Group Blog All Blog
|
เรื่องเล่าจากอินเดีย: Lada's story ตอนที่ 2 หลังจากวันนั้น ลดาและซันนี่ก็สืบสานความสัมพันธ์กันเรื่อยมา ส่วนเรากับลดาก็มีส่งเมลคุยกันบ้างเป็นบางครั้ง ลดาก็จะส่งข่าวมาอัพเดทอยู่เรื่อย ๆ จนกระทั่งเดือนธันวาคม 2009 ลดามาเที่ยวแคชเมียร์กับเพื่อน ๆ และซันนี่ก็ไปด้วยในทริปนั้น เป็นการพบกันแบบตัวเป็น ๆ ครั้งแรกของลดาและซันนี่ ในทริปนั้น ซันนี่ดูแลและเทคแคร์เพื่อนๆ ลดาดีมาก ทำให้เพื่อนลดาทุกคนประทับใจ เพื่อน ๆ ของลดาก็ไต่ถามเรื่องการแต่งงานและครอบครัวของซันนี่อย่างละเอียด ซึ่งซันนี่ก็ยอมรับว่าเขาจะต้องเจอปัญหากับครอบครัวแน่นอนเพราะครอบครัวเขาค่อนข้างจะหัวโบราณ แต่ตัวเขาเองเป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด และซันนี่สัญญากับเพื่อนๆ ลดา ว่าจะดูแลลดาและแต่งงานกับลดาให้ได้ หลังจากเที่ยวแคชเมียร์ ลดาก็ลงมาที่บังกะลอร์ กับซันนี่ และได้มาเจอกับเราครั้งแรกแบบตัวเป็น ๆ เช่นกัน จากนั้นลดาก็กลับกรุงเทพฯ ไป  หลังจากลดากลับไป ก็คุยกับซันนี่ทุกวัน ทางเวบแคมบ้าง โทรหาบ้าง และอีเมล ช่วงนั้นลดาก็เล่าให้ฟังอย่างมีความสุขว่าได้คุยและวางแผนชีวิตกับซันนี่ ว่าซันนี่จะมาหางานทำที่กรุงเทพ และมาอยู่ด้วยกัน และจะมาพบกับครอบครัวของลดาช่วงเดือนเมษาปีหน้า แต่ลดาบอกว่ายังไม่เคยเจอพ่อแม่ของซันนี่เลย เพราะอยู่ไกลจากบังกะลอร์ มาคราวที่แล้วก็เลยไม่ได้ไปพบ แต่เคยได้คุยกันทางเวบแคมบ้าง กับครอบครัวของซันนี่ ซึ่งลดาให้ซันนี่ไปเตรียมทำพาสปอร์ตเพื่อที่จะเดินทางมาเมืองไทย พาสปอร์ตที่นี่ไม่ได้ทำแล้วได้เร็วเหมือนบ้านเรา สองสามวันก็ได้ ที่นี่ใช้เวลาเป็นเดือน ตอนนั้นเราก็กำลังแพลนกลับไปเที่ยวเมืองไทยพอดี ก็เลยแพลนกันว่าให้ซันนี่มาพร้อมกันกับเราและลูก ๆ เดือนเมษา  มีนาคม 2010 ซันนี่บอกเราว่าพาสปอร์ตยังไม่ได้เลย ถ้าอย่างไรคงไปพร้อมเราช่วงเมษาไม่ได้ ให้เราไปก่อนแล้วเค้าค่อยตามไปทีหลัง เราก็โอเค ไม่ได้คิดอะไร แต่ไม่ใช่แค่นั้น ซันนี่เริ่มตีตัวออกห่างลดาอย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยคุยกันเกือบทุกวัน บางทีพี่แกก็หายไปอย่างไม่มีสาเหตุ โทรไปก็ไม่รับสาย ไม่ออนไลน์บอกว่า internet ที่บ้านใช้ไม่ได้ และข้อแก้ตัวอื่น ๆ ซึ่งลดาพยายามสอบถามสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น  เมษายน 2010 ในที่สุดซันนี่ก็ได้บอกลดาว่า ซันนี่ไม่สามารถไปหาลดาได้ และไม่สามารถแต่งงานกับลดาได้ เนื่องจากครอบครัวของซันนี่ไม่ยอมรับคนต่างชาติ ซึ่งตอนนี้ครอบครัวเค้ายังไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับลดาเลย ลดาก็ได้พยายามพูดกับซันนี่ให้สู้เพื่อเราสองคน แต่ทุกครั้งซันนี่ก็ปฏิเสธว่าทำไม่ได้ เพราะเขาได้ทำความผิดพลาดบางอย่างไปแล้ว ลดาเริ่มสงสัยว่าซันนี่มีอะไรปิดบังแน่ ๆ และได้ตัดสินใจจองตั๋วเพื่อบินไปอินเดียในช่วงต้นเดือนเมษายน โดยไม่ได้บอกให้ซันนี่รู้ตัวก่อน เพื่อต้องการที่จะไปคุยกับซันนี่ซึ่ง ๆ หน้าว่ามีอะไรปิดบังลดาไว้ และอีกเรื่องที่ทำให้ลดาช๊อคมากกว่านี้ก็คือ ก่อนจะลดาเดินทางมาบังกะลอร์เพียงหนึ่งวัน ซันนี่ได้มาออนไลน์คุยกับลดา และสารภาพว่าที่เขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไปเพราะเขาได้เข้าพิธีแต่งงานแล้วกับผู้หญิงอินเดียคนหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคนนี้ชื่อ นิติกา เมื่อต้นเดือนมีนา เป็นการแต่งงานที่เกิดขึ้นจากการบีบบังคับและการแนะนำจากอาจารย์สอนโยคะของซันนี่ หรือที่อินเดียเรียกกันว่า Guruji (เป็นคำเดียวกับ ครู บ้านเรา) ซันนี่บอกว่า Guruji คนนี้เป็นคนที่มีอิทธิพลกับชีวิตของซันนี่มากกว่าพ่อแม่เสียอีก ดังนั้นเลยต้องตกลงแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ซึ่งไอไม่ได้รักเลยซักนิด (เป็นคำที่ซันนี่พูดกับลดา) ที่เขาไม่กล้าบอกลดาตั้งแต่แรกเพราะกลัวลดาช็อคและเสียใจ จึงได้พยายามทำตัวห่างเหินเพื่อให้ลดาค่อย ๆ ทำใจยอมรับการเปลี่ยนแปลง และยังได้บอกว่า หลังจากแต่งงาน เขาได้เล่าเรื่องของลดากับเขาให้นิติกาฟังทุกเรื่อง ซันนี่บอกว่าถึงแม้เขาจะไม่ได้แต่งงานกับลดา แต่จะรักลดาตลอดไป และจะยังคงคุยกับลดาเหมือนเดิม แต่ขอร้องไม่ให้ลดาเดินทางไปอินเดีย ขอให้เวลาผ่านไปสักระยะเขาจะเป็นฝ่ายมาหาลดาที่เมืองไทยเอง  เราได้ไปเจอกับลดาช่วงที่อยู่กรุงเทพฯ ลดาดูเครียดมาก ซึ่งเราก็เข้าใจความรู้สึกว่าเป็นอย่างไร ลดาบอกว่ายังไงก็ไม่ยอม ซึ่งเราก็รู้ทีหลังอีกว่าซันนี่ได้ยืมเงินลดาไปจำนวนหนึ่ง เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งซันนี่ตกงาน ลดาจึงได้ให้ความช่วยเหลือไป ตอนที่ซันนี่มาบอกเลิกนั้น ก็ยังบอกว่าจะใช้เงินทั้งหมดคืนให้ แต่เราไม่เชื่อใจซันนี่เท่าไรว่าจะคืนเงินหรือไม่ เลยวางแผนปฏิบัติการทวงเงินคืนก่อนอันดับแรก  พฤษภาคม 2010 ลดาเดินทางมาบังกะลอร์ โดยมาพักกับเรา เราได้ติดต่อเพื่อน ซึ่งเป็นคนพื้นที่ของบังกะลอร์ไว้ ให้ช่วยเรื่องนี้ เพื่อนมันก็เตรียมทีมสามสี่คน เป็นผู้ชายร่างบึกบินน่าเกรงขาม (คนนึงหุ่นประมาณครูฝึกฟิตเนส อีกสองคนเหมือนตัวร้ายในหนังอินเดียหนวดเฟ้ม) หลังจากที่พาลดาไปทำความรู้จักเพื่อน ๆ แล้ว เราก็ได้เริ่มแผนการ โดยเพื่อนโทรไปที่เบอร์ของซันนี่ แล้วทำเป็นสอบถามเรื่องโยคะ ว่าสนใจจะให้มาสอนโยคะ ต้องการพบก่อน เพื่อที่จะแจ้งรายละเอียด ซึ่งซันนี่ก็บอกโอเค นัดเวลาและสถานที่เรียบร้อย วันที่จะต้องไปเจอ นัดเจอกันที่ร้านอาหาร เพื่อนกับทีมไปเจอก่อน เรากับลดารออยู่ข้างนอก ตอนแรกเพื่อนเดินเข้าไปคุยคนเดียว ทำเป็นคุยเรื่องโยคะ อีกสามคนคุมอยู่โต๊ะข้าง ๆ ทำเป็นคนมากินข้าวอีกกลุ่ม พอเพื่อนคุยกับซันนี่เรื่องโยคะซักพัก มันก็เปลี่ยนเรื่อง ถามซันนี่ว่ารู้จักลดาไหม ซันนี่ก็อึ้งไปเลย บอกว่าลดาไหนไม่รู้จัก เพื่อนมันเลยบอกความจริงว่า จริง ๆ โยคะน่ะ ไม่ได้อยากให้ไปสอนหรอก แต่วันนี้จะมาเคลียเรื่องลดา ตอนนี้มีนักข่าวและตำรวจคุมเชิงอยู่ข้างล่างนะ ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็เคลียกันดี ๆ หลังจากนั้นเพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ ก็เริ่มแสดงตัว ว่ามาด้วยกัน คงไม่ต้องบอกว่าซันนี่ตัวหดเท่าหนูแล้วตอนนั้น หน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ ค่อยมาต่อนะจ๊ะ 
เจ๊ รีบมาเร้ววววววววว ตามอ่านอยู่....ถ้าช้า เดี๋ยวจะโทรไปตามน่ะ 55555
โดย: Mai IP: 59.92.72.239 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:22:36:57 น.
รอ ตอนสาม ขออาทิตย์หน้า นะ อิ อิ
โดย: ภัทรวรินญ์ IP: 1.47.144.165 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:23:36:58 น.
เย้ย หน้าม้ามานั่งปูเสื่อรอด้านหน้าเลยวุ้ย ใจเย็นดิ พี่ก็จำได้บ้างไม่ได้บ้าง ต้องไปนั่งถามเจ้าตัวเค้าก่อน เหมือนเจ้าตัวเค้าเขียนเองเรยฟร่ะ เขียนเรื่องตัวเองง่ายกว่านะเนี่ยยยย T_T
โดย: Puk (Moti
 ) วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:10:03:58 น.รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะค่ะ
โดย: เพื่อนจากเมืองไทย IP: 10.182.255.60, 203.144.240.232 วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:19:00:35 น.
รีบเขียนเร็ว ๆ นะคะ มันส์ ๆๆๆๆๆๆ มากค่ะ
โดย: จากผู้ร่วม Trip kashmir IP: 10.182.255.60, 203.144.240.232 วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:19:01:45 น.
แฟนคลับพี่ปุ๊ก
ติดตามมาตลอด รีบเขียนไวๆๆๆนะคะ แฟนคลับรออยู่จร้า โดย: แพรว IP: 1.47.97.81 วันที่: 23 มกราคม 2554 เวลา:22:51:29 น.
มาแอบอ่านบล๊อกคุณปุ๊กอยู่ประจำเลยค่ะ เพราะเราชอบประเทศอินเดียมากๆ เลยอยากรู้ว่าคนที่นั่นเค้าอยู่กันยังไง แอบไปอ่าน blog คุณปุ๊กอันที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษมาด้วย ภาษาคุณปุ๊กเพราะมากเลยค่ะ ประทับใจ
มาต่อไวๆนะคะ โดย: confetti IP: 119.31.16.251 วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:21:11:21 น.
กำลังติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ น่าตื่นเต้นมากก
โดย: เจ IP: 192.168.1.14, 110.164.148.31 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:31:12 น.
กลัวเป็นแบบนี้จัง
โดย: korn IP: 180.180.241.234 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:49:39 น.
น่าสนใจ อยากรู้ตอนต่อไปง่ะ มาต่อเร็ว ๆ นะ
โดย: ฟาง IP: 14.207.35.65 วันที่: 25 กันยายน 2560 เวลา:14:14:28 น.
|
Moti
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 136 คน [?] Moti เป็นภาษาฮินดี้ แปลว่าอ้วน ซึ่งตรงกับชื่อเล่นของเรา ปุ๊ก จากกรุงเทพ ไปตั้งรกรากอยู่บังกะลอร์เกือบเจ็ดปี ที่บังกาลอร์อยู่ลำพังกับลูก ๆ สองปีเพราะสามีย้ายไปทำงานดูไบ หลังจากนั้นก็ย้ายตามสามีไปดูไบได้สามปี ตอนนี้กลับมาตั้งหลักที่ไทยละจ้า ขอเกร่นก่อนสำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาอ่าน เรื่องราวและข้อความทั้งหมดใน Blog นี้มาจากความคิดเห็นและประสบการณ์ของเจ้าของ Blog ซึ่งอาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจบางคนที่เข้ามาอ่าน ถ้าหากอ่านแล้วรู้สึกไม่ชอบใจก็สามารถกดเครื่องหมาย x ที่มุมบนขวาได้ จะดีกว่าเข้ามาเม้นท์เพื่อก่อกวนนะจ๊ะที่รัก สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๙ งานเขียนและภาพประกอบในบล็อคนี้เป็นลิขสิทธิ์ตามกฏหมายนะคะ กรุณาอย่าลอกหรือก๊อปปี้ไปใช้ที่อื่นเลยนะค๊า  
|
|||||||||||||
