Group Blog
 
 
มกราคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 มกราคม 2555
 
All Blogs
 

เหตุใดต้องขอขมาพระรัตนตรัย

วันๆนึง เราอาจจะทั้งพูดคำหยาบ ทั้งอะไรหลายๆอย่างเวลาไปวัด หรือล่วงเกินพระทางวาจา ฯลฯ โดยที่เราไม่เจตนาบ่อยครั้ง เราก็ควรที่จะขอขมากับสิ่งที่เราไม่ได้เจตนาเหล่านั้นด้วยการสวดบทนี้ก่อนสวดมนต์หรือเวลาไปกราบพระตามสถานที่ต่างๆ ก็ควรขอสวดบทขอขมาฯ ด้วย

บางท่านก็อาจจะรู้สึกเคยชินเพราะเวลาไปทำบุญเวลาสวดมนต์ก็มักจะมีขอขมาพระรัตนตรัยเสมอ และก็อาจจะมีหลายๆ ท่าน ไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงต้องขอขมาพระรัตนตรัย ทำไม่ต้องขมาด้วยล่ะ ?
ยิ่งถ้าใครที่เคยไปวัดท่าซุง ก็อาจจะยิ่งงงว่าทำไมถึงมีป้ายที่เขียนว่า "สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ" วางอยู่หน้าพระพุทธรูปในทุกๆ ที่ ที่เราเข้าไปกราบพระ เพื่อนๆ ลองอ่านบทสนทนาของหลวงพี่เล็กดูนะคะอาจจะไขข้อข้องใจที่สงสัยอยู่ได้นะคะ ^ ^




ถาม : กลัวทำอะไรผิดไปโดยที่เราไม่รู้ แล้วเป็นบาปนะคะ ก็ขอกราบขมาอภัย

ตอบ : จ้ะ...เวลาจะทำอะไร ตั้งใจขอขมาต่อหน้าพระ โดยเฉพาะพระพุทธรูป พระสงฆ์ทุกรูปคือศากยบุตร ก็คือลูกของพระพุทธเจ้า ฉะนั้น..ขอขมาตรงต่อท่าน ท่านไม่ถือโกรธเราอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเอาให้พ้นจริงๆ ต้องขอขมาต่อพระรัตนตรัย โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน

ก่อนสวดมนต์ไหว้พระ ก่อนทำกรรมฐานทุกครั้ง ควรจะกราบขอขมาพระรัตนตรัยก่อน หลวงพ่อท่านสอนให้ปฏิบัติจนชิน จนกระทั่งทุกวันนี้ อาตมากราบพระเมื่อไรคนเขาจะเห็นว่ากราบหลายครั้ง คือครั้งแรกกราบก่อน หลังจากนั้นขอขมาพระรัตนตรัย ก็กราบอีก สวดมนต์เสร็จก็ค่อยกราบ อย่างน้อยต้องเก้ากราบไปแล้ว

โดยเฉพาะนักปฏิบัติ พอเริ่มเข้าเขตอุปจารสมาธิไปแล้ว มารเขารู้ว่าเราจะหนีห่างไปแล้ว เขาจะหาวิธีขวางเราไว้ทุกวิถีทาง
วิธีขวางที่ง่ายที่สุด ก็คือทำให้เราเกิดการลังเลสงสัย หรือทำให้เรามีความคิด มีคำพูด มีการกระทำ ที่เป็นการปรามาสในพระรัตนตรัย

พอเราเกิดความคิด มีคำพูด หรือมีการกระทำอย่างนั้น อย่าไปเสียอกเสียใจ อย่าไปหนีห่างจากความดีตรงจุดนั้น ให้คิดว่า ถ้าสติสัมปชัญญะของเราสมบูรณ์ ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายเหล่านี้เราไม่ทำอยู่แล้ว แต่ว่าในขณะนี้ด้วยการชักนำของ กิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรม พาให้เราทำสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังเช่นนี้ ถึงไม่ใช่เจตนาโดยตรงของเราก็เถิด แต่เราก็เต็มใจกราบขอขมาพระรัตนตรัย แล้วก็ตั้งใจกราบขอขมาไป

พวกนี้เขากลัวคนหน้าด้าน ถ้าเราหน้าด้านตื๊อสู้อยู่ เขาก็ถอย รู้ทันเขาก็ถอย ทุกคนที่ปฏิบัติอยู่ต้องผ่านจุดนี้ทั้งนั้น แล้วมารก็มีตัวตนจริงๆ เขามาแต่ละทีน่ากลัวมาก อาตมาเจอเข้ามาแล้ว

ครั้งแรกที่เป็นเด็กๆ ท่องบทพาหุงสรภัญญะ พญามารยกพลมาผจญพระพุทธเจ้าเหมือนอย่างกับคลื่นในมหาสมุทร เจอเข้าจริงๆ ลักษณะนั้นเลย เขามาอย่างชนิดที่ เหมือนกับว่าเราไม่มีทางที่จะต่อต้านเขาได้แม้แต่น้อย แต่เราถอยไม่ได้ ต้องสู้ เจอเข้าจริงๆ

แต่ไม่ต้องกลัว ให้คิดเสียว่าเขาทำหน้าที่ของเขา เราทำหน้าที่ของเรา ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง เขาทำหน้าที่ขวาง เราทำหน้าที่หนี มารไม่ใช่ศัตรูแต่เป็นครูที่ขยันที่สุด เพราะเขาทดสอบเราอยู่ทุกวินาที เขาเป็นผู้มีอุปการคุณต่อเราอย่างยิ่ง ถ้าเราไม่ผ่านการทดสอบของเขา เราก็ยังคงติดอยู่ที่เดิม แต่ถ้าหากว่าเราผ่านไปตรงจุดนั้น เราจะไม่แพ้อีก ครูที่ขยันออกข้อสอบขนาดนั้น น่าจะยกขึ้นหิ้งเป็นครูดีเด่นเสียด้วยซ้ำไป

คิดเสียว่าเป็นหน้าที่ของเขา เขามีหน้าที่ขวางให้เขาขวางไป เราทำหน้าที่ของเรา เราจะหนีให้พ้น เราก็หนีของเราไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีใครดี ไม่มีใครชั่ว ต่างเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกัน แผ่เมตตา อโหสิกรรมให้เขา เขาทำต่อไป ก็ตั้งใจแผ่เมตตาให้เขาต่อไป เราไม่มีทางสู้เขา ไม่ว่าวิธีไหนก็แล้วแต่ ยกเว้นว่าเลิกสู้ไปเลย

โดนมาแล้วทุกวิถีทางเลย งานนั้นเกือบตาย..! ประมาณสิบกว่าวัน ไม่ได้กิน ไม่ได้นอน ตามที่อ่านในตำราที่บอกว่าเวลาเขามา มีลักษณะตัวดำเป็นนิล มาลักษณะนั้นจริงๆ โอ้โฮ ! แล้วเวลาเขามานี่ พลังที่รุมล้อมรอบข้างนี่ เหมือนอย่างกับลูกไก่ไปเจองู เราเองลุ้นไม่ขึ้นเลย ทำท่าจะยอมหมอบราบคาบแก้วแพ้อยู่ท่าเดียว ยกเว้นกำลังใจสุดท้ายที่คอยเตือนสติว่า ถ้าแพ้เราจะเป็นทาสเขาตลอดไป จึงได้ยืนหยัดสู้ต่อไป

แต่ก็อย่างว่าแหละ สู้ไปสู้มา สู้เท่าไร ก็สู้เขาไม่ได้ จะใช้ความสามารถพิเศษรบกับเขา เราแพ้ตั้งแต่ยกแรกเลย เพราะว่าสู้ก็คือเกิดโทสะ ก็เสร็จเขา ใช้กำลังใจแผ่เมตตาอย่างเดียวก็สู้เขาไม่ได้ เพราะว่ากำลังเขาสูงมาก ขนาดพระพุทธเจ้าเขายังไม่ยอมรับ ตรงจุดนี้ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่เก่งนะ ...(หัวเราะ)... เก่ง แต่ว่าเนื่องจากว่าให้เท่าไรเขาไม่รับ มีปัญญาให้ไปซิ..เราก็แย่อยู่ฝ่ายเดียว ตื๊อกันเข้าไป..ฟาดกันอยู่นานเนกาเล คิดว่างานนี้แค่ตาย ปรากฏว่าตื๊อไปตื๊อมา อาจจะพ้นวาระกรรมของเราพอดีก็ได้ เขาก็เลยถอยให้ แต่กว่าจะถอย เล่นเอาเราซะงอมพระรามไปเลย..!


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔

ที่มา : //www.watthakhanun.com/webboard...ead.php?t=1595

เราชอบประโยคนี้มาก "ให้คิดเสียว่าเขาทำหน้าที่ของเขา เราทำหน้าที่ของเรา ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง เขาทำหน้าที่ขวาง เราทำหน้าที่หนี มารไม่ใช่ศัตรูแต่เป็นครูที่ขยันที่สุด เพราะเขาทดสอบเราอยู่ทุกวินาที เขาเป็นผู้มีอุปการคุณต่อเราอย่างยิ่ง ถ้าเราไม่ผ่านการทดสอบของเขา เราก็ยังคงติดอยู่ที่เดิม แต่ถ้าหากว่าเราผ่านไปตรงจุดนั้น เราจะไม่แพ้อีก"

บทสวด " ขอขมาพระรัตนตรัย "

(นะโม 3 จบ)

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ
(ถ้าหลายคนว่า.....ขะมะตุ โน ภันเต, ฯลฯ....
ขะมะตุ โน ภันเต , อุกาสะ ขะมามะ ภันเต ฯ )


หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ
พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้
ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จ-
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่
พระนิพพานด้วยเทอญ ฯ

เครดิต : จากหนังสือสวดมนต์แปล วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี

สุดท้ายนี้กิ๊บเก๋ก็ขออนุโมทนาสาธุกับทุกๆ ท่านที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ และก็ขออโหสิกรรมกับทุกๆ ท่าน ถ้าตัวเองได้เคยทำอะไรไม่ดีกับท่านใดไว้ทั้งในชาตินี้และชาติที่ผ่านๆ มาด้วยค่ะ...สาธุ




 

Create Date : 16 มกราคม 2555
1 comments
Last Update : 16 มกราคม 2555 13:27:30 น.
Counter : 3980 Pageviews.

 



 

โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* 21 มกราคม 2555 20:38:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


moopandakae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




กรอบบล็อค รูปกล่องคอมเม้น
Friends' blogs
[Add moopandakae's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.