DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

สืบจากมือถือ !! ตอน ไอ้เณรใจทมิฬ





            "ผมฆ่าเขาเอง ทำเพราะอยากได้เงินไปใช้หนี้ ตอนนี้รู้สึกผิดมาก เพราะผู้ตายดีกับพวกผมมาก แต่ที่ต้องฆ่าเพราะกลัวเขาจะไปแจ้งความเอาเรื่อง ถึงตอนนี้ขอยอมรับกรรมที่ทำไว้ และขอยอมรับโทษทัณฑ์ตามกระบวนการกฎหมาย" คือคำกล่าวของ พลทหารเสรี หรือ บอล พัฒนวงศ์สิน อายุ 21 ปี สังกัดกองกำลังพลสำรอง กรมการรักษาดินแดน 1 ในคนร้ายที่ลง มือสังหาร นายสมิทธิ ศิริภัทร์ อายุ 59 ปี หรือ "ดร.สมิทธิ" ข้าราชการกรมศิลปากร และทำงานอยู่ในสำนักพระราชวัง ฆ่าชิงทรัพย์เหยื่อหาเงินใช้หนี้สูญเสียบุคลากรคนสำคัญไปอย่างน่าเสียดายนอกจากพลทหารเสรี แล้วยังมีคนร้ายอีกราย คือ พลทหารศิริชัย แย้มสุทธิ์ เพื่อนทหารเกณฑ์ของพลทหารเสรี ร่วมทีมสังหารด้วย คดีนี้คนร้าย จนมุมเพราะพลทหารเสรี ได้เอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปให้แฟนสาวใช้ จนกลายเป็นสะพานทอดไปหาตำรวจตามแกะรอยสัญญาณจับกุมตัวเอาไว้ได้


            สุดท้ายก็หนีไม่พ้นคุก!!


            ย้อนไปดูเหตุฆาตกรรมนักวิชาการกรมศิลปากร เกิดขึ้นตอนค่ำวันที่ 18 พ.ย. ตำรวจสน.บางยี่ขัน รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าที่บ้านเลขที่ 97/8 หมู่บ้านอัศวินการ์เด้น ถนนบรมราชชนนี ซอย 5 แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบาง กอกน้อย ร.ต.อ.วีระศักดิ์ คุณอุดม ร้อยเวรฯ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ถิร์สทัต บูรณะรัช ผกก. รับทราบ ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงตามลำดับชั้น ไม่นาน พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน  พล.ต.ต.วิบูลย์ บาง ท่าไม้ พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบช.น. ก็ร่วมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ


            ที่นั่นตำรวจพบร่างไร้วิญญาณของนายสมิทธิ เสียชีวิตในสภาพไม่สวมเสื้อ นอนคว่ำหน้าอยู่ในห้องชั้น 3 ของบ้านทาวน์เฮาส์ 4 ชั้น ที่ตก แต่งอย่างหรูหา สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงกว่า 10 แห่ง โดยเฉพาะที่ลำคอมีบาดแผลฉกรรจ์ จากการตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินของผู้ตายสูญหายไปหลายรายการ อาทิ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และรถเก๋งบีเอ็มดับ เบิลยู ซีรี่ส์ 7 หมายเลขทะเบียน ณธ 1134 กทม. ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกไว้


            พยานให้การว่า ผู้ตายทำงานอยู่สำนักพระ ราชวัง ปกติจะออกไปทำงานในช่วงเช้า กลับบ้านตอนดึก บางครั้งจะพาชายหนุ่มมานอนที่บ้านด้วย ในวันเกิดเหตุผู้ตายไม่ได้ไปทำ งาน เมื่อมีเพื่อนมาตามก็พบว่าถูกฆ่าอย่างสยดสยอง


            ตำรวจจึงพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเพื่อนชายของผู้ตายอันดับแรก


            คดีนี้ผู้บัญชาการสุชาติลงมาวางแผนสั่งการตามล่าด้วยตนเอง เรียก  พล.ต.ต. ไพศาล เชื้อรอด ผบก.น.7 พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี พ.ต.อ.วัชรา งามขำ พ.ต.อ. กฤตภาส เพ็ญกิตติ พ.ต.อ.ชวลิต ประสพศิลป พ.ต.อ.สมชาย มุสิกเจริญ รอง ผบก. น.7 พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.บก.น. 7 ตำรวจสน.บางยี่ขัน และทีมสืบสวนบก.น. 7 หาเบาะแสคนร้ายเป็นการด่วน


            ผ่านไปเพียงวันเดียว เจ้าหน้าที่ก็ได้เบาะแสสำคัญ เมื่อทีมสืบพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ซึ่งใช้งานโทร.ออกมาจากสถานที่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตำรวจจึงซุ่มเงียบปล่อยให้บุคคลที่ใช้มือถือของนายสมิทธิ ใช้โทรศัพท์ต่อไป เพื่อหาพิกัดและเบอร์โทร.ปลายทางเพื่อจะได้เข้าใกล้คนร้ายมากที่สุด


            รวบพลทหารเสรี


            ไม่นานตำรวจก็พบว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือดังกล่าว ส่งมาจากอาคารประกันภัยไทยวิวัฒน์ ถนนรัชดาฯ แขวงและเขตดิน แดง และเมื่อเช็กอย่างละเอียดก็พบว่าส่งมาจากบริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนชั้น 23 อาคารประกันภัยไทยวิวัฒน์ นอกจากนี้ ตำรวจยังเช็กกับเบอร์โทร.ปลายสาย ที่บุคคลคนนั้นโทร.หา จึงได้ข้อมูลว่าผู้ใช้โทรศัพท์มือถือของนายสมิทธิ คือ น.ส. เปิ้ล (นามสมมติ) อายุ 21 ปี เป็นพนักงานในบริษัทแห่งนั้นนั่นเอง


          สายวันที่ 20 พ.ย. ตำรวจจึงบุกถึงตัวน.ส.เปิ้ล


            เมื่อน.ส.เปิ้ลเห็นตำรวจก็ถึงกับเหงื่อกาฬแตก งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนละล่ำละลักอธิบายว่า ได้โทรศัพท์เครื่องนี้มาจากพลทหารเสรี ซึ่งเป็นแฟนเอามาให้ใช้ เท่านั้นเจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังกรมการรักษาดินแดน ขอให้ควบคุมตัวพลทหารเสรีไว้ ก่อนไปรับตัวมาสอบสวน โดยมีกำลังอีกชุดแยกไปค้นบ้านพักพลทหารเสรี ที่หมู่บ้านกฤษดานคร ถนนแจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี จึงพบรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูของผู้ตายจอดอยู่


            พลฯเสรีจนมุมพร้อมของกลาง!!


            ตอนแรกหมอนี่ทำมึนไม่ยอมให้การอะไร แต่ในที่สุดก็เปิดปากจนได้ บอกว่าร่วมกับพลทหารศิริชัย เพื่อนสนิทลงมือสังหารนายสมิทธิ เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมพลทหารศิริชัยเอาไว้ได้ที่บ้านเลขที่ 8 ม.2 ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ก่อนจะควบคุมตัวทั้งคู่มาสอบปากคำ


            พลทหารเสรีให้การรับสารภาพ ว่า รู้จักกับผู้ตายเกือบ 2 เดือน ผู้ตายเคยให้ตนไปรับใช้ที่บ้าน และให้ความเอ็นดูเมตตามาตลอด สาเหตุที่ทำ เพราะตนมีหนี้สินประมาณแสนบาท จึงฆ่า เพื่อหวังชิงทรัพย์หาเงินใช้หนี้ จึงชวนพลทหารศิริชัยเข้าไปขโมยของในบ้านผู้ตาย แต่ระหว่างค้นทรัพย์สินอยู่นั้น ผู้ตายกลับมาเจอพอดีเลยเกิด มีปากเสียงกัน โดยผู้ตายได้พยายามต่อสู้ขัดขืนจึงเข้าไปล็อกคอ พลทหารศิริชัยได้ใช้มีดพกติด ตัวมากระหน่ำแทงผู้ตายจนเสียชีวิต


            "ผมทำไปเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และรู้สึกผิดอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาผู้ตายดีกับผม แต่ที่ต้องฆ่าเพราะกลัวเขาไปแจ้งความ หลังจากเขาตาย พวกผมก็รีบกวาดเอาทรัพย์สินไปไว้ ที่บ้านปากเกร็ด แล้วกลับไปเข้าเวรต่อโดยไม่ ได้หนีไปไหน จนกระทั่งถูกจับกุมได้" พลทหารเสรี กล่าว


            ด้านพลทหารศิริชัย ให้การว่า วันเกิดเหตุพลทหารเสรีมาชวนเข้าไปขโมยของในบ้านผู้ตาย เพื่อนำของไปขายเอาเงินมาใช้ ซึ่งตนกำลังขัดสนเรื่องเงินพอดีจึงตอบตกลงไป ระหว่างนั้น ผู้ตายเข้ามาในบ้านและเอะอะโวยวายพร้อมกับต่อสู้ พอพลทหารเสรีล็อกคอเหยื่อตนจึงใช้มีดจ้วงแทงก่อนหลบหนีไปจนมุมที่บ้านมหาสารคาม ตำรวจจึงแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย


            ก้มหน้ารับกรรมที่ทำไว้!!




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2553
6 comments
Last Update : 10 พฤษภาคม 2553 1:17:59 น.
Counter : 2313 Pageviews.

 

 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว 10 พฤษภาคม 2553 7:21:05 น.  

 

คดีชายรักชายมีเยอะมากเหมือนกัน - -

 

โดย: เดอะฟักทอง3/4 IP: 124.121.100.253 10 พฤษภาคม 2553 9:42:54 น.  

 

เพียงแค่ทรัพย์สินไม่เท่าไร
กลับต้องเสียบุคลากรอันมีค่าของชาติไป

ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วยครับ

 

โดย: NATSKI13 10 พฤษภาคม 2553 10:32:16 น.  

 

ดีคร่า ทักทายนะค่ะ

 

โดย: www.24hotcasino.com IP: 180.183.245.214 17 ธันวาคม 2553 14:22:51 น.  

 

เลวมาก ๆครับ สมน้ำหน้าแล้วครับ พวกนี้ ต้องเจอคุกสถานเดียวครับ ดีนะที่จับได้ ไม่ต้องจ้าง นักสืบเอกชนให้ยุ่งยาก

 

โดย: sunnyJa 9 เมษายน 2555 22:33:13 น.  

 

ไม่น่าเลย คนเราอุตส่าห์ไว้ใจพาเข้าบ้านแล้วเป็นแบบนี้

 

โดย: หอมละมุน IP: 206.190.155.152 29 กรกฎาคม 2560 13:15:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.