มันเป็นช่วงบ่ายที่ร้อนอบอ้าว แสงอาทิตย์สีแดงเข้มตัดกับท้องฟ้าสีม่วงหม่นตอนที่ทซาร์มิน่าเดินไปยืนที่หน้าต่างบานสูง นางแมวป่ามองเห็นนักรบหนูในชุดเกราะยืนอยู่บนยอดกำแพง เขาคงจะปีนขึ้นมาตามบันไดที่ทหารขี้ขลาดของนางทิ้งไว้ตอนถอยหนีกลับเข้ามาในบริเวณปราสาท
นางแมวป่าจิกเล็บอันแหลมคมลงบนขอบหน้าต่างอย่างเกรี้ยวโกรธ ที่ไม่สามารถหักห้ามได้
เจ้าต้องการอะไรหรือเจ้าหนู?
พร้อมๆกับคำถามนั้น ทซาร์มินาควานหาคันธนูและลูกศรซึ่งมักจะเก็บไว้ใกล้ตัว
ดวงอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ว ทซาร์มิน่า จำคำขาดของข้าเมื่อเช้าได้ไหม?
นางพญาแมวป่าพยายามถ่วงเวลาขณะคลำหาธนูและลูกศรแถวขอบหน้าต่าง
บอกข้าอีกทีสิเจ้าหนู รื้อฟื้นความจำให้ข้าหน่อย
คำพูดของข้าไม่เปลี่ยนแปลง ยังมีเวลาพอที่เจ้าและทหารของเจ้าจะเดินทางออกจากที่นี่ไปโดยสันติ เขาพูดอย่างมีเหตุมีผล พวกเจ้าจะไม่มีอันตรายใดใดถ้าออกไปเสียก่อนดวงอาทิตย์ตก
ลูกธนูวิ่งแหวกอากาศอย่างรวดเร็วมาปักลงตรงสีข้างของมาร์ติน นักรบหนูสะดุ้งแล้วเซไปเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวดแต่ก็ยังยืนอยู่ได้ ทซาร์มิน่าขบริมฝีปากจนห้อเลือด
มาร์ตินหันหลังกลับไต่บันไดลงไปโดยที่ลูกธนูยังปักอยู่ที่สีข้าง
ถ้าแบบนี้ก็จบกันเพียงแค่นี้ ข้าจะถล่มปราสาทนี้โดยรื้อหินลงมาทีละก้อน ทีละก้อนรอบๆตัวเจ้า จนเจ้าต้องเดินทางไปสู่ประตูป่าดำแห่งความตาย
พวกทหารที่นั่งกันอยู่ในค่ายได้ยินคำพูดที่เยียบเย็นของมาร์ตินทุกคำ
เราน่าจะออกไปจากที่นี่เสียนานแล้ว ดิชพอว์ซึ่งเป็นทหารพังพอนตะคอกใส่บร็อค ด้วยกำลังทหารทั้งหมดที่มีอยู่ เราจะไปตั้งมั่นอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น
ทหารนายอื่นๆเห็นด้วย
ใช่แล้ว ทำไมเราถึงต้องมารบเพื่อปราสาทหักๆพังๆ ด้วยล่ะ? มันเป็นปราสาทของนางแมวนั่นต่างหาก ไม่ใช่ของเราสักหน่อย
ข้ามาอยู่กับเบนน์ เขาให้เราต่อสู้แล้วแบ่งปันทรัพย์สินที่หาได้ให้พวกเรา ที่โสโครกนี่ไม่มีแม้แต่อาหารให้เรากินอิ่ม
ข้าไม่รู้แผนการของเจ้าหนูนั่น แต่ข้าเชื่อว่ามันเอาจริงแน่
ใช่แล้ว พวกเราคงบ้าไปแน่ๆถ้าคิดว่าพวกมันจะอ่อนแอสู้ไม่ไหว
ใช่ ดูสิว่าวันนี้เราเสียกำลังพลไปเท่าไหร่? แล้วตอนนี้นางแมวป่าไปมุดหัวอยู่ที่ไหนเสียล่ะ?
ก็คงไปแอบอยู่เหมือนตัวหนอนหนีปลาน่ะแหละ
เหมือนแมวหนีหนูเลยละ ฮ่าฮ่าฮ่า
ทซาร์มิน่าปราฏตัวที่หน้าประตู เจ้าพูดว่าอะไรนะ?
ทั่วทั้งห้องเงียบกริบ
ว่าไง? นางแมวป่าหรี่ตาลง
หนูที่ชื่อเวกก์ลุกขึ้นยืน พวกเราอยากไปจากที่นี่ มันโต้ตอบอย่างกลัวๆ
ทซาร์มิน่าเดินข้ามห้องเข้าไปหาจนหน้าเกือบติดจมูกของมัน
"สายไปเสียแล้ว เจ้าหนู ดวงอาทิตย์ตกดินแล้ว แต่เจ้าจะไปก็ยังได้นะ มีทางเดียวเท่านั้นคือไปที่ประตูสู่ป่าดำแห่งความตายไงล่ะ อยากให้ข้าส่งเจ้าไปไหมล่ะ?
ตัวของเวกก์สั่นเทาด้วยความกลัว ทซาร์มิน่าเดินกลับไปที่ประตูพร้อมกับยิ้มอย่างหวาน
ดูพวกเจ้าสิ พวกเจ้าตื่นตระหนกเพราะเจ้าหนูในเสื้อเกราะกับเจ้าพวกสัตว์ในป่านั่น พวกเจ้าได้ยินที่มันพูดแล้ว มันไม่ต้องการสงคราม มันต้องการสันติภาพกับเรา ทำไมล่ะ?
พวกทหารมองนางแมวป่าอย่างมืดแปดด้าน
ก็เพราะว่ามันเอาชนะเราไม่ได้น่ะสิ โกตีร์แข็งแกร่งเกินไปสำหรับพวกมัน ไม่ต้องสนใจคำขู่ของเจ้าหนูนั่น
ดิชพอว์กลืนน้ำลายฝืดๆลงคอแล้วเถียงว่า แต่เจ้าหนูนั่นบอกว่าจะพังโกตีร์ออกเป็นเสี่ยงๆโดยรื้อหินแต่ละก้อนออกมา พวกเราได้ยินกันทุกคน
ทซาร์มิน่ากวักมือเรียกดิชพอว์และหมาจิ้งจอกกำยำตัวหนึ่ง
เจ้านี่กับเจ้านั่นเข้าไปดันกำแพงตรงนั้น นางออกคำสั่ง
แม้จะงงงันแต่ทั้งสองก็ปฏิบัติตามคำสั่งโดยดี โดยใช้อุ้งมือช่วยกันดันกำแพงเต็มแรง
ดันให้แรงกว่านั้นหน่อย แรงๆ! ใช้กำลังทั้งหมดที่เจ้ามีอยู่!
ทั้งสองออกแรงดันเต็มที่และยาวนานแล้วในที่สุดก็ล้มลงนอนแผ่
ทซาร์มิน่าหัวเราะอย่างดีใจ เห็นหรือยัง? ใครเห็นกำแพงนี่ขยับแม้แต่เพียงเล็กน้อยบ้างไหม?
พวกทหารสั่นหัวและตอบพร้อมๆกันว่าไม่เห็น
แน่ละสิ เจ้าพวกเด็กไม่เต็มเต็งทั้งหลายของข้า นางแมวป่าทำสุ้มเสียงราวกับมารดากำลังกล่อมลูกน้อย ถ้าจะพังกำแพงนี้ลงมาได้จะต้องใช้กำลัง มากกว่าเจ้าพวกสัตว์ในป่านั่นกับพวกเจ้าหมดนี่รวมกันเสียอีก ปราสาทโกตีร์จะอยู่ทนทานนานกว่าป่าแถบนี้ ข้าจะยกเว้นกฏบางข้อของข้าและเล่าแผนการของข้าให้พวกเจ้าได้รับรู้ ข้อแรกข้าขอบอกว่าเรายังไม่ได้ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปพวกเจ้าจะได้รับอาหารเพิ่ม
บร็อคกระโดดขึ้นยืน สรรเสริญราชินีของพวกเราหน่อย สหาย!
ไชโย!
ทซาร์มิน่าผงกหัวให้เจ้ากัปตันอย่างขอบใจ เรามีอาหารอยู่ได้ไปจนถึงตลอดฤดูร้อน ปีนี้แล้งกว่าทุกปี นางพูดต่ออย่างให้กำลังใจ ก่อนที่ฝนแรกของฤดูใบไม้ผลิจะมาถึง ข้าจะให้พวกพลธนูของข้าจัดทำลูกธนูแบบที่ไอ้พวกสัตว์ในป่าใช้กันอยู่ให้เพียงพอ พวกเจ้าเดาได้ไหมว่าข้ามีแผนอะไร?
เผาป่าขอรับ คุณหญิง
ใครเป็นคนพูดน่ะ?
กระผมเองขอรับ คุณหญิง
เจ้าชื่ออะไร?
ฟูลวิสเกอร์ ขอรับ
เก่งมาก ฟูลวิสเกอร์ พวกเราจะอยู่อย่างปลอดภัยในโกตีร์นี่ตลอดฤดูร้อน และมีอาหารเพียงพอสำหรับทุกคน เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึงเราก็จะเผาทั้งพวกสัตว์ในป่าและป่าให้วอดวายไปพร้อมๆกัน
บร็อคลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เพื่อนๆทั้งหลาย ข้าเห็นด้วยกับเจ้านาย เราจะได้อยู่อย่างสบายๆในหน้าร้อน แถมมีอาหารมากมายด้วย ข้าขอออกเสียงว่าจะอยู่ที่โกตีร์นี่กับราชินีของเรา ผู้ซึ่งไม่หวาดกลัวเจ้าสัตว์ป่าพวกนั้นแม้แต่น้อย ฮึ.. แม้แต่คืนนี้นางยังยิงใส่เจ้าตัวหัวหน้าด้วยซ้ำ
เสียงโห่ร้องเชียร์ดังกึกก้อง แม้ว่าข้อเสนอของนางแมวป่าจะไม่ค่อยน่าสนใจนักแต่ก็มีความจริงแฝงอยู่บ้าง
เบลล่าและเลดี้แอมเบอร์ก้มลงเหนือร่างของมาร์ติน
เขาทำท่าว่าจะฟื้นแล้วละ เบลล่ารายงานอย่างดีใจ
ทิมบัลลิสโตยังถือถุงใส่ก้อนหินซึ่งมีปลายลูกธนูโผล่ออกมา ถ้าไม่มีถุงนี่รับลูกธนูเอาไว้ มาร์ตินก็คงแย่แล้วละ
เบลล่าใช้น้ำเย็นเช็ดหน้าให้มาร์ติน เขามีแค่รอยขูดข่วนเล็กๆน้อยเท่านั้นใช่ไหม?
มาร์ตินลืมตาขึ้นแล้วพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่แอมเบอร์ผลักเขาให้นอนลงใหม่
อยู่นิ่งๆ เธอบอกอย่างเอาจริงเอาจัง โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย เบลล่าช่วยเอาสมุนไพรใส่แผลให้เขาหน่อยสิ แล้วก็ช่วยพันผ้าพันแผลให้ด้วย
กี่โมงแล้วเนี่ย กอนฟฟ์? มาร์ตินถามขณะที่เงยหน้ามองท้องฟ้า
เลยเที่ยงคืนมาไม่นาน
ขอบใจมากนะ เบลล่า แต่อย่าทำราวกับข้าเป็นเด็กทารกเลย ข้าต้องลุกขึ้นแล้ว มีงานสำคัญรออยู่
เบลล่ายื่นมือให้พยุงตัว งั้นก็ลุกขึ้นเถอะ มาร์ติน กอนฟฟ์กับข้าจะช่วยเจ้าเอง งานอะไรนะที่รอไม่ได้เนี่ย?
มาร์ตินขยับขาทดสอบแล้วทำหน้านิ่ว ข้าจะต้องไปที่เรือวูดด์ชิปป์คืนนี้
งั้นก็กระโดดขึ้นหลังข้ามาเลย หลังข้ากว้างพอสำหรับหนูหรือแม้แต่นักรบบาดเจ็บอย่างเจ้า
ทั้งสามซึ่งมีกอนฟฟ์เดินนำหน้าเพื่อแหวกทางให้ เดินทางผ่านเข้าไปในป่าในค่ำคืนที่อบอุ่น
นางนากบูล่านอนขดอยู่บนหัวเรือ จ้องมองร่างตะคุ่มๆที่โผล่ออกมาจากบริเวณต้นไม้ริมฝั่งอย่างเงียบกริบ
ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ? นางร้องถามอย่างเอาเรื่อง
พวกหัวหน้าสภาคอริมแห่งมอสฟลาวเวอร์
ก้าวออกมาข้างหน้าแล้วแสดงตัว
บูล่า เจ้าตัวล่ากุ้ง!
กอนฟฟ์ เจ้าจอมขโมยตัวน้อย สวัสดี เบลล่า มีข่าวอะไรหรือ? มาร์ติน เจ้าบาดเจ็บหรือนี่? เกิดอะไรขึ้นน่ะ?
มาร์ตินเลื่อนตัวลงจากหลังเบลล่าไปยืนพิงดาบของเขาเอง ไม่เป็นไรมากหรอก บูล่า ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?
เรียบร้อยดี
เมื่อบูล่าเห่าสั้นๆนากสี่ตัวก็โผล่ออกมาบนดาดฟ้า
มาร์ตินมองเรือวูดด์ชิปป์ที่ทอดสมออยู่ริมฝั่งแม่น้ำมอส ด้วยความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแล้วพยักหน้ากับเบลล่า
จมเรือลำนี้เสีย!
จมมันหรือ? บ้าหรือเปล่าเนี่ย? กอนฟฟ์ทำตาปริบๆอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
เบลล่าวางอุ้งมืออันหนาหนักลงบนบ่าของกอนฟฟ์ มาร์ตินรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ กอนฟฟ์
นากทั้งห้าตัวกระโดดลงไปในน้ำด้วยเสียงดังโครมคราม แล้วว่ายพ้นสายตาหายไปในความมืด เมื่อโผล่ขึ้นมาอีกครั้งพวกมันแยกตัวอยู่ห่างเรือ สามตัวอยู่แถวหัวเรือส่วนอีกสองตัวอยู่ท้ายเรือ ปากของนากแต่ละตัวคาบเชือกพวนเรือที่ปลายหนึ่งผูกติดกับตัวเรือไว้แน่น แล้วก็เริ่มว่ายน้ำอย่างรวดเร็วลากเรือ
วูดด์ชิบบ์ไปรอบๆ จนเรือลอยขึ้นสูงจนทั้งหัวและท้ายเรือหันไปทางฝั่งแม่น้ำตรงข้าม ตอนนี้เรือวูดด์ชิบบ์ลอยเอาด้านท้ายเข้าหาฝั่งแม่น้ำมอสอีกด้านหนึ่งแล้ว
พวกนากโผล่ขึ้นมามีน้ำไหลหยดเป็นทางแล้วส่งเชือกให้เบลล่า หลังจากนั้นก็ดำหายไปสมทบกับพรรคพวกของมันบนอีกฝั่งหนึ่ง
เอาเชือกที่หัวเรือไปผูกไว้กับต้นโอ๊คใหญ่นั่น มาร์ตินร้องบอก ผูกหย่อนๆไว้หน่อยเผื่อเวลามันจม ส่วนด้านนี้เราจะผูกไว้กับต้นมะเดื่อ
พวกนากกระโดดกลับลงไปในน้ำไปขึ้นเรือ รับตะลุมพุกทำด้วยไม้จากบูล่าแล้วลงไปใต้ท้องเรือ บูล่าชี้ให้ดูทางเข้าใต้แผงกรรเชียงเรือ
ใช้ตะลุมพุกเคาะเหล็กเสียบและก๊อกตรงนั้นให้เปิดกว้างออก ปล่อยน้ำให้ไหลเข้ามา
พวกเขาตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอย่างเอาจริงเอาจัง และในไม่ช้าน้ำจากแม่น้ำก็ไหลเข้ามาในเรือจากจุดต่างๆแปดจุด บูล่าเข้ามาตรวจงานเป็นครั้งสุดท้ายอย่างพอใจ
น้ำเต็มเร็วดีจัง ทุกคนรีบขึ้นฝั่ง! นางออกคำสั่ง
มาร์ตินยืนดูอยู่บนฝั่งเฝ้ามองเรือวูดด์ชิบบ์ที่เคลื่อนไหวเล็กน้อยตามกระแสน้ำแล้วส่วนท้ายเรือก็เริ่มจมต่ำลงไปในน้ำ เสียงเพลงอำลาของกอนฟฟ์ดังแหวกเสียงน้ำที่ดังซู่ซ่าและเสียงไม้กระดานที่แตกเปรียะๆขึ้นมา
เจ้าพาพวกข้าเดินทางมาอย่างปลอดภัย
เจ้าท่องทะเลสีฟ้าใสอย่างงามสง่า
ตอนนี้เจ้าลงไปอยู่ใต้ท้องน้ำเสียแล้ว
เพื่อช่วยปลดปล่อยป่ามอสฟลาวเวอร์
แต่ในหัวใจของพวกข้าจะมีเจ้าอยู่ชั่วนิรันดร์วูดด์ชิปป์
เจ้าเหมือนนกแห่งอิสรภาพที่เดินทางเที่ยวสุดท้าย
มีลมโชยพัดผ่านหนวดของข้าไป
ล้อมรอบด้วยผองเพื่อน
หลับให้สบายเถิดนะวูดด์ชิปป์ สหายเก่าของข้า
การเดินทางของเจ้าสิ้นสุดลงแล้ว
เจ้าหนูจอมขโมยทำจมุกฟุดฟิด ยกมือขึ้นป้ายนัยน์ตา ดีที่ล็อค-อาขล็อคไม่ได้อยู่ที่นี่
หัวเรือและท้ายเรือจมหายไปเกือบมิด มีพรายปุดๆเดือดพล่านขึ้นมาแล้วลำเรือส่วนกลางก็จมหายลงไป
มาร์ตินหันหน้าหนีไปอีกทางหนึ่ง ไปกันเถอะ กอนฟฟ์ ข้าทนดูไม่ได้แล้ว
ดวงจันทร์สีเงินยวงสาดแสงลงมาบนพื้นป่า ระหว่างที่พวกเขาเดินทางกลับไปแคมป์ที่ตั้งอยู่ด้านนอกของโกตีร์ เบลล่าซึ่งมีมาร์ตินอยู่บนหลังเดินไปเรื่อยๆในคืนที่เงียบสงัดของฤดูร้อน โดยมีกอนฟฟ์และบูล่าเดินตามหลัง
อย่าบ่นไปเลย มันเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ นักรบโบอาร์จะต้องภูมิใจในตัวเจ้าทั้งสอง เบลล่าปลอบด้วยเสียงเรียบๆแต่อู้อี้
บูล่าสดชื่นมากกว่าผู้อื่นเล็กน้อย ข้าพนันได้เลยว่าเมื่อเรื่องนี้จบลงแล้ว สกิปเปอร์จะต้องหาทางกู้เรือลำนี้ขึ้นมาให้ได้
กอนฟฟ์มองหน้านางนาก เจ้าแน่ใจหรือ? ไม่ใช่พูดเพื่อให้พวกเราสบายใจขึ้นหรือ?
บูล่าหลิ่วตา เปล่าเลย เราไม่ได้พังมันนี่ เพียงแค่เปิดก๊อกใต้ท้องเรือให้น้ำไหลเข้ามาเท่านั้น ไม่มีอะไรเสียหายหรอก อย่าวิตกไปเลย สกิปเปอร์จะจัดการเองแหละ นอกจากเรื่องน้ำในหูแล้วเขารู้อะไรต่ออะไรอีกมากมาย สบายใจได้
ตรงแม่น้ำมอสมีแต่ส่วนสูงสุดของหัวเรือ ท้ายเรือและเสากระโดงเรือเท่านั้นที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ท้องเรือทอดตัวอยู่ก้นแม่น้ำและถูกยึดไว้ตรงนั้นด้วยแรงดูดอันมหาศาลของน้ำ
ขณะนี้แม่น้ำมอสถูกปิดกั้นเอาไว้แล้ว น้ำที่ถูกปิดกั้นด้วยเรือที่จมขวางอยู่เริ่มไหลขึ้นท่วมฝั่ง ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงต่อมาน้ำในแม่น้ำก็ไหลออกไปยังจุดสามจุดที่เป็นทางออกได้ แล้วไหลลงไปในอุโมงค์!!!!
น้ำไหลแรงด้วยเสียงอันดังราวกับฟ้าร้อง น้ำสีน้ำตาลครีมไหลลงใต้ดินแล้วพัดพาเอาดิน เลน กิ่งไม้เล็กๆและก้อนหินไปด้วยอย่างรวดเร็วราวทะเลบ้า มันไหลเร็วรี่ผ่านไปตามอุโมงค์ กระแทกผนังอุโมงค์ด้วยพลังมหาศาลจนผนังฉีกขาดแยกตัวออก จนในที่สุดก็ไม่เหลือหลอ น้ำเชี่ยวกรากซึ่งรวมตัวเป็นสายใหญ่สายเดียว พุ่งลงไปในบริเวณฐานรากใต้ดินแล้วทะลักลงไปยังพื้นที่ต่ำซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทโกตีร์
โฟร์โมลและเฒ่าดินนี่ซึ่งกำลังนั่งกินพายดีปเปอร์แอนด์เอเวอร์ง่วนอยู่รู้สึกว่าผืนดินตรงที่นั่งอยู่สั่นสะเทือน
โฟร์โมลรีบแนบจมูกลงตรงหล่มโคลนทันที
เออร์ น้ำมาแล้วละผู้เฒ่าดินนี่ ไม่ต้องใช้อุ้งมือสัมผัสดินก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นข้างล่างนั่น
โฮ เออร์ ข้าเชื่อว่าอีกไม่ช้านางแมวกับสมุนของมันจะได้อาบน้ำกันสนุกละ
ฮ่า ไหลเข้าไปในอุโมงค์ของข้า ข้าดีใจที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น!
มอสฟลาวเวอร์ยังหลับไหลต่อไปอย่างเงียบเชียบตลอดทั้งคืน แต่ก็เป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น
เวกก์หาวหวอดและรู้สึกหนาวสั่น มันกระชับกระสอบข้าวเก่าๆที่ใช้แทนเสื้อคลุมให้แนบกับเนื้อตัวอันผ่ายผอมมีแต่กระดูก เพื่อปกป้องร่างกายจากอากาศเย็นในตอนใกล้รุ่ง เช้าตรู่วันนี้มีเมฆเต็มท้องฟ้า แสงอาทิตย์จางๆที่ไม่ช่วยให้อุ่นขึ้นส่องลงมาบนหลังคาแบนๆที่มันถูกส่งให้มาเข้าเวรยาม
บร็อคเดินตึงตังเข้ามาพร้อมกับถูมือทั้งสองข้าง ขณะมองลอดใบเสมาบนกำแพงลงไปในบริเวณป่าซึ่งยังเงียบสงบ
เงียบดีเนอะ จริงไหมเวกก์?
ใช่ แต่หนาวนะ แล้วพวกมันก็ยังอยู่ตรงนั้นแหละ เวกก์รายงาน
ไอ้กระรอกพวกนั้นยังยิงธนูมาอีกหรือเปล่า?
เปล่า มันไม่ยิงหรอกถ้าเราไม่ยิงมันก่อน แต่ข้าสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นสักอย่างข้างล่างโน่น
บร็อคลงนั่งข้างๆเวกก์
เหรอ พวกมันจะมีปัญญาทำอะไรได้? เจ้าก็ได้ยินที่ราชินีบอกแล้วนี่ว่าเราจะอยู่กันเฉยๆไปอย่างนี้ จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม
ฮุฮุ นางพูดอย่างนั้นก็จริง แต่เจ้าสัตว์ในป่าพวกนั้นไม่ได้โง่เหมือนรูปร่างหน้าตาของมันหรอกนะ เวกก์โต้พร้อมกับยิ้มกว้าง
บร็อคผลักมันอย่างหยอกๆ ไม่ต้องกังวลไปหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของราชินีกับข้าเถอะ เจ้ากินอาหารเช้าหรือยังล่ะ?
ยังเลย หิวจะแย่อยู่แล้ว ให้ข้าหลบไปหาอะไรกินสักประเดี๋ยวได้ไหมล่ะ เพื่อน?
เพื่อน! เจ้าหมายถึงกัปตันใช่ไหม?
ตกลง กัปตันก็กัปตัน
ไปเลย อ้อ แต่ช่วยส่งใครมาแทนด้วย ข้ามีงานอย่างอื่นจะต้องทำ ไม่ใช่มายืนเฝ้ายามแบบเจ้า
เวกก์บิดกายเพื่อขจัดความเมื่อยขบแล้วเดินลงบันไดไปที่ห้องแพนทรี่แทนโรงทหาร เพราะรู้ว่ามีโอกาสจะหาอาหารกินได้มากกว่าเพราะอยู่ใกล้กับห้องเสบียง
หมาจิ้งจอกที่กำลังเดินผ่านมาถูอุ้งมือของมันกับก้อนหิน
ข้างล่างโน่นชื้นแฉะมากเลย มีน้ำซึมเข้ามาตามพื้นหินในห้องแพนทรี่ มันบอกเป็นเชิงเตือน
น้ำหรือ? ที่ไหนนะ?
ทั้งสองเงยหน้าขึ้นตามเสียง เห็นนางทซาร์มิน่าซึ่งกำลังลงบันไดมา เจ้าหมาจิ้งจอกบุ้ยใบ้ข้ามไหล่ตัวเองไป
ข้างล่างโน่นขอรับ คุณหญิง แต่ปกติตามบันไดขั้นล่างๆก็มักจะชื้นแฉะอยู่แล้ว
เวกก์สั่นหัวอย่างไม่เห็นด้วย แฉะประจำเฉพาะในคุกและใต้คุกเท่านั้นแหละ ไม่เคยขึ้นมาถึงบนพื้นห้องหรอก แล้วตอนนี้ก็เป็นฤดูร้อนด้วย ไม่เห็นมีฝนตกสักหยดเลยตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิเป็นต้นมา
ทซาร์มิน่าเดินผละจากสมุนทั้งสองไปอย่างเร่งรีบ เจ้าทั้งสองตามข้ามา!
ทั้งหมดเดินลงไปตามทางเดินของห้องแพนทรี่ น้ำเจิ่งขึ้นมาจนเต็มพื้นห้องทำให้พวกมันต้องรีบกระโดดกลับขึ้นไปบนบันไดขั้นแรก
เมื่อตะกี้มันยังแค่แฉะๆเท่านั้นนี่นา เจ้าหมาจิ้งจอกร้องอุทานอย่างประหลาดใจ ดูสิ ตอนนี้น้ำท่วมพื้นห้องหมดเลย!
เวกก์จุ่มมือข้างหนึ่งลงไปในน้ำ มันท่วมได้อย่างไรเนี่ย? ข้าหมายความว่าน้ำนี่มาจากไหน?
ตาของนางแมวป่าจ้องเขม็งไปที่น้ำ ลุยน้ำไปที่ห้องขังนักโทษ ทซาร์มิน่าสั่งด้วยเสียงสั่นๆ บอกทหารยามที่นั่นให้ขึ้นมารายงานข้าเดี๋ยวนี้ พวกมันต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เวกก์ทำความเคารพรับคำสั่ง มันค่อยๆย่างเท้าลงไปในน้ำแล้วลุยน้ำไปตามทางเดิน
ทซาร์มิน่าถอยขึ้นบันไดไปหลายขั้น
เวกก์เดินท่องน้ำกลับมาอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งนาที ด้วยสีหน้าที่พิศวงงงงวยอย่างเห็นได้ชัด
คุณหญิงขอรับ น้ำท่วมบันไดที่จะลงไปคุกหมดแล้ว ดูเหมือนบ่อน้ำไม่มีผิด อั๊กก์! มีศพทหารวีเซอร์สองตัวลอยอยู่ในน้ำด้วย
ทซาร์มิน่าซึ่งมีดวงตาเหลือกลานถูมือทั้งสองข้างราวกับพยายามจะเช็ดให้แห้ง แล้วปุบปับนางก็หันหลังกลับแล้วผลุนผลันวิ่งขึ้นบันได มีเสียงทหารตะโกนดังลั่นทุกหนทุกแห่ง
ลานฝึกทหารยังกะทะเลสาปแน่ะ!
น้ำท่วมโรงทหารชั้นล่างหมดแล้ว!
เสบียงอาหารเปียกเสียหายหมดแล้ว!
น้ำซัดถึงห้องโถงด้านหน้าแล้ว!
ป้อมยามที่คุกจมน้ำหมดแล้ว!
เสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนกึกก้องเข้าไปในหูของทซาร์มิน่า ขณะที่นางวิ่งขึ้นไปบนห้องนอน นางพญาแมวป่าคว้าคันธนูจากผนังห้องได้ก็กราดยิงออกไปยังพวกสัตว์ในป่าที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น
ออกมาเลย! มาร์ติน ออกมาสู้กับข้า! นางกรีดร้อง
มาร์ตินยืนอยู่บนยอดต้นป็อบปรา โดยมีเลดี้แอมเบอร์และกระรอกอีกสี่ตัวช่วยพยุงเอาไว้
บาร์คแลดตบไหล่มาร์ตินอย่างยกย่อง ดูสิ มาร์ติน แผนของท่านได้ผล น้ำกำลังท่วมโกตีร์!
ท่วมสูงแค่ไหนแล้วล่ะ เพื่อน? กอนฟฟ์ร้องถามขึ้นมาจากใต้ต้นไม้
สูงพอดูเชียวละ กอนฟฟ์
แล้วยังสูงขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่า?
ยังสูงขึ้นเรื่อยๆ
เลดี้แอมเบอร์ทำสัญญาณให้กระรอกพามาร์ตินกลับลงไปบนพื้น
จะทำยังไงต่อไปล่ะ มาร์ติน? ราชินีกระรอกถาม
ทำตามแผนสำคัญที่กำหนดไว้ ข้ายังไม่ได้เล่าให้ท่านฟังถึงทิมบัลลิสโตเพื่อนเก่าของข้า และเรื่องที่ว่าทำไมเขาถึงได้มีชื่อประหลาดๆแบบนั้น เดี๋ยวคอยดูก็แล้วกันว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไปกับปราสาทโกตีร์ เขาจะช่วยให้มันจมน้ำเร็วขึ้น ตอนนี้ข้าต้องไปเอาดาบกับเสื้อเกราะ ช่วยบอกสภาคอริมให้รวบรวมสัตว์ทุกตัวที่พอจะสู้รบได้ไปรวมตัวกันอยู่ตรงพื้นดินที่สูง อาจจะมีการปะทะกัน
เจ้าเวกก์ทหารหนูและเจ้าทหารวีเซอร์ที่ชื่อสลิงค์แบ็คโยนเสื้อเกราะ เสื้อเครื่องแบบและโล่ห์ประจำตัว ข้ามยอดใบเสมาบนกำแพงออกไป มีเสียงดังจ๋อมเบาๆเกิดขึ้นเมื่อมันตกกระทบน้ำ
บร็อคหันขวับมาเผชิญหน้าพร้อมกับชูดาบโค้งในมือขึ้นในท่าเตรียมพร้อม
พวกเจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ? ทำอย่างนั้นไม่ได้นะ
สลิงค์แบ็คหัวเราะใส่หน้ากัปตันของมัน ฮ่าฮ่า ฟังนะ บร็อค เจ้าก็ควรจะโยนเกราะของเจ้าทิ้งไปเหมือนกัน หรือเจ้าอยากจะให้เสื้อเกราะถ่วงเจ้าให้จมน้ำตาย?
บร็อคก้มลงมองเสื้อเครื่องแบบที่มีตราดวงตาพันดวงและเสื้อคลุมกำมะหยี่สีแดงที่สวมอยู่ แล้วคุณหญิงจะว่าอย่างไรล่ะ?
ทหารตัววีเซอร์ที่ชื่อฟูลวิสเกอร์เห็นเพื่อนทำเช่นนั้นก็ทำบ้าง มันโยนโล่ห์กลมของมันข้ามใบเสมาไป
พวกเราอย่าไปฟังบร็อค เราฟังเรื่องโกหกมามากพอแล้ว นางแมวนั่นจะทำให้พวกเราถูกฆ่าตายหมดเพียงเพื่อจะรักษาซากปราสาทนี่ไว้ แล้วมันก็หันขวับเมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากเบื้องหลังแต่ก็ช้าเกินไปแล้ว
ทซาร์มิน่ายืนอยู่ตรงนั้น นางตบมันอย่างแรงแค่ครั้งเดียวเจ้าฟูลวิสเกอร์ก็ตายสนิททั้งๆยังยืนอยู่ นางแมวป่าคว้าร่างมันขึ้นโดยไม่ต้องออกแรงมากแล้วโยนข้ามกำแพงลงไปเบื้องล่าง ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับทหารที่เหลือ
ใครจะเป็นรายต่อไป? นางท้าทาย ใครอยากจะร่วมทางไปกับเจ้าตัววีเซอร์นั่นก็บอกมา ข้าอยากรู้ว่าใครบ้างที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของราชินีแห่งโกตีร์
พวกทหารถอยหลังกรูดอย่างหวาดหวั่น ถ้าใครกระซิบกระซาบหรือพึมพำอะไรออกมาตอนนี้ก็มีหวังตายลูกเดียว
ทซาร์มิน่าคว้าหอกที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาแล้วแทงเข้าไปในทหารกลุ่มหนึ่งแล้วก็อีกกลุ่มหนึ่ง พวกทหารกลัวจนหัวหด ถอยไปจนติดกำแพง นางราชินีแมวป่าหัวเราะเหมือนคนบ้า ขณะหักหอกหนาหนักในมือออกเป็นสองท่อน
ดูพวกเจ้าสิ! นักรบงั้นหรือ! ข้าหักคอเจ้าได้ง่ายดายพอๆกับที่หักหอกเล่มนั้นแต่ข้าไม่ทำหรอก ข้าจะใช้พวกเจ้าออกไปจัดการกับเจ้าสัตว์ในป่าข้างนอกโน่น ถึงเวลาทำหน้าที่ให้สมกับเป็นทหารแล้ว ถ้าไม่สู้ก็ตาย ถ้าไม่ชนะก็จงตายเสีย ข้าจะทำให้เจ้าดูว่าวิธีทำสง----
โครม!
หลังคาสั่นกราว
ทหารทั้งหมดล้มตัวลงนอนราบกับพื้นทันทีด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต
ทซาร์มิน่าวิ่งปราดไปริมกำแพงพอดีกับที่หินใหญ่ก้อนที่สองปลิวมาในอากาศราวกับนกยักษ์ที่ไม่มีรูปทรงชัดเจน
ตูมมมมมมมม!
มันตกลงมาโดนกำแพงพอดี ทำให้ปูนแตกกระจายตกลงไปในน้ำ หินใหญ่อีกก้อนหนึ่งลอยมาตกกระแทกใส่หลังคา ทำให้ทซาร์มิน่ากระโดดเข้ายึดใบเสมาบนกำแพงไว้แน่น พลางจ้องมองอย่างตัวสั่นงันงกข้ามกำแพงลงไปยังบริเวณข้างล่างที่มีน้ำท่วมสูง
สกิปเปอร์ใช้มือลูบกรอบไม้หยาบหนา เจ้าเรียกของสิ่งนี้ว่าอะไรนะ?
ทิมบัลลิสโตกำลังช่วยพวกกระรอกและนากบรรจุหินก้อนต่อไปลงในกรอบไม้
เครื่องยิงกระสุน ข้าประดิษฐ์มันขึ้นมาใช้ตอนทำสงครามทางเหนือสมัยยังหนุ่มๆ เจ๋งดีไหมล่ะ?
สกิปเปอร์โคลงหัวอย่างชมเชยเมื่อตัวหมุนทำงานทำให้เครื่องชักรอกและถ่วงน้ำหนักส่งเสียงเอี๊ยด เครื่องยิงซึ่งเป็นไม้ยาวสามท่อนเกลามาจากไม้บีชสีเงินเขม็งตัวจนโค้งตึงต้านคันโยก
เจ้านี่ช่างหลักแหลมสมเป็นทหารเก่าจริงๆนะ ทิมบัลลิสโต ฮ่า ลูกเม่นตัวเล็กๆยังใช้เครื่องยิงมหึมานี่ได้เลย
ดินนี่กระโดดขึ้นๆลงๆพร้อมกับตบมือ ขอข้าลองยิงหน่อยสิ ขอให้ตุ่นน้อยๆอย่างข้าทดลองหน่อย
ทิมบัลลิสโตหรี่ตาลงข้างหนึ่งเล็งไปยังจุดที่ต้องการให้ก้อนหินไปตกลง
ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? เชิญเลยดิน
เจ้าตุ่นหนุ่มแทบจะปล่อยคันโยกไม่ไหว เขาปล่อยตัวเองให้หน้าคว่ำลงไปในหญ้าเมื่อคันโยกดีดกลับ ทำให้ไม้บีชสีเงินท่อนยาวกระดกไปข้างหน้าปล่อยก้อนหินกระเด็นขึ้นไปเหนือหัว
โอย ดีจัง มีความสุขจัง! มันบินไปที่ไหนน่ะ? ข้าทำอะไรไปน่ะ?
พวกที่เฝ้าดูอยู่บนชายฝั่งเห็นหอคอยสั่นไหวและมีรูปรากฏขึ้น เมื่อหินก้อนนั้นปะทะโกตีร์ด้วยพลังมหาศาล เศษปูนเศษอิฐหล่นลงไปในน้ำ
พวกสัตว์ในป่าโห่ร้องกันกึกก้อง
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
โหวตให้คุณตุ้ยคนแรกค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog