หลายเรื่องราว...เล่าเรื่องลูก...ที่คงไม่มีวันเลือนหาย..ในความรู้สึกของแม่
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 

ความงดงามในยามสุข

ฉันถูกลูกปลุกแต่เช้าในเช้าวันคริสมาสต์ ไม่น่าเชื่อว่า
เด็กมีสัญชาตญาณของการกระเด้งลุกจากที่นอนโดยที่แม่ไม่ต้องปลุกในวันสำคัญของเขา อากาศหนาวในเช้าวันนี้แต่ก็ต้องลุกไปเปิดไฟให้ลูก..เพราะลูกตื่นเต้นอยากเห็นของขวัญพิเศษที่ซานต้านำมาให้..(แต่แม่แอบถ่างตาคอยให้ลูกหลับแล้วนำไปวาง)



เห็นลูกตื่นเต้นเปิดของขวัญ..ส่งเสียงกิ๊วก๊าว..ถูกใจที่ได้ของขวัญที่ตัวเองชอบ ฉันนั่งมองอนิกและอลีนาไปพร้อมๆกันแล้วทำให้นึกถึงความหลัง..เมื่อครั้งที่นิกยังเล็ก ฟังดูคล้ายว่า..ฉันรักอนิกมากกว่าอลีนา เพราะฉันพูดถึงนิกมากกว่าพูดถึงอลีนา แต่ทว่า..ความทรงจำเมื่อครั้งนิกยังเล็กมักจะผุดขึ้นมาในใจอยู่เสมอ



ความทรงจำในด้านเศร้าๆมันมักจะผุดขึ้นมาในยามที่ฉันสุข แต่ในยามที่ฉันทุกข์..ความทรงจำด้านสุขมันจะเข้ามาแทนที่เสมอ วันนี้ฉันมีความสุข มันจึงทำให้ฉันนึกถึงวันเวลาที่หอบเอาอนิกมาอยู่อเมริกาใหม่ๆ..เราสามคนพ่อแม่ลูกเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ด้วยกัน นิกไม่มีที่วิ่งเล่น ภาษาแม่ก็ยังไม่ดี อาหารแม่ก็ทำไม่เก่ง ทุกอย่างดูขลุกขลักไปเสียทุกเรื่อง ดูเหมือนว่า..นิกผ่านความทุกข์มาพร้อมๆกับแม่..ในขณะที่อลีนาเกิดมาเมื่อพ่อกับแม่พร้อมกว่า



และแม้ย้อนไปก่อนที่จะมาอยู่อเมริกา นิกก็ต้องแยกไปอยู่กับตายายไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ด้วยซ้ำไป เราสามคนพ่อแม่ลูกต่างคนต่างอยู่กันคนละที่ พ่อเจ้านิกอยู่อเมริกา ฉันอยู่กรุงเทพฯและนิกอยู่แพร่ มันทำให้ฉันรักครอบครัวฉันมากมาย..เพราะเราได้ผ่านวันเวลาที่ยากลำบากมาด้วยกัน ฉันชอบเล่าถึงเรื่องราวที่ผ่านมาให้นิกฟังเมื่อครั้งลูกยังอยู่เมืองไทย บางครั้งฉันเล่าให้สามีฟัง..ถึงความรู้สึกที่อยู่ห่างลูก และต้องลางานไปเยี่ยมลูกในแต่ละเดือน ลาป่วยทั้งๆที่ไม่ป่วย ป่วยหมดฉันก็ลากิจ ไม่แคร์ว่าจะโดนอะไรเพราะถึงอย่างไรฉันรู้ตัวดีว่าฉันต้องลาออกจากงานในที่สุด



ฉันเล่าถึงความรู้สึกที่ฉันได้เป็นหนี้บุญคุณพ่อ..แม่..และครอบครัวของพี่ชายให้พ่อเจ้านิกฟังที่พวกเขาช่วยกันเลี้ยงดูนิกให้..ทั้งๆที่ไม่ได้ค่าตอบแทนอะไรมากนักในการทำหน้าที่นั้น พี่ชายฉันขับรถพาหลานไปหาหมอเด็กในเมืองทุกครั้งที่นิกเป็นไข้ ถึงวันที่ฉันมี..ฉันและพ่อเจ้า นิกก็ตอบแทนสิ่งที่พวกเขาให้กับฉัน ในความรู้สึกของฉันนั้น..เงินทองที่ฉันให้มันเทียบไม่ได้กับสิ่งที่พวกเขาให้กับลูกฉัน..นั่นคือ..การให้ความรักกับเด็กคนหนึ่งอย่างไม่มีข้อแม้ อดหลับอดนอน แม้วัยของพ่อแม่เป็นวัยที่ควรจะพักผ่อนด้วยซ้ำไป



ฉันมักจะเป็นอย่างนี้เสมอ..จะจดจำการให้จากใครๆในยามที่ฉันลำบาก มากกว่าการได้รับจากใครๆในยามที่ฉันมีพอ..แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ฉันไม่สำนึกถึงบุญคุณหรือความเมตตาของใครเลย เพียงแต่ว่า..ความประทับใจเมื่อครั้งที่ฉันลำบาก..มันงดงามกว่าเท่านั้นเอง




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2549
11 comments
Last Update : 26 ธันวาคม 2549 6:24:35 น.
Counter : 764 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ

เข้ามาทักทาย

ยามสุข เอ้มักจะลืมเรื่องทุกข์ทั้งหมด แต่ยามทุกข์ ก็มักจะนึกถึงวันเวลาที่เคยสุขค่ะ แล้วทุกอย่างก็มีผ่านไป ทุกข์และสุขอยู่กับเราไม่นาน หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเข้ามา

 

โดย: น้องเอ้ IP: 221.128.116.86 26 ธันวาคม 2549 8:56:48 น.  

 

นึกถึงคำนี้เลย

คนมีมาก ให้มาก เหมือนให้น้อย
คนมีน้อย ให้น้อย เหมือนให้หมด



อาร์ตไม่ทราบว่าเมื่อก่อนพี่แม่น้องนิกอยู่แบบแยกๆ กันด้วยภาวะที่จำเป็น นึกว่ามาถึงก็อยู่อเมริกาเลย อาร์ตเคยเปรยๆ ด้วยซ้ำไม่รู้ว่าพี่แม่น้องนิกจำได้ไหม ว่าเล่าเรื่องอลีนาบ้างสิ อยากฟังเรื่องอลีนา มีแต่เรื่องน้องนิก ก็ยังแอบนึกอยู่ในใจว่าหรือว่าจะรักน้องนิกมากกว่านะ? แต่พอได้อ่านบล๊อกนี้แล้วก็เข้าใจ

คนที่มีน้ำใจให้เราทุกๆ ครั้งมันมีค่า แต่น้ำใจที่ได้รับในยามยาก ย่อมประทับอยู่ในใจอย่างลึกซึ้งเสมอ เหมือนกับเพื่อนที่หัวเราะกับเราอย่างเต็มเสียงมีมากมาย จะเอาสักกี่คน แต่เพื่อนที่เรากล้าเปิดเผยตัวเองในมุมที่เลวที่สุด ที่แย่ ที่อ่อนแอที่สุด มีไม่เกินนิ้วมือข้างหนึ่งของเราหรอก

-----------------เม้นท์ตรงไหมนี่ เอาน่ะ เนาะ

 

โดย: นางสาวอาร์ต 26 ธันวาคม 2549 9:01:38 น.  

 

เอ้

พี่ว่าเอ้ยังไม่แก่พอมั๊งโลกของเอ้ยังงดงามสดใส
เอ้ทุกข์ใจ..เอ้ก็ยังมีพี่แมวอยู่ทั้งคน
แต่พี่เริ่มแก่แล้ว..มีเวลาทบทวนเรื่องราวของ
ตัวเองมากมายเลย

น้องอาร์ต

ขอบคุณมากสำหรับคำที่ยกมาให้อ่าน
อ่านแล้วรู้สึกดีมาก..พี่ไม่เคยเห็นมันอ่ะ
นี่ไง..พี่ถึงได้บอกอาร์ตว่า..บางมุมมอง
อาร์ตก็รู้ดีกว่าพี่อีก พี่ถึงต้องการเม้นท์
ที่เขียนตรงกับใจ

พี่แยกกันอยู่ปีนึง..จอห์นเขาไม่อยากให้
แม่เขาเป็นสปอนเซอร์ขอกรีนการ์ดให้พี่
ตอนนั้นนิกเกิดได้สองเดือนเขาก็บินไป
อเมริกาหางานทำ..โชคไม่ดีแม่เขาตกเตียง
ขาหัก เขาเลยเฝ้าพยาบาลแม่ถึงสี่เดือน
กว่าจะเดินทางไปแคลิฟอร์เนียหางานทำ
ถึงได้ส่งหลักฐานเงินเดือนให้สถานฑูต
พี่ถึงได้กรีนการ์ด..แล้วเขาก็มารับพี่จ่ะอาร์ต

น้ำตาพี่ร่วงทุกวัน..โชคดีว่าตอนนั้นมีเนทใช้แล้ว..ไอ้พวกหวังดีประสงค์ร้ายมันก็กรอกหู
ทุกวันนะว่า..ผัวมันทิ้ง..คิดดู๊..พอจอห์นจะมารับ มันก็กรอกหูอีกว่า..ทำไมลาออก..เผื่อผัวทิ้ง แม่ม..มัน..พี่ยังคิดว่า..ถ้าตูไปแล้วตูคงไม่หวนมาเจอพวกมันอีกหรอก

ชีวิตพี่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่
อาร์ตเข้าใจนะ..ตอนนี้อ่ะสบายจริง..แต่กว่า
จะมีวันนี้ พี่กับจอห์นก็เหมือนเพื่อนร่วมตาย

พี่เคยบอกเขาเลยว่า..เราเนี่ย..ต้องสู้และเดิน
หน้าอย่างเดียว..เราจะล้มไม่ได้เพราะเรามีนิก
ถ้ายูล้ม..เราก็กอดคอกันตายทั้งหมด

เม้นท์ตรงไม่ตรง อาร์ตก็เขียนไปอย่างที่คิด
เถอะ..แต่ชีวิตจริงเป็นอย่างที่อาร์ตพูด
เพื่อนที่พากันหัวเราะน่ะมีเยอะ..พี่ขี้เกียจมี


 

โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) 26 ธันวาคม 2549 9:35:42 น.  

 

อ่านไปอ่านมาค้นพบว่าผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายมีอยู่ทั่วทุกที่จ๊ะ

ขวัญก็เคยเขียนถามพี่แมวเนอะว่าอยากให้เล่าเรื่องอลีน่าบ้าง
มาเข้าใจวันนี้เอง

ชีวิตคู่มีสุขมีทุกข์ต่างกันไปตามเรื่องราวของแต่ละคน
แต่ละครอบครัวมีเรื่องราวของตัวเองที่แตกต่างกัน
เวลากลุ้มๆกับชีวิตตวเองพอได้อ่านเรื่องที่คนอื่นเคยได้รับมาถึงรู้ว่าสิ่งที่เรากลุ้มใจน่ะเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก


กลับไปอ่านบล็อกเก่าเลยรู้ว่าคุณแม่ขี้โมหโด้ของขวัญด้วย ซานต้าใจดีจริงๆคะ ขวัญชอบวิธีสอนของพี่แมวมากๆที่บอกเด็กให้อยู่ในวินัยด้วยเรื่องที่เค้าเข้าใจได้ง่ายๆและเห็นผลได้เร็วด้วย

 

โดย: miz u so much 26 ธันวาคม 2549 14:11:25 น.  

 

เพื่อนที่คอยหัวเราะเยาะ มีแยะ แต่อย่าลืมว่าเพื่อนที่ต่อหน้าเราปลอบโยน ในขณะที่ลับหลังเราแล้วหัวเราะเยาะเรานั่นน่ะ น่ากลัวกว่า

แม้ว่าเราจะไม่เคยทำร้ายใคร (โดยเจตนา) แต่ว่าคนเราที่ทำร้ายกันอย่างซับซ้อนแนบเนียนนั้นมีมากนัก มากกว่าที่เราจะคาดคิด ซึ่งถ้ามองมุมกลับนั่นแปลว่าเรามีสิ่งให้คนนั้นอิจฉา (อีกนัยหนึ่งคือเรามีดีมากกว่าชีวิตของเขา) เพราะฉะนั้น จงภูมิใจ

ปมด้อยของคน บางทีก็แสดงออกจากการกระทำของเขานี่หละ เพราะฉะนั้น การนั่งนิ่งๆ แล้วดูคนที่กำลังแสดง (หรือพยายามแสดง) ตัวตนของตัวเองออกมา นั่นถือเป็นงานอดิเรกที่ทำให้เพลิดเเพลินไปอีกแบบ



 

โดย: นางสาวอาร์ต 26 ธันวาคม 2549 20:20:23 น.  

 

แม่ขวัญ

เห็นยังจ๊ะว่า..ที่แม่ขวัญคิดว่าตัวเองกลุ้มน่ะ
มันเพียงเศษเสี้ยวของความกลุ้มที่คนอื่นมี
พี่ก็เช่นกัน..เรื่องของพี่ก็อาจจะเป็นเศษเสี้ยว
ของความกลุ้มของคนอื่น ก็เลยมีกำลังใจที่จะ
ไม่ท้อ

น้องอาร์ต

ทำไมพี่จะไม่เคยเจออย่างที่อาร์ตพูดมาล่ะ
แต่พี่ก็เลือกคบเพื่อน ไม่ได้มีเพื่อนมากมาย
บังเอิญเป็นคนมีเซ้นส์ในการมองคนด้วยสิ
ว่า..คนไหน..ควรคบอยู่แค่ไหน

ในมุมมองที่ทำให้คนอิจฉานั้น
พี่ก็เข้าใจจ่ะ แต่เราก็ต้องทำใจอย่างอาร์ตว่า
นะ..คนเราใครๆก็อยากได้แต่สิ่งที่ดีๆทั้งนั้น
ไม่มีใครทำอะไรพี่ได้..ถ้าพี่ไม่พาใจตัวเอง
ให้ไหลไปกับสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้เรา..ก็คือ
การทำร้ายความรู้สึกกันน่ะแหละ

เจอมาเยอะแล้วล่ะอาร์ต..แต่ไม่ค่อยเจ็บ
ไปกับเรื่องเหล่านี้..เมื่อก่อนน่ะอาจจะเป็น
เดี๋ยวนี้เก่งขึ้นเยอะ

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.135.231 26 ธันวาคม 2549 22:39:20 น.  

 

การที่สิ่งมีชีวิจที่เราเคยเผลอไผลเรียกว่าเพื่อนทำร้ายเรา ไม่น่าเสียใจหรอกนะ

ใครทำอะไรให้เจ็บช้ำ อาร์ตก็จะก่อนโศกอยู่นั่นแหละ จนกระทั่งไม่มีน้ำตาจะไหล ยิ่งเป็นคนบ่อน้ำตาตื้น น้ำตาไหลแรงและไหลเชียวเสียด้วย

แต่สุดท้าย อาร์ตก็จะบอกกับเขาว่าเสียใจด้วยนะ คุณเสียเพื่อนคนหนึ่งที่ตรงไปตรงมากับคุณที่สุดคนหนึ่งไปแล้วล่ะ

---น่ายินดี ที่คนแบบนี้เคยเจอมาคนเดียวในชีวิต และอย่าให้ได้เจออีกเลย

 

โดย: อาร์ตค่ะ IP: 124.120.2.159 27 ธันวาคม 2549 1:38:03 น.  

 

พิมพ์ผิดหลายที่แฮะ ไม่รอบคอบเลย

 

โดย: อาร์ต - โหมดสะเพร่า IP: 124.120.2.159 27 ธันวาคม 2549 1:54:40 น.  

 

พี่ว่า..พี่เข้าใจที่อาร์ตพูดถึง และคิดว่า
อาร์ตคบใครอาร์ตให้ใจเต็มร้อยแล้วค่อยๆลด
ดีกรีลง สำหรับพี่..ให้น้อยก่อนแล้วค่อยๆ
เพิ่มตามแต่ศรัทธาน่ะ

พี่คบใครพี่ใช้เวลานานนะ กว่าจะเข้าถึงใจพี่ได้ มิตรภาพที่ยั่งยืนสำหรับพี่คงเป็นว่า
ทุกครั้งที่เราสุขทุกข์ เรามีเขายืนอยู่ตรงนั้น่
ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะอยู่ข้างกายเขาทุกวัน
หรือไม่ก็ตาม..อาร์ตเคยรู้สึกอย่างนี้หรือปล่าว

 

โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) 27 ธันวาคม 2549 2:15:22 น.  

 

เคยจ้ะ พี่แม่น้องนิก

นอกจากเพื่อนที่อยู่ข้างเราในทุกๆ ครั้งที่บาดเจ็บแล้ว เพื่อนอีกประเภทหนึ่งที่มีค่ายิ่งสำหรับอาร์ต คือเพื่อนที่มั่นใจในเรา แม้ว่าเราเพิ่งทำเรื่องที่ไม่งามเอาซะเลยมาหยกๆ แต่หลังจากที่มันด่าทออบรมเราเรียบร้อย มันยังมั่นใจในความใฝ่ดีของเรา ว่าไม่ได้ดื้อด้านเกินจะอบรมบ่มนิสัย

 

โดย: อาร์ต IP: 124.120.2.159 27 ธันวาคม 2549 2:34:14 น.  

 

ติดใจตรงที่พี่บอกว่า เอ้ยังไม่แก่พอมั้ง โลกของเอ้ยังงดงามสดใส เอ้ก็อายุมากแล้วเหมือนกันนะคะ แต่โลกของเอ้มันก็ยังสดใสงดงามจริง ๆ แหละค่ะ เพราะเอ้ไม่เคยเจออะไรที่มันเลวร้าย เลยไม่เข้าใจว่าโลกที่มันเลวร้ายเป็นยังไง บางครั้งก็กลัวเหมือนกันว่าตัวเองอ่อนต่อโลกเกินไป

เรื่องทุกข์ใจเรื่องเดียวที่มี ก็คงจะเรื่องความรักที่เคยปรึกษาพี่แหละมั้งคะ แต่ตอนนี้เอ้ก็เห็นแล้วล่ะว่ามีคนอีกตั้งมากมายที่ผิดหวังกับความรัก บางคนต้องเสียใจมากมาย แต่เอ้ไม่เคยเสียใจขนาดนั้น ถึงจะผิดหวังบ้าง แต่เอ้ก็ได้สิ่งอื่นกลับมา มันมีค่ามากกว่าจะมามัวแต่นั่งคิดถึงความผิดหวัง แล้วเขาก็ไม่ได้หายไปไหน ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่เหมือนเดิม สำหรับเอ้ต้องใช้เวลาเป็นตัวช่วยค่ะ

เอ้มองดูชีวิตตัวเอง ทุกวันนี้ก็แสนจะสบาย มันสบายตรงที่ว่าอยากทำอะไรอย่างที่ใจอยากก็ทำได้ คิด ๆ ดู แล้วเอ้ยังไม่กล้าแลกชีวิตอิสระแบบนี้ กับชีวิตครอบครัวที่มีภาระรับผิดชอบ และความห่วงแบบไม่รู้จักจบสิ้นหรอกค่ะ

เอ้ก็ใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ ไปวัน ๆ ไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิต เงินเดือนแต่ละเดือนก็ใช้จ่ายเท่าที่อยากใช้ เอ้ไม่ได้คิดจะเก็บเงินไว้เยอะ ๆ เอ้ใช้จ่ายหาความสุขให้ตัวเองไปด้วย แต่ก็มีเก็บไว้ส่วนหนึ่ง ทุกวันนี้จะว่าสุขก็สุข ถ้าเอ้พอใจกับมัน ก็คงไม่มีอะไรที่เอ้อยากได้แล้วล่ะค่ะ

 

โดย: น้องเอ้ IP: 125.25.138.235 27 ธันวาคม 2549 11:01:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Mommy and me
Location :
California United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mommy and me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.