วันนี้ที่รอคอย
อย่างที่แม่เคยเล่าให้ลูกฟังใน Journal ตอนตั้งครรภ์ว่า "แม่กับพ่อตัดสินใจว่าจะคลอดน้องภูวันที่ 2 กันยายน 2552 ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยของหนู และด้วยที่ว่าวันนั้นเป็นวันเกิดของคุณพ่อด้วย
แม่กับพ่อและน้องภูที่อยู่ในท้องของแม่มาถึงโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ตั้งแต่ 7 โมงเช้า พอถึงร.พ.เราก็ต้องไปทำเรื่องขอ check-in กันก่อน หลังจากนั้นคุณพยาบาลก็เข็นพาคุณแม่ไปที่ห้องรอคลอด (ซึ่งเป็นห้องเดียวกับห้องคลอดนั้นเเหละลูกรัก) มาถึงที่ห้องแม่ก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดคลอด แล้วก็กรอกเอกสารต่างๆนานา หลังจากนั้นก็ขึ้นเตียงเพื่อห้น้ำเกลือ 2 ขวด ขวดเเรก เป็นน้ำเกลือเพื่อเป็นอาหารสำหรับแม่ (แม่ถูกสั่งงดอาหารเพราะอาหารอาจทำให้อาเจียนได้) ขวดที่สอง เป็นยาเร่งคลอด น้ำเกลือและยาเร่งคลอดเริ่มผ่านเข้าสู่เส้นเลือดของแม่ตั้งแต่ 7.30 น.
ระหว่างนอนรอ แม่กับพ่อนอนดู True Vision ช่อง Cartoon Network ไปเรื่อยๆ บนตัวแม่มีก้อนอะไรสักอย่างติดอยู่ ก้อนนึงวัดการเต้นของหัวใจน้องภู อีกก้อนวัดการบีบรัดตัวของมดลูกแม่ ดังนั้น เวลาจะเดินไปเข้าห้องน้ำทีก็ต้องเรียกคุณพยาบาลมาเอาออกที (เค้าจะรำคาญแม่หรือเปล่าไม่รู้ เพราะแม่เรียกบ่อยมาก ก็แม่กินน้ำเกลือเป็นอาหารนี่หน่า) เวลาเดินไปเรื่อยๆ พยาบาลกับคุณหมอเสาวนีย์เข้ามาดูอาการแม่เป็นระยะๆ หมอบอกว่าปากมดลูกเริ่มเปิดมากขึ้นเรื่อยๆ (หมอเข้ามาที เเม่ก็เจ็บตัวที เพราะหมอเอานิ้วสอดเข้าไปวัดว่าเปิดเท่าไหร่แล้ว มิหนำซ้ำยังใช้นิ้วช่วยเปิดเพิ่มด้วยนี่น่ะสิ) หมอบอกว่า "แม่เก่งมาก ดูเหมือนไม่เจ็บเลย เป็นคนอื่นร้องไปแล้วโดนขนาดนี้" 555 แม่มันจอมอึดลูกเอ๋ย
พอ 11.00 น. หมอบอกว่าเปิด 4 ซ.ม. แล้ว หมอจึงเจาะถุงน้ำคร่ำ หลังจากนั้นความเจ็บปวดก็เริ่มมาเยือนแม่เป็นระยะๆ 14.00 น. หมอบอก 6 ซ.ม. แล้วนะ น่าจะคลอดประมาณ 17.00 น. (แม่คิดในใจว่าขอเร็วกว่านั้นได้มั้ย มันเจ็บมากแล้ว) หมอกับพยาบาลพยายามถามแม่ตลอดว่า "จะบล๊อคหลังมั้ย ถ้าไม่ไหวก็เอาเหอะ ไม่อันตรายหรอก" แต่แม่ก็ยังคงปฏิเสธอยู่เรื่อยไป แม่อยากรู้ว่ามันจะเจ็ยสักเท่าไหร่กัน
พอเปิด 6 ซ.ม. แล้ว ชีวิตแม่ในห้องนั้นก็ไม่เป็นสุขอีกต่อไป เจ็บมากลูกเอ๋ย สุดบรรยาย เหมือนปวดท้องประจำเดือน แต่ไม่ได้กินยา แต่มันก็ทนได้นะลูก แม่ก็ดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนเตียง เกาะของเตียง บิดไปบิดมา ให้พ่อมานวดหลังให้ แล้วแม่ก็ช่วยตัวเองโดยการหายใจตามที่เคยเรียนมา
เกือบ 16.00 น. หมอบอกว่า 8 ซ.ม. แล้ว (มันต้อง 10 ซ.ม. ถึงจะคลอดได้ลูก) พอหมอเดินออกไป แม่รู้สึกปวดมาก ลมเบ่งก็ไม่รู้มาจากไหน เหมือนเบ่งอึน่ะลูก เลยบอกพยาบาลว่าไม่ไหวแล้ว ตามหมอด่วนเลยค่า อีก 10 นาทีหมอเข้ามาตรวจแล้วหันไปบอกพยาบาลว่า โอเค เอาเลย ระหว่างที่หมอเดินไปเปลี่ยนชุด แม่ก็เบ่งไปเรื่อย เกาะเตียงร้อง บิดไปมา พ่อยืนอยู่บนหัวแม่ คอยลูบหัว แล้วก็บอกให้แม่ร้องไปเลย
ทุกอย่างดำเนินต่อไป พยาบาลมายืนตรงท้องแม่ คอยจับแล้วก็ให้สัญญาณเบ่ง หมออยู่ปลายเตียง (คอยรับหนูไง) ช่วงเวลานั้น สุดยอดมากเลยลูก แม่เจ็บมาก เบ่งสุดฤทธิ์ น่าจะประมาณ 5 ครั้ง หนูก็คลอดออกมา แล้วหมอเด็กก็พาหนูไปทำความสะอาด แม่บอกตามหนูตลอด แล้วก็ยิ้มต้อนรับหนู ในใจคิดว่า "สุดยอด ชั้นทำสำเร็จแล้ว" อยากเห็นหน้าหนูใกล้ๆแล้ว น้ำตาแม่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว มันไหลแบบตื้นตันน่ะลูก หนูเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในชีวิตแม่จริงๆ
พยาบาลห่อตัวหนูแล้วพามาดูดนมแม่ แล้วก็ถ่ายรูปให้เรา 3 คน พ่อ แม่ ลูก "แม่รักหนูจังเลย รักแบบไม่มีเหตุผล" จะมีอะไรในชีวิตแม่ที่วิเศษเท่ากับหนูอีกมั้ย คงไม่มีแล้ว แม่สัญญาว่าจะเลี้ยงดู ให้ความรัก ความอบอุ่น และให้สิ่งที่ดีที่สุดกับหนู น้องภูของแม่
ป.ล. ในห้องคลอดทำให้แม่คิดถึงคุณยาย และแม่ทุกชีวิตบนโลกใบนี้ แม่เป็นบุคคลที่เสียสละ และมีบุญคุณเหลือล้น วันเกิดลูกอาจจะเป็นวันตายของแม่ก็ได้ ฉะนั้น วันเกิดของเราอย่างทิ้งคนที่พร้อมจะตายในวันนี้ไว้บ้าน แล้วตัวเราออกไปฉลองกับเพื่อนหรือแฟนเด็ดขาด วันเกิดของลูกคือวันที่ลูกต้องนึกถึงบุญคุณของผู้หญิงที่เรียกว่า "แม่"
Free TextEditor
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 21 มิถุนายน 2553 10:46:37 น. |
|
2 comments
|
Counter : 591 Pageviews. |
|
|
ขอให้น้องโตไวๆๆนะคะ