Photo Copyright @ "JUM"
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

ต้มส้มกระดูกอ่อน



เมื่อเช้าฝนตกมานิดหน่อย พอค่อยยังชั่วนะคะ ค่อยบรรเทาเบาบางความร้อนลงหน่อย วันนี้เทอร์โมมิเตอร์ที่บ้านแค่ 33 กว่า ๆ ค่ะ ไม่เหมือน 2 วันที่แล้ว 35-36

บิลค่าไฟมาอีกแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่แพ้เดือนก่อน หวังว่าเดือนต่อไปคงจะลดลงมาบ้างค่ะ

วันนี้แวะตลาดเป็นกิจวัตรประจำวันเหมือนเคย เห็นดอกขจรสวยงามมาก ซื้อมา 1 ถุง 20 บาทค่ะ กับข้าวที่บ้านจะต้องมี 2 อย่าง อย่างหนึ่งแห้งอีกอย่างหนึ่งจะน้ำ ในตู้เย็นมีขิงอยู่ค่ะ ซื้อไว้จะมากินกับไส้กรอกอีสาน เลยเลือกทำกับข้าวที่มีวัตถุดิบอยู่ในตู้เย็นบ้างแล้ว ปลาทูก็สวยและสดมาก แต่พักนี้กินบ่อยแล้ว อุดหนุนแม่ค้าหมูบ้างแล้วกันค่ะ

ได้มาเป็นชามนี้แหละ



ส่วนมากที่ทำกินกันบ่อย ๆ หรือพบเจอได้บ่อย ๆ ตามร้านอาหารก็คงจะไม่พ้น ต้มส้มปลากระบอก ต้มส้มปลาทู มาเปลี่ยนเป็นกระดูกอ่อนบ้างอร่อยไปอีกแบบค่ะ รับประกันว่าอร่อย แต่ข้อแม้คือต้องเคี่ยวกระดูกอ่อนให้เปื่อยนุ่มก่อนค่ะ



กระดูกสีขาว ๆ เลย เวลากัดและเคี้ยวไปกรุบ ๆ มาก



วันนี้ไม่ใส่โลโก้นะ คอมพ์ส่วนตัวพัง ฮิฮิ เดี๋ยวคืนนี้ขอซ่อมก่อน

กระดูกอ่อนซื้อมาครึ่งกิโล 63 บาทค่ะ แต่แบ่งทำ 4 ขีดได้ค่ะ ที่เหลือโปะรวมไปกับของในตู้เย็น อีก 2 วันจะเอาไปทอดกระเทียมค่ะ

ดูก่อนว่าเค้าสับมาชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ ถ้าใหญ่มากไปเราก็สับให้ชิ้นเล็กลงหน่อย ประมาณ 1.5 x 1.5 นิ้วค่ะ เดี๋ยวเคี่ยวแล้วมันจะหดลงหน่อยนึง จะได้กินพอดีปากหน่อย ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ล้างน้ำหนึ่งครั้งค่ะ



เทใส่หม้อ หม้อที่ใช้ควรเป็นหม้อสแตนเลส หม้อเคลือบ เพราะเดี๋ยวต้องมีการปรุงรสด้วยน้ำมะขาม ถ้าใช้หม้ออลูมิเนียมไม่ปลอดภัยต่อชีวิตเท่าไรค่ะ น้ำมะขามหรือเกลือหรือน้ำปลาจะกัดผิวภาชนะได้ ไม่ตายทันที แต่ผ่อนส่งได้ค่ะ

เติมน้ำสะอาดไปพอสมควร ลองกะดูค่ะ เราให้ท่วมมาประมาณข้อนิ้วกับอีกครึ่ง



ยกขึ้นตั้งเตา เปิดไฟ กลาง ๆ ให้เดือดแล้วหรี่ไฟลงอ่อนเลย ถ้าไฟกลางนาน ๆ น้ำจะขุ่นได้ค่ะ



เดือดแล้วเค้าจะมีฟองออกมาเรื่อย ๆ ให้หมั่นช้อนทิ้ง ตั้งไฟอ่อน ๆ ไว้แบบนั้น เดี๋ยวเราไปทำอย่างอื่นในช่วงเวลานี้ค่ะ



ช้อนฟองทิ้งน้ำจะได้ใส ๆ ดูน่ากินค่ะ แต่ฟองจะออกมาเรื่อย ๆ ทำโน่นทำนี่ไปก็เดินมาดูแล้วช้อนฟองออกไปเรื่อย ๆ ค่ะ



อย่างอื่นที่ต้องเตรียม

ส่วนเครื่องแกง
หัวหอมแดง 5-6 หัว
รากผักชี 1 ราก
กะปิ 1 ช้อนชา
พริกไทยเม็ดหรือพริกไทยป่นมากน้อยตามชอบ

ขิงซอย
ต้นหอม
พริกชี้ฟ้าสีแดง

มะขามเปียก
น้ำตาลปีบ
น้ำปลา/เกลือ
น้ำสะอาด



หัวหอมแดง ปอกล้างและหั่นชิ้นเล็ก ๆ จะได้ไม่ต้องออกแรงโขลกมากค่ะ
รากผักชี บางตำรับก็ไม่ใส่ แต่ใส่แล้วหอมขึ้น ทำเหมือนโขลกสามเกลอนั่นละค่ะ



ถ้าใช้พริกไทยเม็ดให้โขลกพริกไทยก่อน แต่ถ้ามีพริกไทยป่นติดบ้านและไม่มีพริกไทยเม็ด ใช้พริกไทยป่นก็ได้ค่ะแต่ใส่ทีหลัง

โขลกพริกไทยเม็ดให้ละเอียด ตามด้วยรากผักชีและหอมแดงจะหันไปหอมคนข้าง ๆ ด้วยก็ได้เผื่ออยากได้กำลังใจ



ใส่กะปิตามลงไป เลือกกะปิดี ๆ นะคะ



โขลกให้เข้ากัน ตอนโขลกหัวหอมถ้าเกรงว่าจะกระเด็นมากใส่เกลือลงไปหน่อยก็ได้นะคะ ถ้าใช้พริกไทยป่นอย่าลืมใส่ไปตอนโขลกหัวหอมด้วยค่ะ



กระดูกอ่อนที่เคี่ยวไว้เคี่ยวต่อไปเหมือนเดิมค่ะ ถ้าน้ำมันแห้งเหือดไปมากก็เติมทีละถ้วยก็แล้วแต่ว่าจะพร่องมากน้อยแค่ไหนนะคะ เราจะเคี่ยวประมาณ 30-40-50 นาที แล้วแต่จะมีเวลามากน้อยค่ะ

เวลายังเหลือ กระดูกอ่อนยังไม่นิ่มพอ ทำอย่างอื่นต่อค่ะ ขิงปอกเปลือกล้าง หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วซอยเป็นเส้นยาว ๆ เราใช้ขิงอ่อนปนขิงแก่ค่ะ ขิงอ่อนจะเคี้ยวง่าย รสชาติไม่เผ็ดมาก ขิงแก่อาจมีเสี้ยนปนและรสชาติเผ็ดร้อนกว่าค่ะ จะซื้อเค้าก็ได้สักขยุ้มมือ แต่บางทีแม่ค้าไม่ขาย ขายยกขีด เหลืออีก ถ้าแบบนั้นเอาไปผัดขิงต่อค่ะ



อย่าลืมขยำน้ำมะขามเปียกไว้ค่ะ



ต้นหอม จัดการทำเหมือนทั่ว ๆ ไป แล้วตัดท่อนสั้น
พริกสีแดง ใส่เพื่อเพิ่มสีสันเท่านั้นเอง รสชาติความเผ็ดนั้นมาจากพริกไทยในเครื่องแกงและขิงซอยค่ะ



ต้มกระดูกอ่อนไปถึงไหนแล้ว ไหม้หรือยัง อิอิ

ต้มจนกระดูกอ่อนนุ่มพอใจเราแล้ว ลองดูถ้าน้ำมันเหือดแห้งมากก็เติมลงไปตามแต่จะเห็นสมควรให้พอเหมาะพอดีไว้มีน้ำซดคล่อง ๆ คอ หรือราดข้าวพอเหมาะเจาะ อย่าให้โจ๋งเจ๋งค่ะ ดูว่าถ้าผิวหน้ามีน้ำมันลอยเยอะให้ช้อนทิ้งไปด้วย หรือถ้าชอบแบบไม่มีน้ำมันเลยให้ต้มค้างคืนได้เลยค่ะ แล้วใส่กล่องหรือหม้อ ปิดฝาแล้วแช่ตู้เย็น วันรุ่งขึ้นส่วนน้ำมันจะลอยเป็นผืนอยู่ด้านบน เราก็ตักทิ้งไปแล้วค่อยทำต้มส้มก็ได้ค่ะ



ทีนี้ตักเครื่องแกงที่เราโขลกไว้ใส่ลงไปค่ะ ถ้าเสียดายเครื่องแกงที่ก้นครก เทน้ำใส่ไปสักหน่อย เอาทัพพีคน ๆ แล้วยกหม้อมาเทตามไปเลยค่ะ บ้านไหน ๆ ก็ทำกัน บ้านแม่หลิ่มก็ทำค่ะ แต่ระวังอย่าซุ่มซ่ามทำครกหล่นใส่เท้าตัวเองนะจ้า



คนให้เครื่องแกงกระจายทั่วหม้อ รอให้เดือด ไฟอ่อนไปเปิดให้แรงขึ้น หอมเชียวแหละค่ะตอนเดือด ๆ นี่



ปรุงรส มี 3 รส รถยนต์เก๋ง 4 ล้อ รถแทรกเตอร์ และรถจักรยาน

ไม่ใช่จ้า เปรี้ยว เค็ม หวาน

ใส่มากใส่น้อยขึ้นกับปริมาณน้ำในหม้อค่ะ เราใช้วิธีชิมเอาเสมอ



รสเค็มนี่เราใช้ 2 อย่างผสมกันค่ะ น้ำปลาและเกลือ เราว่ามันอร่อยกว่าใส่อย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ



หวาน ถ้าใช้น้ำตาลทรายจะไม่อร่อยไม่เท่าน้ำตาลปีบและไม่หอมอีกต่างหากค่ะ



อย่าลืมให้น้ำตาลละลาย ชิมรสชาติดู ของเราเปรี้ยว เค็ม และหวานตามท้ายนะคะ เผ็ดนั้นจะมาจากขิงและพริกไทยค่ะ

ให้เค้าเดือด กระดูกลอยเท้งเต้งพักนึง ว่ายน้ำออกกำลังกายหน่อย



ใส่ขิงซอยค่ะ วันนี้เราซอยหยาบหน่อย แต่ก็ดีเวลาเคี้ยวจะได้เคี้ยวเจอ หากบางไปกินแล้วหายไปหมดเลยค่ะ



ทิ้งเวลาไว้พักนึง ให้ขิงเค้าได้ถูกความร้อนถ้วนทั่ว จากที่เค้าแข็ง ๆ หน่อยจะอ่อนตัวลง ความเผ็ดจะออกมาผสมกับน้ำในหม้อ ลองตักชิมดูค่ะ คราวนี้จะมีความเผ็ดร้อนเพิ่มขึ้นมา

จะใส่ต้นหอมหั่นท่อนสั้นและพริกที่หั่นไว้ลงไปเลยก็ได้ค่ะ แต่ถ้าแช่ไว้นาน ๆ ต้นหอมจะสีไม่สวยเท่านั้นเองค่ะ






 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2553
15 comments
Last Update : 12 พฤษภาคม 2553 21:31:34 น.
Counter : 1883 Pageviews.

 

 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว 12 พฤษภาคม 2553 16:58:10 น.  

 

บ้านนี้มีแต่ของอาหย่อยๆ น่ากินอีกแล้ว

 

โดย: Ananas99 12 พฤษภาคม 2553 18:03:58 น.  

 

น่ากินสุดๆ ^^

 

โดย: Chic_Angel 12 พฤษภาคม 2553 21:42:19 น.  

 

น่ากินอย่างแรงค่ะ

 

โดย: น้องเสือน้อย IP: 87.149.206.134 12 พฤษภาคม 2553 21:43:21 น.  

 

เห็นแล้วน้ำลายไหล5555

 

โดย: kaminta IP: 113.53.69.110 12 พฤษภาคม 2553 21:53:47 น.  

 

ภาพชัดซะจนต้องแอบกลืนน้ำลายเลยค่ะ แหม ถ้ามีกลิ่นด้วยนี่แจ่มเลยนะคะ

 

โดย: แม่ปุ้มปุ้ย 12 พฤษภาคม 2553 22:03:47 น.  

 

น่ากินจังเลยค่ะคุณจุ๋ม เปรี้ยวปากมากค่ะ

 

โดย: ClayAnn 13 พฤษภาคม 2553 5:24:37 น.  

 

น่ากินจังค่ะ

 

โดย: siam2maamy 13 พฤษภาคม 2553 15:57:52 น.  

 

เครื่องขาดหลายอย่างเลยค่ะ
ขอหม่อนหม่ำผ่านจอไปก่อนนะคะ

 

โดย: ซามอ 14 พฤษภาคม 2553 1:52:29 น.  

 

อื้อฮือ น่ากินอีกแล้วววว กรี๊ดดดด หิวข้าววววววว

 

โดย: แอบอู้ดูทู้ผู้พัน 14 พฤษภาคม 2553 18:08:19 น.  

 

มารายงานค่ะ ลองทำตามสูตรแม่หลิ่ม อร่อยมากถึงมากที่สุดเลยค่ะ


ขอบคุณมากนะคะ

 

โดย: น้องเสือน้อย IP: 79.224.213.98 15 พฤษภาคม 2553 2:19:16 น.  

 

แอบมาขโมยอีกแล้วคะนำ้หนักขึ้นด้วย เอารูปลงได้เมื่อไหร่จะส่งการบ้านให้ดูคะ

 

โดย: aammttaa (coat armor ) 15 พฤษภาคม 2553 19:16:54 น.  

 

เเม่จ้าววววววววโว๊ยยยย
น่ากินนนอย่างงเเรงงงงค่ะ
หิวววเรยยยยยTT

 

โดย: ลำพูต้นจันทร์ IP: 58.8.154.94 16 พฤษภาคม 2553 16:05:21 น.  

 

ชอบทุกรายการอาหารที่คุณจุ๋มใจดีแจกเลยค่ะ เมื่อก่อนทำกับข้าวไม่เป็นเลย เพราะอาศัยทานนอกบ้านเอา แต่ตอนนี้มาเรียนอยู่ต่างประเทศ เลยต้องหัดทำทานเอง ก็อาศัยเว็บของคุณจุ๋มนี่แหละค่ะ ตอนนี้พอทำเป็นหลายอย่างแล้ว ปกติแอบเข้ามาอ่าน แต่วันนี้อยากขอบคุณผ่านตัวอักษรค่ะ เป็นกำลังใจให้สร้างสรรค์ผลงานดีๆออกมาเรื่อยๆนะคะ

 

โดย: กานชิ IP: 68.63.24.68 17 พฤษภาคม 2553 10:38:59 น.  

 

ขอบคุณ

 

โดย: kung IP: 125.27.208.199 18 พฤษภาคม 2553 9:36:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แม่สลิ่ม
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 980 คน [?]




Always be myself
ปากตรงกับใจ
ไม่สตอเบอแหล
และไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนะจ๊ะ

Emergency contact me 081-804-0952

Going Home : Mark Knopfler
.
.
.
Friends' blogs
[Add แม่สลิ่ม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.