Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
18 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 

...ใบไม้ร่วง...


เมื่อคืนหลังจากได้อ่านเรื่องราวของคุณน้ำค้างหวานแหวว คุณแม่ผู้สูญเสีย "น้องต้นหลิว" วัยห้าขวบไปอย่างไม่มีวันกลับ รู้สึกเศร้ามาก แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกอุ่นใจที่คุณแม่ของน้องมีสติ และมีธรรมะยึดหนี่ยวจิตใจอย่างมั่นคงมาก ถ้าเป็นเราจะทนได้ขนาดนี้ไหมหนอ...


ในชีวิตการทำงาน เจอผู้คนที่จากไปด้วยวัยอันไม่สมควรอยู่ตลอด ถามว่าชินไหม ไม่ชินค่ะ ยังรู้สึกเศร้าใจอยู่ตลอด ไม่ว่าจะวันแรกที่ทำงานหรือปัจจุบันนี้ ขอยกตัวอย่างเรื่องเล่านะคะ



มีคนไข้รายหนึ่งที่เจอตอนออกไปใช้ทุนปีแรกที่โรงพยาบาลชุมชนเล็กๆ เราจำติดใจไม่รู้ลืม เด็กชายหกขวบ อยู่ชั้นปอหนึ่ง มาโรงพยาบาลเพราะว่าหายใจเหนื่อยหอบ วินิจฉัยว่าเป็นหอบหืด หลังจากนอนรักษาตัว ให้ยาปฏิชีวนะ พ่นยา อาการดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่น่าแปลกก็คือ มีอาการคอบวมโตขึ้นมาทั้งสองข้าง คิดว่าน่าจะเป็นต่อมน้ำเหลืองเลยตัดสินใจส่งตัวต่อไปโรงพยาบาลจังหวัด


น้องคนนี้เป็นคนไข้ขาประจำ ทุกทีก็จะมารับยาโรคหอบ พวกป้าๆพยาบาลจะเอ็นดูน้องมาก เพราะกิริยามารยาทเรียบร้อย พูดเพราะจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นเด็กที่ขาดแม่ อยู่กันสองคนพ่อลูกมาตั้งแต่เกิด พ่อของน้องนั้นรักและเอาใจใส่น้องมากทีเดียว ถึงจะเป็นชาวบ้านฐานะยากจน แต่เค้าก็พูดกับลูกเพราะและสอนลูกอย่างดี


หลังจากส่งตัวไปรพ.จังหวัด สองคนพ่อลูกก็หายไปสักเดือน กลับมาอีกที คอน้องยังบวมอยู่แต่ก็ยุบลงมาก ถามพ่อเค้าว่าเป็นอะไร ก็บอกว่าหมอที่จังหวัดก็หาสาเหตุไม่เจอ ส่งตัวไปเชียงใหม่ต่อ หมอเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจอีกหลายรอบ ก็บอกว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองปกติ เลยให้กลับบ้านแล้วนัดไปดูอีก

"แต่ผมคงไม่ไปแล้วล่ะหมอ ขอรักษาที่นี่ดีกว่า หมอกับพยาบาลที่นี่ดีที่สุดเลย " เราพยายามเกลี้ยกล่อมแกก็ไม่ยอม ไม่เป็นไร เลยตกลงกันว่า ถ้ามีอาการอีกค่อยส่งไปก็แล้วกัน


เจอสองพ่อลูกอีกหลายครั้ง ก็ประทับใจว่าเจ้าหนูนี่ช่างน่ารักจริง ยังพูดกับพ่อเค้าว่าเลี้ยงลูกได้ดีมาก อีกหน่อยเจ้าหนูจะเป็นที่พึ่งของพ่อในอนาคต



วันหนึ่งกำลังยุ่งๆตรวจคนไข้อยู่ ได้ยินเสียงเอะอะหน้าห้องฉุกเฉิน พยาบาลวิ่งกระหืดกระหอบมา "หมอๆ มีคนไข้เด็กหัวใจหยุดเต้นมาจากโรงเรียน "

รีบวิ่งไปดู ..แทบเข่าอ่อน ..คนไข้ที่น่ารักของเรานั่นเอง

คุณครูลำล่ำละลักเล่าให้ฟังว่า ขณะนั่งเรียนหนังสือ อยู่ๆน้องก็ฟุบ หน้าคว่ำลงบนโต๊ะเรียนและพบว่าน้องไม่หายใจแล้ว เลยรีบพามาส่งโรงพยาบาล

หลังจากปั๊มหัวใจ ให้ยากระตุ้น เป็นชั่วโมง ก็ไม่มีวี่แววสัญญาณชีพกลับมาเลย เราจึงเดินคอตก กลั้นน้ำตาที่พยายามจะไหล เปิดม่านออกมา พบนัยน์ตาแป๋วๆของเด็กๆสิบกว่าคู่ คุณครู และพ่อของเด็กน้อยที่ตามมาสบทบจ้องอยู่


พอทราบข่าวร้ายทุกคนก็ร้องไห้กันระงม เสียงร้องไห้ของพ่อผู้สูญเสียวันนั้น บาดใจเราอย่างไม่รู้ลืม






คนไข้ขาประจำของเราที่มาดมยาสลบบ่อยๆ เป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก ผมหยิกเป็นลอนเหมือนตุ๊กตา แรกเริ่มที่เจอกันนั้น เธออายุสามขวบครึ่ง วันที่เคราะห์ร้ายนั้น เธอวิ่งไปหาพี่เลี้ยงที่กำลังทอดปลาในครัว น้ำมันเดือดๆในกะทะได้หกรดแผ่นหลังของเธอเป็นวงกว้าง ทำให้ต้องมาห้องผ่าตัดบ่อยๆ เพื่อทำแผล รวามถึงปลูกถ่ายผิวหนังใหม่

เป็นธรรมดา ที่จะถามกันก่อนจะเข้าห้องผ่าตัด "คุณแม่หนูมาด้วยไหมคะ" คำตอบอันไร้เดียงสาทำเอาเราอึ้งไป "คุณแม่ไปสวรรค์แล้วค่ะ หนูมากับคุณพ่อ"

คุณพ่อของเธอเป็นชายหนุ่มวัยกลางคนท่าทางเคร่งขรึม แต่กับลูกสาวเขาอ่อนโยนมาก หลายครั้งที่แม่หนูเจ็บปวดจากบาดแผล แล้วร้องไห้โวยวายอาละวาด เขามีความอดทนอย่างสูงที่จะปลอบโยนและทำให้ลูกสงบลง

มีวันหนึ่ง ขณะรอลูกสาวฟื้นจากยาสลบอยู่ข้างๆเตียง เราถามถึงแม่ของสาวน้อย เขาเอารูปถ่ายภรรยาสุดที่รักออกมาจากกระเป๋าสตางค์จ้องมองด้วยความรัก พร้อมเริ่มเล่าว่า เจอกับภรรยาที่ต่างประเทศที่ทั้งคู่ไปเรียนต่อ

หลังจากกลับมาเมืองไทยทั้งคู่แต่งงานกัน เขาเป็นวิศวกรเงินเดือนหกหลักในองค์กรที่มีชื่อ ส่วนภรรยาเป็นอาจารย์แพทย์ ทั้งคู่มีทุกอย่างเพียบพร้อม จนกระทั่งเมื่อภรรยาตั้งท้องลูกคนที่สองซึ่งก็คือลูกสาวคนนี้ เธอมีอาการเหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก หลังจากตรวจพบว่าเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ ก็ได้รักษาโดยการทำบอลลูนขยายเส้นเลือด เธอก็สบายดีจนกระทั้งคลอดลูกสาวที่แสนจะน่ารัก


ค่ำวันหนึ่ง พึ่งผ่านพ้นวันเกิดครบขวบของลูกสาวมาได้ไม่กี่วัน ที่โต๊ะอาหาร ภรรยาบ่นว่าวันนี้เหนื่อยจัง แต่ก็มีความสุขมากๆที่ได้ผ่าตัดฉุกเฉินให้คุณแม่ที่มาด้วยอาการตกเลือด จนปลอดภัยทั้งแม่ลูก ราวๆสองทุ่ม เธอขอตัวพาลูกสาวคนเล็กไปนอนพักผ่อนก่อน เขาและลูกชายตามไป ในเวลาไม่นานก็หลับกันไปทั้งหมด

กลางดึก เขาต้องตกใจตื่น เพราะเสียงลูกสาวร้องไห้จ้า รีบลุกไปดูพบว่าภรรยากำลังลุกขึ้นนั่งหอบ เธอเหนื่อยจนเบลอไม่รู้สึกตัว "ผมจับมือเธอไว้ แล้วมือเธอก็ตกลงแบบนี้" เขาทำท่ากุมมือใครสักคนในอากาศ แววตารำลึก เขารู้ได้ในทันทีว่าเธอจากไปแล้ว แม้ว่าหลังจากนั้นไม่กี่นาทีเพื่อนบ้านที่เป็นหมอถึงสามคน จะมาช่วยกันปั๊มหัวใจเธอก็ไม่อาจยื้อชีวิตเธอไว้ได้


เธอจากไป ทิ้งสามีที่โศกเศร้า ไว้กับลูกชายวัยสามขวบและลูกสาวหนึ่งขวบ เขาจึงได้ตัดสินใจทิ้งการงานในกรุงเทพกลับมาอยู่บ้านเกิดในต่างจังหวัด เพื่อทำธุรกิจส่วนตัว เพื่อจะได้มีเวลาเลี้ยงดูลูกทั้งคู่และเขาก็สามมารถทำได้ดี ความรักในตัวลูกทั้งสอง เป็นพลังผลักดันให้มีชีวิตอยู่ต่อไป

สาวน้อยคนนี้หน้าตาละม้ายคล้ายคุณแม่เธอมากๆค่ะ







เวลาได้พบเห็นผู้คนที่จากโลกนี้ไปด้วยวัยอันไม่สมควร เรามักจะถามตัวเองเสมอว่า "ทำไม"

วันหนึ่งได้อ่านเรื่องราวสอนใจของพระอาจารย์พรหม ท่านได้อุปมาอุปไมยเรื่องนี้ไว้ว่า เปรียบเสมือน"ใบไม้ร่วง" เวลเกิดพายุนั่นเอง


พระอาจารย์เล่าว่า มีพระป่ารูปหนึ่ง นั่งสมาธิในกุฏิมุงหญ้าเพียงลำพังในป่าใหญ่ ในคืนที่เกิดพายุรุนแรงมาก พระท่านได้แต่นั่งสวดภาวนา จนกระทั่งรุ่งเช้าได้พบว่าตัวเองรอดตายอย่างฉิวเฉียด เพราะต้นไม้ใหญ่หลายต้น โค่นล้มเฉียดกุฏิไปมา

แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของท่านคือ ใบไม้ที่ร่วงเกลือ่นกลาดทับถมหนาแน่น แน่นอนท่านพบว่าใบไม้ส่วนใหญ่เป็นใบไม้แก่ๆสีน้ำตาล ปนด้วยใบไม้สีเหลืองมากมาย มีใบไม้สีเขียวบางส่วน และส่วนน้อยมากๆ มีใบไม้สีเขียวสดที่พึ่งคลี่ใบออกมาไม่นานปะปน พอแหงนดูบนต้นไม้ก็พบว่า ส่วนใหญ่เหลือใบไม้สีเขียวที่สุขภาพแข็งแรงมีน้อยมากๆที่มีใบไม้สีน้ำตาลเกาะอยู่ พระท่านได้เข้าใจธรรมชาติ แห่งความตาย และการตายของเด็กน้อยไม่ได้ทำให้ท่านหวั่นไหวอีกต่อไป


"เมือพายุแห่งความตายพัดผ่านเข้ามาในครอบครัวของเรา มันมักจะพรากชีวิตท่านผู้ชรา ผู้เปรียบเสมือนใบไม้สีน้ำตาลลายพร้อย บางครั้งมันก็พรากชีวิตผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนเช่นใบไม้สีเหลือง บางครั้งหนุ่มสาวซึ่งอยู่ในวัยที่สดใสที่สุดในชีวิตเช่นเดียวกับใบไม้สีเขียวก็ตายเช่นกัน

และบางครั้งความตายยังพลัดพราก ชีวิตเด็กเล็กๆบางคนไปด้วย เช่นเดียวกับพายุที่ปลิดใบไม้อ่อนๆจำนวนหนึ่งลงฉันนั้น ธรรมชาติของความตายของมนุษย์เราก็เป็นเช่นนั้นเอง เช่นเดียวกับธรรมชาติของพายุป่ามันก็เป็นเช่นนั้นเองแหละ"



ไม่ใช่เรื่องที่จะกล่าวโทษใครในการตายของเด็ก มันเป็นธรรมชาติของสรรพสิ่ง ใครจะกล่าวโทษพายุเล่า ? มันช่วยเราตอบคำถามว่า ทำไมเด็กบางคนถึงต้องตายก่อนวัยอันควร คำตอบก็คงจะเป็นเหตุปัจจัยเดียวกับ ทำไมใบไม้อ่อนๆจำนวนหนึ่ง แม้จะไม่มากนัก ต้องร่วงหล่นเวลาเกิดพายุด้วยเล่า ?






 

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2551
8 comments
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2551 0:46:32 น.
Counter : 4232 Pageviews.

 

อ่านอีกทีก็ยังน้ำตาซึม .... ไม่รู้น้องงามเป็นไงบ้าง หลังๆไม่เห็นน้องเขาเลย ก็ฝากใจส่งผ่านบลอกไปให้น้องเขา ขอให้เข้มแข็ง ขอให้ผ่านไปได้กับความเจ็บปวดสูญเสียครั้งนี้ มันยากจริงๆ

 

โดย: Mimi Mice 18 กุมภาพันธ์ 2551 1:01:05 น.  

 

อ่านแล้ว...เห็นด้วยครับ...

เห็นด้วยที่ใครบางคน..ไม่น่าที่จะรีบจากพวกเราไปเลย...

 

โดย: i-palmy (palmy_yoyo ) 18 กุมภาพันธ์ 2551 2:10:18 น.  

 

อือ สรุปได้ดีจัง เขียนเล่าอะไรได้น่าอ่านดีนะคะ

 

โดย: p_tham 18 กุมภาพันธ์ 2551 3:25:06 น.  

 

อ่านแล้วเศร้าจังค่ะ

 

โดย: Suessapple 18 กุมภาพันธ์ 2551 3:37:39 น.  

 

มีแต่เรื่องเศร้าๆค่ะคุณหมอ

 

โดย: หลิวลิ่วลม 18 กุมภาพันธ์ 2551 3:49:47 น.  

 

ชอบมากที่เขียน ให้แง่คิดมากครับ

 

โดย: Oogenesis IP: 222.123.231.176 13 มีนาคม 2551 19:49:49 น.  

 

อ่านยังไม่จบครับ เพราะเศร้า เด๋วจะร้องไห้ ทำงานต่ออีกนิด แล้วจะกลับมาต่อ ขอบคุณครับ

 

โดย: คิม IP: 115.42.195.244 26 สิงหาคม 2553 7:14:56 น.  

 

อ่านเรื่องแรก..น้ำตาไหลเลยค่ะ มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายมากเลยที่ต้องสูญเสียลูกไป หรือสูญเสียคนที่เรารัก ความตายถ้าหากใช้หลักธรรมเข้าช่วยก็ทำให้เรามีแรงที่จะก้าวต่อไป..แต่ก่อนตอนที่เรียนมอปลายใกล้เข้ามหาลัย อาจารย์ถามว่าอยากจะเรียนต่ออะไร หนูเลยนั่งคิดในใจ เป็นหมอก็ดีนะแต่หัวเราเองก็คงไปไม่ถึง แต่อีกความคิดที่ผลุดขึ้นนั้นก็คือ เเล้วพวกที่เรียนหมอเค้าจะรู้สึกยังไงถ้าต้องเดินออกมาจากห้องสี่เหลี่ยมเพื่อบอกญาติๆของคนไข้ว่า....เสียใจด้วยนะค่ะ...ความเจ็บปวด ณ จุดนี้รับรู้ไปกับหมอเลยค่ะ...ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าที่แฝงไปด้วยสิ่งดีๆนะค่ะ...

 

โดย: Rabbit IP: 58.9.3.25 26 เมษายน 2554 20:23:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หมูเหมียว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คุณแม่ลูกสอง งานประจำเป็นหมอวางยา เอ๊ย หมอดมยา เลิกงานเป็นคุณแจ๋ว รับใช้นางฟ้าและเทวดาสองตัวนี้ค่ะ


Friends' blogs
[Add หมูเหมียว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.