พฤษภาคม 2557
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
13 พฤษภาคม 2557

คิดแล้วรวย

บทที่สอง ตอนที่1/2

ความปรารถนา

จุดเริ่มต้นแร่งความสำเร็จทุกอย่าง

ขั้นแรกไปสู่ความร่ำรวย

เมื่อเอ็ดวินซี บรานส์ ก้าวลงมาจากรถไฟบรรทุกสินค้าในเมือง ออเรนจ์ รัฐนิวเจอร์ซี่เป็นเวลากว่าห้าสิบปีมาแล้ว สารรูปของเขาอาจจะคล้ายคลึงกับชายพเนจรก็จริง หากความคิดของเขาอยู่ลักษณะเดียวกับพระราชา

ขณะเขาเดินจากรางรถไฟ มุ่งหน้าไปสู่สำนักงานของโธมัสเอดิสัน จิตใจเขาไม่ได้อยู่เฉยหากครุ่นคิดตลอดเวลา เขามองเห็นภาพตัวเอง ยืนเบื้องหน้าเอดีสันเขาได้ยินเสียงตัวเอง ขอร้อง มร. เอดีสัน เพื่อให้โอกาสแก่เขา สิ่งที่เขาใฝ่ฝันอย่างแรงกล้าในชีวิตนั่นคือความปรารถนาอันรุ่มร้อนที่จะเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับนักประดิษฐ์ ผู้ยิ่งใหญ่

ความปรารถนาของบรานส์มิได้เป็นความหวัง ไม่ใช่เป็นความประสงค์ แต่เป็นความปรารถนาอันรุนแรงหัวใจเต้นถี่ ซึ่งอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นความตั้งใจอันแน่วแน่

ต่อมาไม่กี่ปีอีกครั้งหนึ่งเอ็ดวิน ซี บารนส์ ยืนอยู่เบื้องหน้าเอดิสัน ในสำนักงานเดิมและตรงที่เดียวกับที่เขาพบนักประดิษฐ์เป็นครั้งแรกคราวนี้ความปรารถนาของเขาได้เปลี่ยนเป็นความจริง เขาร่วมธุรกิจกับเอดิสัน ความฝันที่ครอบงำชีวิตของเขา อยู่ตลอดเวลาเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาแล้ว

บรานส์ทำสำเร็จ ก็เพราะว่า เขาเลือกเป้าหมายอันแน่วแน่ วางกำลังงานทั้งหมดของเขากำลังใจทั้งหมด ความอุตสาหพยายามทั้งหมดของเขา และทุกๆอย่างสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว

ผู้เผาสะพาน

ห้าปีผ่านไปกว่าช่องทางที่เขาแสวงหาปรากฏรูปร่าง ทุกๆคน เว้นแต่ตัวเขาเห็นเขาเป็นเพียงฟันเฟืองอันหนึ่ง ในล้อจักรธุรกิจของเอดิสัน แต่ในใจเขา เขาถือว่าเป็นหุ้นส่วนกับเอดิสัน ทุกลมหายใจเข้าออก นับจากวันแรกที่เขาเข้าทำงานที่นั่น

ทั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัด ถึงอานุภาพแห่งความความปรารถนาอันแน่วแน่ บรานส์บรรลุเป้าหมายของตนเพราะเขาต้องการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ มร.เอดีสัน เหนือกว่าความต้องการใดๆเขาวางแผนเพื่อบรรลุจุดหมายนี้ เขาถึงกับเผาสะพานทุกแห่งที่เขาผ่านมาทั้งสิ้นเขายืนหยัดอยู่กับความปรารถนาของเขาจนเป็นความใฝ่ฝันทุกลมหายใจเข้าออกของชีวิตและสุดท้าย มันเป็นจริงขึ้นมา

เมื่อเขาไปที่เมือง ออเรนจ์ เขามิได้พูดกับตัวเอง “ฉันจะไปชักจูงเอดิสันเพื่อให้งานบางชนิดแก่ฉัน” หากพูด “ฉันจะพบเอดิสัน และจะทำให้เขาสังเกตได้ว่าฉันมาหาเขา เพื่อร่วมงานทางธุรกิจกับเขา”

เขามิได้พูด“ฉันจะคอยมองหาช่องทางอย่างอื่น เผื่อว่าฉันล้มเหลวที่จะได้ในสิ่งที่ต้องการในบริษํทของเอดิสัน”หากเขาพูด “มีอยู่แต่ทางเดียวเท่านั้นในโลกนี้ ที่ฉันตั้งใจเป็นเจ้าของให้ได้นั่นคือเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ โธมัน เอ. เอดิสัน ฉันจะเผาสะพานข้างหลังไม่ให้เหลือและวางสมรรถภาพในอนาคตทั้งหมดของฉันลง เป็นเดิมพัน เพื่อให้ได้สิ่งที่ฉันต้องการมา”

เขาไม่ทิ้งทางไว้สำหรับมีโอกาสล่าถอยเลยเขาต้องชนะหรือตาย

เรื่องราวของบรานส์ที่ได้รับความสำเร็จมีเพียงเท่านี้เอง

สะเปอร์ที่กระแทกไปสู่ความร่ำรวย

หลายปีมาแล้วนายทหารยิ่งใหญ่ผู้หนึ่ง เผชิญกับเหตุการณ์ที่เขาจำเป็นต้องตกลงใจและการตกลงใจนั้น จะประกันความสำเร็จของเขาในสนามรบเขากำลังส่งทหารเข้าโจมตีข้าศึกที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีพลรบมากกว่า เขาเองหลายเท่าเขาเอาทหารลงเรือ กางใบไปยังประเทศของศัตรู หลังจากให้บรรดาทหารขึ้นจากเรือพร้อมอาวุธเสร็จเขาสั่งให้เผาเรือที่ใช้โดยสารมาหมดทุกลำ ก่อนการยุทธในครั้งแรกจะเริ่มขึ้นเขาพูดแก่บรรดาทหารของเขา

“ท่านทั้งหลายเห็นแล้วไฟกำลังไหม้เรือควันโขมง นั่นหมายความว่า เราไม่มีทางไปจากฝั่งทะเลนี้ทั้งๆที่มีชีวิตอยู่ เว้นแต่เราจะชนะ เดี๋ยวนี้เราไม่มีทางเลือก เราชนะ หรือเราตาย

ผลก็คือชนะ

ทุกคนที่ต้องการชนะในสิ่งใดก็ตามจะต้องเต็มใจเผาเรือ และตัดแหล่งล่าถอยให้หมด ด้วยการปฏิบัติในแบบนี้เท่านั้นจะแน่ใจว่า สามารถรักษาภาวะจิตที่เรียกกันว่า “ความปรารถนาอันรุ่มร้อน”เพื่อไปสู่ชัยชนะ สิ่งที่มีความจำเป็นสำหรับบรรลุความสำเร็จ
เช้าวันรุ่งขึ้นภายหลังไฟเผาผลาญเมืองชิกาโกครั้งมหึมา พ่อค้ากลุ่มหนึ่ง ยืนอยู่บนถนน สเตดจับตาที่ซากร้านของตน ซึ่งมีควันกรุ่น เขาเหล่านี้ประชุมกัน เพื่อหารือว่าจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ หรืออำลาชิคาโก ไปค้าขายส่วนอื่นของประเทศ ที่จะมีผลดีกว่าทุกคนตกลงใจเป็นเอกฉันท์ นอกจากคนหนึ่งทีจะอำลาชิกาโก

พ่อค้าซึ่งตัดสินใจอยู่ชิกาโกต่อไปและสร้างร้านขึ้นมาใหม่ ชี้มือไปที่ซากร้านของตน และพูด

“ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลายที่จุดนั้น ผมจะสร้างร้านใหญ่โตที่สุดในโลกขึ้น โดยไม่คำนึงว่าไฟจะไหม้มันพังลงสักกี่ครั้ง”

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีมาแล้วร้านได้สร้างขึ้น ปัจจุบันมันยังยืนเด่นอยู่ตรงนั้น เป็นตึกสูงตระหง่านเป็นอนุสรณ์แห่งภาวะจิตที่เรียกว่า “ความปรารถนาอันรุ่มร้อน”

มาร์แช็ลล์ฟิลด์ น่าได้กระทำอย่างง่ายๆ เช่นเดียวกันกับเพื่อนพ่อค้าของเขาได้กระทำ เขาเหล่านี้เห็นว่าอนาคตทางการค้าของชิคาโกมืดมน และการจากไปเมืองนี้เป็นของง่ายกว่าที่จะอยู่ต่อไป จึงพากันอำลาไปคนละทิศทาง

จงสังเกตให้ดีเกี่ยวกับ ความแตกต่างระหว่าง มาร์แช็ลล์ ฟิลด์ และพ่อค้าอื่นๆ เพราะความแตกต่างอย่างเดียวกันนี้เองแยกผู้ได้รับความสำเร็จ ออกจากผู้ได้รับความล้มเหลวโดยเด็ดขาด

มนุษย์ทุกคนเมื่อมาถึงอายุเข้าใจประโยชน์ของเงิน ต่างมีความประสงค์จะได้มันเพียงมีความประสงค์ จะไม่นำความร่ำรวยมาให้ แต่ความปรารถนาต่อความร่ำรวยด้วยจิตใจหลงใหลใฝ่ฝัน ครั้นแล้ว วางแผนประกอบด้วยวิธีและหนทางอันแน่วแน่เพื่อได้มาซึ่งความร่ำรวย และปฏิบัติตามแผนนั้น อย่างมุ่งมันโดยไม่ลดละทั้งนี้แปลว่า ไม่รู้จะหน้าค่าตาของความล้มเหลว จะนำความร่ำรวยมาให้

หกวิธีเพื่อเปลี่ยนความปรารถนาเป็นทองคำ

วิธีการซึ่งสามารถแปรความปรารถนาต่อความร่ำรวยเป็นเงินเป็นทองขึ้นมาได้ ประกอบด้วยหกขั้นตอนเพื่อการปฏิบัติโดยเฉพาะดังนี้

หนึ่ง :กำหนดลงในใจของท่าน จำนวนเงินแน่นอน ที่ท่านปรารถนา เพียงพูด“ฉันต้องการเงินมากๆ” เท่านั้น ยังไม่พอ (มีเหตุผลทางจิตวิทยาที่จะบ่งจำนวนลงไปอย่างแน่ชัด เรื่องนี้จะนำมาบรรยยายในบทหลัง)

สอง: ตกลงใจให้แน่นอนว่าท่านตั้งใจจะให้ เงินที่ท่านปรารถนาเป็นอะไรบ้าง เป็นการตอนแทน (การได้เปล่าๆโดยไม่มีการจ่ายมันดูกระไรอยู่)

สาม: กำหนดวันเดือนปีให้แน่ชัด เมื่อท่านตั้งใจจะเป็นเจ้าของเงินที่ท่านปรารถนา

สี่: วางแผนแน่นอนเพื่อปฺฏิบัติไปสู่ ความปรารถนาของท่าน และขอให้ลงมือทันที แม้ท่านจะพร้อมหรือไม่ให้ใช้แผนนี้ดำเนินงาน

ห้า: เขียนลงไปให้ชัดเจนและข้อความรัดกุม จำนวนเงินที่ท่านตั้งใจจะได้มา บอกด้วยว่าท่านตั้งจะให้เงินตอบแทนแก่อะไรบ้างและแจงให้ชัดเจนถึงวิธีการที่ท่านตั้งใจจะสะสมเพิ่มพูนขึ้น

หก: อ่านข้อความที่ท่านเขียนไว้ดังๆวันละสองครั้ง ครั้งหนึ่งก่อนเข้านอนเวลากลางคืนอีกครั้งหนึ่งเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า ขณะท่านอ่าน จงมองเห็น รู้สึกและเชื่อว่าท่านได้เป็นเจ้าของเงินเรียบร้อยแล้ว

ต้องถือว่าการที่ท่านจะต้องทำตามคำแนะนำหกขั้นตอนที่กล่าวมาแล้วเป็นเรื่องสำคัญมากและสำคัญเป็นพิเศษ ที่ท่านจะต้องเอาใจใส่และทำตามข้อที่หกท่านอาจจะร้องทุกข์ว่าเป็นเรื่องการสุดวิสัยที่ท่านจะ“มองเห็นตัวท่านเองเป็นเจ้าของเงิน” ก่อนท่านจะมีมันจริงๆ ตรงนี้เองความปรารถนาอันรุ่มร้อนจะมาช่วยเหลือท่าน ถ้าท่าน ปรารถนา เงินอย่างแรงกล้าโดยแท้จริง จนความปรารถนานั้นกลายเป็นความใฝ่ฝันทุกลมหายใจเข้าออกท่านจะไม่ลำบากเลยในการจูงใจตัวเองของท่านให้เชื่อมันว่าท่านจะได้มันจุดหมายท่านคือต้องการเงิน และการทำให้เกิดความตั้งใจรุนแรงที่จะเป็นเจ้าของมันท่านต้องจูงใจตัวเองให้เชื่อมั่น เสียก่อน แล้วท่านจะได้มันจริงๆ

ท่านนึกฝันว่าตัวเอง เป็นมหาเศรษฐีได้ไหม

สำหรับผู้ยังไม่เคยได้รับการอบรมในสิ่งใหม่ๆคือยังไม่เคยศึกษาเรื่องหลักการทำงานของจิตใจมนุษย์ จะรู้สึกว่า คำแนะนำเหล่านี้ ปฏิบัติไม่ได้ผลจะเป็นการช่วยอย่างมากแก่ทุกคน ซึ่งไม่ยอมรับนับถือ ความดีของหลักการหกขั้น ถ้าบอกให้รู้ว่าข้อความในขั้นต่างๆ ได้รับมาจาก แอนดรูว์คาร์เนกี ผู้เริ่มต้นทำงานเลี้ยงชีพ ด้วยการเป็นกรรมกรสามัญ ในโรงถลุงเหล็กแต่ทั้งๆอยู่ในฐานะต่ำต้อง เขาตั้งหลักการเหล่านี้ เป็นขั้นๆ ซึ่งลงท้ายมันนำโชคให้เขามากกว่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญ

จะเป็นการช่วยยิ่งขึ้นถ้าบอกให้รู้ว่า หลักการหกขั้น ทีรับรองนี้ โธมัสเอดิสัน ผู้ล่วงลับ เคยพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนและตีตราเห็นชอบด้วยของเขา ลงในฐานไม่เพียงแต่เป็นขั้นที่จำเป็นสำหรับมีเงินจำนวนโต หากสำหรับ บรรลุเป้าหมายทุกชนิด

การปฏิบัติตามขั้นตอนทั้งหลายไม่ได้เป็น “งานหนัก” และมิได้มีการเสียสละมันมิได้ทำให้ผู้ใดกลายเป็นคนน่าหัวเราะหรืองมงาย การใช้มันไม่จำเป็นต้องเป็นผู้มีการศึกษาสูง แต่ผู้ปฏิบัติตามหกขั้นสำเร็จ จะนำมาให้ซี่งความนึกฝันมากพอที่จะมองเห็น และเข้าใจว่า การหาเงินได้มากๆ ไม่ใช่เกิดจากโอกาส ดวงหรือโชคดี แต่จะต้องตระหนักว่า ทุกคนที่ร่ำรวยเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีที่แรกต่างมีความฝัน ความหวังความประสงค์ ความปรารถนาด้วยกันทั้งนั้นและวางแผนก่อนเงินมา

ขอให้ท่านรู้เสียตั้งแน่บัดนี้ ว่าท่านไม่มีทางร่ำรวยมหาศาลเว้นแต่ท่านจะทำให้ตัวท่าน มีความปรารถนาอย่างรุ่มร้อน เพื่อเงินทุกลมหายใจเข้าออกและถ้าทำได้ดังกล่าว ขอให้เชื่อถือเลยว่า ท่านจะเป็นเจ้าของมันจริงๆ

อานุภาพของความฝันใหญ่ๆ

เราซึ่งแข่งขันกันไปสู่ความร่ำรวยขอให้รับรู้ว่า โลกอันเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆซึ่งเราต่างพำนักพักพิงกำลังเรียกร้องไอเดียใหม่ หนทางใหม่ในการทำสิ่งต่างๆ ผู้นำใหม่ประดิษฐกรรมใหม่ วิธีการใหม่ในการสอนวิธีการใหม่ในการเดินตลาด หนังสือใหม่วรรณกรรมใหม่ โทรทัศน์รูปลักษณะใหม่ ความคิดใหม่สำหรับภาพยนตร์เบื้องหลังการเรียกร้องสิ่งใหม่และดีกว่าเดิมทั้งหมดนี้ มีคุณลักษณะอยู่อย่างหนึ่งที่ต้องเอาชนะมาเป็นของเราให้ได้ นั่นคือ จุดหมายอันแน่วแน่ โดยรู้ตัวว่าเราต้องการอะไร และมีความปรารถนารุ่มร้อนที่จะเป็นเจ้าของมัน

เราผู้ที่ปรารถนาจะสร้างความร่ำรวยพึงจำไว้ว่าผู้นำทั้งหลายในโลกนี้ มักจะเป็นบุคคลที่ทำงานในหน้าที่ประจำวันของตนและคนเหล่านี้ ได้ใช้พลังที่จับต้องไม่ได้และมองไม่เห็น ในการพบช่องทางใหม่ๆเคยแปรพลังดังกล่าว( หรือแรงกระตุ้นแห่งความคิด) เป็นตึกระฟ้า , โรงงาน , เรือบิน,ภาพยนตร์, และเครื่ออำนวยความสะดวกทุกประเภทอันส่งเสริมให้ชีวิตเพลิดเพลินยิ่งขึ้น

ในการวางแผนเพื่อประสบกับความร่ำรวยอย่ายอมให้ผู้ใดจูงใจท่านให้เหยียดหยามนักฝันเพื่อชนะเดิมพันในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ท่านจะต้องระลึกถึงสปิริตของนักบุกเบิกยิ่งใหญ่ทั้งหลายในอดีตซึ่งความฝันของเขาเหล่านี้ได้ให้สิ่งมีคุณค่าทุกประการแก่อารยธรรมโดยต่างพลีเลือดเนื้อเพื่อประเทศชาติและเปิดโอกาสให้ชาวอเมริกันรุ่นหลังได้ใช้สติปัญญาของตนตักตวงผลประโยชน์

ถ้าสิ่งที่ท่านประสงค์จะทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องและท่านเชื่อในสิ่งนั้น จงทำได้เลยท่านฝันของท่านไปเถิด ไม่ต้องสนใจว่า “เขาเหล่านั้น” พูดอะไรบ้างเวลาท่านประสบกับความพ่ายแพ้ชั่วคราว เนื่องจาก “เขาเหล่านั้น” อาจจะไม่รู้ว่าความล้มเหลวทุกครั้ง นำเมล็ดพันธุ์ที่เรียกว่าความสำเร็จมาให้

โธมันเอดิสัน ฝันถึงตะเกียงที่สวางด้วยไฟฟ้า เขาลงมือทำความฝันให้เป็นความจริง และทั้งๆที่เขาล้มเหลวมากกว่า หนึ่งหมื่นครั้งเขายืนหยัดกับความฝันนั้น กระทั้งเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา นักฝันที่เอาจริงเอาจังจะไม่ยอมวางมือ

วีลันฝันถึงร้านขายซิการ์ มีสาขาทั่วประเทศเปลี่ยนรูปความฝันของเขาให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ ดังจะเป็นว่า ร้านยูไนเต็ดซิการ์ตั้งอยู่ตามมุมถนนย่านการค้าทั่วสหรัฐ

สองพี่น้องสกุลไรต์ฝันถึงการใช้เครื่องจักรบิน ไปในอากาศ มาเวลานี้ เราจะเห็นประจักษ์พยานทั่วโลกว่าทั้งสองคนมิได้ฝันไร้สาระ

มาร์โคนีฝันถึงระบบการเอาพลังงานอันจับต้องไม่ได้บนอากาศมาควบคุมประจักษ์พยานแสดงว่า เขามิได้ฝันอย่างลมๆแล้วๆโดยจะพบได้ที่เครื่องรับวิทยุ และโทรทัศน์ทุกเครื่องในโลก ท่านอาจจะสนใจที่รู้ว่า“เพื่อนๆ” ของมาร์โคนี ถึงกับช่วยควบคุมตัวเขาไว้แล้วเอาไปให้แพทย์ในโรงพยาบาลโรคจิตตรวจอาการ เมื่อเขาประกาศว่าเขาได้พบกฎที่สามารถส่งข่าวสารทางอากาศ โดยไม่ใช้ลวดหรือวัตถุใดเป็นพาหนะโดยตรงในการสื่อสาร

นักฝันในปัจจุบันมีทางเสี่ยงที่ดีกว่ากัน

โลกนี้เต็มไปด้วยโอกาสมากมายซึ่งนักฝันในอดีตยังไม่รู้

วิธีเลิกฝันถึงเคราะห์กรรม

ความปรารถนาอันรุ่มร้อนที่จะเป็นอะไรและทำอะไรเป็นจัดเริ่มต้นซึ่งนักฝันจะต้องพาตัวออกจากที่นักฝันย่อมไม่เป็นคนเฉื่ยยชา , ขี้เกียจ,หรือขาดความทะเยอทะยาน

อย่าลืมว่าทุกคนที่ได้รับความสำเร็จในชีวิตต่างออกมาจากที่เริ่มต้นในลักษณะย่ำแย่และฟันฝ่าการต่อสู้แสนปวดร้าวใจหลายประการ ก่อนที่จะเข้าถึงจุดหมายจุดเลี้ยวในชีวิตของบรรดาผู้ได้รับความสำเร็จ มักจะปรากฏในวาระอยู่ในภาวะคับขันบางชนิด และจากการผ่านไปได้ เขาเหล่านั้น จึงได้รู้จักกับ “ตัวตนในอีกสภาพหนึ่ง”

ยอห์นบันยัง แต่ง “ The Pilgrim’s Progress ” ซึ่งเป็นเล่มหนี่งในบรรดาวรรณกรรมยอดเยี่ยมของอังกฤษภายหลัง เขาถูกขังอยู่ในคุกและถูกลงโทษอย่างเจ็บแสบเนื่องจากความคิดเห็นของเขาในเรื่องศาสนา ผิดเพื่อน

โอเฮ็นรี่ พบอัจฉริยะซึ่งนอนหลับในสมองของเขา ภายหลังเขาประสบเคราะห์กรรมร้ายแรงติดตารางในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไอโอ เขาฟันฝ่าเคราะห์กรรมไปรู้จักกับ“ตัวเองอีกสภาพหนึ่ง” และได้ใช้ความนึกฝันของเขาให้เป็นเงินเป็นทองกลายเป็นนักประพันธ์ยิ่งใหญ่ แทนคนขี้คุกและผู้ที่สังคมรังเกียจเหยียดหยาม

ชารลส์ดิคเก็นส์เริ่มทำงาน ปิดฉลากลงบนหม้อสีดำเรื่องเศร้าสลดของเขาเกี่ยวกับรักครั้งแรกทิ่มแทงส่วนลึกของหัวใจและแปรเขาให้กลายเป็นนักประพันธ์เอกโดยแท้จริงคนหนึ่งของโลก เรื่องเศร้าสลดได้ปรากฏในครั้งแรกในนวนิยายเรื่อง เดวิทคอพเพอร์ฟิลด์ และติดตามาด้วย งานชิ้นอื่นๆอีกอันนำความร่ำรวยมาสู่เขามากขึ้นทุกที ทั้งได้ช่วยให้ผู้อ่านนวนิยายของเขาพิสมัยโลกยิ่งขึ้น

เฮเล็นเค็ลเลอร์ เป็นคนใบ้ชนิดหูหนวกและตาบอด ภายหลังคลอดไม่นานทั้งๆหล่อนต้องเผชิญกับเคราะห์กรรมแห่งคนไม่สมประกอบอันใหญ่หลวงที่สุดหล่อนยังจารึกชื่อของหล่อนลงหน้าประวัติศาสตร์ อย่างถาวร ตลอดชีวิตของหล่อนแสดงตนให้ประจักษ์ว่าไม่มีใครเคยพ่ายแพ้จนกว่าจะยอมรับความพ่ายแพ้ในฐานะเป็นสิ่งจริงจัง

รอเบอร์ด เบอรนส์ เป็นเด็กหนุ่มบ้านนอกที่ไร้การศึกษาเขาต้องเผชิญกับความยากจน ครั้นอายุมากขึ้น เขาเป็นขี้เมาหยำเป โลกน่าพิสมัยยิ่งขึ้นจากการมีชีวิตของเขา ทั้งนี้เป็นเพราะว่าเขามีความคิดอันเพริดพริ้งทางแต่งการร้อยกรอง และด้วยเหตุนี้ประชาชนจึงพากันมองข้ามส่วนไม่ดีของเขาและยกย่องอย่างสูงในความสามารถอันเลอเลิศ

เบโธเฟ็นหูหนวก มิลตัน ตาบอด แต่ชื่อของเขาทั้งสองอยู่นานเท่านานชั่วกัลปาวสานเพราะต่างเฝ้าฝันและถ่ายทอดความฝันมาเป็นความคิดอันเจิดจร้า

มีความแตกต่างกันอยู่ระหว่างความประสงค์ที่จะได้สิ่งหนึ่งและพร้อมแล้วที่จะรับมันไม่มีใคร พร้อมแล้ว ที่จะได้รับสิ่งหนึ่ง จนกว่า เขาเชื่อว่า เขาจะได้มัน จิตใจต้องอยู่ในภาวะเชื่อเสียก่อนไม่ใช่อยู่ดีก็เกิดความหวังหรือความประสงค์จิตใจที่ปิดไว้มิได้มีแรงบันดาลให้เกิดศรัทธา ความกล้ว และความเชื่อ

จำไว้ว่าการตั้งเข็มชีวิตไว้ให้สูง การเรียกร้องเงินมากๆ และความก้าวหน้าไม่จำเป็นต้องใช้ความมานะพยายามบากบั่น อะไรนัก หากการยอมรับหากการยอมรับความทุกข์ยากและแร้นแค้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความพยายามมานะบากบั่นมากกว่ากัน

กวีเอกผู้หนึ่งกล่าวความจริงทั่วๆไปอย่างถูกต้องในข้อความตามบรรทัดเหล่านี้

ฉันตกลงค่าจ้างกับชีวิตเพียงเพ็นนีเดียว

และชีวิตจะไม่จ่ายให้อีก

แต่แล้วในค่ำวันหนึ่งฉันขอเพิ่มขึ้น

ขณะฉันนับเงินรายได้เพียงเล็กน้อยของฉัน

เนื่องจากชีวิตเป็นนายจ้าง

เขาจะให้เท่าที่ท่านขอร้อง

อย่างไรเสียเมื่อท่านตกลงค่าจ้าวไว้แล้ว

ท่านจะต้องยอมทนทำงาน

ฉันทำงานชนิดต่ำๆ

เพียงเพื่อหาความรู้ แต่แล้วฉันเกิดสะดุ้งกลัว

ว่าค่าจ้างเท่าไหร่ที่ฉันของจ่ากชีวิต

ชีวิตจะจ่ายให้อย่างเต็มใจ

ความปรารถนาเอาชนะธรรมชาติ

ข้าพเจ้าขอนำบุคคลประหลาดพิสดารที่สุดเท่าที่ข้าพเจ้าเคยพบเห็นมาเล่าในฐานะเหมาะสมที่จะเป็นไคลแม็คซ์ ของบทนี้ ครั้นแรกข้าพเจ้าเห็นเขาเพียงไม่กี่นาที ภายหลังเขาคลอดเขาลืมตาดูโลกโดยไม่มีหูเลย จากการรบเร้าขอความเห็นหมอในเรื่องนี้ หมอยอมรับว่าเด็กอาจจะหูหนวกและพูดไม่ได้ จนตลอดชีวิต

ข้าพเจ้าท้าทายความเห็นของหมอข้าพเจ้ามีสิทธิที่จะทำเช่นนั้นในฐานะเป็นพ่อของเด็กข้าพเจ้าได้ตกลงใจโดยมีความเห็นอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน หากข้าพเจ้าไม่ได้แสดงความเห็นนี้ทางคำพูด แต่เก็บมันเอาไว้เป็นความลับของตัวเองอย่างเงียบๆ

ข้าพเจ้ารู้อยู่ในใจว่าลูกชายของข้าพเจ้า จะได้ยิน และพูดได้รู้โดยวิธีใด ข้าพเจ้าแน่ใจว่าต้องมีทางและข้าพเจ้าจะต้องพบทางนั้น ข้าพเจ้านึกถึงวาทะของ เอเมอร์ซันผู้อมตะ "ความเป็นไปได้ในทุกประการของสิ่งทั้งหลาย สอนเราให้รู้จักศรัทธาเราเพียงแต่เชื่อฟังก็พอแล้ว มีคำแนะนำสำหรับเราทุกคน และด้วยการตั้งใจฟังเราจะได้ยิงเสียง ถ้อยคำที่ถูกต้อง"

ถ้อยคำที่ถูกต้อง ความปรารถนา ข้าพเจ้าเกิดความปรารถนาเหนือสิ่งใดที่จะให้ลูกชายของข้าพเจ้าไม่เป็นใบ้ข้าพเจ้าไม่เคยล่าถอยความปรารถนานี้แม้แต่วินาทีเดียว

ข้าพเจ้าจะทำอย่างไรกันเรื่องนี้อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้า จะต้องหาทางแก้ไขยักย้ายถ่ายเทให้ความปรารถนาอันรุ่มร้อนของตัวข้าพเจ้ากลายเป็นวิธีการ และพาหนะในการนำเสียงไปยังสมองของเด็กโดยไม่ต้องใช้พึ่งพาอาศัยหูและมีโอกาสเข้าสู่จิตใจเด็ก

ครั้นเด็กโตขึ้นพอที่จะร่วมมือด้วยข้าพเจ้าจะใส่ลงในจิตใจของเขาอย่างเต็มเปี่ยมให้เกิดความปรารถนาอันรุ่มร้อนที่จะได้ยินโดยเชื่อว่า ธรรมชาติย่อมมีวิธีการของหล่อนเองที่จะดัดแปลงจิตใจสัมผัสเสียงต่างๆทางร่างกายเข้าจริงๆ

เมื่อเขาอายุมากขึ้นและเริ่มให้ความเอาใจใส่แก่สิงทั้งหลายรอบตัว เราสังเกตุได้ว่าเขาได้ยินเสียงเบาบาง ตอนอายุซึ่งเด็กทั่วไปเริ่มพูดเขามิได้พยายามที่จะกล่าวอะไรเลย หากทำกิริยาท่าทางบอกเขาว่าเขาได้ยินเสียงบางอย่างค่อยๆ เท่านี้เองที่ข้าพเจ้าต้องการรู้ ข้าพเจ้ามั่นใจว่าถ้าเขาสามารถได้ยิน แม้แต่เสียงแผ่วๆเขาจะสามารถทำให้ความสามารถทางการได้ยินของเขามากกว่าเดิม ครั้นแล้วบางอย่างเกิดขึ้น ซึ่งให้ความหวังแก่ข้าพเจ้ามันมาจากแหล่งที่ไม่ได้คาดคิดโดยแท้จริง

"อุบัติเหตุ ซึ่งเปลี่ยนแปลงชีวิตมนุษย์ผู้หนึ่ง"

เราซื้อหีบเสียงมาพอเด็กน้อยได้ฟังดนตรี เป็นครั้งแรก เขาทำอาการเคลิบเคลิ้มและถือสิทธิเอาเป็นของตนในทันที มีอยู่หนหนึ่งเขาเล่นจานเสียดนตรีแผ่นหนึ่งซ้ำซากเป็นเวลานาน เกือบสองชั่วโมง โดยยืนหน้าหีบเสียงฟันคาบหีบเสียงไว้ นิสัยแปลกประจำตัวนี้ เราไม่เข้าใจแจ่มแจ้งจนหลายปีต่อมาโดยที่ตอนนั้น เราไม่เคยได้ยินหลักการ "กระดูกเป็นสื่อ" ของเสียง

หลังจากเขาถือสิทธิในหีบเสียงข้าพเจ้าพบความจริงว่า เขาสามารถได้ยินข้าพเจ้าชัดเจนเวลาข้าพเจ้า พูดพร้อมกับเอาริมฝีปากนาบกับกระดูกมาสตอยด์ซึ่งอยู่ฐานกระโหลกศีรษะ

เมื่อแน่ใจว่าเขาสามารถได้ยินเสียงของข้าพเจ้า ได้ซัด โดยไม่รอช้าข้าพเจ้าจัดการส่งความคิดเข้าสู่จิตใจของเขาให้เกิดความปรารถนาที่จะได้ยินและพูดด้วยข้าพเจ้าพบในเวลาไม่นาน ว่าเด็กต้องการฟังเรื่องสนุกก่อนนอนข้าพเจ้าจึงแต่งเรื่องขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพาะลงในตัวเขาซึ่งความเชื่อมั่นในตนเอง ความนึกฝันและมีความปรารถนาแรงกล้วที่จะได้ยินเสียงและเป็นคนปกติธรรมดา

เป็นต้นเรื่องหนึ่งซึ่งข้าพเจ้า เน้นด้วยการเติมแต่งใหม่ให้เป็นที่ซาบซึ่งทุกครั้งที่เล่าข้าพเจ้าเจตนาที่จะฝังลงใจจิตใจเขาด้วยความคิดว่าความไม่สมประกอบของเขาไม่ใช่เรื่องเสียหาย หากเป็นทุนทีมีราคามหาศาลทั้งๆที่มีความจริงอยู่ว่า ตามหลักจิตวิทยาทั้งหมดที่ข้าพเจ้าอ่านอย่างพินิจต่างบ่งว่า ความยากลำบากยากแค้นทุกชนิดนำมาให้ซึ่งเมล็ดพันธุ์ที่มีประโยชน์ข้าพเจ้าขอสารภาพว่าข้าพเจ้ายังไม่มีไอเดียแม้แต่ต้อยนิดสำหรับกรณีไม่สมประกอบของลูกชายว่ามันจะกลายเป็นทุนได้อย่างไร

เอาชนะโลกใหม่ด้วยเงินหกเซ็นต์

ในการวิเคราะห์ความเจนจัดแต่หนหลังเวลานี้ ข้าพเจ้ามองเห็นว่า ศรัทธาต่อข้าพเจ้า ของลูกชายมีส่วนสำคัญอย่างมากเกี่ยวกับผลอันน่าอัศจรรย์ที่ปรากฏขึ้นเขาไม่ได้ตั้งข้อสงสัยในทุกอย่างที่ข้าพเจ้าบอก ข้าพเจ้าใส่ความคิดให้เขาว่าเขาได้เปรียบพี่ชายเขา และความได้เปรียบนี้ จะสะท้อนตัวออกมาในหลายทาง เป็นต้นว่าครูในโรงเรียนจะสังเกตเห็นเขาไม่มีหู และเนื่องจากสิ่งนี้ครูเหล่านั้นจะให้ความเอาใจใส่ต่อเขาเป็นพิเศษ และให้ความเมตตาปรานีแก่เขาเหนือกว่า นักเรียนอื่นๆ ครูกระทำดังกล่าวเสมอจริงๆ

ข้าพเจ้าใส่ความคิดให้เขาด้วยว่า เวลาเขาโตมากพอที่จะขายหนังสือพิมพ์ได้(พี่ชายเขาเป็นเด็กขายหนังสือพิมพ์อยู่แล้ว) เขาจะได้เปรียบกว่าพี่ชายมากโดยที่ผู้อุดหนุนจะแอบให้เงินเขานอกเหนือจากค่าหนังสือพิมพ์ เพราะเขาเหล่านั้นมองเห็นว่าเขาเป็นเด็กฉลาด ขยันขันแข็ง ทั้งๆที่ไม่มีหู

เมื่อเขาอายุได้ราวเจ็ดปีเขาแสดงให้ประจักษ์เป็นครั้งแรกว่าวิธีการของเราที่ส่งเสริมจิตใจของเขาเกิดดอกออกผล ตลอดเวลาหลายเดือนเขาขออนุญาตแม่ไปขายหนังสือพิมพ์แต่แม่ไม่เห็นดีเห็นชอบด้วย

สุดท้ายเขาทำเรื่องนี้โดยพละการบ่ายวันหนึ่ง ขณะเขาปล่อยให้อยู่บ้านกับคนใช้ เขาปีนหน้าต่างครัว หย่อนตัวลงพื้นและทำในสิ่งที่เขาต้องการ เขายืมสตางค์หกเซ็นต์จากเพื่อนบ้านที่เป็นช่างทำรองเท้าเอาไปลงทุนซื้อหนังสือพิมพ์ ครั้นขายหมดเขาไปซื้อมาใหม่และขายครั้งแล้วครั้งเล่าจนค่ำ เมื่อคิดบัญชี หลังจากใช้คืนผู้ให้ทุนหกเซ็นต์เขาได้กำไรสุทธิสี่สิบสองเซ็นต์ ตอนเรากลับบ้านในคืนนั้น เราพบว่าเขาหลับสนิทอยู่บนเตียง สตางค์กำแน่นอยู่ในมือ

แม่เป็นผู้แกะมือเขาออกหยิบเหรียญทั้งหมดออกมา แล้วร้องไห้ เหนือทุกอย่างร้องไห้แก่ชัยชนะครั้งแรกของลูกชาย ซึ่งดูเหมือนหนึ่งเขาไม่มีสิทธิ์จะได้รับส่วนข้าพเจ้า แสดงปฏิกิริยาตรงกันข้ามข้าพเจ้าหัวเราะอย่างสนุกสนานโดยที่ข้าพเจ้ารู้แล้วว่า ความบากบั่นของข้าพเจ้าที่จะปลูกฝังศรัทธาต่อตัวเองลงในจิตใจของลูกประสบความสำเร็จแล้ว

แม่มองในแง่ที่ว่าในการทำธุรกิจครั้งแรกของลูก ซึ่งเป็นเด็กหูหนวกตัวเล็กๆ ออกไปเตร่ตามท้องถนน เสี่ยงชีวิตเพื่อหาเงินส่วนข้าพเจ้ามองไปอีกแง่หนึ่ง เห็นเขาเป็น นักธุรกิจที่กล้าหาญ ทะเยอทะยานเชื่อมั่นในตัวเอง ทำให้คุณค่าของตัวเองสูงขึ้นหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเขาทำธุรกิจด้วยความคิดริเริมของเขาเองและประสบชัยชนะ การขายหนังสือพิมพ์นี้ ทำความพอใจให้แก่ข้าพเจ้า เนื่องจากข้าพเจ้ารู้ว่า เขาแสดงตนให้ประจักษ์ว่า เป็นเจ้าของคุณสมบัติแห่งสมรรถภาพซึ่งจะติดตัวเขาจนตลอดชีวิต

เด็กหูหนวกตัวเล็กๆเปลี่ยนเป็นได้ยิน

เด็กหูหนวกเข้าโรงเรียนประถม มัธยม และวิทยาลัย ทั้งที่ไม่สามารถได้ยินเสียงครูและอาจารย์พูดเว้นแต่ตะโกนลั่นๆในที่ใกล้ๆ เขาไม่ได้เข้าโรงเรียนคนหูหนวกเราไม่ยอมให้เขาเรียนภาษาใบ้ เราตั้งใจว่า เขาจะต้องดำรงชีวิตในแบบปกติคบค้าสมาคบกับเด็กสมประกอบ และเรายืนหยัดในการตกลงนี้ แม้ว่าเราจะต้องเป็นปากเป็นเสียงหน้าดำหน้าแดง หลายครั้งกับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน

เมื่อเขาศึกษาในไฮสกูลเขาพยายามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อฟังได้ยินดีขึ้น แต่ไม่เกิดประโยชน์อย่างไรเลย

ระหว่างการศึกษาสัปดาห์สุดท้ายในวิทยาลัยเกิดบางอย่างขึ้นซึ่งกำหนดหัวเลี้ยวสำคัญที่สุดแก่ชีวิตของเขาจากเหตุการณ์ทีดูคล้ายเป็นการบังเอิญเขาเป็นเจ้าของเครื่องไฟฟ้าสำหรับการช่วยฟังอีกเครื่องหนึ่งซึ่งส่งมาให้เขาทดลองใช้ เขาลองใช้มันอย่างไม่กระตือรือร้น เนื่องจากผิดหวังในเรื่องคล้ายคลึงมาแล้วลงท้ายเขาเอามันวางบนหัว เปิดสวิตซ์แบตเตอรี่ และพรวด ประหนึ่งเกิดปาฏิหาริย์ความปรารถนาตลอดชีวิตของเขาที่จะได้ยินเหมือนปกติเช่นคนอื่นกลายเป็นจริงขึ้นมาเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้ยินชัดเจน โดยแท้จริงเช่นเดียวกับคนหูเป็นปกติทั้งหลาย

เขาดีใจอย่างท่วมท้นจากการพบโลกที่เปลี่ยนแปลงโดยทางเครื่องฟังเสียงของเขาเขาวิ่งไปที่โทรศัพท์พูดกับแม่ และได้ยินเสียงแม่บริบูรณ์ทุกอย่าง วันรุ่งขึ้นเขาได้ยินเสียงพวกศาสตราจารย์ที่สอนในชั้นชัดเจนเป็นครั้งแรกในชีวิตและเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาคุยกับใครได้สบายโดยไม่จำเป็นต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งพูดตะเบ็ง แน่ละ เขาเป็นเจ้าของโลกที่เปลี่ยนแปลง

ความปรารถนาได้เริ่มต้นจ่ายเงินปันผลแล้วแต่ชัยชนะยังไม่สมบูรณ์ เด็กหนุ่มยังต้องหาทางที่แน่นอน และได้ผลเพื่อแปรอุปสรรคทางกายของเขาเป็นสิ่งที่มีค่าเท่าทุน

ความคิดที่แสดงปาฏิหาริย์

เขาเกือบจะไม่ตระหนักในความสำคัญของสิ่งที่นำผลล้ำเลิศมาให้แต่ลิงโลดอยู่ในความปลาบปลื้มที่ได้พบโลกใหม่แห่งเสียงเขาเขียนจดหมายถึงบริษัทผลิตเครื่องที่ช่วยให้ได้ยินเล่าอย่างกระตือรือร้นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแก่เขา มีบางอย่าง ในจดหมายของเขาเป็นเหตุให้บริษัทเชิญเขาไปนิวยอร์ก

เมื่อมาถึงเขาได้รับเชิญให้ชมโรงงาน และในขณะคุยกับหัวหน้าวิศวกรโดยเขาเล่าถึงโลกที่เปลี่ยนแปลง สำหรับเขา ความรู้สึกรุนแรงอย่างหนึ่ง เป็นไอเดียหรือแรงบันดาลใจ ท่านจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ วูบขึ้นมาในจิตใจของเขา มันเป็นแรงกระตุ้นแห่งความคิด ซึ่งแปรความไม่สมประกอบ ของเขาให้กลายเป็นทุนอันวางจุดหมายที่จะจ่ายปันผล ทั้งเป็นจำนวนเงิน และความสุขแก่มนุษย์นับหมื่นแสนในปัจจุบัน และอนาคต อันยาวนานไม่มีที่สิ้นสุด

ข้อใหญ่ใจความและสาระของแรงกระตุ้นแห่งความคิดนั้นมีดังนี้ : เขาฉุกคิดได้ว่าเขาจะสามารถช่วยคนหูหนวกนับล้านๆ ผู้ดำรงชีวิตอยู่โดยมิได้ใช้เครื่องฟังเสียงเลยถ้าเขามีทางเล่าให้เขาเหล่านี้รู้เรื่องโลกอันเปลี่ยนแปลงที่เขาได้ประสบมา

ตลอดหนึ่งเดือนเต็มเขาทำการค้นคว้าอย่างหมกมุ่น ซึ่งระหว่างเวลาดังกล่าวเขาวิเคราะห์ระบบการจำหน่ายเครื่องฟังเสียงของบริษัทผู้ผลิตและหาวิธีและหนทางติดต่อกับพวกหูหนวกทั้งหมดในโลกเพื่อคนเหล่านี้จะได้มีส่วนร่วมกับเขาในการค้นพบใหม่ ซึ่งโลกที่เปลี่ยนแปลงภายหลังค้นคว้าเสร็จ เขาวางแผนสองปี ด้วยการเขียนลงเป็นลายลักษณ์อักษรใช้การค้นพบของเขาเป็นรากฐาน เมื่อเขาเสนอแผนนี้แก่บริษัท ทางบริษัทได้ตำแหน่งหน้าทีแก่เขาทันที เพื่อเขาจะได้ปฏิบัติงานตามความทะเยอทะยานของเขาไปสู่เป้าหมาย

ในตอนไปทำงานกับบริษัทนี้เขาฝันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ว่าเขาจะเป็นผู้ถูกกำหนดให้นำความหวังและความช่วยเหลืออย่างได้ผลมาสู่คนหูหนวกนับหมื่นแสนซึ่งถ้าไม่มีเขายื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องจะประสบเคราะห์กรรมอยู่ในสภาพคนหูหนวกตลอดไป

ข้าพเจ้าแน่ใจว่า แบลร์ ลูกชายของข้าพเจ้า จะเป็นคนหูหนวดตลอดชาติ ถ้าไม่มีข้าพเจ้าและแม่ของเขาจัดการวางรูปจิตใจของเขาให้มีลักษณะดังที่เป็นอยู่

เมื่อข้าพเจ้าเพาะจิตใจของเขาให้เกิดความปรารถนาที่จะได้ยินและพูดและดำเนินชีวิตแบบมนุษย์ที่ไม่พิการพร้อมๆกับเกิดแรงกระตุ้นที่มีอิทธิพลแปลกประหลาดบางอย่าง ซึ่งเป็นเหตุธรรมชาติกลายเป็นสามารถสร้างสะพานขึ้นสำเร็จ โดยช่วงทอดของมัน ข้ามอ่าวแห่งความเงียบระหว่างสมองและโลกภายนอก

ความจริงความปรารถนาอันรุ่มร้อน มีหนทางคดเคี้ยวในการเปลี่ยนรูปตัวของมันให้เกิดผลดีทางร่างกาย แบลร์ ปรารถนาจะได้ยินเป็นปกติเวลานี้เขาได้มันแล้ว เขาเกิดมาพร้อมกับอุปสรรค์ทางกายอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะส่งให้ผู้อยู่ในสภาพนี้แต่มีความปรารถนาแน่วแน่น้อยกว่ากันไปอยู่ริมถนนพร้อมมือถือกระป๋องนมได้โดยง่าย

การโกหกเล็กๆน้อยๆอย่างสุภาพและไม่มีอันตรายหากส่งเสริมกำลังใจที่ข้าพเจ้าปลูกฝังในจิตใจของเขาตั้งแต่เป็นเด็กเล็กโดยชักจูงให้เขาเชื่อว่า ความไม่สมประกอบของเขาจะกลายเป็นทรัพย์สินมหาศาลซึ่งเขาสามารถนำมันเป็นทุน ได้พิสูจน์ตัวของมันเอง ให้ประจักษ์ว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง แน่ละ ทุกอย่าง มีถูกหรือผิด ซึ่งมีความเชื่อ บวกด้วย ความปรารถนาอันรุ่มร้อน สามารถทำให้เป็นจริงได้สิ่งที่ดีงานสองประการนี้ ขอมอบให้ฟรีแก่ทุกคน




Create Date : 13 พฤษภาคม 2557
Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 12:26:18 น. 0 comments
Counter : 1237 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1129395
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 1129395's blog to your web]