มนุษย์ต่างดาวในความคิดของฉัน
สวัสดีครับเรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้เป็นเรื่องจากความคิดส่วนตัวอาจจะไม่อิงวิทยาศาสตร์บ้างอิงบ้างก็ไม่ว่ากันนะครับ
ตั้งแต่จำความได้วิทยาศาสตร์เป็นศาสตร์ที่เป็นที่สนใจของผมเป็นอย่างมากตั้งแต่เด็ก ๆ ผมได้ติดตามเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านหนังสือและจินตนาการของตัวของผมเอง สมมุติฐานของผมมีอยู่ 2 แนวทางคือ
1. แนวความคิดทางศาสนา 2. แนวความคิดทางด้านวิทยาศาสตร์แนวความคิดทางศาสนา แนวความคิดนี้ได้ถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็กผ่านพุทธศาสนาโดยให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ ทำดีได้ขึ้นสวรรค์ทำชั่วได้ลงนรก เมื่อตายไปยังมีภพภูมิหน้า ขึ้นอยู๋กับความดีที่เราสะสมมา ถ้าอิงความชื่อนี้เป็นหลักโลกมนุษย์ที่เราอยู่เปรียบเสมือนศูนย์กลางในการสร้างพลังงานให้กับจักรวาล กล่าวคือครั้งที่โลกกำเนิดช่วงแรกพืชกำเนิดขึ้นมาก่อน แต่่พืชจะเติบโตเป็นวัฒจักรไม่เพียงพอต่อพลังงานและแรงสั่นสะเทือนซึ่งหล่อเลี้ยงจักรวาลนี้ได้ เจ้าจักรวาลเลยสร้างสัตว์ขึ้นมาโดยจะใช้ชีวิตตามสันชาติญาน ก็ยังไม่มีแรงสั่นสะเทือนเพียงพอที่จะผลิตพลังงานจักรวาลเพื่อขับเคลื่อนได้พอเพียง จึงมีดวงจิตจำนวนหนึ่งจากแดนสุขาวดีอาสาเข้ามาสร้างพลังงานให้จักรวาลชึ่งออกมาในรูปแบบของกายหยาบคือมนุษย์ มนุษย์มีความคิดความอ่านไตรตรองตัดสินใจจากความถูกต้องและเหตุผลเป็นเหตุให้มนุษย์ต่างจากสัตว์และสร้างแรงสันสะเทือนเพียงพอต่อพลังงานจักรวาล แม้กายหยาบของมนุษย์จะสูญสิ้นแต่ดวงจิตอาสาก็ยังอยู่ตกในภพภูมิต่อไป หรือกลับมาเวียนว่ายตายเกิดจนกว่าจะบรรลุจุดประสงของจัิกรวาล กล่าวคือไม่มีการเกิดแก่เจ็บตายอีกต่อไปในศาสนาพุทธเรียกว่านิพพาน ศาสนาอื่นคงมีชื่อเรียกต่างกันซึ่งจะสร้างพลังงานจักรวาลสูงสุด แต่ถ้ามนุษย์ไปถึงจุดนั้นน้อยยังมีกิเลสมากมายไม่รู้จักจบสิ้น หมายความว่าภาระกิจที่ได้รับมอบหมายไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเต็มหน่วย วันแห่งการเริ่มต้นใหม่(จุดจบ) ของมนุษย์ก็จะมาถึง
ตัวผู้เขียนเชื่อว่าศาสนาในโลกนี้ไม่มีศาสนาใดถูกหรือผิดเพราะเรามิอาจเลือกเกิดในศาสนาใดได้ เลือกที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องได้ แนวคิดข้อที่1 ของข้าพเจ้าเกิดจากการศึกษาจากตำราธรรมมะและใส่ความคิดของข้าพเ้จ้าเพิ่มเติมเข้าไป
แนวความคิดทางด้านวิทยาศาสตร์ ในความคิดนี้กล่าวคือ มนุษย์จะเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งของดาวโลก ซึ่งได้ผ่านการพัฒนาการแบบก้าวกระโดด ต่างจากสัตว์สายพันธ์อื่นที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาการมายาวนานแต่ไม่ได้มีความก้าวหน้าเกินมนุษย์ เพราะฉะนั้น นรก สวรรค์ หรือโลกหลังความตายจะไม่มีจริง มนุษย์จะเกิดมาชีวิตเดียวแล้วตายไปพร้อมสังขาร จึงมีความพยายามที่จะยืดชีวิตมนุษย์ไปให้มากที่สุดด้วยแนวทางทางการแพทย์
มนุษย์เกิดมาบนโลกพร้อมคำถามมากมายและพยายามหาคำตอบโดยกระบวนการทางวิทยาศาตร์ก็ยังไม่สามารถไขความลับมืดดำของธรรมชาติได้ คำถามอีกคำถามที่เป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบแต่เกิดการพูดคุยกันหลายครั้งภายในวงสนทนาของข้าพเจ้าเอง นั่นคือ มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่
มีความคิดไปในสองทางแต่ข้าพเจ้าเห็นว่า มนุษย์ หรือสัตว์โลกต่างดาวนั้นมีแน่นอน คงมีดวงดาวสักดวงที่มีสิ่งแวดล้อมคล้ายโลก หรือมนุษย์ต่างดาวอาจจะใช้อากาศชนิดอื่นหายใจขึ้นอยู่กับโครงสร้างทางเคมีของร่างกาย มีทั้งดาวที่มีความเจริญกว่าเรา เทียบเท่าเรา หรือต่ำกว่าเรา
โอกาศที่มนุษย์จะเจอคงเป็นพวกที่มีความเจริญทางเทคโนโลยี่สูงกว่าเรา เพราะน่าจะมีความสามารถในการเดินทางระยะไกลในเวลาสั้น ถ้าตอนนี้พวกเค้าติดต่อพวกเราผ่านทางรัฐบาล หรือองค์การนาซ่า หรือแลกผลประโยชน์ซึ่งกันและกันกับมนุษย์บางกลุ่มคุณว่าอะไรที่รัฐบาลหรือองค์การนาซ่าแลกกับเทคโนยี่สมัยใหม่???
/////////////////////////////////////////////////////////////////////
video การผ่าตัดมนุษย์ต่างดาว
ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย
มนุษย์ต่างดาวในจินตนาการ มนุษย์ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อพิสูจน์เรื่องมนุษย์ต่างดาว แต่ก็ยังมีจินตนาการภาพลักษณ์ของมนุษย์ต่างดาวที่ได้ในสื่อต่างๆ ทั้งภาพยนตร์ นิยาย การ์ตูน และ วีดีโอเกม
ประเภทของมนุษย์ต่างดาว ได้มีการแบ่งประเภทตามลักษณะของผู้ที่อ้างว่าได้พบเจอมนุษย์ต่างดาวไว้ ดังนี้
เกรย์ (Grey) หมายถึง สีเทา โดยประเภทนี้พบบ่อยที่สุด (ดังในรูป) มีลักษณะหัวโต ตาโตสีดำ รูปร่างคล้ายมนุษย์ ไม่มีขน นิ้วทุกนิ้วเรียวยาว ผิวหนังสีเทา จึงเป็นที่มาของชื่อ สื่อสารกันด้วยการใช้โทรจิต อเลสเฮนกา (Aleshenka) ตั้งตามชื่อหมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัสเซีย ค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2539 โดยหญิงสติไม่สมประกอบผู้หนึ่ง มีการบันทึกการพบเจอไว้ด้วยเทป ของตำรวจ แต่ภายหลังพบว่าแท้จริงแล้วเป็นเพียงตัวอ่อนของมนุษย์ เท่านั้น[1] กึ่งมนุษย์ กึ่งสัตว์เลื้อยคลาน (Reptilian humanoid) ตัวสีเขียว รูปร่างคล้ายมนุษย์มี 2 ขา แต่มีผิวหนังและลักษณะคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน ดรอป้า (Dropa) ตัวเล็กมาก ก่อนหน้านี้มีหลักฐานว่าเคยพบบริเวณพรมแดนจีน -ทิเบต ราว 1 หมื่นปีก่อน แต่ต่อมาพบว่าเป็นหลักฐานเท็จ และเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องกุขึ้น[ต้องการแหล่งอ้างอิง ] คล้ายหุ่นยนต์ (Robot) รูปร่างคล้ายหุ่นยนต์ในภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ เนื้อตัวเป็นโลหะ ขนาดค่อนข้างใหญ่ คล้ายวิญญาณ (Soul) ไม่มีกายเนื้อ สีขาว คล้ายผี หรือวิญญาณ (ตามคำบอกเล่าของ ศ.ดร.น.พ.เทพพนม เมืองแมน )
การเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาว ได้มีการแบ่งประเภทการเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวไว้ 5 ระดับ คือ
การเผชิญหน้าระดับที่หนึ่ง (Close Encounters of the First Kind) หมายถึง การได้พบปะหรือเจอะเจอกับจานบินหรือมนุษย์ต่างดาวในระยะที่ไกลห่างออกไป เช่น จานบินลอยอยู่บนท้องฟ้า หรืออยู่ห่างจากผู้ที่พบเจอในระยะ 50 หลา เป็นต้น การเผชิญหน้าระดับที่สอง (Close Encounters of the Second Kind) หมายถึง การพบปะกับจานบินหรือมนุษย์ต่างดาวคล้ายกับการเผชิญหน้าระดับที่หนึ่ง แต่อยู่ในระยะที่ใกล้ขึ้น เช่น อาจพบจานบินที่จอดอยู่บนพื้น เป็นต้น การเผชิญหน้าระดับที่สาม (Close Encounters of the Third Kind) หมายถึง การได้เข้าไปในจานบินจะด้วยสาเหตุใดก็ตามแต่สามารถจดจำประสบการณ์ได้และ สามารถออกมาได้ การเผชิญหน้าระดับที่สี่ (Close Encounters of the Fourth Kind) หมายถึง การที่ถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไป อาจจะถูกทดลองด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา แต่สามารถจดจำประสบการณ์ได้และออกมาได้ การเผชิญหน้าระดับที่ห้า (Close Encounters of the Fifth Kind) หมายถึง การที่มีการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวในระดับที่เป็นกิจจะลักษณะ สามารถสื่อสารกันได้ความระหว่างมนุย์โลกกับมนุษย์ต่างดาว
มนุษย์ต่างดาวในประเทศไทย สำหรับในประเทศไทย มีสถานที่แห่งหนึ่งที่มีผู้อาศัยอยู่ที่นั่นอ้างว่า พบเจอสิ่งประหลาดคล้ายจานบิน บินไป บินมา อยู่บ่อยครั้ง คือที่ เขากะลา จ.นครสวรรค์ ถึงขนาดมีการจัดตั้งชมรมหรือสมาคมขึ้นมาในท้องถิ่นเพื่อศึกษาทางด้านนี้โดยเฉพาะเลยทีเดียว
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////
หนังสือเกี่ยวกับการระลึกชาติที่ิอิงความรู้ทางวิทยาศาตร์การแพทย์เขียนโดยแพทย์
"เราจะข้ามเวลามาพบกัน"
< มนุษย์ต่างดาว เรื่องจริง หรือเท็จ ?
ข้อมูลจานบิน,มนุษย์ต่างดาว มีค.51
แล้วคุณละคิดอย่างไร???
Create Date : 18 มิถุนายน 2552
3 comments
Last Update : 18 มิถุนายน 2552 10:12:20 น.
Counter : 1534 Pageviews.
โดยเฉพาะเรื่อง วงกลมมหัศจรรย์