BlogGang.com : : moonfleet : 098. วัดพวกแต้ม ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

098. วัดพวกแต้ม ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

สีหราช พระธาตุเจดีย์ และ พระวิหาร แห่ง วัดพวกแต้ม

พระเจดีย์ แห่ง วัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

วัดพวกแต้ม
เลขที่ 20 ถนนสามล้าน ซอย 7 ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

4786. วัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4785. วัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4787. ถนน.บำรุงบุรี ซอย.1

ที่ป้ายวัดพวกแต้ม คือ ถนน.สามล้าน ซอย.7
แต่ ป้ายหน้าวัด คือ ถนน.บำรุงบุรี ซอย.1

4788. ถนน.ซอย ด้านทิศเหนือของ วัดพวกแต้ม

4789. ถนน.ซอย ข้างวัดพวกแต้ม ด้านทิศใต้

4790. บ้านเรือน และ ชุมชน โดยรอบ วัดพวกแต้ม

4791. บ้านเรือน และ ชุมชน โดยรอบ วัดพวกแต้ม

4792. พระวิหาร แห่ง วัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4793. ศาลาเอนกประสงค์ วัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4794. ศาลา....แห่ง วัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4795. แผ่นโลหะ จารึกประวัติ วัดพวกแต้ม

วัดพวกแต้มไม่ปรากฏว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่ปรากฏจากหลักฐานที่ค้นพบสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๐๒๖

นอกจากนี้ชื่อวัดยังทำให้สันนิษฐานถึงผู้สร้างได้อีก คำว่า “พวก” หมายถึง หัวหน้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นขุนนางยศต่ำ พวกแต้มคงเป็นขุนนางที่มีหน้าที่ควบคุมทางด้านช่าง โดยเฉพาะด้านการเขียนภาพจิตรกรรม การลงรักปิดทอง

ดังเช่นวิหารหลังหนึ่งในวัดพระธาตุลำปางหลวงเรียกวิหารน้ำแต้ม

4796. ศาลา... พ.ศ. 2528 แห่ง วัดพวกแต้ม อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4797. ศาลา แม่คำแปง พวงมาลัย แห่ง วัดพวกแต้ม อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4798. เข้าใจว่าเป็น พระอุโบสถ แห่ง วัดพวกแต้ม

4799. เข้าใจว่าเป็น พระอุโบสถ แห่ง วัดพวกแต้ม

4800. เข้าใจว่าเป็น พระอุโบสถ แห่ง วัดพวกแต้ม

4801. ศาลาจันทร์ทิพย์ แห่ง วัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4802. พระวิหาร แห่ง วัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4803. ศาลา ....พ.ศ.2528 แห่ง วัดพวกแต้ม อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4804. ศาลา.... แห่ง วัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4805. หอไตร (หอธรรม) และ ศาลา พ.ศ.2535 แห่ง วัดพวกแต้ม

4806. ศาลา พ.ศ.2535 และ ฉัตต์ (อ่าน “ สัต ”)

4807. เข้าใจว่า เป็น กุฏิพระภิกษุสงฆ์

4808. ฉัตต์ (อ่าน “ สัต ”)

ที่มา: เว็บไซต์ล้านนาคดี //lanna.mju.ac.th/
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ "ทุกภาพ ทุกตัวอักษร มอบเป็นวิทยาทานแด่ทุกท่าน"

ฉัตต์ (อ่าน “ สัต ”)

ฉัตต์ หรือ “ ฉัตร ” คือเครื่องประดับคล้ายร่ม สิ่งประดิษฐ์เท่าที่พบจากศัพท์หมวดบาลี-ล้านนา มีดังนี้ ฉัตต์รวงข้าว-ฉัตรทำด้วยรวงข้าว ฉัตต์ดอกไม้ ฉัตต์อันสานด้วยไม้ดอก ฉัตต์ขาว ฉัตต์ดอกคำ-ฉัตรที่มีลวดลายทำด้วยทองคำ ฉัตต์ผ้าเหลือง ฉัตต์ขาวยับห้อยดอกคำ ฉัตต์แดง

ส่วนความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ.2525 ได้ให้ความหมายไว้ว่า หมายถึงเครื่องสูงชนิดหนึ่งมีรูปคล้ายร่มที่ซ้อนกันขึ้นไปเป็นชั้นๆ ชั้นบนมีขนาดเล็กกว่าชั้นล่างลดหั่นกันไปโดยลำดับ สำหรับแขวน ปัก ตั้ง หรือเชิญเข้าขบวนแห่เป็นเกียรติยศ

ชาวล้านนานิยมทำฉัตรประดับไว้บนหลังคาโบสถ์ วิหารและยอดเจดีย์ตามวัดต่างๆ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะชาวล้านนาได้รับเอาอิทธิพลการทำฉัตรมา พร้อมกับพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ผ่านมาทางเมืองมอญและพม่า เนื่องจากพม่านิยมทำฉัตรประดับไว้บนหลังคาโบสถ์ วิหารและเจดีย์ เช่นเดียวกับลาวและล้านนา

ชาวล้านนาเชื่อกันว่า ฉัตรคือเรื่องกั้นหรือเครื่องบังแสงแดดและลมฝน อีกทั้งเป็นเครื่องประดับพระเกียรติยศ หรือเครื่องรายกกุธภัณฑ์อย่างหนึ่งของพระมหากษัตริย์ และในฐานะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ในวรรณะกษัตริย์ดังนั้นจึงนำเอาฉัตรมาประดับพระเกียรติยศ และถือเป็นการถวายราชสักการบูชาต่อพระพุทธองค์ด้วย นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าหากผู้ใดสร้างฉัตรถวายทานประดับบนหลังคาโบสถ์วิหาร หรือยอดเจดีย์แล้ว ผลานิสงส์ที่ได้รับจะทำให้คนผู้นั้นได้ไปเกิดในสวรรค์เมื่อสิ้นชีวิตไปจาก โลกนี้แล้ว ถ้าหากจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ก็จะได้เกิดในตระกูลสูงศักดิ์ มีเกียรติยศและทรัพย์สมบัติ ตลอดทั้งข้าทาสบริวารเป็นอันมาก

โดยทั่วไปฉัตรเป็นร่มทำด้วยผ้าหรือวัตถุอย่างอื่น แต่ถ้าเป็นร่มกระดาษ ในล้านนาและอยุธยาใช้คำว่า ทุงยู หรือ ทงยู จิตร ภูมิศักดิ์ อธิบายว่าคำดังกล่าวเป็นคำภาษาเขมร เขมรปัจจุบันเขียนทางยู ออกเสียง เตียงยู แปลว่าร่มกระดาษ ไทยยืมคำนี้มาใช้แต่โบราณดังปรากฏในกฎมณเฑียรบาล โดยถือเป็นเครื่องยศอย่างหนึ่งว่า “ บันดาศักดิ์หัวเมืองนา 5,000 ขี่ยั่วร่มทุงยู ” (กฎมณเฑียรบาล ในกฎหมายตราสามดวงหน้า 35) ในวรรณกรรมเรื่อท้าวฮุ่งหรือท้าวเจืองก็กล่าวถึงร่มทุงยู

หลักฐานทางกฎหมายโบราณและวรรณคดีดังกล่าวบ่งชัดว่า ทุงยู คือร่มใหญ่คันยาว กางบังให้เกิดร่มแก่คนบนหลังช้างได้ และเป็นเครื่องยศอย่างหนึ่ง ดังภาพสลักที่นครวัดซึ่งกรณีเชียงใหม่ ได้ปรากฏเป็นชื่อวัดทุงยู

4809. หอไตร หรือ หอธรรม แห่ง วัดพวกแต้ม

4810. หอไตร หรือ หอธรรม แห่ง วัดพวกแต้ม

4811. ศาลา พ.ศ. 2535
:อุทิศให้ พ่ออุ้ยปั๋น แม่อุ้ยปั๋น จันทะยะ

4812. พระวิหาร แห่ง วัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4813. พระวิหาร แห่ง วัดพวกแต้ม ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

4814. บันไดมกรคายนาคแห่งพระวิหาร แห่ง วัดพวกแต้ม

4815. บันไดมกรคายนาคแห่งพระวิหาร แห่ง วัดพวกแต้ม

4816. ไม่ทราบชื่อเรียก : แต่เห็นว่า มีความ สวยงาม มากครับ

4817. อาคาร เขียว ขตติโย พ.ศ.2530

4818. ประตูพระวิหารด้านข้างด้านทิศใต้ แห่ง วัดพวกแต้ม

4819. พระวิหาร ด้านทิศใต้

4820. สถานที่ทำงานของ "สล่า" ทำฉัตทต์

ท่านสามารถอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ฉัตต์ และ เรื่องราวของ สล่า ผู้ทำฉัตต์แห่งวัดพวกแต้ม ได้ที่

Click://wwwbase.in.th/node/6841