Bloggang.com : Holden Caulfield : Justine Henin - Just The Way She Is : บทที่ 12 - ถ้าปวดท้อง ฉันก็จะหยุดเล่น ไม่สนว่าที่ไหน เมื่อไหร่

Justine Henin - Just The Way She Is : บทที่ 12 - ถ้าปวดท้อง ฉันก็จะหยุดเล่น ไม่สนว่าที่ไหน เมื่อไหร่

Justine Henin - Just The Way She Is : บทที่ 12 - ถ้าปวดท้อง ฉันก็จะหยุดเล่น ไม่สนว่าที่ไหน เมื่อไหร่

ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับเอแนงด้วยนะครับที่ได้แชมป์ที่ซูริคไปเรียบร้อยแล้ว เป็นแชมป์ที่ 9 ของปี (tier I ที่ 2 ของปี และรวมแล้วเป็นรายการที่ 38 ในชีวิต) ทำลายสถิติตัวเองตอนปี 2003 ที่ 8 รายการไปเรียบร้อยแล้ว

ปีนี้เล่นไปแล้ว 14 รายการ (อย่าลืมว่าพลาดช่วง aussie season ทั้งหมด) ได้แชมป์ 9 รายการ คือที่ ดูไบ โดฮา วอร์ซอร์ Roland Garros อีสบอร์น โตรอนโต US Open สตุทการ์ท และล่าสุดที่ซูริค

ส่วนที่เหลือ 4 รายการเข้าชิง 1 ที่ไมอามี่ และที่เหลือเข้าถึง SF ทั้งหมด ที่ ปารีส เบอร์ลิน และที่ Wimbledon

ยินดีด้วยนะครับ

และต่ออีกนิด ขอโทษด้วยนะครับ ที่ตอนนี้มาช้ามากกว่ากำหนดไปเยอะ แบบว่ายุ่งมากมายครับช่วงนี้ OK เข้าเรื่องดีกว่า

เอแนงแม้จะสร้างผลงานได้ดี แต่จากการเจ็บป่วย และอาการบาดเจ็บทำให้ทั้งปี 2004 และ 2005 เธอไม่สามารถเล่นได้ตลอดทั้งปี ต้องจบปีอย่างเหงาๆและเงียบหงอย แม้จะได้ qualified เข้ารายการ 8 คนสุดท้ายของปีอย่าง YEC แต่ก็ไม่สามารถไปร่วมแข่งได้

แต่การได้พักรักษาตัวอย่างเต็มที่ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้เธอได้ฟิตร่างกายจนสมบูรณ์ที่สุด รวมทั้งมีการวางแผนการเล่นใหม่ๆ และการวางตารางเวลาการแข่งที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้สามารถเล่นได้อย่างไม่บาดเจ็บจนจบปี

2006 เอแนงตั้งเป้า จะกลับมาเล่นให้ครบทุกรายการสำคัญ โดยเฉพาะ YEC ที่เธอพลาดไปตลอด และยังไม่เคยได้แชมป์ (ในเวลานั้น)

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

เอแนงเปิดปี 2006 ได้อย่างร้อนแรง ประกาศว่าเธอคืออีกคน ที่ทุกคนต้องระวังไว้ รายการแรกที่ซิดนีย์ อุ่นเครื่อง Aussie Open ในนัดแรกของปี เอแนงต้องเจอกับมาร์ติน่า ฮิงกิสที่กลับมาลงแข่งแบบเต็มที่อีกครั้ง แล้วก็เอาชนะไปอย่างง่ายดาย แล้วก็ค่อยๆกรุยทางอย่างไม่ยากเท่าไหร่ที่จะคว้าแชมป์แรกของปีที่ซิดนีย์ เอาชนะฟราสเชสก้า สกีโวเน่ ไปในนัดชิง

ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงขณะนั้น ไม่ยากเลยที่ใครๆจะมองว่าเอแนงคือตัวเก็งคนสำคัญคนนึงที่น่าจะคว้าแชมป์ Aussie open ไปได้

และเอแนงก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงมาก ค่อยๆกวาดมือรองบ่อนออกไปเรื่อยๆอย่าง่ายดายจนมาถึงรอบ QF

ในรอบ QF เอแนงต้องมาเจอกับลินเซย์ ดาเวนพอร์ท ทั้งคู่สร้างแมทช์ที่น่าประทับใจแมทช์หนึ่งในรายการนี้ ด้วยการแข่งขันที่เต็มไปด้วยลูก winner ที่สวยงาม return ที่น่าประทับใจ รวมทั้งเต็มไปด้วยอารมณ์เพราะด้วยอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ทั้งคู่ที่นอกจากแข่งกับฝ่ายตรงข้ามแล้ว ยังต้องแข่งกับความอดทนของตัวเองด้วย นัดนั้นดาเวนพอร์ทก็ต้องพบกับอาการตะคริวในช่วงท้ายนิดหน่อย เอแนงชนะไป 2-1 เซต 2-6 6-2 6-3 จบการแข่งขันพร้อมความประทับใจทั้ง 2 ฝ่าย

รอบ QF ที่ว่าสนุกแล้ว รอบ SF สนุกยิ่งกว่าหลายเท่า คู่ต่อสู้เอแนงในรอบนี้คือสาวน้อยสุดสวย มาเรีย ชาราโปว่า ที่หมายมั่นปั้นมือว่า เธอจะต้องไปให้ไกลกว่ารอบ SF ในรายการ Grandslam ให้ได้ เพราะตั้งแต่ได้แชมป์ Wimbledon 2004 เธอก็ต้องหยุดอยู่แค่ รอบ SF ในรายการต่อๆมาเท่านั้น จนได้ชื่อว่า Semipova

ผลงานในรายการนี้ของมาเรียก็จัดว่าดีมาก เธอเป็นตัวเก็งซะยิ่งกว่าเอแนงอีกในตอนนั้นที่มีคนคาดว่าจะคว้าแชมป์ มาเรียเป็นคนที่เล่นเกมบุกไม่ต่างจากดาเวนพอร์ท และดีกว่าตรงที่การเคลื่อนที่ไม่เป็นปัญหาของมาเรียเหมือนดาเวนพอร์ท ถ้าลูกเข้ามือมาเรียเมื่อไหร่ เธอพร้อมจะยิง winner แหลก โดยเฉพาะ backhand 2 มือที่หนักหน่วง และลูกเสริฟที่รุนแรง

นัดนั้นอาวุธทุกอย่างของมาเรียมาเกือบสมบูรณ์ อาวุธหนักพร้อมรบ แน่นอนนี่คืองานยากของเอแนง แต่เอแนงก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แม้มาเรียจะยกระดับการเล่น แต่เอแนงยกระดับการเล่นขึ้นไปอีกขั้นที่เหนือกว่า ลูก winner สวยๆมีให้เราดูมากมาย ตลอดการเล่นเหมือนดูหนังสงครามที่ทั้งคู่เอาอาวุธหนักมาสาดใส่กันเต็มที่ อยู่ที่ว่าใครจะครองความได้เปรียบและช่วงชิงโอกาสได้มากกว่า รวมทั้งอารมณื drama ที่กระจายอยู่ทั่วคอร์ต ถ้ามีโอกาส หานัดนี้มาดูกันนะครับ สนุกมากจริงๆ

และสุดท้าย เอแนงทำได้ดีกว่า ชนะไป 4-6 6-1 6-4

เอแนงเข้าชิง Aussie Open เป็นครั้งที่ 2 (สถิติ ณ ขณะนั้นคือ เมื่อเข้าชิงรายการ grandslam เอแนงพลาดแค่ครั้งแรกเท่านั้น ที่เหลือทุกครั้ง เธอชนะทั้งหมด)

ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงแบบคงไม่มีใครจะมาหยุดได้ และคู่ชิงคือ อเมรี โมเรสโม คนที่พึ่งจะได้เข้าชิงรายการระดับ grandslam เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต คนที่เอแนงไม่เคยมีปัญหาในการจัดการ แน่นอน แทบไม่มีใครมองว่าเอแนงจะแพ้ในรอบชิงไปได้

เอแนงบอกในคืนก่อนแข่งว่าร่างกายเธอสมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง และพร้อมจะไล่ล่าแชมป์ grandslam อีกครั้ง

แต่เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น แฟนๆเอแนงรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ หน้าเอแนงซีด แม้เธอจะยังวิ่งได้ แต่การรักษา balance ร่างกายไม่ดีอย่างที่ผ่านมา ลูก winner แทบไม่มีให้เห็น จากการที่คาดหวังว่าจะได้ดูการดวล ลูก backhand มือเดียวของทั้งคู่ กลับกลายเป็นว่า เอแนงถูกโมเรสโม่ยำใหญ่อยู่ฝ่ายเดียว ฟอร์มการเล่นเอแนงตกลงไปอย่างเห็นได้ชัดมาก

เกิดอะไรขึ้น แฟนๆเอแนงได้แต่สงสัย ทำไมเอแนงถึงเปลี่ยนเป็นคนละคนในชั่วข้ามคืน จบเซตแรกเอแนงแพ้หมดรูป 1-6 ช่วงระหว่างเปลี่ยนเซตเอแนงขอตัวเข้าห้องน้ำ แฟนๆมั่นใจว่า เธอผิดปกติ

เริ่มเซต 2 เอแนงเปิดมาก็โดนเบรกทันที โมเรสโมนำ 2-0 เอแนงขอเวลานอก แพทย์สนามเข้ามาทำการดูแล พร้อมกับนำยามาให้ เอแนงรับยาไว้ ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าเธอมีปัญหาที่ช่องท้อง

ผ่านการ treatment ที่ใช้เวลานานมาก ก็กลับมาเล่นเกมที่ 3 เอแนงเล่นไปได้แค่ 2 คะแนน เธอก็เดินเข้าไปมาโมเรสโมที่เน็ต เอแนงขอยอมแพ้

แล้วเธอก็หลั่งน้ำตากลางคอร์ต แสดงความอ่อนแอที่ทนไม่ได้กับความเจ็บปวดข้างใน ภาพเครื่องจักรสังหารในคอร์ตหายไป แทนที่ด้วยผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงที่อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ

โมเรสโมเดินเข้ามานั่งข้างๆเธอ ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะกระโดดโลดเต้นไปกับ slam แรกในชีวิตดี หรือจะนั่งลงปลอบใจเอแนงดี แล้วเธอก็เลือกอย่างหลัง

เอแนงกลายเป็นคนที่ 2 ต่อจากสเตฟาน เอ็ดเบิร์ก และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ขอยอมแพ้ในนัดชิงรายการระดับ grandslam

ภายหลังเกม เอแนงออกมากล่าวว่าโมเรสโมสมควรเป็นผู้ชนะในวันนี้ไม่ว่าเธอจะสมบูรณ์หรือไม่ เพราะว่าเธอเล่นได้แย่มาก และโมเรสโม่ช่วงชิงโอกาสทุกอย่างไปจากเธอ ส่วนอาการเจ็บนั้นเป็นผลมาจากการที่เธอใช้ยาแก้อักเสบเพื่อลดอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่มากเกินไป เลยส่งผลกระทบต่อเธอ จนไม่สามารถเล่นต่อได้

ส่วนโมเรสโม่นั้น จุดนั้นเป็นจุดแตกหักของทั้งคู่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนกัน (โมเรสโม่คือไม่กี่คนที่เอแนงเชิญไปงานแต่งงาน) โมเรสโม่บอกว่า I'm ready to die on court!!! แล้วหลังจากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่เหมือนเดิม

ผลจากการยอมแพ้ในวันนั้นเกิด 2 กระแสตามมาทันที

กระแสแรก เอแนงเจ็บจริง อย่างเห็นได้ชัด แฟนๆเห็นความแตกต่างตั้งแต่นาทีแรกที่เธอลงมาในคอร์ต เอแนงคนที่มีใจนักสู้ คนที่ถ้ายังไม่ถึงคะแนนสุดท้ายเธอไม่เคยยอมแพ้ เอแนงคนที่แจะตาม 1-5 ในเซตสุดท้าย แต่ก็ยังสู้จนชนะมาแล้ว เอแนงคนนี้น่ะเหรอที่จะยอมแพ้ถ้ามันไม่เจ็บจนทนไม่ไหวจริงๆ

อีกทั้งเอแนงในตอนนั้นที่ต้องผจญกับการป่วยด้วยไวรัส และการบาดเจ็บทั้งตัวตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แฟนๆเข้าใจดีว่า เธอคงไม่เล่นแบบเสี่ยงเกินความสามารถของร่างกายอีกแล้ว ไม่มีชัยชนะไหนจะสำคัญไปกว่าร่างกายที่สมบูรณ์ ประสบการณ์สอนเธออย่างนั้น และแฟนๆก็เชื่อเธออย่างนั้น

กระแสที่ 2 เธอรับไม่ได้กับการพ่ายแพ้หมดรูป เธอยินดีที่จะยอมแพ้มากกว่าที่จะเล่นจนจบ เจ็บจริงไม่จริงไม่รู้ แต่แค่เดินเล่นอีก 4 เกมมันจะทนไม่ไหวเลยเหรอ จะให้โมเรสโม่ได้กระโดดดีใจกับชัยชนะที่สำคัญที่สุดในชีวิตไม่ได้เลยเหรอ

ทำเป็นบีบน้ำตา Drama Queen นังตอแหล จะแพ้แล้วยังขโมยพาดหัวข่าวไปจากโมเรสโม่อีก ถ้าเจ็บจริงแล้วลงมาเล่นทำไม ไม่ให้เกียรติทั้งคู่แข่ง ทั้งคนดู 1 ในการกระทำที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์เทนนิส

ไม่ว่าจะอย่างไร ถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้จริงว่า เอแนงเจ็บขนาดไหน เธอเจ็บจนทนไม่ไหวจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆความจริงที่ปรากฎคือ

1 โมเรสโม่สมควรเป็นผู้ชนะทุกประการ

2 หลังจากนั้น เอแนงเปลี่ยนตารางอาหาร ยา และทุกอย่างเกี่ยวกับสารอาหารที่เธอจะเอาเข้าร่างกายทันที และเป็นการเปลี่ยนแปลงมาจนถึงทุกวันนี้

เหมือนที่เค้าบอกว่า เราคงไม่สามารถไปตัดสินใครได้ ถ้าเราไม่ได้อยู่ในสถาณการณ์เดียวกับเค้า สิ่งที่เกิดขึ้น กระแสที่ตามมา ล้วนแต่มากจากอคติทั้งบวกและลบที่มีต่อเอแนงก่อนหน้านั้นทั้งสิ้น และเอแนงก็เป็นคนนึงที่มีกระแสแรงทั้ง 2 ด้าน แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ ไม่เคยสนใจเรื่องเหล่านี้ เธอแกร่งกว่านั้น แล้วเธอก็ผ่านเรื่องครั้งนั้นมา แม้จะไม่สวยงาม แต่ก็เป็นการผ่านอย่างเข้มแข็ง

In Henin, We Trust

ติดตามตอนเก่าๆได้ที่นี่ครับ

บทนำ

บทที่ 1 - แรงบันดาลใจ และคำมั่นสัญญา

บทที่ 2 - เด็กสาวผู้โดดเดี่ยว

บทที่ 3 - ประกาศให้โลกรู้จัก ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้

บทที่ 4 - งานแต่งงานที่อ้างว้าง

บทที่ 5 - 'The HAND' Match

บทที่ 6 - "แม่คะ หนูทำได้แล้วค่ะ"

บทที่ 7 - ไม่มีคำว่าเหนื่อยใน Grand Slam

บทที่ 8 - โชคร้ายเปรียบเสมือนเงาที่ไม่เคยห่างจากตัว

บทที่ 9 - เมื่อต้องสู้...เพื่อชาติ

บทที่ 10 - ราชินี คอร์ตดิน

บทที่ 11 - แม่พระของเหล่าเด็กๆผู้ป่วยไข้

enjoy your day

Create Date : 22 ตุลาคม 2550

Last Update : 22 ตุลาคม 2550 11:10:19 น.

10 comments

Counter : 891 Pageviews.

ชั้นว่า ชั้นยอมรับได้นะ เรื่องเจ็บแล้วขอถอนตัวเนี่ย

แบบว่า เรื่องปลีกย่อนอื่นๆมันไม่ต้องไปสนใจนักหรอก เป้นนักกีฬาน่ะ หยุดเล่นเมื่อเจ็บแล้วกลับมาแข่งเมื่อพร้อมเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

โดย: angy_11

วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:12:46:54 น.

เชียร์ แอแนง ค่ะ

โดย: PenKa

วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:14:43:25 น.

ชอบเอแนงนะคะ แต่ตอนที่ดูอยู่นั้น คิดว่า เธอป่วยจริง แต่ ทนเล่นอีกหน่อยไม่ได้เชียวหรือ แค่ให้มันจบ ให้คนชนะได้เฮสุดๆ ให้สมเป็นผู้ชนะ
บอกตรงๆตอนนั้นเสียความรู้สึกกับเอแนงนิดหน่อย แต่ก็ยังเชียร์เธอเสมอ

โดย: Febie

วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:18:44:32 น.

ยังไงก็รักและชื่นชมเอแนง
ALLEZ! Justine

โดย: Apple IP: 203.113.17.168 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:21:12:00 น.

แวะมาเยี่ยมค่ะ

แปลเก่งจัง

โดย: Mrs.Unpredictable

วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:21:50:11 น.

I have a faith in Henin and totally believe that she would never ever do something like that if she could tolerate to her pain. In case which people have sudden severe pain, it is hard to control the symptom. Sometime you could not move your body, only one thing you could do in that moment is crying.
If you know her, you might be a person who knows the truth.

โดย: dedy IP: 58.8.189.156 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:22:20:33 น.

รู้จักคนดังอย่างลึกซึ้งเพราะเด้งเลยนะเนี่ย
ขอบคุณน้า...

โดย: เจ๊ CC เอ๊ง IP: 125.24.14.36 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:22:30:03 น.

นังแน็งไม่ได้แพ้เกมส์เทนนิสหรอก... นังแน็งแพ้ความเจ็บปวดช่องท้องมากกว่า... แพ้ภัยตัวเอง

มองอีกมุมนึง... เห็นใจนังโม่กับชัยชนะที่ไม่สมศักดิ์ศรีแชมป์... เฮ้อ...

โดย: zardamon

วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:9:33:50 น.

ยังไงก็เชียร์เอแนงเหมือนเดิมครับ
รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
รอ YEC ให้เอแนงได้อีกสมัยเถอะ

โดย: Jakey_G IP: 125.24.71.236 วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:19:47:26 น.

Thanks for the terrifc BLOG,Well Done,Bravo!!

โดย: c'est moi meme IP: 24.202.237.172 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:5:02:30 น.