทย์ผู้ชันสูตรศพของอดีต เศรษฐินีรายนี้ ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.พัชรพงษ์ พานิชประเสริฐ ผกก.สภ.เมือง จ.สงขลา กล่าวว่า ในที่เกิดเหตุอยู่บนที่นอนในห้องนอนชั้นล่างของบ้าน ชั้นบนก็มีสภาพเหมือนกับไม่ค่อยได้มีคนขึ้นไปอยู่ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด หลังจากที่ได้รับรายงานเรื่องพบหัวกระสุนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่ง จนท.ระดับสารวัตร ไปประสานขอรับเถ้ากระดูกและหัวกระสุนของนางนงเยาว์ เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นหัวกระสุนคล้าย ๆ ลูกปราย และได้ส่งมอบให้ตำรวจวิทยาการจังหวัดสงขลา ดำเนินการตรวจพิสูจน์แล้ว ในเบื้องต้นขณะนี้ผลการชันสูตรสาเหตุการตายของแพทย์ยังไม่ออกมา ดังนั้น จึงถือว่าคดีของนางนงเยาว์ ยังเป็นคดีตายแบบธรรมชาติอยู่ แต่พอมีข่าวออกมาและมีการพบหลักฐานใหม่ ทางตำรวจ สภ.เมือง พร้อมดำเนินการในทางคดีที่เกี่ยวข้องต่อไป กระสุนดังกล่าวไปติดอยู่กับเศษ กระดูกผู้ตายได้เช่นไร ถือเป็นปริศนาที่ต้องติดตามแบบห้ามกะพริบตา!!. ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
Create Date : 27 มกราคม 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 27 มกราคม 2553 2:41:32 น. |
Counter : 3085 Pageviews. |
|
|
|