จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
4 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 

วัน ดี ดี

เมื่อวานเป็นวันดีมากๆสำหรับเรา^^ เพราะได้ไปฟังเทศน์หลวงพ่อปราโมทย์มา ท่านมาเทศน์ที่อาคารอัมรินทร์พลาซ่าจากการนิมนต์ของสำนักพิมพ์ DMG ซึ่งก็มีคนเข้าฟังธรรมกันมากมายแทบจะไม่มีที่นั่ง เดี๋ยวนี้จะไปฟังเทศน์กับพระดีๆต้องมีการสำรองที่นั่งกันแบบชมคอนเสิร์ตเลยทีเดียว จะต่างกันหน่อยก็ตรงที่ไม่ต้องจ่ายเงินนี่แหละ ตัวเราเองก็จองที่ไปหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้แล้ว

ที่จริงท่านก็เทศน์แบบเดิมๆเหมือนที่ฟังในซีดีนะแหละแต่ไปฟังสดๆรู้สึกดีกว่าฟังทางซีดีมาก ท่านเทศน์เกี่ยวกับการทำวิปัสสนาที่ถูกต้อง คือคนเราต่างต้องการที่จะพ้นทุกข์ จึงหันมาทำสมถะและวิปัสสนาโดยไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อนว่าพุทธเจ้าท่านสอนอะไรไว้ พระพุทธเจ้าท่านสอนว่ารูปนามกายใจ(ขันธ์ 5)นี้เป็นทุกข์ จึงต้องมาเรียนรู้ที่ตัวทุกข์คือกายกับใจเรานี่เอง โดยการสังเกตที่กายที่ใจเมื่อสังเกตไปมากๆจะพบว่ามันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ มันบังคับไม่ได้ เช่นร่างกายมันจะปวดจะเมื่อยก็บังคับไม่ได้ เมื่อสังเกตที่ใจจะเห็นว่ามันเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาเช่น บางทีมันก็มีความสุข บางทีมันก็ทุกข์ บางทีก็โกรธ บางทีก็โลภ ท่านเทศน์ประมาณนี้แหละเราไม่กล้าเขียนไปมากกว่านี้กลัวว่าจะผิด เพราะตัวเราก็ยังไม่เข้าใจธรรมะได้ดีพอ เรารู้เพียงแต่ว่าเมื่อสังเกตตามที่ท่านบอกเรารู้สึกดี รู้สึกมีความสุขขึ้น ส่วนใหญ่เราจะสังเกตที่ใจ เป็นคนขี้โมโหก็จะโกรธอยู่บ่อยๆ ซึ่งนับว่าโชคดีคือความโกรธมันเห็นง่าย พอมีสติรู้สึกตัวว่าโกรธอยู่ ความโกรธมันก็หายไปทันที หรือมีบ่อยครั้งที่ใจลอย พอรู้สึกตัวขึ้นมามันจะรู้สึกว่าสมองมันปลอดโปร่ง รู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที ซึ่งการตามรู้ตามเห็นแบบนี้มันทำให้ชีวิตดีขึ้น มีความสุขมากกว่าเดิมมากๆ เพราะแต่เดิมก็จะโกรธหงุดหงิดอยู่ตลอดวัน เดี๋ยวนี้มันจะโกรธเป็นช่วงสั้นๆเท่านั้นเอง

เมื่อวานช่วงสุดท้ายของการเทศน์หลวงพ่อเปิดโอกาสให้ผู้มาฟังธรรมได้ถามปัญหา มีผู้หญิงท่านนึงถามว่า จะทำอย่างไรกับบ้านเมืองทุกวันนี้ที่เกิดความขัดแย้ง หลวงพ่อท่านตอบว่าให้มีสติรู้ที่ใจเราก่อน ถ้าแต่ละคนมีสติจะตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างเป็นกลางและถูกต้องโดยไม่เอากิเลสของตัวเองมาเกี่ยวข้อง ท่านเทศน์ต่อไปอีกว่า ต้องยอมรับความจริงว่าไม่ใช่ชาวพุทธทุกคนจะเข้าถึงธรรมของพระพุทธเจ้าได้ ดังนั้นต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน ที่จริงท่านตอบยาวกว่านี้แต่จับใจความมาได้เท่านี้

พอฟังเทศน์จบลงมาชั้นล่าง เราถามพี่และเพื่อนที่ไปด้วยกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งสองคนหันมาตอบอย่างหน้าระรื่นว่าดีมาก ดีใจที่ได้มาฟังธรรม เพื่อนเราบอกว่ารู้สึกมีความสุข สองเด้ง สามเด้ง เพราะเป็นคนชวนเราและพี่เราให้เข้าหาธรรมะ ซึ่งอันนี้เราซาบซึ้งใจกับเพื่อนเรามาตลอดเพราะชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นจริงๆ โดยที่ตัวเราก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เราไม่ได้เรียบร้อยขึ้น ไม่ได้ใส่บาตรทุกเช้า ไม่นุ่งขาวห่มขาวไปทำบุญที่วัด ที่เปลี่ยนไปก็เพียงแค่แต่ละวันมีความรู้สึกตัวมากขึ้นเท่านั้นเอง พอมีความรู้สึกตัวก็จะไม่ทำผิด ไม่ตบยุง ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่ทำผิดศีล พอไม่ได้เบียดเบียนคนอื่นชีวิตมันก็มีความสุขความสบายใจมากขึ้นด้วย นับว่าไม่เสียเที่ยวที่เกิดมามนุษย์ทั้งที ได้อะไรดีๆไปบ้าง^^




 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2551
1 comments
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2551 11:59:15 น.
Counter : 1294 Pageviews.

 

ต้องล้างกิเลสและอัตตาของทุกคนที่เป็นแกนนำของทุกกลุ่มคะ โดยเฉพาะของก๊วนรัฐบาล แล้วบ้านเมืองคงจะสงบได้แต่คงยาก

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 4 พฤศจิกายน 2551 13:43:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Movilonic
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Movilonic's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.