" เรื่องราวต่างๆเป็นดั่งทองคำในเทพนิยาย เมื่อคุณแจกจ่ายไปมากขึ้น คุณก็ได้รับกลับมามากขึ้น " พอลลี แมคไกวร์
Group Blog
001. เรื่องไร้สาระคดี ของ Moonfleet
002. ว่าด้วย ชีวิต ความคิด ผลงาน ของ นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร นายกฯ ตลอดกาล
003. ว่าด้วย การท่องเที่ยวไปสู่ความสำเร็จ (ROVERING TO SUCCESS)
004. ว่าด้วย หนังสือของ ปีเตอร์ ดรักเกอร์
005. ว่าด้วย วาทะ ของ คนแถวหน้า : (TOP DOG)
006. Law of Success :ว่าด้วย ศาสตร์แห่งความสำเร็จ ของนโปเลียน ฮิลล์
007. The Prince by Niccolo Machiavilli : เจ้าผู้ปกครอง
008. Power of Life : พลังแห่งชีวิต
009. ว่าด้วย พิชัยสงคราม พงศาวดาร เต๋า และ จีนศึกษา
010. รายการ สนทนาประสา นายกฯ สมัคร สุนทรเวช
011. คิดแล้วรวย ด้วยแนวทางธุรกิจของ นโปเลียน ฮิลล์
012. เส้นทางสู่เสรีภาพ ของ เบอร์ทรันด์ รัสเซลล์
013. เรื่อง สัญญาประชาคม (Contract Social) ของ จัง จ๊ากส์ รุสโซ่ แปลและเรียบเรียงโดย จินดา จินตนเสรี
014 Moonfleet @CCC: เชียงใหม่ นครแห่งชีวิต และ ความมั่งคั่ง ชุดที่ 1. พ.ศ.2552
015. ร้านอาหาร และ การรับประทาน @จ.เชียงใหม่ & จ.ลำพูน
016. ตลาด : ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ และ ลำพูน
017. ON LIBERTY by John Mill
018. วัด และ สำนักสงฆ์ จังหวัดเชียงใหม่ Volume I.
019. วัด และ สำนักสงฆ์ จังหวัด ลำพูน Volume 1
020. เรื่อง "สาระ DD" เศรษฐกิจ สังคม การเมือง & การบริหารการจัดการธุรกิจ # 001
021. การเดินทาง คือ สหายของฉัน ส่วนการผจญภัยคือแรงบันดาลใจ
022. ว่าด้วยเรื่อง สโมสรไลออนส์เชียงใหม่ภูพิงค์ ภาค 310 A1
023. หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 17 ประจำปี 2552 - 2553
024. ว่าด้วย อำเภอ.บ้านโฮ่ง จังหวัด.ลำพูน
025. ว่าด้วย Power : The Story of อำนาจ
026. เรียนรู้ " ......... " จาการอ่าน หนังสือ.
027. Sovereignty : การปกครองอยู่ที่กฏหมายมากกว่าตัวบุคคล
028. ประมวลสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ.ศ. 2544
029. วัด และ สำนักสงฆ์ จังหวัดเชียงใหม่ Volume II
030. CRI online : China Radir Online และ CCTV .
031. หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สมัยที่ 18 ประจำปี 2554
032. เชียงใหม่นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง Volume II
033. Chiang Mai City 2554
034. Moonfleet 2011 : The Odyssey พ.ศ. 2554 ( Part 1 )
035. Moonfleet 2012 : The Odyssey พ.ศ. 2555
036. นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง พ.ศ.2555
037. ว่าด้วย ASEAN Comunity หรือ ประชาคมอาเซียน
038. ว่าด้วย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (Republic of the Union of Myanmar)
039. ว่าด้วย จังหวัด กว๋างบิ่ญ (Quảng Bình) และ กลุ่มจังหวัดภาคกลาง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม.
040. ว่าด้วย ประเทศเวียดนาม
041. ว่าด้วย ประเทศสิงคโปร์
042. Moonfleet 2011 : THE ODYSSEY พ.ศ. 2554 ( Part 2 )
043. ว่าด้วย กรุงเทพมหานคร อรรัตนโกสินทร์.
044. China : ว่าด้วย ประเทศจีน
045. The Greater Mekong Subregion (GMS) : แม่น้ำโขง
046. Thai Chamber of Commerce : หอการค้าทั่วประเทศไทย
047. Star of Asian.
048. ว่าด้วย ภาคประชาสังคมจังหวัดเชียงใหม่
049. ว่าด้วย คณะกรรมการส่งเสริมกิจการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วาระ 2557-2560
050. Japan : ว่าด้วย ประเทศญี่ปุ่น
051. Marketing : การตลาด
052. Tvdmcnews Worldnews
053. ว่าด้วย เกษียร เตชะพีระ
054. ว่าด้วย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
055. ว่าด้วย ประเทศ Korea : เกาหลีใต้
056. ว่าด้วย Kittiratt Na-Ranong (กิตติรัตน์ ณ ระนอง)
057. Arabia Night : อาหรับราตรี กลุ่มประเทศอารเบีย
059. ว่าด้วย จังหวัดลำปาง พ.ศ.2556
060. Lao People's Democratic Republic.(ສາທາລະນະລັດ ປະຊາທິປະໄຕ ປະຊາຊົນລາວ)
061. ลำนำหลวงพระบาง สปป.ลาว The rhythm of Luang Prabang.
062. ว่าด้วย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
063. ว่าด้วย CAMBODIA
064. ว่าด้วย "บันทึก ความทรงจำ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ" ในเรื่องต่างๆ
065. บันทึกการเดินทาง
066. An Inquiry into the Nature and Causes of the Wealth of Nations. ว่าด้วย ประเทศไทย
067. ว่าด้วย ทุน เงินตรา ความมั่งคั่ง.
068. ว่าด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
069. โลกนี้มีเพียงหนึ่ง การดูแลและบำรุงรักษาดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ โดย บาร์บารา วอร์ด
070. ปีแห่งความรุ่งโรจน์ : A YEAR OF GROWING RICH
071. เรียนภาษาอังกฤษ จาก เพลง เนื้อเพลง และ ภาพยนต์
072. reba : Property and Real Estate
073. Productivity Corner หรือ จดหมายข่าวรายเดือน สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
074. BUREAUCRAY มหาชนรัฐ ประชาธิปไตย เศรษฐกิจ สังคม และ การเมือง.
075. พคบ.301: ผู้บริหารยุคใหม่ใส่ใจความมั่นคงของประเทศไทย
076. CEQC สมัยที่ 4 : คณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ สมัยที่ 4 ประจำปี 2555 - 2559
077. ว่าด้วย ตำนานและเรื่องราวเหตุการณ์ ล้านนาไทย ( The Story of Lanna Thai )
078. Economics : เศรษฐศาสตร์
079. Spaceship Earth : ยานอวกาศชื่อว่า โลก เรื่อง สภาวะแวดล้อมของมนุษย์
080. แกงโฮะ : การบริหารและจัดการ
081. Thailand เรื่องราวของสองนคร.
082. ร่วมด้วยช่วยให้ "กำลังใจ" แด่ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในปฏิบัติการ Thailand Vision "สร้างความสุข สลายความทุกข์ ให้ประชาชนไทย"
083. ว่าด้วย นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แห่ง ประเทศไทย: บันทึกไว้เป็นตำนาน
084. ว่าด้วย เมืองเชียงตุง(Kyaing Tong) หรือเก็งตุ๋ง (Keng tung) และ รัฐฉาน (Shan)แห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์.
085. Moonfleet Thailand : รายงาน ประเทศไทย
086. Moonfleet Asia
087. ถนน.สายบุญ สายวัฒนธรรม No.1 วัดศรีโสดา - ถ.ศรีวิชัย - ถ.ห้วยแก้ว - สวนรุกขชาติห้วยแก้ว
088. ถนน.สายบุญ สายวัฒนธรรม No.2 วัดพระสิงห์ฯ - ถ.ราชดำเนิน
089.ถนน.สายบุญสายวัฒนธรรม NO.3 วัดเชตุพน - ถ.รัตนโกสินทร์
090. ว่าด้วย ธรรมาภิบาล จังหวัดเชียงใหม่ : Good Governance Committee.
091. ว่าด้วย พระพุทธศาสนา
092.เชียงใหม่ นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง.
093. ว่าด้วย ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย
094. 6 Cities 3 Countries : ความร่วมมือ 6 ฝ่าย เขตชายแดนระหว่าง จีน ลาว ไทย
095. ว่าด้วย ผู้ว่าฯ นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง 2556
096. Sunset of Life : ชีวิตช่วงสนธยา.
097. รวมบทความของ อาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์
098. Moonfleet : ว่าด้วย Upper Northern Provincial Cluster 1 Chamber of Commerce : หอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1.
099. ว่าด้วย คณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคมจังหวัดเชียงใหม่
100. การเดินทาง คือ สหายของฉัน ส่วนการผจญภัย คือ แรงบันดาลใจ
101.ว่าด้วย ประเทศแถบยุโรปตะวันออก
พฤศจิกายน 2557
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
12 พฤศจิกายน 2557
04.06.2014 นิธิ เอียวศรีวงศ์: ประชาธิปไตยแบบตู่
10 -16.08.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : รัฐนาฏกรรมอีกที
02.06.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : รัฐนาฏกรรม
01.07.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : อำนาจที่ไร้ฝัน
04.02.2556 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ทุจริตเชิงนโยบาย
03.11.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ถึงคุณสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ด้วยความนับถือ
22.09.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : อวสานของนักวิชาการ
All Blogs
28.12.2558 อีกเมื่อไร (1) โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
04.01.2559 อีกเมื่อไร (2) นิธิ เอียวศรีวงศ์
12.01.2559 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : อีกเมื่อไร (3)
18.01.2559 อีกเมื่อไร (4) โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
25.01.2559 อีกเมื่อไร (5) โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
13.01.2559 ทหารมีไว้ทำไม โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
17.02.2558 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ′พวก′ของคนใต้กับปชป.
23.02.2558 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ปฏิรูปกองทัพ คือสถาปนาอำนาจสูงสุดของพลเรือน
30.10.2557 นิธิ-ผาสุก-สมเกียรติ-บรรยง ถก รัฐไทยกับการแก้ปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจ
02.12.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : "กรอบ" ของการศึกษาไทย
07.04.2557 เงาและเครื่องมือ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
08.05.2557 ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
05.05.2557 ก่อการร้ายโดยรัฐเผด็จการ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
07.07.2557 สื่อในรัฐประหาร โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
18.08.2557 การเมืองของคอร์รัปชั่น โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
31.12.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์: ของขวัญปีใหม่ .
28.12.2555 จารีตนิยมกับเหตุผลนิยมในพุทธศาสนา โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
17.12.2555 นิธิ: อีกมุมหนึ่งของ แก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ
14.12.2555 นักธุรกิจหัวเมืองกับวัฒนธรรมไทย โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
07.12.2555 ตบะในวัฒนธรรมไทย(ต่อ) โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
03.12.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์: เปลี่ยนประเทศไทยด้วยการรับจำนำข้าว (อีกที)
30.11.2555 ตบะในวัฒนธรรมไทย โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
10.12.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์: ชะตากรรมของคู่แฝด
16.07.2555 ในสนามรบทางกฎหมาย โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
21.03.2554 .36 ในการเมืองท้องถิ่น โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
08.08.2554 วงศาคณาญาติ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
19.09.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : รัฐที่ไร้สังคม
18.11.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : จุดอ่อนของเผด็จการ
09.03.2536 ปาฐกถาป๋วย อึ๊งภากรณ์ โดย ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ หัวข้อ วีรบุรุษในวัฒนธรรมไทย
18.09.2557 เปิดปาฐกถาครึ่งเดียวของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ ในห้องเรียนประชาธิปไตยที่ถูกยกเลิก
27.09.2553 นิธิ เอียวศรีวงศ์: รัฐประหาร = อัตวินิบาตกรรม
08.09.2557 "นิธิ" ชี้เผด็จการเท่านั้นที่กลัวคน
22.07.2556 ฮิตเลอร์ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
30.09.2557 บนยุทธภูมิทางวัฒนธรรม โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
27.10.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ไม่ได้เป็นนายกฯ เสียที
22.07.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ปัญญาชนไทยกับความทันสมัย
01.09.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : งานศพผิดวัดครั้งใหม่ (2)
11.08.2557 รัฐธรรมนูญฉบับวัฒนธรรมไทย 2557 โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
01.07.2556 นิธิ เอียวศรีวงศ์ ตั้งกระทู้ ขาดทุนจำนำข้าวด้วยเหตุใดแน่ ?
11.11.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : เปลี่ยนประเทศไทย ด้วยการรับจำนำข้าว
26.05.2543 อันตรายของคุณชวน หลีกภัย
01.09.2543 คนจน ในสังคมไทย โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
28.07.254 คนไทยกับ ๓ คำเจ้าปัญหา:เชื้อชาติ-กลุ่มชาติพันธุ์-อัตลักษณ์ จากปาฐกถา อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์
12.02.2552 ปาฐกถา เรื่อง ชาตินิยม ของ ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์
11.04.2557 ชาตินิยมสองกระแส โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์.
27.05.2556 นิธิ เอียวศรีวงศ์ ถามปรองดองทำไม ?
01.08.2556 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ประชาธิปไตยนิยาม
17.12.2556 มวลมหาประชาชน โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
25.08.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : งานศพผิดวัดครั้งใหม่ (1)
04.06.2014 นิธิ เอียวศรีวงศ์: ประชาธิปไตยแบบตู่
10 -16.08.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : รัฐนาฏกรรมอีกที
02.06.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : รัฐนาฏกรรม
01.07.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : อำนาจที่ไร้ฝัน
04.02.2556 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ทุจริตเชิงนโยบาย
03.11.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ถึงคุณสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ด้วยความนับถือ
22.09.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : อวสานของนักวิชาการ
17.06.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : สังคมอณู
11.11.2557 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : ประชาธิปไตยแบบไทย
004. หนังสือ จุดเปลี่ยนแห่งศตวรรษ จาก The Turning Point ของ ฟริตจ๊อฟ คาปร้า
003. เดอะเฟเดอรัลลิสต์เปเปอร์ : เอกสารความคิดทางการเมืองอเมริกัน
002. Das Kapital หรือ Capital "ว่าด้วยทุน" ของ คาร์ลมาร์กซ์ แปลโดย เมธี เอี่ยมวรา
001. หนังสือ ประวัติศาสตร์จีน เขียน/เรียบเรียงโดย ทวีป วรดิลก พิมพ์ครั้งแรก : กรกฏาคม 2538
000. จงทำลายศัตรูของท่านด้วยการทำให้เขาเป็นมิตร
10 -16.08.2555 นิธิ เอียวศรีวงศ์ : รัฐนาฏกรรมอีกที
รัฐนาฏกรรมอีกที
นิธิ เอียวศรีวงศ์
(มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10-16 สิงหาคม 2555 หน้า 30)
หลายปีมาแล้ว เมื่อครั้งที่มีพิธีฉลองการขึ้นครองราชย์ครบ 60 ปีของรัชกาลปัจจุบัน เพื่อนคนหนึ่งถามผมว่า ทำไมผู้เข้าเฝ้าในวันเสด็จออกที่พระที่นั่งอนันตสมาคม จึงต้องร้องไห้
นั่นเป็นภาพที่กล้องทีวีพยายามเจาะลงไปให้ผู้ชมได้เห็น รวมทั้งไปสัมภาษณ์ประชาชนผู้เข้าเฝ้า ซึ่งหลายคนก็ให้สัมภาษณ์พร้อมกับสะอึกสะอื้นไปด้วย
เป็นคำถามที่ผมตอบไม่ได้ในตอนนั้น ได้แต่เดาส่งไปว่าคงปลาบปลื้มใจจนน้ำตาไหลกระมัง ส่วนใหญ่ของคนไทยปัจจุบันล้วนมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินนี้แผ่นดินเดียว และนับตั้งแต่ พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา สื่อต่างๆ ก็เสนอภาพของชีวิตในสังคมไทยที่มีพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ เป็นศูนย์กลางตลอดมา การได้เข้าเฝ้าชมพระบารมีในวาระโอกาสอย่างนั้น ย่อมนำความปลาบปลื้มปีติเป็นธรรมดา
ทั้งเพื่อนและผมรู้เหมือนกันว่า เป็นคำตอบทื่อๆ ที่อธิบายแบบขอไปทีมากกว่า
ผมเพิ่งมาพบคำอธิบายที่ไม่ทื่ออย่างนั้น (แต่จะถูกหรือผิดไม่ทราบได้) เมื่อตอนที่เขียนเรื่องรัฐนาฏกรรมในมติชนสุดสัปดาห์เมื่อสองเดือนที่แล้ว และมีเหตุบางอย่างที่ทำให้ผมต้องคิดเรื่องนี้อย่างปรุโปร่งมากขึ้น
ในความคิดของศาสตราจารย์ Geertz ผู้เสนอทฤษฎีนี้ คือรัฐก่อนสมัยใหม่ของอุษาคเนย์ล้วนเป็นรัฐนาฏกรรมทั้งสิ้น ละคร ที่รัฐจัดขึ้นนั้นไม่ใช่การ แสดง เพราะหากเป็นเพียงการ แสดง ก็ย่อมไม่กระทบต่อลักษณะของรัฐแต่อย่างใด แม้จะใช้การ แสดง มากเพียงไรก็ตาม รัฐเพียงแต่ต้องการสื่อสารบางอย่างให้แก่ประชาชนเท่านั้น
ไม่ว่ารัฐในลักษณะใด ก็ล้วนมีเหตุที่จะสื่อสารกับประชาชนทั้งสิ้น นอกจากสื่อสารด้วยประกาศ, แถลงการณ์, หรือการให้สัมภาษณ์ ฯลฯ แล้ว รัฐทุกประเภท ย่อมใช้การ แสดง หลากหลายชนิดเป็นเครื่องมือทั้งสิ้น ดังที่ผมเตือนผู้อ่านไว้ในบทความเรื่องรัฐนาฏกรรมครั้งที่แล้วว่า อังกฤษกำลังจะจัดฉลองสิริราชสมบัติของพระราชินีนาถอย่างยิ่งใหญ่
หนังเรื่องสุริโยไทก็ตาม เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรก็ตาม หรือละครเวทีเรื่อง อานุภาพพ่อขุนรามคำแหง ก็เป็นการ แสดง ที่รัฐ (หรือผู้มีอำนาจ) ต้องการสื่อสารบางอย่างแก่ประชาชน
คนไปดูแล้วก็อาจสนุก ซาบซึ้งใจ หรือได้รับแรงบันดาลใจบางอย่างก็ได้ แต่เขาไม่ได้ร่วมในการ แสดง นั้น เขาเป็นเพียงผู้รับสารเท่านั้น ไม่ต่างจากการไปดูหนังดูละครหรือดูการแสดงดนตรีโดยทั่วไป รับสารมาแล้ว ก็ยังเอามาประเมินคุณค่าเอง ปรับเปลี่ยนสารนั้นตามใจตัวเอง จนกลายเป็นอีกความหมายหนึ่งไปก็ได้
การแสดงเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะจัดให้ใหญ่โตเพริศแพร้วอย่างไร จึงไม่สามารถทำให้รัฐใดรัฐหนึ่งกลายเป็นรัฐนาฏกรรมขึ้นมาได้
พิธีกรรมที่รัฐจัดขึ้นในรัฐนาฏกรรมแตกต่างจากการ แสดง อย่างไร ผมขอยกตัวอย่างของศาสตราจารย์ Geertz ในหนังสือเรื่อง Negara มาให้ดู
ก่อนหน้าที่บาหลีจะตกเป็นของฮอลันดาโดยสิ้นเชิงนั้น พระราชาผู้ครองรัฐแห่งหนึ่ง (กิอันจาร์) สวรรคตลง จึงต้องมีการจัดงานพระเมรุใหญ่ขึ้นที่ สนามหลวง ใกล้พระราชวังบังเอิญมีชาววิลันดาคนหนึ่ง ได้ไปเห็นตัวพิธีกรรมนั้นแล้วมาเขียนรายงานไว้
มีชาวบาหลีทั้งจากรัฐนั้นและรัฐอื่นเดินทางมาร่วมพิธี มืดฟ้ามัวดิน (ฝรั่งผู้เขียนอาจเห็นว่ามา ชม พิธี แต่ชาวบาหลีคิดว่าตัวเข้ามา ร่วม พิธีมากกว่า) ขบวนแห่พระศพใหญ่โตโอฬาร ประกอบด้วยพระเมรุมาศสูงใหญ่ถึง 11 ชั้น แต่ไม่ได้สร้างติดพื้น ต้องใช้กำลังคนถึง 500 ในการเคลื่อนตัวพระเมรุมาศเพื่อมารับพระศพ ที่ต้องชักข้ามกำแพงวังออกมาประดิษฐาน เพราะศพเป็นสิ่งโสโครก ย่อมนำผ่านประตูไม่ได้
แล้วก็ยกเอาพระเมรุมาศไปตั้งในมณฑลพิธี เบื้องหลังพระเมรุมาศ มีพระเมรุมาศเล็กและไม่โอ่อ่าตามมา มีสนมสามคนอยู่ในนั้น ต่างอาสาสมัคร (หรือถูกเลือกไม่ทราบได้) ให้เป็นสตีหรือบาหลีเรียกว่า บ(ะ)ลา (คงจะตรงกับพ(ะ)ลีของภาษาแขกแบบไทย)
พอถึงที่เขาก็ชักพระศพลงจากชั้นยอดสุด ลงมาบรรจุไว้ในหีบศพที่ทำเป็นรูปสิงห์ แล้วก็ลงมือเผา พอโหมไฟได้ที่แล้ว ก็เอาน้ำมันราดลงในกองเพลิงนั้น จนไฟลุกไหม้โชติช่วง หญิงทั้งสามก็เดินตามสะพานไม้จากเมรุของตนมาเหนือกองฟอนนั้น แล้วก็กระโดดลงกองไฟตามเสด็จไปด้วย
ทั้งสามคนอยู่ในอาการสงบ มีญาติพี่น้องจำนวนมากตามมาส่งอย่างใกล้ชิด และต่างก็อยู่ในอาการสงบเช่นเดียวกัน แม้แต่ชาวบาหลีที่เข้าร่วมงานก็ไม่ได้ส่งเสียงร้องด้วยความหวาดเสียวแต่อย่างใด ทุกคนอยู่ในอาการสงบทั้งหมด เป็นอันเสร็จพิธี
ชาวบาหลีมากันมืดฟ้ามัวดินทำไม ไม่ใช่อย่างที่นักท่องเที่ยวไปชมการเชือดลิ้นปีนบันไดมีดที่ภูเก็ตนะครับ คือไม่ได้ไปดูเพื่อเสียวดี แต่พากันไปเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสด็จพระอวตารกลับสู่ความเป็นพระเจ้าบนสรวงสวรรค์ ยืนยันระเบียบของจักรวาลและโลกมนุษย์ซึ่งตนมีชีวิตอยู่ และให้ความหมายแก่ชีวิตของตน
นี่แหละครับ รัฐนาฏกรรมขนานแท้ กล่าวคือตัวความเป็นรัฐนั้นคือนาฏกรรม ซ้ำนาฏกรรมยังเป็นหน้าที่หลักของรัฐ คือทำให้ทุกคนร่วมอยู่ใน ละคร เรื่องเดียวกัน ทุกคนเป็นทั้งผู้แสดงและทุกคนเป็นทั้งผู้ชม แยกสองอย่างนี้ออกจากกันไม่ได้
ผมควรกล่าวนอกเรื่องไว้ด้วยว่า นาฏกรรมตามประเพณีของอุษาคเนย์ก็เป็นอย่างนี้ คือไม่ได้แยกผู้แสดงและผู้ชมออกจากกันชัดๆ ผู้ชมอาจเข้าไปร่วมในการแสดงได้ตลอดเวลา เช่น ตะโกนด่าตัวโกง หรือร้องอื้ออึงให้แก่ชัยชนะของฝ่ายคนดี และนี่คือรสชาติที่สำคัญส่วนหนึ่งของการชมการแสดง ซึ่งมักเล่นเรื่องซ้ำซากที่ใครๆ ก็รู้เรื่องหมดแล้ว
แม้มีอำนาจอื่นๆ อีกมากมายที่แข่งกับรัฐ เช่น อำนาจท้องถิ่น อำนาจพ่อค้า หรืออำนาจของเจ้านายซึ่งแก่งแย่งชิงดีกันตลอด แต่รัฐจะเป็นรัฐไม่ได้ถ้าไม่ใช่นาฏกรรมซึ่งทุกคนมีส่วนร่วมสวมบทบาทต่างๆ ในนาฏกรรมนั้น
ไม่มีนาฏกรรม อำนาจทั้งหลายในรัฐก็กลายเป็นอำนาจเถื่อน เพราะอำนาจนั้นหากไม่ผูกโยงกับท้องเรื่องในนาฏกรรมแล้ว ก็เป็นแต่เพียงอำนาจดิบซึ่งจะดำรงอยู่อย่างยั่งยืนไม่ได้
ปัญหามาอยู่ที่ว่า รัฐนาฏกรรมดำรงอยู่ได้ ก็ต่อเมื่อทุกคนในรัฐต่างยอมรับท้องเรื่องหลักของนาฏกรรมเป็นพื้นฐานโลกทรรศน์ของตนเอง เมื่อไรที่ผู้คนเปลี่ยนโลกทรรศน์ไปแล้ว นาฏกรรมของรัฐก็กลายเป็นเพียงการแสดง และความเป็นนาฏกรรมของรัฐก็หมดไป
แต่ในความเป็นจริง มันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะรัฐอาจพยายามดำรงรักษาท้องเรื่องเดิมเอาไว้ด้วยวิธีที่แยบยลต่างๆ หรือในทางตรงกันข้าม รัฐอาจสร้างท้องเรื่องของนาฏกรรมใหม่ และยัดเยียดให้ประชาชนพากันยึดถือเป็นพื้นฐานของโลกทรรศน์ (ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจหรือวัฒนธรรม) ของตนก็ได้
ผมขอยกตัวอย่างรูปธรรมจากอินโดนีเซียอีกสักเรื่องหนึ่งนะครับ ดังที่ทราบอยู่แล้วว่าท่านประธานาธิบดีซูการ์โนมีภรรยาหลายคน ซึ่งท่านไม่ได้ปิดบังแต่อย่างไร ยิ่งกว่านั้นท่านยังแสดงให้เห็น อำนาจทางเพศ ของท่านให้รู้เห็นกันเป็นการสาธารณะอยู่บ่อยๆ
หากท่านเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ คงพังไปพร้อมกับคลินตันแล้ว แต่ตรงกันข้ามกับคติของชาวชวาซึ่งเป็นพลเมืองที่ใหญ่สุดของอินโดนีเซีย เพราะพลังทางเพศของผู้นำย่อมแสดงให้เห็น บารมี ของเขา เช่นเดียวกับปันหยีหรืออิเหนาที่ได้เมียนับไม่ถ้วนในการตามหาเมียหลวงของตน
นี่คือนาฏกรรมโบราณซึ่งยังใช้ได้ผลทางการเมืองในสมัยของท่านประธานาธิบดีซูการ์โน
สรุปก็คือนาฏกรรมของรัฐต้องวางอยู่บนความเชื่อบางอย่างที่ประชาชนจำนวนมากยอมรับ จะเป็นความเชื่อโบราณที่สืบทอดมา หรือเป็นความเชื่อที่ปลูกฝังลงไปใหม่ก็ตาม แต่ต้องเป็นความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจ
เมื่อคนไทยไปเข้าเฝ้า ครั้งที่ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีในรัชกาลปัจจุบัน คนจำนวนมากเหล่านั้นไม่ได้เข้า ชมพระบารมี คือไม่ได้แค่ไป ชม เฉยๆ แต่เข้าไปร่วมอยู่ในนาฏกรรมที่สอดคล้องกับความเชื่อในโลกทรรศน์ของเขา ที่น้ำตาไหลไม่ใช่การแสดง เขาคือส่วนหนึ่งของนาฏกรรมแห่งรัฐ ที่บางคนต้องร้องไห้
คำถามที่ว่าร้องไห้ทำไม เป็นคำถามสมัยใหม่ คือถามว่านาย ก. นาง ข. ร้องไห้ทำไม สาเหตุของการร้องไห้เป็นเรื่องของบุคคล และชวนให้ไปคิดหาคำตอบจากจิตวิทยาที่พยายามตอบปัญหาของบุคคล (และผมก็หลงกลอันนั้น) แต่ถ้าถามจากมุมมองของรัฐนาฏกรรม ผู้ถามไม่ได้คิดถึงนาย ก. หรือนาง ข. แต่ควรคิดถึงฉากรวมๆ ของการฉลองในวาระอันยิ่งใหญ่เช่นนั้นของรัฐ ความปลาบปลื้มจนน้ำตาไหลย่อมเป็นส่วนหนึ่งของฉากที่ขาดไม่ได้ และถ้าคิดอย่างนี้ออก ก็ไม่ต้องถาม
ตรงกันข้ามกับรัฐนาฏกรรมคือการแสดง งานพระเมรุหรืองานฉลองเจ้านายที่ประชาชนไม่ได้ถือเป็นส่วนหนึ่งในโลกทรรศน์ของตน หากทำให้ยิ่งใหญ่โอฬาร หรือโฆษณาตอกย้ำกันให้มาก ก็อาจมีคนเข้า ชม งานกันมาก แต่นั่นไม่ใช่รัฐนาฏกรรม เป็นเพียงการแสดงของรัฐเท่านั้น
ดังเช่นการฉลองสิริราชสมบัติของสมเด็จพระราชินีนาถอังกฤษ นี่คือการฉลองให้แก่บุคคลคนหนึ่งซึ่งเป็นที่รักเคารพของคนอังกฤษจำนวนมาก มี การแสดง ที่ตระการตาให้ชมเป็นอันมาก และมีผู้คนเข้าชมกันมืดฟ้ามัวดินเช่นเดียวกัน แต่ไม่มีใครน้ำตาไหล
เพราะไม่มีเหตุที่อังกฤษจะต้องพยายามเป็นรัฐนาฏกรรม
ดังนั้น ที่ผมสรุปไว้ครั้งที่แล้วว่า ถ้าทุ่มเงินทองยอมสิ้นเปลืองให้มาก ก็อาจรักษารัฐนาฏกรรมไว้ได้นั้น คงจะผิด เพราะไม่ว่าจะทุ่มเงินลงไปเท่าไร หากนาฏกรรมนั้นไม่เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของโลกทรรศน์ของผู้คนในสังคมอีกแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะทำให้รัฐนั้นกลายเป็นรัฐนาฏกรรมไปได้
--------------------------------------------------------------
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2557 21:13:20 น.
0 comments
Counter : 633 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
moonfleet
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [
?
]
ไม่มีสิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ หากไม่เคยเป็นความฝันมาก่อน
New Comments
Friends' blogs
Opey
hellojaae
tuk-tuk@korat
อยากเป็นไกด์ ใครช่วยที
ขามเรียง
แฟนEOD
me-o
เจียวต้าย
SevenDaffodils
วายุอัคคี
Webmaster - BlogGang
[Add moonfleet's blog to your web]
Links
CSRi สถาบันธุรกิจเพื่อสังคม
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.