นิทานเซน เรื่อง โทสาคติ ลำเอียงเพราะความโกรธ
สมัยก่อน ตามแถบชานเมืองหรือตามชนบทในประเทศเรา มักจะนิยมฟังพระเทศน์แบบหลายธรรมมาส เช่น 2 หรือ 3 ธรรมมาส ในทำนองปุจฉา วิสัชนา ถาม ตอบกัน มากกว่าจะฟังพระเทศน์องค์เดียวแบบในปัจจุบัน
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 50-60 ปีมาแล้ว แถบชานเมืองกรุงเทพฯ นี่เอง วันนั้นชาวบ้านต่างนิมนต์พระที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเทศน์ที่ตนเองชื่นชอบมาแสดงธรรมเรื่อง "อาทิตตปริยายสูตร" โดยพระทั้งสามรูปต่างก็ไม่รู้จักกันมาก่อน สมัยนั้น ขอให้ทราบว่าจะเทศน์เรื่องอะไรเท่านั้น ท่านก็สามารถแสดงธรรมได้โดยใช้ความสามารถและปฏิภาณของตนเองซักไซ้ไล่เรียงจนผู้ที่นั่งฟังรู้แจ่มแจ้ง ก่อนเทศน์ พระท่านก็จะมีการสมมุติมอบหมายหน้าที่กัน ปกติองค์กลาง จะรับหน้าที่เป็นผู้ถาม ซักไซ้ไล่เรียง ที่เหลือองค์ซ้ายและองค์ขวาจะมีหน้าที่วิสัชนา ตอบชี้แจงให้เข้าใจ องค์กลางเมื่อรับหน้าที่ ก็ดำเนินการซักถามองค์ซ้ายมือก่อนเกี่ยวกับเรื่อง "ไฟคือราคะ" ทั้งสององค์ซักถามโต้ตอบกันด้วยปฏิภาณเป็นที่เฮฮาถูกใจญาติโยมเป็นอย่างยิ่ง จากนั้น ท่านองค์กลางก็หันมาถามท่านองค์ขวามือ ขอให้วิสัชนา "โทสาคติ" ไฟคือโทสะว่าเป็นอย่างไร ท่านองค์ที่สามนั่งฟังท่าน 2 องค์แรกโต้ตอบกันอย่างเงียบๆ โดยดุษฎี พอถูกถามว่าโทสะคืออะไร แทนที่ท่านจะเจื้อยแจ้วเทศน์ตามธรรมเนียม ท่านกลับนั่งนิ่งเงียบ ได้แต่จ้องมองดูท่านองค์กลางอย่างไม่วางตา สร้างความอึดอัดให้กับท่านองค์กลาง และญาติโยมเป็นอย่างยิ่ง สักพักท่านองค์ที่สามก็เอ่ยเสียงต่ำๆ ไม่ดังนักว่า "ส้นตีน !" แล้วจ้องตาเป๋งไปที่ท่านองค์กลางทุกคนตกตลึงไปหมด ท่านองค์กลางหน้าตาแดงก่า ไม่ยอมสบตากับใคร นั่งกระสับกระส่ายอยู่บนธรรมมาส ครู่หนึ่งพอสมควรแก่เวลาแล้ว ท่านองค์ที่สามก็เทศน์วิสัชนาเกี่ยวกับไฟคือโทสะ ต่อไปอย่างหน้าตาเฉย คำสั้นๆ เพียงคำเดียว แสดงความหมายได้อย่างชัดเจน แนวการสอนแบบเซ็น จะใช้วิธีพุ่งเข้าหาจุดหมายโดยไม่ใช้วิธีการอ้อมค้อมให้เสียเวลา ท่านคิดว่าท่านมั่นคงและกล้าพอที่จะรับการสอนแบบนี้ได้หรือยัง ? คัดลอกจาก //www.dharma-gateway.com/ ผู้คัดลอกและเรียบเรียง hs6kj
Create Date : 13 ธันวาคม 2554 |
Last Update : 17 มกราคม 2555 12:32:53 น. |
|
2 comments
|
Counter : 3156 Pageviews. |
|
|
ต่อจากพรหมวิหาร 4 ธรรมของผู้นำ ธรรมของผู้เป็นใหญ่ ต้องปราศจาก อคติ 4 คือ รัก เกลียด กลัว หลง
อคติ 4 หมายถึง ความไม่เที่ยงธรรม ความลำเอียง 4 ประการ
ประกอบด้วย
+ ฉันทาคติ ลำเอียง เพราะความรักใคร่ชอบพอ สนับสนุนญาติมิตร หรือผู้จ่ายสินบน
+ โทสาคติ ลำเอียง เพราะความโกรธเกลียด ลงโทษฝ่ายที่ตนเกลียดชังมากกว่า
+ โมหาคติ ลำเอียง เพราะความหลงหรือความโง่เขลา ไม่รู้ทันเหตุการณ์ที่ แท้จริง
+ ภยาคติ ลำเอียง เพราะความขลาดกลัว เกรงใจ เกรงอิทธิพล กลัวจะเสียผลประโยชน์
ใช้ในการปกครองทุกระดับ ถ้าทำได้ จะได้รับความศรัธา เชื่อถือ ปัญหาความแตกแยก ขัดแย้ง เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะหมดไปในสังคมนั้น Bloggang.com:PIWAT