เที่ยว Japan..episode1

        หลังจากจัดการกับปัญหาที่ยังไม่ลงตัวเรื่องงาน เรื่องเงิน และเรื่องเวลาได้สำเร็จ ในที่สุดส้มก็ได้ไปลั๊ลลาที่ Japan สมใจ...ฮี๊ววววว

        เล่าย้อนเหตุการณ์บนเครื่องนิดนึงนะคะ

        หลังผ่านขั้นตอนในสนามบิน เครื่องบิน TG...ก็ทะยานขึ้นฟ้าจากสุวรรณภูมิ เวลา 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย มุ่งหน้าสู่สนามบินนาริตะ กำหนดถึงจุดหมายปลายทางที่เวลา 06.00 น. ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น เวลาที่นู่นเร็วกว่าบ้านเรา 2 ชั่วโมง จริงๆ แล้วเราใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงนิดๆ ค่ะ ถ้าตามเวลาประเทศไทย เราก็จะไปถึงที่นู่นตอน ตี 3 ครึ่ง

        ดังนั้น เพื่อ save พลังงานให้เต็มที่พร้อมตะลุยแดนซากุระ พอเครื่องขึ้นปุ๊บ ส้มก็หลับปั๊บเพื่อเอาแรง ขณะกำลังหลับสบ๊าย อยู่ๆ พี่แอร์กะพี่สจ๊วตก็เปิดไฟบนเครื่อง ปลุกพวกเราขึ้นมาทาน breakfast ตอนใกล้จะตี3 ซะงั้น ก็แหงล่ะ เครื่องจะร่อนลงแล้วนี่คะ เค้าก็ทำหน้าที่ของเค้า เราก็เลยต้องงัวๆ เงียๆ ตื่นขึ้นมาหม่ำข้าวเช้าตอนตี3 เป็นครั้งแรกในชีวิต อืม...

        หลังผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เพราะเราไปกะทัวร์ ส้มก็ได้มายืนสูดอากาศบริสุทธิ์เย็นสบ๊ายยของประเทศญี่ปุ่น ที่อุณหภูมิ 11องศา จากที่ยืนเบลอๆ อยู่ในสนามบิน พอออกมาเจอลมญี่ปุ่นปะทะหน้าเข้าเท่านั้นแหล่ะ ตาสว่าง กะปรี้กะเปร่าขึ้นมาทันใด ช่วงเดือนมีนาคม อุณหภูมิยังต่ำอยู่ แถมมีฝนด้วย คุณไกด์เค้าก็เตือนแล้วว่า “ให้เตรียมร่มไปด้วยนะคะ” แต่ไม่เชื่อไง ก็เลยเปียก สม...

        ที่แรกที่คุณไกด์พาเราไปคือ พระราชวังอิมพีเรียล แต่ไม่ได้เข้าไปในพระราชวังหรอกค่ะ แค่ขับรถผ่าน แป่ว!! แล้วพาเราไปเก็บภาพคู่กับสะพานนิจูบาชิ หรือสะพานแว่น ข้างๆ พระราชวัง ซึ่งตอนนั้นแสงกำลังได้ เงาที่ออกมาจึงสะท้อนกับน้ำกำลังดี เห็นเป็นรูปแว่นตาเลยค่ะ

        เดินข้ามถนนมาอีกฝั่งก็ได้มาแชะภาพกับอนุสาวรีย์ The Last Samurai ด้วย เท่ห์มาก คุณไกด์เล่าว่า ซามูไร นั้นทำงานให้กับจักรพรรดิ ส่วนนินจาทำงานให้กับโชกุน ซึ่งซามูไร กับนินจา เค้าจะไม่ค่อยถูกกันนะคะ เพราะซามูไรไม่ชอบวิธีการทำงานของนินจาที่แว่บไปแว่บมา ไม่ต่อสู้ซึ่งหน้า ก็ว่ากันไป...

        โชกุนเปรียบได้กับนายกรัฐมนตรี ถ้าช่วงไหนบทบาทของโชกุนมี มากกว่า บทบาทของจักรพรรดิก็จะลดน้อยลงไป แต่ถ้าจักรพรรดิกลับมาแข็งแกร่ง โชกุนก็จะมีบทบาทน้อยลง สลับกันไปอย่างนี้ค่ะ คุณไกด์เค้าว่างั้น 

       เดินเหนื่อยละ แวะนั่งพักถ่ายรูปชิลๆ ซะหน่อย

        ที่ต่อไปที่คุณไกด์พาเราไปชมคือ วัดอาซะกุซ่า คันนอน เราได้ไปสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำศักดิ์สิทธิ์ขนาด 5 ซม. แล้วก็เดินเก็บภาพสวยๆ ภายในวัดอย่างเอาจริงเอาจัง ก็แหงล่ะ คนมันไม่เคยมา นี่เป็นครั้งแรก ก็คล้ายๆ กับบ้านนอกเข้ากรุง ไม่ว่ามุมไหนก็ดูสวยน่าถ่ายรูปไปหมด

        ขนาดเจอหนุ่มม.ต้นก็ไม่ละเว้น เห็นชุดนักเรียนเค้าเท่ดีไง เหมือนในหนังสือการ์ตูน ก็เลยเข้าไป speak Nihon go (ภาษาญี่ปุ่น) แบบตะกุกตะกักกับเค้าว่า “shashin o torimashoo ka” (ถ่ายรูปกันมั๊ย) แบบว่าทำการบ้านมาจากประเทศไทย เตรียมการมาอย่างดีเพื่อสิ่งนี้จริงๆ ก็เลยได้รูปนี้มา

        เพื่อนๆ เขม่นกันใหญ่ ว่าทำไมไม่เอากลับมาฝากบ้าง แหม..ถ้าเค้าอนุญาตให้เอากลับมาได้ มีรึจะปล่อยเอาไว้คะ จะฟูมฟักเอาใจ ไม่ให้เครียดกันเลยทีเดียว 555...

        คุณไกด์เล่าว่า ที่ญี่ปุ่นมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุด เนื่องจากความเครียด วิธีฮอตฮิตในการปลิดชีวิตของเค้าก็คือ การกระโดดลงมาจากที่สูงค่ะ อันดับ 2 คือ กระโดดให้รถไฟทับ กึ๋ยยย..อันนี้เล่าเป็นความรู้ ไม่ได้ให้ทำตามนะคะ อย่าทำ อย่าทำ ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ลองนั่งสมาธิ แล้วสติปัญญาจะเกิด มองเห็นทางสว่างค่ะ

        นอกเรื่องกันไป วกกลับเข้ามาใหม่...ที่วัดอาซะกุซ่าจะมีสัญลักษณ์โดดเด่นคือ โคมแดงยักษ์ กว่าจะได้ถ่ายรูปตรงนี้ก็ต้องรอกันไปค่ะ เพราะไม่ว่าใครก็อยากถ่ายรูปกับโคมยักษ์กันทั้งนั้น

        เหลือเวลาอีกนิดหน่อย ก็เลยไปเดินเก๋ๆ ที่ถนนนาคามิเสะ แถวๆ วัดอาซะกุซ่านั่นแหล่ะ มีขนมอร่อยๆ เยอะ พวกโมจิไส้ต่างๆ อร่อยถูกใจจริงๆ ง่ำๆ..แล้วก็พวกของนำโชค ของพื้นเมืองมากมาย ถ้าไม่ติดเรื่องเวลามีจำกัดก็คงเดินเล่นได้ไม่มีเบื่อ

        มองนาฬิกาตามเวลาประเทศญี่ปุ่น ใกล้เที่ยงแล้ว มิน่าล่ะ น้ำย่อยทำงานกันเสียงดังโครกคราก ก็ได้เวลาที่คุณไกด์จะพาเราไปอิ่มหนำสำราญกันแบบปิ้งย่างแล้วค่ะ วุ๊ยยย เนื้อสารพัดเนื้อสดๆ วางเรียงราย รอให้เราตักใส่จานไปปิ้งๆ ย่างๆ กลิ่นหอมฉุยเข้าจมูก สุกกำลังได้ที่ เราก็คีบลงจากเตามาจิ้มๆๆ น้ำจิ้มรสแซ่บ แบบว่าคุณไกด์เตรียมมาให้จากเมืองไทย แล้วจะไม่ให้อร่อยถูกปากได้ไงล่ะคะ ขอเวลาประเดี๋ยว งาบบบบ...

        นี่เป็นเพียงครึ่งวันแรกที่ญี่ปุ่นนะ ช่วงบ่ายจะพาไป shopping เพลินๆ เดินกันชิลๆ ย่านชินจูกุ แล้วจะรู้ว่ามีอะไรน่าซื้อบ้าง ติดตามได้ในepisode 2 ตอนหน้าค่ะ

Create Date : 24 พฤษภาคม 2553
Last Update : 9 สิงหาคม 2553 10:56:02 น.		14 comments
Counter : 1034 Pageviews.
Share Tweet