บล็อกนี้ถูกละเลยไปเสียนาน ทำให้ข้อมูลและรูปภาพไม่สมบูรณ์ หมูแดงจะพยายามซ่อมให้เร็วที่สุด ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ กระท่อมหมูแดง
กระท่อมนี้มีรักและน้ำใจให้กันเสมอ

Group Blog
 
 
เมษายน 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
2 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
เมื่อคนที่นั่งทำงานข้างเราถูกจับข้อหาลามกอนาจาร


วันนี้มีเรื่องน่าตื่นเต้นมาเล่าให้ฟังค่ะ เพราะพยายามคิดอยู่คืนหนึ่งแล้วว่า ถ้าเหตุการณ์เดียวกันเกิดขึ้นที่เมืองไทย จะมีอะไรเกิดขึ้นมั้ย ตำรวจไทยจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เหมือนตำรวจอังกฤษหรือเปล่า

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี่เองค่ะ ประมาณซักสิบโมงเช้าได้มั้ง เจ้าหนุ่มที่นั่งทำงานอยู่ข้างๆเราถูกเรียกไปที่ฝ่ายบุคคล ที่นั่นผู้จัดการฝ่ายเราก็นั่งรออยู่แล้วพร้อมกับผู้จัดการฝ่ายบุคคล ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่นบ้าง แต่ซักประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้จัดการก็เดินกลับมาหยิบเสื้อโค้ทของเจ้าหนุ่ม แล้วก็หายไปอีกประมาณ ๑๐ นาที ก่อนกลับมาเรียกพวกเราประชุม

ผู้จัดการบอกว่าจำต้องยอมให้เจ้าหนุ่ม take personal leave ชั่วคราว ไม่มีกำหนดว่านานแค่ไหน แล้วเขาจะกลับมาทำงานอีกมั้ย แล้วก็แบ่งงานที่หนุ่มทำอยู่ประจำออกมาให้พวกเราที่เหลือช่วยกันทำ เราถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้จัดการก็บอกเพียงว่าเป็น personal issue แต่ไม่บอกรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น เราถามว่าแล้วบอกไม่ได้เลยหรือว่าจะนานแค่ไหน แล้วเขาจะกลับมาทำงานอีกมั้ย ผู้จัดการบอกว่าไม่รู้อะไรมากกว่านี้ เราก็ถามอีกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เจ้าหนุ่มรู้ตัวมาก่อนมั้ย เขาก็บอกว่ารู้ แต่ just come to live today แล้วก็เลิกประชุม พวกเราก็ได้แต่เดากันไปต่างๆ นาๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนุ่มน้อยเพื่อนร่วมงานของเราหรือ

บ่ายวันศุกร์ ผู้จัดการเรียกเราไปประชุมอีกครั้ง แล้วก็บอกว่า สาเหตุุุุุุที่หนุ่มน้อยหายตัวไปก็คือ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วหนุ่มของเราถูกตำรวจจับข้อหา pornography ก็เลยทำให้เรานึกขึ้นมาได้ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หนุ่มของเราหายตัวไปเฉยๆในวันพุธ ไม่มาทำงาน แล้วก็ไม่โทรมาลาด้วย ก็คงจะเป็นวันนั้นนั่นเอง เรื่องถูกจับของหนุ่มนี้จะไม่มีใครรู้เรื่องเลยหากว่ามันไม่ได้ลงประกาศในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แล้วมีคนไปอ่านเจอเข้า

เช้าวันพฤหัสก่อนที่หนุ่มจะถูกเรียกตัวไปฝ่ายบุคคลนั้น ผู้จัดการของเราไปคุยกับผู้จัดการฝ่ายบุคคลมาก่อนแล้ว คือมีใครคนหนึ่ง ตัดเอาข้อความในหนังสือพิมพ์นั้นมาวางไว้บนโต๊ะเธอ ไม่รู้ว่าคนๆนั้นคือใคร มาวางตอนไหน แต่พอเธอเห็น เธอก็รีบไปคุยกับฝ่ายบุคคลว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เนื้อความในหนังสือพิมพ์มีไม่มาก บอกเพียงว่าหนุ่มน้อยชื่อนี้ อายุเท่านี้ บ้านอยู่ถนนนี้ ถูกจับในข้อหา pornography แล้วจะต้องถูกส่งตัวขึ้นศาลในวันที่ ๑๖ พฤษภาคม เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ไม่มีใครรู้ว่าหนุ่มผิดจริงมั้ย แต่เพราะข้อหานี้มันค่อนข้างจะ sensitive ที่ออฟฟิศของเรามี nursery อยู่ด้วย มีเด็กเล็กๆอยู่เป็นร้อยๆคน บริษัทฯไม่อาจเสี่ยงให้หนุ่มน้อยอยู่ on site ได้ เพราะไม่รู้ว่าหนุ่มไปทำอะไรที่ลามกอนาจาร เสี่ยงต่อความปลอดภัยแก่เด็กมาบ้าง เพราะหนุ่มเองไม่ยอมพูดอะไรถึงรายละเอียด ข้อความในหนังสือพิมพ์ก็ไม่มีคำอธิบายอะไรมากไปกว่าว่าถูกจับ เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ และเพื่อความสบายใจของผู้ปกครอง บริษัทฯไม่อนุญาตให้หนุ่มทำงานที่นี่ต่อไป เลยขอให้หนุ่มพักงานชั่วคราว จนกว่าเรื่องของคดีจะเรียบร้อย

หนุ่มน้อยคงอายที่จะต้องเผชิญหน้ากับผู้คนมากมาย ไม่รู้ว่ามีกี่คนได้อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นบ้าง เลยขอตัวกลับบ้าน ผู้จัดการต้องเดินมาเอาเสื้อโค้ทไปให้ เพราะหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะเดินกลับมาหยิบไปเอง เรามานั่งคิดดูนะคะว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมืองไทย จะมีอะไรเกิดขึ้นมั้ย หนุ่มน้อยจะยังคงนั่งทำงานต่อไป บริษัทจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า แต่ที่อังกฤษ เขาคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นใหญ่ ไม่ว่าหนุ่มน้อยจะทำผิดจริงมั้ย ตราบใดที่ยังพิสูจน์ตัวเองไม่ได้ว่าบริสุทธิ์ ก็ต้องป้องกันไว้ก่อนโดยกันเขาให้อยู่ห่างจากเด็กๆให้มากที่สุด

คำถามเรื่องนิสัยของหนุ่มคนนี้ เขาเป็นผู้ชายอายุราวๆ ๒๑-๒๒ ปีนะคะ เป็นคนที่ไม่มีสังคม ไม่มีเพื่อนค่ะ คือชีวิตเขามีแต่ที่ทำงาน บ้าน และคอมพิวเตอร์ เท่านี้จริงๆ เขาไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นกีฬา ไม่ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ไปฮอลิเดย์ เช้าก็มาทำงาน เย็นลงก็กลับบ้านไปเล่นคอมพิวเตอร์แล้วก็คุยกับเพื่อนในแชทรูมค่ะ ไม่เคยออกไปผับ นอกจากว่าจะไปกับพวกเราเวลามี team night out ประมาณปีละ ๒ ครั้ง แค่นั้นเอง โดยนิสัยแล้วเขาเป็นคนขี้อิจฉาและรับไม่ได้ถ้าตัวเองถูกพบว่าทำผิดนะคะ เขามีปัญหาเรื่อง team relationship มาตลอด เวลาประเมินผลงานรายไตรมาส คะแนนข้อนี้เขาจะหล่นตุ้บลงมาต่ำมาก จาก ๑๐ ได้ ๕ ประมาณนี้น่ะค่ะ ในขณะที่คนอื่นๆได้กัน ๘-๙

เราทำงานกับหนุ่มคนนี้มาตั้งแต่วันแรกที่ทำงานที่บริษัทนี้เลยค่ะ เลยรู้จักเขาดีว่าเขาเข้ากับคนได้ยากมาก คือเขาไม่ยอมรับความคิดใครง่ายๆ แล้วตัวเขาต้องถูกต้องเสมอ เคยมีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นหลายครั้ง ตอนที่เราย้ายมาทำงานที่แผนกนี้ เขาค่อนข้างจะ upset ว่าทำไมเราได้ย้าย แต่เขามาทำงานก่อนเราไม่ได้ย้ายมาด้วย แต่ในที่สุดประมาณ ๕ เดือนหลังจากเราย้ายมา เขาก็ย้ายตามมาค่ะ ก็เลยได้มาทำงานร่วมกันอีกจนปัจจุบัน เขามีปัญหากับคนหลายคนรวมทั้งเราด้วย แต่เพราะเป็นเราไง เขาเลยไม่ค่อยกล้า คนอื่นจะเกรงเขาเพราะเขาทำงานเก่ง แล้วก็รู้เยอะ ก็เลยเหมือนจะเกรงๆกันอยู่ในที แต่ถ้ามีปัญหากับเรา เราก็ถือว่าเราแน่ ก็เลยไม่ยอมเขา พอเขาเห็นเราไม่ยอม เขาก็ข่มเราไม่ได้ แล้วก็อ่อนไปเอง เลยไม่มีปัญหากันค่ะ เพราะเขาก็เกรงใจเรา แต่กับคนอื่นเขาจะถือว่าเขาเก่งกว่า เหนือกว่า ก็จะข่มๆกันหน่อยน่ะค่ะ

นอกจากเรื่องนี้แล้วนะคะ เขาก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเสียหาย แม้เขาจะพูดจาไม่ดีกับเซลล์บ้างในบางครั้ง เวลาที่เซลล์โทรมาถามปัญหา แต่เขาก็ทำงานดีในส่วนที่เขารับผิดชอบ แม้ไม่ดีเลิศ ทำงานไม่สุด แต่ก็จัดอยู่ในระดับดี หลายเรื่องที่เราก็ต้องถามเขาเหมือนกัน คือเขาจะเก่งเรื่องโปรแกรมยุโรป แต่เราจะชำนาญกว่าเรื่องโปรแกรม long haul พวกเอเซีย และอาฟริกา แล้วก็เรือสำราญ แต่เขาทำตัวนี้ไม่เป็น คือเหมือนต่างก็พึ่งกันอยู่ในทีเพราะเก่งคนละอย่าง

ที่บริษัทฯให้เขาพักงานเพราะเกรงว่าจะ harmful ต่อเด็กๆที่ nursery น่ะค่ะ เพราะเราไม่รู้ไงคะว่าเขาทำอะไรมาบ้าง จะมีอันตรายต่อเด็กมั้ย เพราะเรื่อง sexual harassment มันค่อนข้างจะละเอียดอ่อนนะ เท่าที่ดูจากพฤติกรรมส่วนตัวของเขา เขาชอบแชทมาก เล่นคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา โอกาสที่เขาจะทำอะไรไม่ดีออนไลน์ก็มีมากทีเดียว แต่ไม่ได้ทำที่ทำงานหรอกค่ะ เพราะคอมพิวเตอร์ที่ทำงานห้ามเข้าเว็บไซต์ที่ไม่ข้องเกี่ยวกับงาน ขนาดครัวไกลบ้านนี่ยังถูกบล็อคเลย เข้ามาอ่านไม่ได้หรอกค่ะ เรื่องพักงานนี่เขาก็เป็นคนเลือกเองด้วยนะคะ เพราะเขาอาย ไม่กล้ามานั่งทำงานสู้หน้ากับใครๆ ไม่กล้าที่จะได้ยินใครพูดถึงเรื่องของเขา มองหน้าเขา การที่บริษัทฯให้เขาพักงานเขาก็เต็มใจที่จะให้เป็นอย่างนี้ด้วยค่ะ แต่บริษัทฯยังต้องจ่ายเงินเดือนเขาตามปรกตินะคะ เพราะเขายังไม่ได้ถูกศาลตัดสินว่าเป็นคนผิด ฉะนั้น บริษัทฯจะไล่เขาออกก็ไม่ได้ เขายังถือว่าเป็นพนักงานอยู่ แต่ไม่ต้องมาทำงาน นั่งรับเงินเดือนอยู่ที่บ้านจนกว่าเรื่องจะเรียบร้อย แต่พวกเราก็เชื่อว่าถึงแม้ว่าเขาจะบริสุทธิ์หลังจากศาลตัดสินคดีแล้ว เขาก็คงไม่กล้าจะกลับมาทำงานที่นี่อีกหรอกค่ะ

หนุ่มน้อยคนนี้ค่อนข้างเป็นคนเก็บกดค่ะ ทุกครั้งที่เขามีปัญหากับเพื่อนร่วมงานนะคะ เขาก็จะถูกผู้จัดการเรียกไปเตือน เคยมี ๒-๓ ครั้งที่พวกเราที่เหลือขอคุยกับผู้จัดการเรื่องหนุ่มน้อยคนนี้ คือทุกคนจะรู้สึกเหมือนกันหมดว่าเขาไม่ friendly แล้วก็ไม่สามารถ take any error ได้เลย ทำให้เรามีปัญหากระทบกระทั่งกันตลอดเวลาค่ะ แล้วเขาก็แรงมากถ้าจะมีใครไปบอกว่าเขาทำอะไรผิดไป เขารับไม่ได้เลยค่ะว่าเขาทำอะไรผิด เขาคิดเสมอว่าเขาถูกทุกอย่าง

เล่าให้ฟังเรื่องงานนิดนึงก็แล้วกันนะคะ จะได้มีแบ็คกราวด์ว่าที่เล่าเรื่องทำงานผิดนี่หมายถึงอะไร งานของเราคือทำ holidays itinerary ส่งขึ้นระบบขายค่ะ เราจะได้ข้อมูลมาจากแผนกต่างๆ เช่น ข้อมูลเรื่องเที่ยวบิน โรงแรม โปรแกรมทัวร์ excursion อาหาร ราคา ฯลฯ ข้อมูลทุกอย่างที่จะประกอบกันเป็น holidays น่ะค่ะ เราก็จะประมวลจากข้อมูลเหล่านี้แล้วเซ็ทมันขึ้นมาเป็น holidays itinerary จะเป็น tour itinerary หรือ hotel stays itinerary ก็ว่ากันไป เวลาที่เราเซ็ทเสร็จแล้ว ตรวจทานดีแล้ว ก็จะส่งขึ้น live system ในคอมพิวเตอร์เพื่อให้พวกเซลล์ได้ใช้เป็นข้อมูลในการขาย หรือจองทัวร์ค่ะ เซลล์ก็ต้องติดต่อกับเราตลอดเวลาเพราะถ้ามีอะไรผิดไป เช่น ราคาไม่ตรงกับโบรชัวร์ อาหารไม่ตรง อยากจองทัวร์เพิ่มจากที่เราโฆษณาไว้ อยากเปลี่ยนไฟลท์ ฯลฯ เขาก็จะต้องกลับมาหาเราเพื่อสอบถามว่าเราจะ offer ให้ลูกค้าได้มั้ย การทำงานแบบนี้ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ทุกนาที เพราะต้องใช้ข้อมูลเยอะ และตัวข้อมูลเองก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ที่เห็นชัดๆเลยคือโปรแกรมทัวร์เมืองไทย และใกล้ๆ เช่นเวียดนาม ลาว เขมร ที่ต้องบินผ่านกรุงเทพฯ พวกนี้ต้องแก้ใหม่หมดเพราะเปลี่ยนสนามบินจากสุวรรณภูมิ เป็นดอนเมือง งานของเราต้องใช้ประสบการณ์ในการทำงานมาก เพราะยิ่งทำมากก็จะยิ่งชำนาญ และรู้จัก backgroud of holidays programme มาก ความผิดพลาดก็จะน้อยลง ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีทั้งแบบ major error คือผิดพลาดในเรื่องใหญ่ๆ และ minor error คือผิดพลาดเรื่องกระจิ๊บกระจ้อย เล็กๆ น้อยๆ ปรกติถ้าเราเจอว่ามีข้อผิดพลาดอะไร เราต้องหาค่ะว่าผิดตรงไหนก่อน แล้วใครทำผิด เมื่อเจอแล้วเราต้องถามเจ้าตัวเขาค่ะว่าเขาทำอย่างนี้ทำไม มีเหตุผลอะไรหรือเปล่า เพราะบางครั้งสิ่งที่เราเจอแล้วเราคิดว่าผิด แต่มันอาจจะไม่ผิดก็ได้ เจ้าตัวคนที่ทำอาจจะมีข้อมูลลึกกว่าเรา ฉะนั้น ทุกครั้งที่เจอข้อผิดเราจะต้องบอกเจ้าตัวเขาทุกครั้ง หากไม่ผิดก็ดีไป แต่ถ้าผิด เจ้าตัวจะต้องเป็นคนแก้ให้เรียบร้อย หรือถ้าเขายุ่ง คนที่เจอจะช่วยแก้ให้ก็ได้ หนุ่มคนนี้นะคะ เวลาเจอว่าเขาทำอะไรผิดแล้วบอกเขา เขาจะอารมณ์เสียทันที แล้วก็จะพูดจากระแทกแดกดัน ignore ทุกอย่างที่เราบอกเขา เขารับไม่ได้เลยค่ะว่าเขาผิด ทั้งๆที่ความผิดเหล่านี้ไม่ได้มีผลให้เขาถูกไล่ออกหรืออะไรเลยนะ เจอผิดก็คือเจอ เจอแล้วก็แก้ไข แล้วเก็บไว้เป็นบทเรียนเพื่อไม่ทำผิดซ้ำอีก หรือระวังให้มากขึ้น ใช้ความผิดพลาดเป็นบทเรียนเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ในการทำงานน่ะค่ะ

ผู้จัดการบอกว่าเขาเป็นคนที่ทางบ้าน คือพ่อกับแม่เขาตั้งความหวังไว้ที่ตัวเขาสูงมาก ว่าเขาจะต้องเป็นคนเก่งที่สุด ดีที่สุด แต่พอเขาทำไม่ได้เขาก็จะถูกตำหนิจากที่บ้าน ทำให้เขาค่อนข้างจะระวังและไม่อยากให้ใครเห็นว่าเขาทำผิด นอกจากนี้เขาก็ยังขี้อิจฉามากๆด้วย มีครั้งหนึ่งนะคะ เขาเห็นน้องผู้ชายอีกคนหนึ่งหยิบมือถือขึ้นมาดู message เขาเดินไปบอกผู้จัดการเลยว่ามีคนใช้มือถือในเวลาทำงาน (ที่ออฟฟิศเป็นข้อห้ามค่ะ ใช้ได้เฉพาะเวลาพักเท่านั้น) ทั้งๆที่เวลาที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็คงจะแค่ไม่เกิน ๒๐ วินาทีได้มั้ง ถามว่าเสียหายต่อการทำงานมั้ย เราก็ว่าไม่เห็นเป็นไร ในเมื่อเขาไม่ได้ text กลับไป ไม่ได้โทรกลับไป เขาดูแล้วก็ทำงานต่อ มันก็ไม่น่ามีปัญหาแต่หนุ่มน้อยไม่ยอมค่ะ ไปฟ้องผู้จัดการจนได้ น้องคนที่ถูกฟ้องเลยโดนผู้จัดการเรียกไปต่อว่า

วันรุ่งขึ้นหนุ่มน้อยถูกแอนตี้ค่ะ เพื่อนร่วมงานที่เหลือ (ยกเว้นเราเพราะไม่รู้เรื่องนี้ด้วย) พากันไม่พูดกับเขา จนบ่ายเขาคงทนไม่ไหวเพราะไม่ได้พูดกับใครเลยครึ่งวันแล้ว เขาก็เลยถามว่าทำไม ก็ได้รับคำตอบว่าเขาเป็นคนน่าเบื่อ ไม่ friendly และขี้ฟ้องเกินไป ทำเรื่องเล็กๆให้เป็นเรื่องใหญ่ เขาเลยบอกว่าก็เขาไม่มีเพื่อนนี่ เขารู้สึกว่าไม่แฟร์ที่เขาไม่มีเพื่อน ไม่มีใครโทรมาหา หรือ text มาหา แต่น้องผู้ชายคนนั้นมีคน text มาหาทุกวัน โทรมาหาทุกวัน ดูซิคะว่าเขาขี้อิจฉาแค่ไหน

ฟังแล้วคิดอย่างไรกันบ้างคะ






Create Date : 02 เมษายน 2550
Last Update : 3 ตุลาคม 2551 3:58:01 น. 5 comments
Counter : 461 Pageviews.

 
Click! Behind The Overmag Studio

คิดตามแบบสีหน้าจ่ะ


โดย: Overmag วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:3:47:52 น.  

 
พี่หมูแดง สวัสดีค่ะ

ดีใจจังเลย ตื่นเช้ามาเปิดบล๊อกและเจอพี่หมูแดง คิดถึงพี่หมูแดงมากเลยค่ะ แล้วก็แปลกจริง เมื่อวันเสาร์ อยู่ดี ๆ คอลินก็ถามโพล่งขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุยว่า แนนนี่ได้ข่าวพี่หมูแดงบ้างไหม ?? แนนนี่ก็บอกว่าล่าสุดได้การ์ดปีใหม่จากพี่หมูแดง แล้วเห็นว่าจะย้ายบ้าน .... ตกลงพี่หมูแดงย้ายหรือยังคะ พี่หมูแดงส่งข่าวบอกแนนนี่ด้วยนะคะ ไม่อยาก lost track กับพี่หมูแดงเลยค่ะ คอลินเองก็ถูกใจในมิตรภาพจากพี่หมูแดงนะคะ

แนนนี่ไม่ค่อยได้เข้าครัวไกลบ้านเลยค่ะ ไม่ค่อยได้ออนไลน์ นอกจากเช้า ๆ ก่อนไปทำงานแบบนี้แหละ ตอนนี้แนนนี่กลับมาเรียนหนังสืออีก เอา diploma ด้านการเลี้ยงดูเด็ก แล้วพอมาอ่านเรื่องที่พี่หมูแดงเขียนนี่ เข้าใจความรู้สึกของผู้บริหารเลยค่ะ ความปลอดภัยของเด็กต้องมาก่อน โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้ มันค่อนข้างซีเรียสนะคะ ตอนที่ทำคินดี้เดิม เราเคยมีผู้ชายทำงานด้วยในห้องเด็กเล็ก ห้องเดียวกับแนนนี่หน่ะค่ะ แล้วหน้าที่หนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเปลี่ยน nappy เพื่อความดีงาม ความรู้สึกสบายใจ เค้าต้องขออณุญาตจากผู้ปกครองของเด็ก โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงค่ะ ว่าจะอณุญาตให้เค้าเปลี่ยน nappy ลูกสาวหรือไม่ ถือเป็นความถูกต้องค่ะ

แนนนี่ขออณุญาตพี่หมูแดง add บล๊อกพี่หมูแดงนะคะ

คิดถึงพี่หมูแดงมากที่สุดเลยค่ะ

ด้วยรัก
จุ๊บ จุ๊บ
แนนนี่ แอนด์ คอลิน

ปล. ฝากสวัสดีลุงเด๋อด้วยนะคะ



โดย: madam_ozzy วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:4:11:34 น.  

 
ต้องปรับเปลี่ยนความคิดของตัวเองนะผมว่า มันอยู่ที่ความคิดและสภาพจิตใจนะคับ


โดย: frank3119 วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:10:12:53 น.  

 
ดีจ้าาา.......มู๋แดง พี่กำลังจะเข้ามาปิดบล๊อกพี่ พอดีเจอบล๊อกมู๋แดง เลยแวะมาทักทายส่งท้าย

เรื่องพ่อหนุ่มน้อยนั่น พี่อ่านๆไปแล้ว พี่กลับสงสารเค้านะ เค้าเป็นคนที่มีปัญหามาตั้งแต่ที่บ้าน เฮ้อ...หวังว่าเค้าคงไม่ได้ทำผิดอะไรร้ายแรงจนถึงกับต้องหมดอนาคตทางสังคมเลยนะ อายุยังน้อยอยู่มากเลย แต่ก็เข้าใจถึงสภาพจิตใจเพื่อนร่วมงานด้วย เฮ้ออออ.........

คิดถึงนะจ๊ะ แล้วถ้าจะมาเมืองไทยเมื่อไร อย่าลืมส่งข่าวกันมั่งนะจ๊ะ จุ๊บๆๆ


โดย: P.Ta วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:20:46:49 น.  

 
คุณ overmag คะ ท่าทางว่าจะอ่านจนงงเลยนะเนี่ย หน้าหมกมุ่นเชียว อิ.. อิ..

แนนนี่คนดี ฝากจุ๊บๆคอลินด้วยได้มั้ย อิ.. อิ.. คิดถึงเหมือนกันนะ เดี๋ยวเอาไว้พี่จะส่งที่อยู่ใหม่ไปให้นะคะ ตกลงพี่จะย้ายบ้านวันที่ ๑๐ เมษายนนี้นะคะ เพิ่งจะคอนเฟิร์มกับบริษัทฯขนย้ายเมื่อกี้นี้เองค่ะ วันจันทร์เขาจะมาแพคของ แล้ววันอังคารก็จะขนกันเลย พี่ย้ายไปอยู่แฟลตชั่วคราวค่ะ เพราะบ้านใหม่ที่ซื้อไว้ยังไม่เรียบร้อย อยู่ที่นี่ชั่วคราวแล้วก็ต้องย้ายอีกครั้งค่ะ

ปัญหาเรื่องเด็กนี้นะคะ พวกฝรั่งเขาจะระวังกันมาก ถ้ามีอะไรที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของเด็กแม้เพียงนิดเดียว เขาจะไม่ยอมเลยนะคะ ยิ่งพวกโรงเรียนเด็กเล็กต้องระวังมากๆเลย เขารอบคอบมากๆเลยนะคะที่ไปเช็คกับผู้ปกครองก่อน

คุณ frank3119 คะ จริงค่ะที่ว่าต้องเปลี่ยนความคิดตัวเอง แต่มันไม่ง่ายนะคะ เพราะภาพที่เห็นนี่เราซึ่งเป็นคนนอกมองเห็นนิสัยของเขา แต่เจ้าตัวเขาอาจจะไม่รู้ก็ได้นะคะว่าเป็นแบบนี้ สังเกตจากการที่เขาไม่ยอมรับความคิดของใครนี่แหละค่ะ

พี่ตาจ๋า หนูก็ว่าเขาน่าสงสารค่ะพี่ เข้าตำราพ่อแม่รังแกฉันนะคะเนี่ย เพราะพ่อแม่เขาก็ตั้งความหวังไว้สูงซะเหลือเกิน ตอนแรกนะคะที่หนูได้ยินผู้จัดการเล่าเรื่องนี้ หนูคิดว่าพ่อแม่เขาคงเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมาก เลยคาดหวังให้ลูกดีเหมือนตัว แต่พ่อเขาก็ทำงานเป็น security man ที่ออฟฟิศ แม่ก็เป็น carer ไม่ได้ทำงานตำแหน่งใหญ่โตแต่อย่างใดนะคะ หนูเลยเข้าใจว่าเขาอยากให้ลูกได้ดีกว่าตัวเอง เหมือนเติมเต็มความฝันที่เขาทำไม่ได้น่ะค่ะ ทำนองว่าตัวเองทำไม่ได้ ก็ต้องมาเคี่ยวเข็ญให้ลูกทำให้ได้ น่าสงสารคนเป็นลูกนะคะ




โดย: หมูแดงจ้ะ วันที่: 4 เมษายน 2550 เวลา:2:31:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เลดี้บุษบา ท่าเรือแจว
Location :
Dover, Kent, United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




ลูกไทยอยู่ไกลบ้าน
เฝ้ารอวันหวนคืนถิ่น
อยู่หนใดก็ไม่ชิน
ไม่เหมือนถิ่นเคยกินนอน

โลกใบนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก ผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ หลากเผ่าพันธุ์ ต่างด้วยฐานะ อาชีพ การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม จารีตประเพณี แนวคิด และอื่นๆอีกมากมาย แต่ถึงแม้เราจะแตกต่างกัน สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนมีเหมือนๆกัน และเท่าเทียมกัน นั่นคือ คุณค่าของความเป็นคน

เกิดเป็นคนเหมือนกัน อย่าดูถูกกันเองเลยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนไทยไกลบ้านทั้งหลาย เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน รวยจนอย่างไร ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนสัญชาติเป็นอะไร แต่รากเหง้าของคุณก็ยังคงเป็นคนไทยอยู่นั่นเอง

ไม่มีใครชาติไหน ดูถูกเราได้เจ็บปวด เท่ากับเราคนไทยดูถูกกันเองหรอกค่ะ



Friends' blogs
[Add เลดี้บุษบา ท่าเรือแจว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.