Mountain young ตอนที่ 4 . เพื่อน ๆ ของผม ที่อยู่ในองค์กรการกุศลชาวไทยใหญ่แห่งนี้ มีชื่อเรียกกันว่า จายเสือกร จายหน่อเมือง และ จายปี ( ผู้ชายไทยใหญ่ จะมี จาย นำหน้าชื่อ เช่น นาย นำหน้าในชื่อไทยครับ ) ที่มาทำงานไป เข้าเรียนมหาวิทยาลัยไปด้วย ... ผมพักอาศัยอยู่กับเพื่อน ๆ ร่วมสมัยเรียน เป็นเวลาสามคืนสองวัน ... เพื่อน ๆ ได้เก็บรวมเงินกัน เท่าที่พอช่วยผมได้ ทั้งหมด 7000 ks ( เจ็ดพันจ๊าด เท่ากับ 700 บาท เมื่อปี ค.ศ 1999 , ปี พ.ศ 2542 ) พร้อมเสื้อผ้าอีกสองสามชุด เป็นการช่วยเหลือผม ... เช้ามืดอีกวัน จายเสือกร ปั่นจักรยานให้ผมซ้อนท้ายแล้ว ไปส่งผมที่สถานีขนส่ง เพื่อที่ผมจะได้เดินทางไป " ตองจี " ต่อ ... "Don't scream about Don't think aloud Turn your head now baby Just spit me out" เพลง December ของ Soul Collective ดังกล้องเข้ามาในหู ... จายเสือกร มาส่งผมถึงสถานีขนส่ง รอให้ผมขึ้นรถโดยสาร ( datsun ) แล้ว บกมือลากลับไป ... ผมนั่งมาในรถ นั่งติดกันกับป้าคนนึง ที่มาจากอำเภอ " ล่าเสี้ยว " ใกล้กันกับอำเภอบ้านเกิดผม ... ป้าเขาก็จะไปท่าขี้เหล็กเหมือนกัน แต่จะไปขึ้นเครื่องที่ ไฮโฮ ตองจี ... เราคุยกันมาตลอดทาง ... ป้าแนะนำเส้นทางไปท่าขี้เหล็กให้กับผม ป้าบอกว่า " ป้าไปบ่อย ระยะทางนี้มันไกลมาก ถ้าไปกับรถ " ... พอมาถึงตองจีก็มืดแล้ว ผมนอนพักในโรงแรมถูก ๆ ... เช้าวันรุ่งขึ้น ป้าคนเดิมมาพาผมไปทานข้าวที่ตลาดตองจี พร้อมกับให้เงินผมมา 500 ks ( เท่ากับ 50 บาทตอนนั้น ) และป้าก็ไปสนามบินไฮโฮต่อ ... ส่วนผมนั่งรถจากตองจี ไปเชียงตุงต่อ และจากเชียงตุง ต้องไปท่าขี้เหล็ก อีกต่อนึง ... จำได้ว่า ระยะเวลาที่ผมเดินทาง จากมันฑะเลย์ มาท่าขี้เหล็กครั้งนั้น 7 วันเต็ม ๆ ครับ ... ระหว่างทาง ผมอดมื้อกินมื้อบ้าง ไม่มีค่าโรงแรม ก็อาสานอนเฝ้ารถให้เขาบ้าง ยังดีที่เพื่อน ๆ และป้าคนนั้น ช่วยเหลือผมมา รวมเป็นเงิน 7500 ks ที่เพียงพอต่อค่าพักโรงแรมถูก ๆ คืนนึงที่ตองจี และค่ารถมาถึงจุดหมายพอดิบพอดีครับ ... ผมมาถึงท่าขี้เหล็ก ก็มืดแล้วครับ ... รถที่ผมติดมาด้วย มาส่งผู้โดยสารตรงวงเวียนสามแยก ท่าขี้เหล็ก ... ตรงนั้นผมสังเกตป้ายร้านอันนึง " music tai " เป็นชื่อค่ายเพลงที่ปั้นพี่ชายต่างพ่อแม่จากบ้านเกิดผม ให้เป็นนักร้องมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา ... ตอนนั้นประมาณสามทุ่ม ร้าน music tai ปิดแล้วครับ ... ผมขอลงจากรถ และยืนอยู่บนฟุตบาท ในท่าขี้เหล็ก เมืองที่จะเปลี่ยนชีวิตผมในไม่ช้า ... แต่ตอนนั้น ผมไม่รู้จะไปไหน ไม่รู้จักใครเลยสักคน ... ผมยืนมองไปรอบ ๆ เห็นแสงไฟสีเหลืองทอง จากพระธาตุเจดีย์ชเวดากองจำลอง ( ตอนนั้นผมยังไม่รู้หรอกครับ ว่าเป็นพระธาตุเจดีย์ชเวดากองจำลอง เพราะผมเพิ่งเคยมาท่าขี้เหล็ก เป็นครั้งแรก ) ... ผมเดินเท้าไปยังแสงไฟสีเหลืองทองที่สว่างจ้า และข้าง ๆ พระธาตุมีวัดแห่งนึง ... คืนนั้นผมขอพระ นอนที่วัดแห่งนั้นครับ ... เช้าอีกวัน ทานก๋วยเตี๋ยวที่วัดเสร็จ กราบไหว้ขอพรพระแล้ว ผมเดินลงบันไดวัดมา ... ตรงมาที่วงเวียนสามแยกท่าขี้เหล็ก มาหยุดนั่งอยู่ที่หน้าร้าน music tai ... รอเจ้าของมาเปิดร้านครับ ... ระหว่างรอ ผมได้เข้าไปเดินเล่นในตลาด " ท่าล้อ " ... แค่วันแรกของท่าขี้เหล็ก ก็ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความสดใส ความสวยงาม ความแตกต่าง ความไม่เหมือนเดิม และอีกหลาย ๆ อย่าง จากเมืองนี้ได้เป็นอย่างดีครับ ... ผมเดินกลับมาที่ร้าน music tai ได้พบและพูดคุยกับเจ้าของร้าน ชื่อ พี่ตุ้ย ครับ ... พี่ตุ้ย ต้อนรับผมอย่างดี และเอาผมไปฝากเล่นกีตาร์ ร้องเพลงเดี่ยว ในร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งนึงที่เพิ่งเปิดใหม่ ที่ตำบลสันทรายลึ้อครับ ... ทำงานอยู่ที่ร้านนั้นได้ประมาณเดือนนึง ผมก็ได้ย้ายร้านมาอยู่ที่ใหม่ " ร้านสี่สว่า " ... ผมได้มีโอกาสต้อนรับ ศตวรรษใหม่ ปี 2000 ที่ร้านสี่สว่า นี้ครับ ... ผมทำงานไปเล่นดนตรีไป เข้าเรียนพิเศษหนังสือไทยไปด้วยที่ท่าขี้เหล็ก ครบหนึ่งปีเต็ม พี่ตุ้ยก็จัดการให้ผมได้ออก อัลบั้มชุดแรกครับ ... วันแรกที่อัลบั้มวางออกจำหน่าย ผมคิดถึงคุณพ่อที่อยู่ทางบ้านมาก ๆ ครับ ... อยากกลับไปบอกกับพ่อเหลือเกินครับว่า ลูกได้ทำความฝันให้เป็นจริงแล้วครับพ่อ ... ( รออ่านบทต่อไปครับ )
Create Date : 15 เมษายน 2559 |
|
3 comments |
Last Update : 11 พฤษภาคม 2559 15:36:53 น. |
Counter : 509 Pageviews. |
|
|
|
ยังไม่เคยไปเที่ยวมันฑะเลย์เลย
สู้ๆ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ