มัสยิดบางหลวง
มัสยิดทรงไทย ศิลปะ 3 ชาติ หนึ่งเดียวในโลก
มัสยิดบางหลวง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1(พ.ศ. 2328)
โดยพ่อค้ามุสลิมชื่อโต๊ะหยี ได้รวบรวมสมัครพรรคพวก ทำการก่อสร้างมัสยิดขึ้นในหมู่บ้าน
เป็นทรงไทยก่ออิฐถือปูนทั้งหลัง
มีหน้าบันหน้า-หลังประดับด้วยปูนปั้นลายศิลปะ 3 ชาติ
คือ ที่กรอบหน้าบัน เป็นเครื่องลำยอง ประดับห้ามลายไว้บนยอด เป็นศิลปะไทย
ส่วนในหน้าบัน เป็นปูนปั้นลายก้านแย่งใบฝรั่งเทศ เป็นศิลปะฝรั่ง
และที่ส่วนดอกไม้ เป็นดอกเมาตาล เป็นศิลปะจีน
ลายศิลปะ 3 ชาตินี้ ได้นำมาประดับที่กรอบประตูและหน้าต่างทุกบานของมัสยิด
ในส่วนตัวอาคารที่เป็นปูน ทาสีขาวทั้งหมด ส่วนที่เป็นไม้จึงสีเขียว จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าว่า "กุฎีขาว"
(คำว่า กุฎี ถูกนำมาใช้เรียกศาสนสถานของมุสลิมมาแต่สมัยอยุธยา
แต่เมื่อได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติมัสยิดอิสลาม พ.ศ.2490 ได้เปลี่ยนคำเรียกเป็นมัสยิด)
ขณะเดียวกัน ท่านโต๊ะพิมเสน ได้ขอซื้อพระตำหนักวังหน้าเก่ามาทำเป็นศาลามัสยิดขึ้น 1 หลัง
เป็นไม้ทั้งหลังและเป็นทรงไทยเช่นเดียวกัน
แม้ตัวอาคารจะเป็นทรงไทย ซึ่งนับว่าเป็น
มัสยิดก่ออิฐถือปูนแห่งเดียวในโลกที่เป็นทรงไทย
แต่ผู้สร้างก็ได้บรรจุหลักการสำคัญของศาสนาอิสลามไว้ คือ มี มิมบัร
(แท่นแสดงธรรม คล้ายธรรมาศน์ของพระภิกษุ) มิหฺร็อบ (ที่ละหมาดของอิหม่าม)
โครงสร้างภายในก็เป็น พื้นราบ สะอาด ปราศจากรูปเคารพ
มีเสาค้ำยันพาไล จำนวน 30 ต้น เท่ากับบทบัญญัติในคัมภีร์อัลกุลอาร ที่มี 30 บท
และห้องละหมาดมี 12 หน้าต่าง 1 ประตู รวม 13 ช่อง เท่ากับจำนวนรุกุ่น หรือกฎละหมาด 13 ข้อ
30 ปีถัดมา มิมบัรเก่าในมัสยิดชำรุดลง เจ้าสัวพุก พ่อค้าจีนมุสลิม (ต้นตระกูล พุกภิญโญ)
ส่วนด้านบนเป็นทรงวิมาน 3 ยอด สอดแทรกด้วยลวดลาย
ก้านใบฝรั่งเทศและดอกเมาตาลของจีน เต็มทั้ง 3 ยอด ตลอดทั้งซุ้มประดับด้วยกระจกหลากสี
พร้อมกับได้แกะสลักแผ่นไม้เป็นอักษรอาหรับนูนลอย เป็นชื่อ อัลเลาะห์ นบีมูฮำหมัด
บุคคลสำคัญของศาสนา บทอัลกุรอานที่สำคัญ ติดตั้งไว้ภายในซุ้ม
Free TextEditor