คิดอย่างสร้างสรรค์...ชีวิตเปลี่ยน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
คนไทยเราส่วนใหญ่มักมีปัญหาคือ ไม่ค่อยใช้ความคิดโดยเฉพาะการคิดอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเหตุผลก็มีหลายประการ เช่น ระบบการศึกษา , ระบบอาวุโส, ระบบราชการ ฯลฯ
แต่จริงๆแล้ว ความคิดสร้างสรรค์ก่อให้เกิดความแตกต่าง จะดีไหม หากคนไทยคิดไม่เหมือนกัน 63 ล้านคน เราก็จะได้ความคิดใหม่ๆถึง 63 ล้านความคิด
คนที่เรียนวิชาการตลาดมักให้คำจำกัดความว่า การตลาด คือ การสนองตอบความต้องการของลูกค้า แต่จริงๆแล้วมันอาจถูกต้องแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ในทางกลับกัน การตลาด ก็คือการสร้างความต้องการให้ลูกค้าเกิดความต้องการในสินค้าของเรา เช่นตัวอย่างเคยมีนักข่าวไปสัมภาษณ์ Steve Jobs(สตีฟ จอส์บ)ว่าเขาใช้บริษัทวิจัยการตลาดอะไรหรือทำการวิจัยสินค้าอย่างไร เขาตอบนักข่าวโดยทันทีว่าเขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องการวิจัยตลาด เพราะลูกค้าไม่รู้หรอกว่าเขาต้องการอะไร พร้อมกันนั้นเขายังยกตัวอย่างว่าในอดีต หาก เฮรี่ ฟอร์ด คนสร้างรถยนต์คันแรก มัวแต่ไปวิจัยการตลาดว่าคนต้องการรถม้าอย่างไร(ซึ่งตอนนั้นคนยังเดินทางโดยสารโดยรถม้า) คำตอบที่ได้ก็คือคนต้องการรถม้าที่แข็งแรงและม้าต้องวิ่งไวที่สุด ดังนั้นพวกเราจึงไม่ต้องแปลกใจที่ Steve Jobs(สตีฟจอส์บ) ได้คิดค้น นวัตกรรมใหม่เป็นสินค้าตระกูล I เช่น IMac , IBook , IPod ฯลฯ ให้ลูกค้าใช้
ดังนั้นกระผมเชื่อว่า ประเทศไทยของเราต้องการคนประเภท SteveJobs(สตีฟ จอส์บ) มากๆ แต่สิ่งที่เป็นตัวขัดขวางก็คือ ระบบการศึกษาผมยังจำได้ว่า ตอนเด็กๆ ครูมักสอนให้ท่องจำมากกว่าสอนให้นักเรียนรู้จักคิด เช่นสอนให้จำปีที่คนไทยต้องเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 1และครั้งที่2 ว่าเป็น พ.ศ.อะไร แต่ไม่สอนให้ใช้ความคิดว่า ทำไมถึงต้องเสียกรุงศรีอยุธยา อีกทั้งระบบการศึกษาในอดีตและทั้งปัจจุบันยังไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เด็กได้ใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์อีกทั้งเด็กนักเรียนไทยไม่กล้าถาม เพราะหากถามหรือมีความคิดที่แตกต่างไปจากคุณครูมักจะโดนดุด่า ทำโทษ จึงทำให้เด็กไม่กล้าแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป
ระบบอาวุโสคนไทยเราตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน มักมีความเคารพนับถือเชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่ ผมไม่ได้รังเกียจระบบอาวุโส แต่ระบบอาวุโสเป็นส่วนหนึ่งในการทำลายความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยเราส่วนใหญ่ เด็กๆมักจะไม่กล้าโต้แย้งกับผู้ใหญ่ พวกเรามักเคยได้ยินคำโบราณที่ผู้หลักผู้ใหญ่ชอบใช้อ้างถึงเวลาสอนเด็กว่า ฉันเคยอาบน้ำร้อนมาก่อนแก ทำนองนี้
ระบบราชการเป็นอีกส่วนหนึ่งที่คอยขัดขวางความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ในระบบนโยบายสำคัญๆ หรือคำสั่งสำคัญๆ มักมาจากเบื้องบน ผู้ที่อยู่เบื้องล่าง ต้องปฏิบัติตามแต่ในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาสำคัญๆ ต้องอาศัยความคิดที่ดีๆ ในการแก้ปัญหาความคิดเห็นของคนเบื้องล่างก็อาจมีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาได้เช่นกัน
เปลี่ยนความคิดชีวิตเปลี่ยน พวกเราส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตที่เหมือนเดิมทุกๆวันบางคนเบื่อหน่ายกับชีวิต แต่เราสามารถสร้างความสนุกให้กับชีวิตได้ก็ด้วยการคิดสร้างสรรค์นั้นเอง ตัวอย่าง ท่านลองเปลี่ยนเส้นทางเดินทางไปทำงานบ้าง ,ท่านลองจดกระดุมให้แตกต่างกันทุกวันบ้าง(วันนี้จดจากบนลงล่าง,พรุ่งนี้จดจากล่างขึ้นบน,เมื่อเรื่องนี้จดจากตรงกลางลงล่างแล้วขึ้นข้างบน เป็นต้น) , ท่านลองสร้างสรรค์โดยการตกแต่งห้องทำงานใหม่เพราะหลายท่านต้องใช้เวลาทำงานที่ทำงานนานกว่าที่บ้านจึงควรให้ความสำคัญกับบรรยากาศในการทำงาน