วัดซางตาครู้ส - ชุมชนกุฎีจีน
ไม่ได้ผิดสัญญาเพราะยังเป็นวัด...แต่ออกมาจากพระประแดงก่อนเนาะ...ลืมทริปนี้สนิทเลยค่ะ เราไปมาเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2553 หลังวันลอยกระทง 1 วัน ความที่ไม่ได้ทำรูปไว้เลยลืมค่ะ...
เส้นทางของทริปนี้ค่ะ : วัดประยุรวงศาวาส - โบสถ์ซางตาครู้ส - ชุมชนกุฎีจีน - มัสยิดบางหลวง - มัสยิดต้นสน - วัดโมลีโลกยาราม
วันนี้ขอเอาโบสถ์ซางตาครู้ส มาให้ดูก่อนค่ะ ที่อื่นๆ จะค่อยๆ ทยอย (ยังไม่ได้ทำรูป) ตามมา...(หลักๆ แล้วก็ยังเป็นวัดอยู่เนาะ...)
เราเดินมาออกมาจากวัดประยุรวงศาวาส...ไปตามป้ายบอกทางเลยค่ะ
เที่ยงกว่าๆ ค่ะ แดดอย่างร้อนเลย...เดินต่อไปอย่าได้แคร์...
โบสถ์ซางตาครู้ส กรุงเทพมหานคร จากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถมองเห็นโบสถ์คริสต์ประดับไม้กางเขนเหนือยอดโดมบนหอระฆังแปดเหลี่ยมที่รู้จักกันดีในนามวัดซางตาครู้ส ซึ่งมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ และเป็นศูนย์รวมศรัทธาแห่งชาวคริสต์ชนมานับตั้งแต่กรุงธนบุรีเป็นราชธานี
วัน และเวลาเปิด-ปิด การเข้าชมควรติดต่อขออนุญาตจากบาทหลวงผู้รับผิดชอบก่อนล่วงหน้า โทร. 0 2472 0153-4 สถานที่ตั้ง ซอยกุฎีจีน ถนนเทศบาลสาย 1 แขวงกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่าวัดนี้ตั้งขึ้นภายหลังจากที่พระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชและสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี โดยพระองค์ได้ทรงพระราชทานที่ดินแปลงหนึ่งให้กับบาทหลวงกอร์ชาวฝรั่งเศส เพื่อใช้สำหรับสร้างโบสถ์ขึ้นในปี พ.ศ.2312 โดยโบสถ์หลังแรกเป็นอาคารไม้ และเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชุมชนชาวคริสต์ที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ย้ายมาตั้งถิ่นฐานภายหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยา
ต่อมาในปี พ.ศ.2378 บาทหลวงปัลเลอกัวจึงสร้างโบสถ์หลังที่ 2 เสร็จ ซึ่งมีลักษณะคล้ายศาลเจ้าจีนโดยใช้ชื่อว่า โบสถ์ซางตาครู้ส แต่ผู้คนนิยมเรียกว่า วัดกุฎีจีน
ส่วนอาคารโบสถ์ตั้งเด่นเป็นสง่าในปัจจุบันนั้นสร้างขึ้นปี พ.ศ.2456 โดยบาทหลวงกูเลียล โมกันดาครู้ส โดยมีอายุเกือบหนึ่งศตวรรษแล้วถึงปัจจุบัน ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมชั้นเดียวแบบอิตาลียุคนีโอคลาสสิคผสมเรอเนอซองค์ ลักษณะที่โดดเด่นคือหอคอยยอดโดมคล้ายกับพระที่นั่งอนันตสมาคมประดับด้วยไม้กางเขนบนเรือนยอด ตัวอาคารก่ออิฐประดับลายปูนปั้นงดงามส่วนล่างทำเป็นโถงประกอบด้วยซุ้มโค้งที่สอดรับกัน ประดับด้วยกระจกสีครึ่งวงกลมที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากพระคัมภีร์ โบสถ์ซางตาครู้สแห่งนี้ถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่อยู่คู่กับชุมชนกุฎีจีนเก่าแก่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี และกรุงเทพฯ มายาวนานแห่งหนึ่ง
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก //www.moohin.com/
วัดซางตาครู้สหลังที่ 3 นี้ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมแบบเรเนสซองส์ แบบนีโอ-คลาสสิคและเป็นอาคารก่ออิฐฉาบปูน มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางตัวในแนวขวางหันหน้าไปทางทิศเหนือ ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยความงามสง่าทางสถาปัตยกรรม ที่รังสรรค์อย่างบรรจง และสิ่งที่น่าสนใจในการประดับตกแต่งลวดลายปูนปั้นประดับหรือบานประตูหน้าต่างที่ทำเป็นรูปไม้กางเขน ตามชื่อของวัด นอกจากจะคงความหมายที่สำคัญแล้วยังช่วยเพิ่มความงดงามให้กับตัวอาคารยิ่งขึ้น ทำให้โบสถ์ซางตาครู้สเป็นอาคารสถาปัตย์ในคริสต์ศาสนาที่สวยงามแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก //haab.catholic.or.th/church/santacruz_4.html
เดินมาทางด้านนี้ เป็นฝั่งท่าเรือค่ะ
สะพานพุทธค่ะ
ป้ายที่เห็นสีน้ำเงินกลางสะพานพุทธ คือป้ายเชิญชวนให้มาดูการถวายพระพร กลางลำน้ำเจ้าพระยาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมาค่ะ
วัดอรุณราชวราราม และป้อมวิชัยประสิทธิ์ (รายละเอียดป้อมวิชัยประสิทธ์ คุณอุ้ม...อุ้มสี เคยพาไปเที่ยวแล้วค่ะ)
ท่าเรือฝั่งโรงเรียนราชินีค่ะ
เสียดายบ้านหลังนี้เนาะ ถ้าซ่อมคงหลายตังค์...
แบบ...เดินไปถ่ายไปค่ะ คนละมุมน้า...ดูดีๆ
เปรียบเทียบกันชัดๆ ค่ะ ชอบหลังไหนคะ
เฮ้อ...เสียดาย...
ขออีกรูปนะ ชอบจริงๆ นะเนี่ย....
มองไปฝั่งโน้นอีกรอบ เดี๋ยวเดินกลับแล้วค่ะ
ชุมชนกุฎีจีนค่ะ
ขนมฝรั่งกุฎีจีน เราไม่ค่อยชอบรสชาตินะ ออกหวานอย่างเดียว....
ขนมอะไรไ่ม่รู้ค่ะ ขออนุญาตถ่ายรูป เห็นกำลังง่วนอยู่เราเลยไม่กล้าถามต่อว่าขนมอะไร...
จริงๆ ตั้งใจจะไปบ้านหลังนี้ค่ะ แต่ไปไม่ถึง เส้นทางวกวนซอยเล็กซอยน้อย...งงค่ะ
แอบถ่ายบ้านหลังอื่นดีกว่าเนาะ
ใส่รูปเต็มที่เลย... ค่อยๆ ดูนะคะ
พี่หนูไม่อยู่ 9 - 12 ธันวา (แอ่วปาย...) ฝากบ้านด้วยจ้ะ
ขอบคุณเฮดบล็อก และบีจี คุณญามี่
Create Date : 08 ธันวาคม 2553 |
|
64 comments |
Last Update : 27 มิถุนายน 2555 17:53:08 น. |
Counter : 8988 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดนะคะ
ว่าแล้วเชียวว่าเส้นทางนี้ของพี่หนูต้องมีขนมกุฎีจีนด้วย
รสชาติเหมือนขนมไข่หรือเปล่าคะ
วันนี้หนึ่งมาเฉลยแล้วค่ะว่าอีกอย่างหนึ่งที่น่าตื่นเต้นของหนึ่งคืออะไร
อย่าลืมตามมาชมกันนะคะ
พร้อมก๋วยเตี๋ยวปากหม้อด้วยค่ะ