สัตว์เล็กในป่าใหญ่ - ภาคสาม - บทที่ 6



พวกสัตว์ในป่าช่วยดึงทหารโกตีร์กลุ่มแรกขึ้นมาจากน้ำ สกิปเปอร์และกระต่ายป่าทั้งหกจัดการให้ทหารเหล่านี้ ซึ่งเนื้อตัวเปียกโชกไร้ทั้งอาวุธและกำลังใจ นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ตรงชายน้ำ

“นั่งลงตรงนั้นแหละ เจ้าวีเซอร์ตัวเปียกน้ำ”
“นั่นตัวสโต๊ทต่างหากล่ะ ทรับบ์”
“เหรอ ขอโทษที นั่งลงตรงนั้นแหละ เจ้าสโต๊ทตัวเปียกน้ำ”
“ท่านหมายความว่าเจ้าสโต๊ทที่เปียกน้ำจนโชกใช่ไหม?”
“ฮืมม์ แล้วเจ้าตัววีเซอร์ล่ะ เป็นยังไง?”
“อ๋อ ปกติมันจะเปียกโชกเหมือนกันแหละ”
“ตกลง งั้นไปนั่งตรงโน้นนะ เจ้าวีเซอร์เปียกโชก”
“อ้าว ข้ามีหนูหนึ่งตัวแล้ว เราจะเรียกไอ้ตัวพุพองนี่ว่าอะไรดีล่ะ?”
“ง่ายมาก หนูผู้ตัวเหม็นอับ”
“เหม็นอับหรือ? ไม่เห็นมีคำว่าเปียกเลยนี่”
“ไม่มีหรอก แต่เจ้าโง่นี่ดูท่าว่าจะเหม็นอับ”
“จริงด้วย ดีมาก มานั่งตรงนี้เถอะ เจ้าหนูตัวเหม็นอับ!”

สกิปเปอร์เดินสำรวจแถวเชลยและจ้องมองพวกมันด้วยดวงตาที่ขุ่นเขียว

“มองสบตาข้า” เขาตวาด “เอามือทั้งสองข้างวางไว้บนหัวตรงที่ข้ามองเห็นได้ชัดๆ ถ้าใครทำอะไรประหลาดๆจะถูกจิ้มด้วยไม้แหลมอันนี้ แล้วเหวี่ยงกลับลงไปในน้ำทันที เข้าใจไหม?”

ดินนี่และเบน สติคเกิลเอานมกับขนมปังมาแจกพวกเชลย

“เอ้า กินขนมปังแล้วก็ดื่มนมซะ ความจริงถ้าคิดถึงที่พวกเจ้าเคยทำกับเราไว้
พวกเจ้าก็ไม่น่าจะได้กินอะไรเลยนะ”

“เฮอร์ จริงด้วย ถ้าทำได้นะ ข้าจะให้พวกเจ้ากินน้ำในคลองนั่นกับหางกบ”

ทหารวีเซอร์ตัวหนึ่งพยายามจะแย่งขนมปังจากทหารสโต๊ท ดินนี่ใช้อุ้งมือขุดดินที่แข็งแกร่งของมันบิดหูเจ้าวีเซอร์เต็มเหนี่ยว “อย่าทำแบบนั้นอีก ไม่งั้นข้าจะจับเจ้ายัดเข้าไปในเครื่องยิงกระสุนนั่นแล้วส่งเจ้าไปตกกลางทะเลสาปเลย”

สัญชาติญาณของนักสู้ไม่เหลืออยู่ในทหารโกตีร์เลย พวกมันส่วนใหญ่รู้สึกขอบใจที่ได้กินอาหารและได้รับการปฏิบัติที่มีอารยธรรมจากผู้ควบคุม เลดี้แอมเบอร์และพลธนูของนางซุ่มอยู่บนคบไม้เตี้ยๆพร้อมอาวุธ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น

มาร์ตินมีภารกิจอย่างอื่น เขาเดินเลียบฝั่งน้ำห่างออกไปจากเสียงอึกทึก แล้วไปยืนอยู่ตรงด้านเหนือของทะเลสาป เฝ้ามองความเคลื่อนไหวของนางทซาร์มิน่าอยู่เงียบๆ เห็นได้ชัดว่านางแมวป่ากำลังหาทางหลบหนีเอาตัวรอด ปล่อยกองทหารของนางไว้ให้เผชิญโชคชะตากันเอง

โต๊ะที่นางแมวป่านั่งอยู่ลอยอยู่ระหว่างโกตีร์กับชายฝั่ง ในขณะที่ป้อมปราการทางด้านหลังของนาง ซึ่งถูกโจมตีด้วยก้อนหินขนาดใหญ่จากเครื่องยิงกระสุนกำลังยุบตัวลงแล้วหล่นโครมลงไปในน้ำ ทซาร์มิน่าซึ่งอยู่บนโต๊ะที่หงายท้องขึ้นกำลังมุ่งหน้ามาขึ้นฝั่ง

มาร์ตินชักดาบออกจากฝัก “นักรบโบอาร์ โปรดช่วยข้าด้วย”

เขากระซิบและส่งจิตไปถึงผู้ที่ทำดาบเล่มนี้ให้เขา แล้วก็วิ่งไปตามชายฝั่งอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ขาข้างที่เจ็บจะพาเขาไปได้ เพื่อไปขวางหน้าศัตรูคู่อาฆาต

โต๊ะลอยมาถึงริมฝั่งแล้ว ทซาร์มิน่ากระโดดแผล็วขึ้นฝั่งโดยไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นบนฝั่งด้านตะวันออก นางได้แต่จ้องมองปราสาทโกตีร์อย่างอาลัยอาวรณ์ จรวดหินไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้น้ำได้ทำหน้าที่ของมันจนสมบูรณ์แล้ว

มีเสียงแตกร้าวดังสนั่นลั่นเลื่อนเมื่อหลังคาส่วนสุดท้ายพังทะลายลงมา โครงสร้างปราสาททั้งหมดแตกออกเป็นชิ้นๆกระเด็นตกลงไปในทะเลสาปใหญ่ มีฟองสีโคลนเดือดพล่านขึ้นมาแล้วผิวหน้าทะเลสาปก็ราบเรียบอยู่ใต้ท้องฟ้าสีเทามัวหม่นยามเที่ยงวัน นานๆจึงจะกระเพื่อมไหวตามแรงลมที่พัดมาปะทะผิวน้ำ

ปราสาทโกตีร์จมหายไปหมดแล้วชั่วนิรันดร์

ทซาร์มิน่าแหงนหน้าขึ้นเปล่งเสียงร้องโหยหวน วิ่งปราดไปที่ริมน้ำแต่แล้วก็ชะงักกึกถอยหลังกลับทันทีที่เท้าแตะน้ำ

“ข้าได้ทำตามที่เคยสัญญากับเจ้าไว้แล้ว นางแมว โกตีร์ล่มสลายแล้ว!” เสียงห้วนห้าวเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง

นางพญาแมวป่าตัวแข็งทื่อไม่กล้าแม้แต่จะเหลียวหลังไปมอง

“นั่นเจ้าหรือ จินจิเวียร์?”

มาร์ตินเดินลงไปที่ชายน้ำไม่ห่างจากศัตรูคู่อาฆาตของเขานัก

“ข้าคือนักรบมาร์ติน บุตรชายของลุค เพื่อนของนักรบโบอาร์”

ทซาร์มิน่าหันกลับมาเผชิญหน้ากับศัตรู

“อ้อ เจ้านั่นเอง ไง เจ้านักรบตัวจ้อย พวกเพื่อนๆสัตว์ในป่าของเจ้าไปอยู่เสียที่ไหนกันหมดล่ะ? ไม่ได้มาช่วยเจ้าหรอกหรือ?”

มาร์ตินใช้ดาบพยุงตัวเอาไว้ ตอนนี้เมื่อเวลาที่รอคอยมาถึงเขากลับเหลือแต่ความรู้สึกเหยียดหยาม

“ทซาร์มิน่า ตอนนี้เจ้าก็กลายเป็นราชินีแห่งปราสาทใต้น้ำและผู้ปกครองฝูงปลาเท่านั้น” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเยาะหยัน “นางแมวเอ๋ย เจ้าเป็นได้แค่เศษสวะที่อาศัยโต๊ะกินข้าวหงายท้องตัวหนึ่งลอยมาขึ้นฝั่ง ไม่ได้เป็นอะไรที่วิเศษกว่านั้นเลย!”

ทซาร์มิน่ากรีดร้องสนั่นด้วยความเจ็บใจกับคำพูดดูถูกเหยียดหยามนั้น นางแมวป่ากระโดดพุ่งตัวลอยเข้าใส่มาร์ติน จิกเล็บเข้าไปกลางหลังเขาพร้อมกับแผดเสียงร้องอย่างบ้าคลั่ง ตามมาด้วยเสียงครวญครางอย่างเจ็บปวด เมื่อปลายดาบคมกริบปาดเข้าไปตรงกระดูกซี่โครง

มาร์ตินนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเมื่อออกแรงดึงดาบออกพร้อมกับรู้สึกถึงกรงเล็บของนางแมวป่าที่หลุดออกไปจากหลัง เขาโถมกระหน่ำเข้าแทงคู่อาฆาตหลายครั้ง ทซาร์มิน่าถอยหนีไปก้าวหนึ่ง ตอนนี้มาร์ตินถูกครอบงำด้วยความโกรธแค้นเหมือนกับนักรบโบอาร์แล้ว เขาหมุนตัวเข้าใส่นางพญาแมวป่าที่กำลังประหลาดใจอีกครั้งหนึ่ง

คราวนี้ทซาร์มิน่ากระแทกสีข้างของมาร์ตินสองที ก่อนที่จะใช้อุ้งเล็บตะกุยจิกใบหน้าของนักรบหนูอย่างดุร้าย ทำให้หมวกเหล็กที่เขาสวมอยู่หลุดกระเด็นไป นางแมวป่าผละออกจากการประชิดติดพัน แต่มาร์ตินก็ใช้ดาบฟันเข้าไปที่อุ้งมือของนางได้ก่อน

ทั้งคู่นอนหมอบหอบหายใจแฮ่ก ต่างก็ได้รับบาดเจ็บพอๆกัน มาร์ตินเช็ดเลือดออกจากนัยน์ตาแล้วกระโดดเข้าใส่นางแมวป่าอีกครั้งอย่างโกรธจัด

แต่คราวนี้ทซาร์มิน่าพร้อมแล้ว นางถอยหลบไปข้างๆแล้วจิกเล็บอันทรงพลังเข้าที่ด้านหลังของนักรบหนูอีกครั้งหนึ่ง เปิดแผลเก่าให้กว้างขึ้น

มาร์ตินล้มหน้ากระแทกพื้นอย่างแรงและนอนแน่นิ่ง ทซาร์มิน่าเลียแผลตัวเองพร้อมกับหัวเราะคิกคักอย่างชั่วร้าย ศัตรูคู่อาฆาตของนางถูกสำเร็จโทษไปแล้ว

มาร์ตินกระดิกตัว เขาลุกขึ้นยืนสะบัดหน้าแล้วใช้สองมือถือดาบไว้มั่นเดินเข้าใส่นางพญาแมวป่า แม้จะตกใจที่เห็นศัตรูกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกแต่ทซาร์มิน่าก็ว่องไวพอที่จะถอยหลีกไปข้างๆเหมือนครั้งก่อน แต่คราวนี้มาร์ตินถอยตามนางไปข้างๆแล้วฟาดดาบเข้าตรงหลังของทซาร์มิน่า

ราชินีแมวป่าส่งเสียงร้องโหยหวลด้วยความเจ็บปวดแล้วกระโดดเข้าปลุกปล้ำกับมาร์ตินอย่างดุเดือดเลือดพล่าน มือต่อมือปะทะกัน ฟันกัดขบซึ่งกันและกัน เตะ ข่วน ควักลูกตาและแทง ทั้งคู่กลิ้งตัวฟัดกันนัวเนียไปมาบนชายน้ำ เศษดินเศษหินแถวนั้นปลิวว่อน

ทซาร์มิน่าถอยออกห่างจากมาร์ตินปล่อยเขาให้นอนคว่ำอยู่บนพื้นดิน นางถอยไปเลียบาดแผลอีกครั้งหนึ่ง

“เจ้าเสร็จข้าแล้วละคราวนี้ เจ้าสัตว์ในป่า!” นางส่งเสียง

มาร์ตินปักดาบลงบนพื้นดินพยุงตัวเองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับหอบหายใจหนักๆอย่างเหนื่อยอ่อน เขาพยายามรวบรวมพละกำลังอย่างเต็มที่ชี้ดาบตรงขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วร้องว่า “มอสฟลาวเวอรรรรรรรรร์!”

มีความกลัวการถูกรุกไล่อย่างบ้าคลั่งจากเจ้าหนูนักรบปรากฏขึ้นในดวงตาของทซาร์มิน่า เจ้าหนูตัวนี้คงไม่รู้จักความกลัวและความตายเลย ทั้งคู่เข้าพันตูกันอีกอย่างดุเดือดเลือดพล่าน เมื่อมาร์ตินฟันเข้าไปนางก็ใช้เล็บอันทรงพลังสวนกลับมาและใช้ปากกัด

ผิวหนังของทซาร์มิน่ามีบาดแผลเปิดอ้ามากมายหลายแผล นางแมวป่ายืนสี่ขาเตะมาร์ตินจนกระเด็นลงไปในน้ำแล้วหันไปคว้าไม้ที่ลอยน้ำมาเพื่อจะใช้เขี่ยเขาให้ลอยไกลออกไปจากฝั่ง แต่พบว่านักรบหนูยืนคอยอยู่แล้วตรงชายน้ำ มาร์ตินซึ่งขณะนั้นเปื้อนเปรอะเลอะโคลนตั้งแต่หัวจรดหางและเนื้อตัวโชกไปด้วยน้ำและเลือด ฟาดดาบในมือเข้าไปที่ท่อนไม้ที่ทซาร์มิน่ายื่นออกมาแล้วตัดมันออกเป็นสองท่อนอย่างง่ายดายด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว ดาบในมือตวัดเข้าไปอีกครั้งอย่างรวดเร็วฟันเข้าไปยังเศษไม้ที่ยังเหลืออยู่ในมือของศัตรูและเลยเข้าไปถึงมือของทซาร์มิน่าที่ยังกุมปลายไม้อยู่

มาร์ตินค่อยๆคลานขึ้นจากน้ำโดยปลายดาบชี้ตรงไปข้างหน้า ดวงตาของเขาลุกโชนแดงก่ำพลางหัวเราะก้องเห็นเขี้ยวขาวววววับ

ทซาร์มิน่าเริ่มหวาดหวั่นแล้ว

นางหมุนตัวหันหน้าหันหลังล่อกแล่กเมื่อมาร์ตินเดินใกล้เข้ามา และแล้วราวกับฝันที่เป็นจริงนางแมวป่านึกเห็นภาพวันหนึ่งในฤดูหนาว ที่ผ่านพ้นมาแล้วในห้องนอนของบิดา ตอนที่นางกระแทกดาบของเจ้านักรบหนูจนหักคามือ นางจำได้ถึงคำพูดของเขาที่ว่า ถ้าฆ่าข้าได้ก็จงรีบฆ่าเสีย มิฉนั้นข้าสาบานว่าสักวันหนึ่งข้าจะกลับมาฆ่าเจ้า

เมื่อนักรบหนูที่เปื้อนเปรอะไปด้วยเลือดแต่ไม่สะดุ้งสะเทือน เจ้าหนูที่ไม่ยอมตายเสียที เจ้าหนูที่ต่อสู้อย่างห้าวหาญราวกับแบดเจอร์ตัวโตๆ เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทซาร์มิน่าก็ถอยหลังกรูดหนีโดยไม่ทันนึกถึงน้ำที่อยู่ข้างหลัง

ทซาร์มิน่าถอยไปเรื่อยๆมองดาบที่ส่งประกายแวววาวสลับกับมองดวงตาที่ลุกโชนของมาร์ติน ราชินีแห่งตาพันดวงเดินลึกลงไปในทะเลสาปทุกย่างก้าวโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าตอนนี้มาร์ตินจะหยุดยั้งอยู่เพียงแค่ชายฝั่งแต่ทซาร์มิน่ากลับรู้สึกว่าตัวของเขาขยายใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ นางยิ่งต้องพยายามหนีออกไปให้ห่างเขาให้มากที่สุด

ทันใดนั้นนางแมวป่าก็ตระหนักว่านางถอยลงไปในน้ำลึกเกินไปแล้ว พละกำลังของนางก็เริ่มถดถอย ชายฝั่งก็ดูเหมือนจะอยู่ไกลเกินไปสียแล้ว โลกของทซาร์มิน่าตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำ น้ำที่ดำมืด น้ำวน น้ำที่ไหลมารอบๆตัวฉุดกระชากลากถูนางให้จมลงไป น้ำที่ไหลเข้าจมูกเข้าปากและในที่สุดก็เข้าตา

ฝันร้ายของนางแมวป่ากลายเป็นความจริงแล้ว!

มาร์ตินเดินกลับไปตรงน้ำตื้นแล้วลากร่างอันบอบช้ำขึ้นไปบนฝั่ง เขายกดาบในมือขึ้นชูเป็นครั้งสุดท้ายแล้วพยายามตะโกนออกมาว่า “หลับให้สบายได้แล้ว นักรบโบอาร์ มอสฟลาวเวอร์เป็นอิสระแล้ว!”

ดาบที่ส่องประกายวาววับหลุดจากมือตกลงบนดิน มาร์ตินล้มลงไปบนพื้น ร่างของเขาอ่อนปวกเปียก




Create Date : 18 เมษายน 2557
Last Update : 2 กรกฎาคม 2557 18:11:43 น.
Counter : 1361 Pageviews.

2 comments
  
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ทักทายขอรับ
โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 18 เมษายน 2557 เวลา:11:18:40 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog
mariabamboo Parenting Blog ดู Blog
รู้นะว่าคิดถึง Diarist ดู Blog
ชมพร About Weblog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
นอนหลับฝันดีจ้ะคุณตุ้ย
โดย: Opey วันที่: 18 เมษายน 2557 เวลา:21:44:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอยสะเก็ด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]



New Comments
Group Blog
เมษายน 2557

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
Friends Blog
[Add ดอยสะเก็ด's blog to your weblog]
  •  Bloggang.com