Photo Copyright @ "JUM"
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
16 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 

ลืมกลืน





วันนี้เนี่ยจุ๋มทำแบบหยอดขนมบนใบตองนะคะ ซึ่งอาจจะต่างจากสมัยนี้ที่ทำกันเค้าจะหยอดในถ้วยพลาสติกแบบถ้วยวุ้นค่ะ จุ๋มว่าขนมไทย ๆ แบบนี้ทำกินเองก็เลยอยากจะอนุรักษ์ไว้สักหน่อย เพราะใบตองมันก็ไม่ได้หายากมากมาย การทำใบตองก็ไม่ได้ยุ่งยากเลย

มาดูการเตรียมใบตองก่อนนะคะ

อุปกรณ์ก็มี
- ใบตอง ทางเดียวก็ทำได้เยอะแยะแล้วคะ ขนมสูตรนึงที่จุ๋มทำนี่ใช้ทางเดียวก็เหลือค่ะ แอบไปตัดแถว ๆ บ้านหรือขอเค้ามาก็ได้ ไม่ต้องซื้อหาค่ะ
- กระดาษแข็ง (แต่จุ๋มไม่ได้ใช้ค่ะ)
- วงเวียนหรือฝากระบอกน้ำหรือถ้วยอะไรก็ได้ที่เส้นผ่าศูนย์กลางสัก 2 นิ้ว
- กรรไกร
- ที่เย็บกระดาษและลูก (แม็กและลูกแม็ก)
- ปากกา




ขั้นแรกต้องริดใบตองออกจากทางค่ะ ใบตองทางนึงมี 2 ซีก ซ้ายกับขวา ก็เอามีดริดใบตองออกมานะคะ จากนั้นฉีกเป็นริ้ว ๆ ขนาดริ้วให้กว้างประมาณ 2.5 นิ้ว (2 นิ้วครึ่ง) เอาไว้ หาผ้าเช็ดใบตองทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ของจุ๋มเช็ด 2 รอบจ้า ผ้าเปียกครั้งนึงตามด้วยผ้าแห้งอีกครั้งนึง

ถ้ามีวงเวียน เอาวงเวียนวงเป็นวงกลมให้เส้นผ่าศูนย์กลางของวงกลมได้ 2 นิ้ว คือกางวงเวียนรัศมี 1 นิ้วอ่ะคะบนกระดาษแข็งแล้ววาดวงกลม จากนั้นตัดวงกลมนั้นออกมา

แต่พอดีจุ๋มไปเอาฝาจุกของขวดที่ใส่ซอสมะเขือเทศมาวงบนใบตองเลยอ่ะคะ เพราะมันขนาด 2 นิ้วพอดี ใช้ปากกาวาดวงลงใบตองแล้วตัดเอาเลยคะ สัก 2-3 อันก่อนเป็นต้นแบบ

ที่จุ๋มไม่ทำใส่กระดาษแข็งเพราะจุ๋มเห็นว่าทำนิดเดียวอ่ะ สรุปง่าย ๆ คือจุ๋มขี้เกียจหากระดาษแข็งง่ะ แอบสารภาพความขี้เกียจ

ก็ได้ต้นแบบมางี้ก่อนนะ




ได้ต้นแบบแล้วก็เอาใบตองที่ฉีกเป็นริ้วไว้มาซ้อนกันสัก 3-4 ใบ แล้วเอาแบบวางด้านบน ใช้กรรไกรตัดใบตองที่ซ้อน ๆ กันไว้ตามต้นแบบค่ะ

ใบตองริ้วนึงถ้าริ้วมันยาวบางทีตัดได้ 3 วงแนะคะ ก็ตัดไปเรื่อย ๆ นะคะ สักประมาณ 70 วง




ได้วงใบตองแล้วก็มาทำแบบนี้ค่ะ ด้านที่เราจะไว้หยอดขนมคือด้านเขียว ดังนั้นเราเอาด้านนวลชนด้านนวลค่ะ

ถ้าวงล่างเส้นทางใบตองอยู่ในแนวตั้ง วงบนเส้นทางใบตองก็อยู่ในแนวนอนคะ หรือจะสลับกัน ใบบนเส้นทางอยู่แนวตั้ง ใบล่างเส้นทางอยู่ในแนวนอนก็ไม่ผิดนะจ้า




ปกติใบตองเนี่ย ส่วนด้านปลายใบมันจะนิ่ม ด้านชิดกับทางใบมันจะแข็ง ถ้ามีวงนึงมันอ่อน อีกวงก็เลือกที่แข็ง ๆ หน่อยนะคะ ถ้า 2 วงอ่อนหมด เดี๋ยวมันจะหยิบจับลำบากตอนกินขนมอ่ะจ้า

จับใบตองประกบกันเป็นฝาแฝดแล้วก็เอาแม็กเย็บติดกันเลยจ้า




ก็ทำไว้แล้วเรียงใส่ถาดหรือจานไว้นะคะ




ส่วนผสมจุ๋มจะแบ่งเป็น 2 ส่วนนะคะ คือ ส่วนผสมตัวขนมและส่วนผสมหน้าขนม

ดูส่วนผสมตัวขนมกันก่อนค่ะ
- แป้งถั่ว 1/2 ถ้วยตวง (ใช้ถ้วยตวงของแห้ง)
- น้ำ 2 ถ้วยตวง (ใช้ถ้วยตวงของเหลว)
- น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วยตวง (ใช้ถ้วยตวงของแห้ง)
- สีผสมอาหารตามชอบ ชมพู เขียว เหลือง

แต่จุ๋มใช้ใบเตยมาตำแล้วคั้นเอาน้ำใบเตยค่ะ เลยได้สีเขียวธรรมชาติ ถ้าใครหาใบเตยไม่ได้ก็ใช้สีผสมอาหารแทนนะคะ

ไม่แนะนำให้ไม่ใส่สี เพราะเดี๋ยวหน้ามันจะหยอดกะทิผสมกะแป้ง มันจะขาวไปหมดอ่ะคะ ไม่น่ารับประทานนะจ้า




ถ้าใครใช้ใบเตยนะคะ 3-4 ใบก็พอค่ะ ล้างให้สะอาดตัดตรงโคนขาว ๆ ออก แล้วซอยขนาดสักประมาณ 0.3 เซนติเมตร ยิ่งซอยละเอียดก็ยิ่งโขลกแล้วละเอียดเร็วค่ะ พอละเอียดแล้วเติมน้ำไปหน่อย บีบ ๆ คั้น ๆ แล้วกรอง คั้นให้ได้น้ำใบเตยเข้มข้น 1/8 ถ้วยตวง (ถ้วยตวงของเหลว) ก็พอแล้วค่ะ ได้มาหน้าตางี้นะ แต่จุ๋มใช้แค่ครึ่งนึงของตรงนี้อ่ะคะ (ในรูปนี้ 1/4 ถ้วยอ่ะจ้า)

ใครขี้เกียจโขลกก็ซอยให้ละเอียดแล้วใส่เครื่องบดน้ำเติมน้ำไปหน่อยแล้วก็ปั่นเลยคะ ได้แล้วก็กรองเอาแต่น้ำค่ะ




อุปกรณ์กวนขนม กระทะทองและพายไม้ ถ้าไม่มีกระทะทองใช้หม้อเคลือบหรือหม้อเทปล่อนกับพายไม้แทนได้ค่ะ





ใครไม่เคยเห็นแป้งถั่ว ถุงมันจะเป็นแบบนี้นะคะ หาซื้อได้ตามตลาดสด แต่ถุงนี้จุ๋มซื้อจากเดอะมอลล์บางกะปิอ่ะคะ ใน Foodland ก็มีค่ะ แต่โลตัส บิ๊กซี ไม่เคยเจอค่ะ ราว ๆ 40 บาทหรือไงเนี่ย จำไม่ค่อยได้ค่ะ สะสมไว้นานแล้วค่ะ




เอาแป้งถั่ว น้ำตาลทราย น้ำ 1 ถ้วยก่อนค่ะ เทลงไปในกระทะทอง




คน ๆ บี้ ๆ อย่าให้แป้งเป็นเม็ด แล้วก็ให้น้ำตาลทรายละลายค่ะ

ในรูปยังเห็นมีเม็ดนิด ๆ แต่จุ๋มบี้ ๆ ต่อไปจนไม่มีเม็ดนา พอดีภาพมันไม่ชัดเลยเอาภาพนี้มาแทนจ้า





แล้วก็ใส่น้ำใบเตยคั้นลงไปคะ จุ๋มใส่ไปแค่ 1/8 ถ้วยนะ กับน้ำที่เหลืออีก 1 ถ้วยค่ะ คน ๆ ให้เข้ากันเหมือนเดิมจ้า

ถ้าใครไม่ได้ใช้น้ำใบเตยก็ใส่สีผสมอาหารไปตอนนี้นะคะ สักนิดหน่อยพอ เพราะกวนแล้วสีมันจะเข้มขึ้นอีกค่ะ สีแปร๊ดไปก็ไม่น่าทานอีกค่ะ





แล้วก็เอาไปตั้งไฟกวนค่ะ เริ่มแรกใช้ไฟกลางไปทางอ่อนก่อนค่ะ แบบว่าเตาแก๊สจุ๋มจะมีช่องให้ไฟมันออก 2 วงอ่ะ วงนอกกับวงใน จุ๋มเปิด 2 วงเลยอ่ะ แต่วงนอกให้ไฟอ่อน ๆ จ้า

กวน ๆ ตลอด ห้ามปล่อยให้เดือดเฉย ๆ แป้งมันจะเป็นก้อน จุ๋มเผลอถ่ายรูปแป๊บเดียวมันยังเริ่มเป็นก้อนเลยคะ





พอมันเริ่มงวด แป้งมันจะเริ่มข้นขึ้นเรื่อย ๆ คะ ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่กวนจะเห็นว่ามันเดือด ๆ ก็หรี่เหลือไฟอ่อน ๆ แล้วกวนต่อค่ะ สีสวยเชียวเนอะ





กวนไปเรื่อย ๆ ให้ข้นกว่านมข้นนิดนะคะ ประมาณว่าตักหยอดแล้วไม่ไหลอ่ะ ลองยกพายดูก็ได้ค่ะว่าถ้าเอียงพายลงแล้วมันยังไหลเป็นทางเปล่า ถ้ายังไหลอยู่ใช้ไม่ได้ค่ะ ต้องกวนต่ออีกหน่อยค่ะ ประมาณนี้อ้ะ





แล้วก็รีบตักหยอดบนใบตองที่เตรียมไว้ค่ะ แต่ยังให้กระทะตั้งอยู่บนเตาอยู่ไฟอ่อน ๆ นะคะ เพราะถ้าไม่ตั้งไฟไว้มันจะแข็ง หยอดแล้วไม่สวยอีกอ่ะ แต่บางทีเอากระทะตั้งไฟไว้มันก็จะงวดขึ้นเรื่อย ๆ จุ๋มแนะนำให้ต้มน้ำร้อนแล้วหล่อกระทะทองในกะละมังดีกว่าค่ะ

จากนั้นก็ใช้ช้อนตักหยอดบนใบตองประมาณ 1 ช้อนชา ใช้ช้อนกาแฟตักก็ได้ค่ะ ใช้ช้อนใหญ่ ๆ ตักมันจะล้นเกินไปตองเอาง่าย ๆ ได้เลยคะ ถ้าหยอดแล้วมันไม่ค่อยจะลงบนใบตองที่ตัดไว้ ก็ใช้ช้อนอีกคันช่วยปาดเอาได้ค่ะ

แต่จุ๋มชอบกินตอนมันอุ่น ๆ มากเลยอ่ะ อร่อยกว่าตอนที่แข็งแล้วอีกค่ะ

ถ้ากวนงวดเกินไปเนี่ย ตอนขนมเย็นแล้วมันจะแข็งเกินไปนะคะ ไม่นิ่มนวล แล้วมันจะไม่สมชื่อ "ขนมลืมกลืน" ง่ะ




ได้ตัวแล้วมาทำหน้ากันต่อเนอะ
- แป้งข้าวจ้าว 1/4 ถ้วยตวง (ถ้วยตวงของแห้ง)
- น้ำกะทิ 3/4 ถ้วยตวง (ถ้วยตวงของเหลว) ใช้มะพร้าวขูดขาวนะคะ ถ้าไปซื้อที่ตลาดบอกเค้าให้ขูดผิวดำ ๆ ของมะพร้าวให้ก่อนสีค่ะ แต่วันนี้จุ๋มใช้ชาวเกาะ อิอิ จุ๋มใช้กะทิจากถุงเกือบ 1/2 ถ้วย ผสมกับน้ำให้ได้ 3/4 ถ้วยค่ะ
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- ถั่วทอง 2 ช้อนโต๊ะ




ถั่วทองหน้าตาแบบนี้นะคะ หรือเรียกว่า "ถั่วเขียวกระเทาะเปลือก" ค่ะ มันคนละอย่างกับถั่วเหลืองนะจ้า





ถั่วทอง เลือกเม็ดเสียออก ฝัดเศษผงออก ล้างน้ำผ่าน ๆ พอนะคะ ครั้งเดียวพอ สรงให้สะเด็ดน้ำ คั่วไฟอ่อน ๆ ให้เหลืองหอมค่ะ ถ้าแช่ไว้นานเนี่ยมันพองอืดเละพอดีคะ
วันนี้งัดกระทะเทปล่อนมาใช้ เอิ๊ก ๆๆๆ ปกติไม่ค่อยชอบใช้นะเนี่ย แต่ก็ชอบสะสมง่ะ
บางร้านที่ขายก็ไม่ใส่ถั่วทองคั่วนะคะ ลดต้นทุน ขี้เกียจคั่ว และขี้เกียจหยอดแน่ ๆ เลยอ่ะ





กะทิ แป้งข้าวจ้าว เกลือ เทรวมใส่ในกระทะทองค่ะ
ใครใช้มะพร้าวขูดใช้ประมาณ 1 - 1 1/2 ขีดนะคะ คั้นให้ได้กะทิ 3/4 ถ้วยตวงค่ะ แต่ซื้อมะพร้าวแค่นี้แม่ค้ามองหน้าแน่ ๆ ง่ะ





คน ๆ รวมกันอย่าให้แป้งเป็นเม็ดค่ะ




แล้วก็เอาไปตั้งไฟอ่อน ๆ กวนให้แป้งสุก กวนตลอดนะคะ ใช้เวลาไม่นานอ่ะจ้า แป้งจะข้น ไม่กวนเดี๋ยวแป้งเป็นเม็ด ไม่เนียน ไม่สวยนะจ้า เสร็จแล้วปิดเตายกลงค่ะ





หยอดถั่วทองที่คั่วไว้เล็กน้อยค่ะ




ลองทำกันดูได้เลยจ้า ถ้าไม่สะดวกหาใบตองก็ใช้ถ้วยพลาสติกแบบที่ใส่วุ้นเล็ก ๆ แทนได้ค่ะ ใส่กล่องไปแจกใครก็สะดวกค่ะ

ขอให้อร่อย ๆ โดยถ้วนหน้านะจ้า




 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2548
17 comments
Last Update : 22 มิถุนายน 2549 10:11:07 น.
Counter : 14494 Pageviews.

 


อร่อยจนลืมกลืนใช่มั้ยคะคุณจุ๋ม

 

โดย: พี่แพทค่ะ IP: 203.209.80.11 16 พฤศจิกายน 2548 8:44:22 น.  

 

จำได้ว่า ตอนที่จังหวัดจัดงานวัฒนธรรมไทย ขนมลืมกลืนเนี่ย จุไม่ลืมกลืนเลย กลืนได้กลืนดี

 

โดย: ju (กระจ้อน ) 16 พฤศจิกายน 2548 10:42:09 น.  

 

** พี่แพทขนมมันนิ่ม ลื่น ๆ จนตอนกินลืมไปแล้วว่ากลืนไปตอนไหนอ่ะคะ

** ดีจ้าคุณ ju ตอนนี้หาขนมลืมกลืนอร่อย ๆ ยากนะคะ จุ๋มเจอแต่แข็ง ๆ อะคะ

 

โดย: แม่สลิ่ม 17 พฤศจิกายน 2548 14:35:00 น.  

 

สีของใบเตยสวยมากเลยครับ
บ้านผมปลูกทั้งใบเตย ทั้งต้นกล้วย
เด๋วจะจดสูตรไปให้คุณแม่ลองทำ
ผมชอบกลิ่นใบเตยมากกว่ากลิ่นมะลิอีกอ่ะ

 

โดย: maczy 26 พฤศจิกายน 2548 14:10:47 น.  

 

สีสันน่ากินมากเลยค่ะ...เห็นแล้วก็แทบไม่อยากกลืนเลย แต่ชอบกลืนมากๆ เลยค่ะ ปกติจะซื้อที่ซอยละลายทรัพย์บ่อยมาก แบบชนิดที่ไม่ลืมกลืนเลยค่ะ.... ว่าแล้วก็ขอจดสูตรมาลองทำเองบ้างดีกว่า แต่ว่าจะกลืนได้หรือเปล่านี่สิ

 

โดย: เชย IP: 89.55.40.244 7 กุมภาพันธ์ 2549 20:27:26 น.  

 

มีใครตอบที่ไหนบ้างแล้วหรือเปล่าครับ
คือ "ทำไมถึงเรียกลืมกลืน คงบอกยากว่าใครเป็นคนเรียกคนแรก ต้นตอเป็นมาอย่างไรครับ"

ขอบคุณครับ

 

โดย: Subu IP: 68.253.197.228 21 กุมภาพันธ์ 2549 3:50:38 น.  

 

น่าทานมั่กๆเรยค่ะ

 

โดย: Orangy IP: 203.152.24.97 15 พฤษภาคม 2549 14:47:35 น.  

 

ดีดีดีดีดีดีดีดีดีมาก






 

โดย: ชลนิภา IP: 124.120.186.27 18 กันยายน 2550 16:32:22 น.  

 

ที่เค้าเรียกลืมกลืน เพราะปกติเมื่อทานขนมชนิดนี้ มันจะลื่นลงคอได้ง่ายๆๆไปเลยคะ จนไม่ทันได้กลืนเลยหละ โบราณเค้าก็เลยเรียกว่า ลืมกลืน...

ปล. จากที่ ผู้ใหญ่เล่ามาเนอะ

 

โดย: a_mulika 24 กุมภาพันธ์ 2551 15:22:41 น.  

 

น่ากินน

 

โดย: +.*+.. คนน่ารัก ..+*.+ IP: 124.120.204.183 16 พฤษภาคม 2551 17:54:22 น.  

 

น่ากินจังค่ะ

 

โดย: น้องเจนชอบกินขนมไทย IP: 124.120.68.55 16 พฤษภาคม 2551 18:48:20 น.  

 

โห....คิดถึงขนมนี้มากๆเลยค่ะ
หากินยากมากเลยสมัยนี้
สีมันหวานใสสวยจริงๆ

ชอบแวะมาดูพี่ทำขนมใหม่ๆค่ะ^^

 

โดย: PaMePursE IP: 125.24.236.10 16 สิงหาคม 2551 12:10:19 น.  

 

น่าทานมากค่ะคุณน้า จะลองให้คุณแม่ทำค่ะ

 

โดย: น้องหยง IP: 124.121.24.151 2 ธันวาคม 2551 16:14:28 น.  

 

น่าทานมากเลยค่ะ ไม่มีกระทะทองเหลือง ใช้กระทะทองเหลืองใช้ภาชนะอย่างอื่นกวนแทนได้ไหมค่ะ

 

โดย: หมู IP: 125.24.23.70 21 กุมภาพันธ์ 2552 0:09:29 น.  

 

ไอเดียเริศมากคะ
ขนมออกมาก็สวย
สูตรก็อร่อย
แต่ดิฉันอยากเสนอแนะหน่อยได้ไหมคะ
คือ ไม่อยากให้ใช้เเม็กเย็บเลย เมื่อมันโดนความร้อนมันอันตราย
เเล้วเผื่อเด็กกินเข้าไป...อันตรายมากเลยนะคะ
ทางที่ดีใช้แค่ใบเดียวหรือเข็มกับด้วยเย็บดีกว่าไหม ( ถึงแม้มันจะยุ่งยาก )

ปล. หวังว่าคงไม่โกรธนะค่ะ

 

โดย: Pooh -jung IP: 81.189.24.232 5 พฤษภาคม 2553 20:05:37 น.  

 

รบกวนด้วยนะค่ จะถามว่า ถ้าเกิดจะหาใบตองที่ดีที่สุดที่จะนำมาทำข้าวต้มมัด จะหาได้ที่ไหนค่ะ รบกวนด้วยนะค่ะ พอดีจะมีโครงการ ทำข้าวต้มมัดค่ะ แต่ต้องหาของทุกอย่างที่ดีที่สุด เช่น ใบตอง ข้าวเหนียว ถั่ว กล้วย แต่ไม่รู้จะหาที่ไหนได้ค่ะ เลยขอ รบกวนด้วยนะค่ะ

 

โดย: มิ้น IP: 124.121.60.57 15 สิงหาคม 2554 10:02:09 น.  

 

รบกวนค้วยนะค่ะคืออยากทราบประวัติความเป็นมาของขนมลืมกลืนด้วยนะค่ะ

 

โดย: air IP: 118.173.52.122 16 สิงหาคม 2554 17:03:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


แม่สลิ่ม
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 980 คน [?]




Always be myself
ปากตรงกับใจ
ไม่สตอเบอแหล
และไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนะจ๊ะ

Emergency contact me 081-804-0952

Going Home : Mark Knopfler
.
.
.
Friends' blogs
[Add แม่สลิ่ม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.