Bloggang.com : moneyriche6 : ทั่วโลกต้องการพลังงานทดแทน ฉุดราคาปาล์มน้ำมันพุ่งกระฉูด

ทั่วโลกต้องการพลังงานทดแทน ฉุดราคาปาล์มน้ำมันพุ่งกระฉูด

นายอรุณ ไม้ทิพย์ การค้าภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เผยว่า ราคาปาล์มน้ำมันในวันนี้ (5 มิ.ย.50) สูงสุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมามีราคาเฉลี่ยประมาณกิโลกรัมละ 2 บาทเศษเท่านั้น
ราคาผลปาล์มทะลายคละที่ซื้อขายในวันนี้ ราคากิโลกรัมละ 4.60 – 4.80 บาท ผลปาล์มร่วงกิโลกรัมละ 5.20 – 5.60 บาท ด้านราคาน้ำมันปาล์มดิบ เกรด เอ กิโลกรัมละ 24.50 – 27.00 ส่วนน้ำมันปาล์มดิบเกรด บี กิโลกรัมละ 24 บาท
สำหรับราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์มดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลปาล์มออกสู่ตลาดน้อย การแข่งขันกันซื้อสูงขึ้นและความต้องการของโรงงานสกัดมีอย่างต่อเนื่อง มีการนำน้ำมัน ปาล์มไปผลิตไบโอดีเซล จึงทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มสูงขึ้น
นายสมพงศ์ อ่อนประเสริฐ พาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ทุกครั้งที่น้ำมันปาล์มมีราคาสูงขึ้น ปัญหาที่มักเกิดขึ้นตามมา ก็คือ เรื่องคุณภาพปาล์มน้ำมันก่อนเข้าโรงงาน เพราะเกษตรกรมักรีบตัดปาล์มอ่อนเข้าโรงงาน ทำให้ถูกโรงงานกดราคา ดังนั้น จึงขอให้เกษตรกรดูแลการตัดปาล์มให้ดี เพื่อผลประโยชน์ของเกษตรกรเอง
ส่วนราคาปาล์มน้ำมันนั้นมีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะราคาเชื้อเพลิงสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องหันมาใช้พืชน้ำมัน โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันกันมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ขณะนี้ปริมาณความต้องการปาล์มน้ำมันยังไม่เพียงพอกับความต้องการ
อย่างไรก็ตาม ราคาปาล์มที่สูงขึ้นอาจเป็นผลดีกับเกษตรกรในระยะสั้น แต่ไม่เป็นผลดีต่อตลาดในระยะยาว เนื่องจากผู้ต้องการใช้น้ำมันปาล์ม อาจหันไปขออนุญาตนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ หรือหาวัสดุอื่นมาทดแทนน้ำมันปาล์ม ทั้งนี้ราคาน้ำมันปาล์มที่เหมาะสมน่าจะอยู่ประมาณ 4 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ได้และผู้ที่ต้องการใช้น้ำมันก็รับได้
นายสมพงศ์ กล่าวอีกว่า พื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ยังมีความได้เปรียบเนื่องจากปัจจุบันนี้มีการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันมากขึ้น ประกอบกับเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดของภาคใต้ ขณะนี้ถ้าหากมองถึงผลผลิตปัจจุบัน มีสัดส่วนใกล้เคียงหรือน้อยกว่า จ.กระบี่ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าหากในอนาคตอันใกล้หรืออีกประมาณ 3-4 ปี นี้เชื่อว่าผลผลิตปาล์มน้ำมันของจังหวัดสุราษฏร์ธานี จะแซงหน้ากระบี่อย่างแน่นอน
ด้านนายเหมวงศ์ ประกอบบุญ เกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันของ จ.สุราษฎร์ธานี ปัจจุบันมีประมาณกว่า 7 แสนไร่ มีพื้นที่ให้ผลผลิตแล้วประมาณ 5-6 แสนไร่ และบางส่วนยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ เพื่อเตรียมปลูกปาล์มอีกจำนวนประมาณ 1 แสนไร่ เนื่องจากปัจจุบันปาล์มน้ำมันมีราคาดี กิโลกรัมละประมาณ 4-5 บาททำให้เกษตรกรเริ่มพลิกผันตัวเอง จากการทำการเกษตรอย่างใดอย่างหนึ่งหันมาปลูกปาล์มน้ำมันเพิ่มมากขึ้น
ด้าน นางสาวไขแข เชิดวิศวพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทักษิณอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม (1993) จำกัด กล่าวว่า ราคาปาล์มน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี สาเหตุที่ปาล์มน้ำมันราคาพุ่งสูงขึ้นในขณะนี้ เหตุผลหลักมาจากภาวะโลกที่ร้อนขึ้น พืชน้ำมันมีค่อนข้างน้อย แต่ในส่วนของคนที่ใช้น้ำมันมีมากขึ้นกว่าเดิม ราคาปาล์มน้ำมันจึงพุ่งสูงขึ้นดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ราคาปาล์มน้ำมันในขณะนี้เป็นไปตามภาวะตลาดโลกที่ต้องการนำน้ำมันปาล์มมาใช้เป็นพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้บริษัทจะรับซื้ออยู่ที่ปริมาณ 500-600 ตันต่อวัน และบริษัทกำลังขยายการผลิตโดยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้น เพราะมั่นใจได้ว่าราคาปาล์มจะอยู่ในระดับราคาที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะว่าทั่วโลกกำลังหาพลังงานทดแทน
นายโกศล ศุทธางกูร เกษตรกรชาวสวนปาล์มใน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เดิมได้ปลูกปาล์มประมาณ 40-50 ไร่ เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว เนื่องจากสภาพพื้นที่เหมาะสมกับการปลูกปาล์มมากกว่าการปลูกยางพารา เป็นที่ลุ่ม ไม่ต้องดูแลมาก โดยตัดปาล์มขายในช่วงแรกกิโลกรัมละ 1 บาท ยังไม่เคยขายได้กิโลกรัมละ 4- 5 บาท เหมือนกับช่วงนี้
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบระหว่างการปลูกปาล์มกับการปลูกยาง ปลูกปาล์มรายได้จะดีกว่า เพราะแม้ว่าฝนตกปาล์มก็สามารถตัดขายได้ตลอดเวลา แต่ยางกรีดไม่ได้ต้องขาดรายได้ รวมทั้งอุปกรณ์ในการตัดปาล์มแตกต่างกับยางโดยสิ้นเชิง ไม่ต้องดูแลมาก เพียงแค่ใส่ปุ๋ยเป็นระยะ ปาล์มก็จะให้ผลผลิตเต็มที่ขายได้เร็ว ในขณะที่ยางต้องดูแลใกล้ชิดมากกว่าปาล์ม

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 มิถุนายน 2550 12:57

Create Date : 16 กรกฎาคม 2553

Last Update : 16 กรกฎาคม 2553 9:33:11 น.

0 comments

Counter : 312 Pageviews.