+++...อยู่เพื่อพัฒนากรรม ไม่ใช่อยู่เพื่อใช้กรรม ...+++
กรรมแยกเป็น ๓ ส่วน คือ กรรมเก่า - กรรมใหม่ - กรรมข้างหน้า ขอสรุปวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องต่อกรรมทั้ง ๓ ส่วนว่า
กรรมเก่า (ในอดีต) เป็นอันผ่านไปแล้วเราทำไม่ได้ แต่เราควรรู้เพื่อเอาความรู้จักมันนั้นมาใช้ประโยชน์ ในการแก้ไขปรับปรุงกรรมใหม่ให้ดียิ่งขึ้น กรรมใหม่ (ในปัจจุบัน) คือกรรมที่เราทำได้และจะ ต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด ตรงนี้เป็นจุดสำคัญ กรรมข้างหน้า(ในอนาคต) เรายังทำไม่ได้แต่เราสามารถเตรียมหรือ วางแผนเพื่อจะไปทำกรรมที่ดีที่สุดด้วยการทำกรรมปัจจุบันที่จะพัฒนา เราให้ดีงามและงอกงามยิ่งขึ้นจนกระทั่งเมื่อถึงเวลานั้นเราก็จะสามารถ ทำกรรมที่ดีสูงขึ้นไปตามลำดับจนถึงขั้นเป็นกุศลอย่างเยี่ยมยอด
นี่แหละคือคำอธิบายที่จะทำให้มองเห็นได้ว่า ทำไมจึงว่า คนที่วางใจ ว่าจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่กรรม (เก่า) นั้นแลกำลังทำกรรมใหม่ (ปัจจุบัน) ที่ผิด เป็นบาป คือความประมาท ได้แก่การปล่อยปละละเลย อันเกิดจากโมหะ และมองเห็นเหตุผลด้วยว่า ทำไมพุทธศาสนาจึงสอน ให้หวังผลจากการกระทำ
ขอย้ำอีกครั้งว่ากรรมใหม่สำหรับทำ กรรมเก่าสำหรับรู้ อย่ามัวรอ กรรมเก่าที่เราทำอะไรมันไม่ได้แล้วแต่หาความรู้จากกรรมเก่านั้น เพื่อเอามาปรับปรุงการทำกรรมปัจจุบันจะได้พัฒนาตัวเราให้ สามารถทำกรรมอย่างเลิศประเสริฐได้ในอนาคต
มีคำเก่าได้ยินมานานแล้วประโยคหนึ่งคือที่พูดว่า คนเราเกิดมาเพื่อใช้กรรมเก่าความเชื่ออย่างนั้นไม่ใช่ พุทธศาสนา และต้องระวังจะเป็นลัทธินิครนถ์ ที่พูดกันมาอย่างนั้น ความจริงก็คงประสงค์ดีคือมุ่งว่าถ้าเจอ เรื่องร้าย ก็อย่าไปซัดทอดคนอื่นและอย่าไปทำอะไรที่ชั่วร้าย ให้เพิ่มมากขึ้น ด้วยความโกรธแค้นเป็นต้นแต่ยังไม่ถูกหลัก พระพุทธศาสนา และจะมีผลเสียมาก
ลัทธินิครนถ์ซึ่งก็มีผู้นับถือในสมัยพุทธกาลจนกระทั่งในอินเดีย ทุกวันนี้ เป็นลัทธิกรรมเก่าโดยตรง เขาสอนว่าคนเราจะได้สุข ได้ทุกข์อย่างไรก็เป็นเพราะกรรมที่ทำไว้ในชาติปางก่อนและ สอนต่อไปว่า ไม่ให้ทำกรรมใหม่แต่ต้องทำกรรมเก่าให้หมด สิ้นไปด้วยการบำเพ็ญตบะ จึงจะสิ้นกรรมสิ้นทุกข์ นักบวชลัทธินี้จึงบำเพ็ญตบะทรมานร่างกายด้วยวิธีต่างๆ
คนที่พูดว่าเราอยู่ไปเพื่อใช้กรรมเก่านั้น ก็คล้ายกับพวกนิครนถ์ นี่แหละ คิดว่าเมื่อไม่ทำกรรมใหม่ อยู่ไปๆกรรมเก่าก็คงจะหมด ต่างแต่ว่า พวกนิครนถ์ไม่รอให้กรรมเก่าหมดไปเองแต่เขาบำเพ็ญ ตบะเพื่อทำกรรมเก่าให้หมดไปด้วยความเพียรพยายามของเขาด้วย
มีคำถามที่น่าสังเกตว่า ถ้าไม่ทำกรรมใหม่อยู่ไปๆ กรรมเก่าจะหมดไปเองไหม? เมื่อไม่ทำกรรมใหม่ อยู่ไป กรรมเก่าก็น่าจะหมดไปเองแต่ไม่หมดหรอก ไม่ต้องอยู่เฉยๆ แม้แต่จะชดใช้กรรมเก่าไปเท่าไรๆก็ไม่มีทางหมดไปได้
เหตุผลง่ายๆคือ ๑. คนเรายังมีชีวิต ก็คือเป็นอยู่ ต้องกินอยู่เคลื่อนไหวอิริยาบถ ทำโน่นทำนี่ เมื่อยังไม่ตาย ก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆ ๒. คนเหล่านี้เป็นมนุษย์ปุถุชน ก็มีโลภ โกรธ หลงโดยเฉพาะความ หลง หรือโมหะนี้มีอยู่ประจำในใจตลอดเวลาเพราะยังไม่ได้รู้เข้าใจ ความจริงถึงสัจธรรม เมื่อรวมทั้งสองข้อนี้ก็คือคนที่อยู่เพื่อใช้กรรมนั้น เขาก็ทำกรรมใหม่ อยู่ตลอดเวลา แม้แต่โดยไม่รู้ตัวแม้จะไม่เป็นบาปกรรมที่ร้ายแรง แต่ก็เป็น การกระทำที่ประกอบด้วยโมหะ เช่นกรรมในรูปต่างๆของความประมาท ปล่อยชีวิตเรื่อยเปื่อย
ถ้ามองลึกเข้าไปในใจโลภะ โทสะ โมหะ ก็ผุดโผล่ขึ้นมาในใจ ของเขาอยู่เรื่อยๆ ในลักษณะต่างๆ เช่น เศร้าขุ่นมัว กังวล อยากโน่นอยากนี่ หงุดหงิด เหงา เบื่อหน่าย กังวลคับข้อง ฯลฯ นี่ก็คือทำกรรมอยู่ตลอดเวลาแถมเป็นอกุศลกรรมเสียด้วย เพราะฉะนั้นอย่างนี้ จึงไม่มีทางสิ้นกรรม ชดใช้ไปเท่าไรก็ไม่รู้จักสิ้นสุด มีแต่เพิ่มกรรม
แล้วทำอย่างไรจะหมดกรรม? การที่จะหมดกรรม ก็คือ ไม่ทำกรรมชั่ว ทำกรรมดีและทำกรรมที่ดียิ่งขึ้น คือแม้แต่กรรมดีก็เปลี่ยนให้ดีขึ้น จากระดับหนึ่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง พูดเป็นภาษาพระว่า เปลี่ยนจากทำอกุศลกรรม เป็นทำกุศลกรรม และทำกุศลระดับสูงขึ้นไป จนถึงขั้นเป็นโลกุตตรกุศล
ถ้าใช้ภาษาสมัยใหม่ก็พูดว่า พัฒนากรรมให้ดียิ่งขึ้น เราก็จะมีศีล มีจิตใจ มีปัญญา ดีขึ้นๆในที่สุดก็จะพ้นกรรม พูดสั้นๆ ว่า กรรมไม่หมดไปด้วยการชดใช้กรรมแต่หมดกรรมด้วย การพัฒนากรรมคือปรับปรุงตัวให้ทำกรรมที่ดียิ่งขึ้นๆ จนพ้นขั้นของ กรรมไป ถึงขั้นทำ แต่ไม่เป็นกรรมคือทำด้วยปัญญาที่บริสุทธิ์ ไม่ถูก ครอบงำหรือชักจูงด้วยโลภะ โทสะ โมหะ จึงจะเรียกว่า พ้นกรรม
Create Date : 23 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 23 มิถุนายน 2556 0:08:52 น. |
|
117 comments
|
Counter : 3015 Pageviews. |
|
|
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
............................
แวะมาเยี่ยมขอรับ