หลายเรื่องราว...เล่าเรื่องลูก...ที่คงไม่มีวันเลือนหาย..ในความรู้สึกของแม่
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2549
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
30 สิงหาคม 2549
 
All Blogs
 

Angel Child,Dragon Child

เรื่องนี้แม่น้องนิกแปลจาก
หนังสือแบบเรียนของนิก
เป็นวรรณกรรมเยาวชน
ที่เขาคัดมาใส่หนังสือแบบเรียน
เพื่อสอนเด็กปอสาม เนื้อเรื่อง
สอนเกี่ยวกับเรื่องเพื่อน
อ่านแล้วต่อมน้ำตาแตก
เลยแปลมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ




Angel Child,Dragon Child

- 1 -

พี่สาวฉันเดินจ้ำพรวดๆ
ผ่านประตูทางเข้าไปในโรงเรียน
แม่ไม่ได้เดินมาส่งฉัน
แม่อยู่ที่เวียดนามไกลฉันเหลือเกิน
แม่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆเพื่อที่จะบอกว่า
" อั๊ท..ลูกแม่..จงมีความอดทนและ
มีความสุขในโรงเรียนใหม่ที่อเมริกานะลูก "

ฉันยืนเกาะกำแพงแน่น
และแอบมองไปรอบๆบริเวณ
เด็กผู้ชายผมแดงราวกับ
เปลวเพลิงคนหนึ่ง ชี้นิ้วมาที่ฉัน
" ชุดนอน! "(ชุดประจำชาติของเวียดนาม)
เขาตะโกนก้อง
" สองคนนั้นสวมชุดนอนมาโรงเรียน! "
เด็กอเมริกันหลายๆคนหันมองฉัน
และพี่สาวด้วยหางตา
แล้วพากันหัวเราะด้วยความขบขัน

ฉันหันหลังกลับ
" หนูอยากกลับบ้านไปหาพ่อหาน้อง "
ฉันบอกพี่สาว มือของ ชีไฮ
พี่สาวฉันโอบลงมาบนไหล่
" เราต้องอยู่ในที่ๆพ่อแม่
อยากให้เราอยู่นะ..อั๊ท เราต้องอยู่ให้ได้ "
ทันทีเสียงออดเข้าเรียนก็ดังขึ้น
ฉันก็พลัดหลงกับพี่สาวท่ามกลาง
เหล่านักเรียนที่ต่างพากันเดินเข้าห้องเรียน
" ชุดดดด..นอนนนน" พวกนักเรียน
ล้อเลียนฉันอีก

ในห้องเรียน
เด็กนักเรียนไม่ได้นั่งรวมกัน
และท่องบทกลอนอย่างที่ฉันเคยเรียน
แต่พวกเขาพากันยกมือตอบคำถาม
ทีละคน ฉันซ่อนมือของฉันเอาไว้
แต่ครูก็เรียกชื่อฉันจนได้ " งูเย็น ฮัว "
ฮัวคือชื่อจริงของฉัน ชื่อเล่นของฉัน
คือ อั๊ท ซึ่งแปลว่าลูกสาวคนเล็ก

" ฮัว.." ครูเรียกชื่อฉันช้าๆ
" เขียนชื่อของหนูให้ครูดูสิจ๊ะ "
ครูวางช๊อกลงในมือของฉัน
แล้วทำสัญญาณมือ
บอกให้ฉันเขียน " หนูไม่เข้าใจค่ะ.."
ฉันกระซิบตอบ
เด็กๆตากลมโตพวกนั้น
หัวเราะเยาะฉัน
เด็กผมแดงยังเอานิ้วจิ้มหลังฉัน
แล้วบอกว่า " ยืนขึ้นสิ..ชุดนอน "

ฉันยืนขึ้นแล้วตะโกน
ภาษาของฉันออกไปว่า
Chao buoi sang
ฉันพูดด้วยความกล้าหาญ
แต่เด็กเหล่านั้นก็ผิวปากล้อเลียน
ฉันนั่งลงยกฝาโต๊ะที่ยกเปิดได้
ขึ้นบังหน้าตัวเองไว้
เพื่อซ่อนความโกรธ

ในกระเป๋ากางเกง
ฉันสัมผัสถึงของขวัญที่แม่ให้
มันเป็นเหมือนกล่องไม้ขีด
ที่ทำด้วยไม้ ขลิบขอบกล่อง
ด้วยเงิน ฉันหยิบมันออกมา
ลูบไล้หน้ากล่องที่เขียนว่า
Hao-phuong
เมื่อฉันเลื่อนกล่องข้างในออกมา
ตาของแม่ค่อยๆโผล่ออกมา
ให้ฉันได้เห็น
" หนูจะเก็บแม่ไว้
ในที่ๆปลอดภัยนะคะ "
ฉันบอกแม่
" เห็นมั๊ยคะว่ารูปของแม่
ใส่ไว้ได้พอดีในนี้ "

ใบหน้าที่เต็มไปด้วย
รอยยิ้มของแม่กำลังฟังฉันอยู่
ฉันได้ยินเสียงใสๆราวกับ
เสียงเพลงของแม่บอกว่า
" อย่าโกรธนะ..
ลูกสาวตัวน้อยของแม่..
จงเป็นมังกรน้อยที่เข้มแข็ง "
เสียงแม่บอกกับฉันอย่างนั้น
วันนั้นทั้งวัน
ฉันจึงเป็นคนเข้มแข็ง
ทนได้แม้กระทั่ง
เสียงซุบซิบนินทา
และเวลาที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้า
กระทั่งเสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น..
ได้เวลากลับบ้านเสียที

-2-

ทันทีที่เห็นฉัน..
ควาง น้องชายฉัน
ตะโกนเรียก อั๊ท..อั๊ท
ดวงตาราวกับเม็ดก๋วยจี้
ที่เปี่ยมไปด้วยเสียงหัวเราะมองมา
ฉันรีบวางหนังสือ
แล้วอุ้มน้องนั่งตัก
เขาพันผมฉันเล่น
ในขณะที่ฉันนั่งหาสะระแหน่
และใบกุยช่ายที่เสียออก

คืนนั้น
น้องชายนอนอยู่ข้างๆตัวฉัน
ฉันให้น้องดูรูปของแม่
ในกล่องไม้ขีดไฟ
เราสองคนอ้อนวอนพระเจ้าว่า
" โปรดคุ้มครองแม่ของหนูด้วยเถิด..
ช่วยส่งแม่ให้มาอยู่ร่วมกับพวกหนูเร็วๆ "
รูปของแม่ที่อยู่เคียงข้าง ทำให้พวกเรา
รู้สึกว่ามีแม่อยู่ใกล้ๆและหลับสบาย

-3-

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันหนึ่งขณะที่อยู่โรงเรียน
เกล็ดสีขาวเล็กๆโปรยลงมา
ข้างหน้าต่างที่หนาวเย็น " แม่..."
ฉันกระซิบ " นี่คือหิมะ..ที่ทำให้ทุกสิ่ง
ทุกอย่างดูอ่อนโยน แม้กระทั่งต้นไม้
ที่ไร้ใบยืนต้านลมหนาวก็ยังดูสวยงาม "
ฉันเคาะมือลงไปบนโต๊ะ
ในขณะที่คอยเสียงออดเลิกเรียน
เมื่อเสียงออดดัง
ฉันรีบตรงดิ่งไปยังประตูทางออก

ข้างนอก เกล็ดหิมะ
แต้มรอยจูบเปียกๆลงบนแก้มของฉัน
" ชีไฮ.." ฉันเรียกพี่สาวฉัน
" กำมันไว้..ก่อนที่มันจะละลาย! "
พี่สาวฉันตะโกนบอก
ทันทีที่ชีไฮพูดจบ
ก้อนหิมะก็กระทบเข้าที่
ปลายคางของเธอ
เด็กชายผมแดงรีบกระโดด
หลบเข้าหลังที่ถังขยะใบใหญ่
เขาหัวเราะเยาะด้วยเสียงอันดัง

ฉันพยายามแล้ว
แต่ฉันทนเป็นคนดี
อย่างที่แม่สอนไม่ได้
ก่อนที่จะทันรู้ตัว
ฉันก็กอบหิมะขึ้นมา
มือฉันปวดแสบปวดร้อนและเริ่มแดง
ฉันขว้างก้อนหิมะไปที่เด็กผมแดง
แล้วเสียงหัวเราะก็เงียบไป

ทันใดนั้นเอง เด็กผู้ชาย
ผมแดงก็วิ่งเข้ามาชนฉัน เราล้มลุก
คลุกคลานท่ามกลางหิมะ ชกกัน ด่ากัน
จนกระทั่งมือของผู้อำนวยการกระชาก
ฉันออกมา " กลับเข้าไปข้างใน..."
ผ.อตะโกนใส่ และเดินนำหน้าเรา
เข้าไปข้างใน " เราจะไม่ทะเลาะกัน
เธอสองคนต้องรู้จักช่วยเหลือกัน "
ผ.อ สั่งด้วยเสียงดุดัน เขาชี้มาที่ฉัน
บอกว่า " ฮัว..เธอต้องพูดกับเรม่อน..
ใช้ภาษาของเธอบอก
เล่าเกี่ยวกับเวียดนาม "
เรม่อนสบตาผ.อ
" แล้วเธอ..เรม่อน
เธอต้องเรียนรู้ที่จะฟัง
แล้วเขียนเรื่องราวของฮัว ส่งฉัน "
" แต่ผมไม่เข้าใจภาษาพิสดารนั่นนี่ครับ "
เรม่อนเอ่ย " แล้วผมก็ไม่มีดินสอด้วย "
" ใช้อันนี้ก็แล้วกัน.." ผ.อ ตอบ
พร้อมกับกระแทกปากกาลงบนโต๊ะ
หันกลับและปิดประตูดัง..ปัง!

" ชุดนอน..." เรม่อนเรียกฉัน
เขาขยับกระดาษ
หักดินสอออกเป็นสองท่อน
แล้วก้มลงซ่อนหน้าไว้ใต้วงแขน
แล้วฉันจะเล่าเรื่องของฉันได้อย่างไร...
เข็มนาฬิกาช่างฝ้าฟางยามที่ฉันมองมัน
ไม่...ฉันไม่สามารถเป็นนางฟ้าที่แสนดี
กับเด็กผู้ชายใจดำคนนี้ได้หรอก
ทันใดนั้น ฉันได้ยินเสียงกระซิกดังขึ้น
ไหล่ของเรม่อนสั่นไหว เหมือนยามที่ฉันเห็นน้องชายร้องไห้

ฉันตรงไปยังเรม่อน ค่อยๆ
จับที่แขนเสื้อเขา แต่เขาไม่หันมา
" เรม่อน..อย่าร้องนะ เดี๋ยวฉันแบ่งคุ๊กกี้ให้เธอนะ " ฉันบอก
ทันใดนั้นเอง เขาก็ผงกหัวขึ้น " ฮัว!..."
เรม่อนร้องตะโกน
" เธอเรียกชื่อฉัน
เธอไม่ได้พูดภาษาตลกๆของเธอแล้ว "
เรม่อนยังหักคุ๊กกี้แบ่งให้ฉันครึ่งหนึ่ง

" ฉันพูดภาษาอังกฤษ "
ฉันเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ
" เธอเรียกฉันว่า อั๊ท..สิ
อั๊ทเป็นชื่อเล่นของฉัน
ที่ใช้เรียกกันที่บ้าน "
" ก็ได้..อั๊ท..แต่เธอต้อง
บอกฉันก่อนนะว่า
มีอะไรอยู่ในกล่องไม้ขีดไฟ "
" แม่ฉันเอง " ฉันบอกเขา
เรม่อนถามฉันต่อว่า
" ทำไมเธอต้องใส่รูปแม่เธอ
ไว้ในกล่องไม้ขีดไฟ "
" เพราะแม่ของฉันอยู่ห่างไกลเหลือเกิน " ฉันตอบด้วยเสียงอันแผ่วเบา
" แม่เธอไม่ได้อยู่กับเธอเหรอ.."
" แม่มีลูกหลายคน
เราไม่มีเงินมากพอที่จะ
ให้แม่มาพร้อมกับเราด้วย..."
" เดี๋ยวนะ.." เรม่อนหยิบดินสอขึ้นมา
ฉันหยิบกระดาษปล่าวส่งให้เขา
" เอาล่ะ..เธอบอกเรื่องเวียดนาม
ให้ฉันฟังได้แล้ว.."
เรม่อนก้มหน้าก้มตาเขียนอย่างลวกๆ
ส่วนฉันก็วาดรูปเล่น
ขณะที่บอกเล่าเรื่องราวให้กับเขา
กระทั่งเรม่อนเงยหน้าขึ้น
แล้วร้องบอกว่า " เสร็จแล้ว "
ผู้อำนวยการเดินมาหาเราสองคน
แล้วบอกให้เราสองคนกลับบ้าน
เราสองคนพร้อมใจกันเดินออกประตูไป

- 4 -

วันต่อมา..
ผู้อำนวยการโรงเรียน
ได้นำเรื่องราวที่เรม่อนเขียน
ไปอ่านที่หน้าเสาธง
ต่อหน้าเพื่อนๆนักเรียนว่า
" เด็กผู้หญิงสองคนนี้
เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่นี่
พวกเขาทิ้งแผ่นดินที่พวกเขาเกิด
ทิ้งเพื่อนๆไว้เบื้องหลัง
และที่สำคัญเหนืออื่นใด
พวกเขาทิ้งแม่ไว้ที่นั่น ดังนั้น..."

" แม่ของอั๊ท
ต้องการเงินที่จะเดินทาง
เพื่อที่จะมาอยู่กับลูกๆที่อเมริกาครับ "
สิ้นเสียงตะโกนบอก ร่างของเรม่อน
ก็ปีนขึ้นมายืนบนเก้าอี้แล้วเสริมต่อว่า
" และพวกเราสามารถจัดงานออกร้าน
เพื่อหาเงินให้ได้ครับ "
" หนุ่มน้อย.." ผ.อ ร้องเตือน
เรม่อนจึงนั่งลงตามเดิม
" เราทำได้ครับ "
เรม่อนบอกอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจนัก
ฉันไม่กล้าสบตาผู้อำนวยการ
และกลั้นลมหายใจ พี่สาวฉัน
นั่งบีบนิ้วมืออยู่ข้างๆ

"งานออกร้านพิเศษ
งานออกร้านเพื่อคนเวียดนาม "
ครูประจำชั้นของฉันสนับสนุนขึ้นมา
ดวงตาของฉันเบิกกว้าง
ส่วนผู้อำนวยการ
กระพริบตาปริบๆบอกว่า
" แล้วใครจะช่วยเราจัดงานออกร้านล่ะ.."
ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
" ผมครับ..หนูค่ะ "
" ถ้างั้น..เราจะคอยอะไรอีกล่ะ.."
สิ้นเสียงผู้อำนวยการ
ทุกคนพร้อมใจกันปรบมือ
แสดงความยินดีกันทั่วหน้า

- 5 -

วันพิเศษวันนั้น
ฉันสวมชุด อ๋าวได๋ และต้อนรับ
ทุกๆคนที่มาในงานออกร้าน
ของพวกเราด้วยคำพูดว่า
" Chao buoi sang " คนที่มาเที่ยวงาน
ตอบรับฉันด้วยคำพูดนี้เช่นกัน

เบื้องบนคือผืนฟ้า
มีมังกรร่ายรำอย่างร่าเริง
บนผืนดิน ชีไฮ กำลังขายขนม
และคุ๊กกี้ เรม่อนปาลูกโป่งแตก
และได้รางวัลเป็นปลาทองสามตัว
เขายื่นปลาตัวหนึ่งให้น้องชายฉัน
แล้วบอกว่า " อย่ากินเข้าไปล่ะ "

กระทั่งเย็นย่ำ
เราก็ได้เงินมากพอที่จะส่งไปให้แม่
เป็นค่าเดินทาง
" แล้วแม่จะมาถึงเมื่อไหร่ล่ะ.."
ฉันตั้งคำถามกับตัวเอง
ทุกวันที่เราเดินกลับบ้าน
เราเฝ้าถามตัวเองว่า
เมื่อไหร่แม่มาจะมาถึง

ฤดูหนาวผ่านไป
ฤดูใบไม้ผลิกรายเข้ามา
เราเดินย่ำท้าวปล่าวลงบนผืนหญ้า
ยังคงหวังว่าแม่จะมา..

วันสุดท้ายของภาคเรียน
ก็มาถึงฉันจำได้ว่าเดือนนี้
ดอก hoa-phuong จะบานสะพรั่ง
ในเวียดนาม เรม่อนและฉัน
จ้ำเดินนำหน้าพี่สาว
ฉันกับเรม่อนไปถึงบ้านก่อนใครๆ
ภาพที่เรามองเห็นผ่านกระจกหน้าต่าง
คือ พ่อและน้องชายของฉัน
และข้างๆพวกเขานั้น คือแม่ที่ฉันเฝ้าคอย







 

Create Date : 30 สิงหาคม 2549
19 comments
Last Update : 30 สิงหาคม 2549 3:00:03 น.
Counter : 772 Pageviews.

 


ไม่มีคำบรรยายเลยค่ะ

โชคดีของอั๊ท
ที่เจอเพื่อนที่ดีแบบนี้
ไม่รู้ว่าคนต่างแดนที่ไปอยู่อเมริกา
กี่มากน้อยจะได้รับการช่วยเหลือแบบนี้

เป็นเรื่องราวที่ดีมากเลยเนอะ...

 

โดย: sunny-low (sunny-low ) 30 สิงหาคม 2549 4:17:52 น.  

 

เป็นเรื่องที่ดีมากๆคะ
ที่อเมริกามีคนหลายเชื้อชาติหลายศาสนาการสอนเด็กๆถึงเรื่องการอยู่ด้วยกันอย่างเกื้อกูลในแบบเรียนเป็นเรื่องดีคะ

 

โดย: miz u so much 30 สิงหาคม 2549 9:52:14 น.  

 

บ่ฮู้ว่าเมืองไทยบ่าเด่วยังเป็นมานะมานีอยู่ก่อ???
เทียบกั๋นบ่ได้เลยน่ะกับเรื่องที่อิแม่เอามาหื้ออ่าน
ฝรั่งสอนละอ่อนหื้อคิด คนไทยสอนละอ่อนหื้อจ๋ำ



เคยมีคนว่าน้องว่า
"หน่อยมันคิดไม่เป็นหรือว่ามันไม่รู้จักคิด??"

อึ้งอ่ะอิแม่ เฮาง่าวขนาดนั้นเลยก๋า??
น้อยใจ๋ไปสองติ๊ด

 

โดย: กกซ. IP: 124.157.237.63 30 สิงหาคม 2549 10:37:27 น.  

 

อ่านแล้วขอบตาร้อนผ่าว ๆ เลย..
เด็ก ๆ สมควรที่จะเรียนรู้ถึงมิตรภาพไร้พรมแดนและเคารพในวัฒนธรรมที่แตกต่างจริง ๆ ค่ะ

 

โดย: Lauderdale By The Sea 30 สิงหาคม 2549 11:51:48 น.  

 

งดงามครับ

 

โดย: ภู IP: 202.5.87.155 30 สิงหาคม 2549 13:44:07 น.  

 

แฮปปี้ เอนดิ้ง

 

โดย: เด็กตลาดเหนือ IP: 124.121.61.20 30 สิงหาคม 2549 14:18:49 น.  

 

แวะมาทักทายจ้า สบายดีรึป่าวคะ
วันนี้ขอมาทักทายก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่านนะคะ ตอนนี้ขอกลับบ้านก่อนละกัน

 

โดย: ปลาสวย (pp_b23 ) 30 สิงหาคม 2549 19:29:51 น.  

 

แวะมาทักทายคะแม่น้องนิกสบายดีนะคะ

 

โดย: bagarbu (bagarbu ) 30 สิงหาคม 2549 20:44:28 น.  

 

เรื่องโดนใจใช่มั๊ยล่ะ ซันนี่โลว์
เขาสอนเด็กดีนะพี่ว่า นิกก็ชอบเรื่องนี้

แม่ขวัญ

เฉพาะในแอลเอ มีคนจากหลายเชื้อชาติเข้ามาอยู่จ่ะ ก็เลยไม่ค่อยจะมีปัญหาเรื่องเชื้อชาติเท่าไหร่เพราะไม่มีความแตกต่างกัน

แล้วหนังสือแบบเรียนเล่มนี้ก็เป็นแบบเรียนที่ออกโดยรัฐแคลิฟอร์เนียด้วย

กกซ.

คราวหลังก็อย่าไปโชว์ภาพโก๊ะให้มากสิ เขาจะได้รู้ว่าหนูมีกำกึ๊ด เขาจะได้ไม่คิดอย่างที่เห็นและเป็นอยู่

สวัสดีค่ะแม่ปุ๊

แม่ปุ๊ขอบตาร้อนผ่าวๆนะ แม่น้องนิก
ต้องอ่านทุกเรื่อง เพราะจะต้องถามลูกว่า อ่านแล้วได้อะไร..เขาสอนเรื่องอะไรอยู่ มันมีหลายเรื่อง แต่ละ
เรื่องได้อารมณ์ทั้งนั้นเลย ไม่ร้องไห้ก็โมโหค่ะ

คุณภู

งดงามจริงๆค่ะคุณภู เด็กไทยเราได้
อ่านวรรณกรรมดีๆ คงช่วยให้เข้าใจ
คุณค่าของคนเพิ่มขึ้นแหละ

เด็กตลาดเหนือ

ตอนอ่านไม่คิดว่าเรื่องมันจะจบอย่างนี้เหมือนกัน ร้องไห้มาตั้งแต่ต้นเรื่องเลย นึกว่าตัวเองเป็นอั๊ทที่
ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนซะอีกแน่ะ

คุณปลาสวย

ว่างก็เชิญอ่านทุกเวลาค่ะ

bargabu

แม่น้องนิกไม่ได้แวะไปเยี่ยมเล๊ย
ขอโทษจริงๆ

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.18 31 สิงหาคม 2549 0:03:47 น.  

 

อ่านได้ครึ่งเรื่องเองค่ะ เป็นเนื้อเรื่องที่น่ารักมากๆ หวังว่าซักวันนึงจะมีโอกาสได้อ่านนิทาน หรือหนังสือน่าสนใจแล้วก็นั่งสอนลูกไปด้วย ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีเหลือเกินค่ะ

ช่วงนี้อากาศร้อนเหลือเกิน เห็นแม่น้องนิกบอกว่าปลูกต้นไม้ทำสวนเองจนเขียวชะอุ่ม บอกว่าเหนื่อยแทบตาย เรานั่งยิ้มเลย เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แถมร้อนอีกต่างหาก แต่ก็ใกล้เสร็จแล้วล่ะค่ะ ตอนนี้เรารื้อในบ้านไปด้วยเพื่อทาสีใหม่ จะได้มีงานทำทั้งวัน

 

โดย: สร้อยสายรุ้ง 31 สิงหาคม 2549 2:40:10 น.  

 

อ่านจบแล้วค่ะ เขียนผิด ตอนแรกว่าจะอ่านครึ่งนึงแล้วกลับมาอ่านใหม่

 

โดย: สร้อยสายรุ้ง 31 สิงหาคม 2549 2:40:41 น.  

 

คุณสร้อย

ท้องๆน่ะไม่ต้องรีบจะให้บ้านมันเขียวทันตาเห็นหรอกจ่ะ กะเดี๋ยว
เป็นลมหรอก แม่น้องนิกเดินไปรับลูกที่โรงเรียนแทบเป็นลม

ไม่ต้องไปเสาะไปหาหนังสือหรอกค่ะ วันหนึ่งที่ลูกเข้าเรียน ต้องได้อ่านสมใจ

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.18 31 สิงหาคม 2549 6:34:14 น.  

 

วันนี้ ฝนตกแต่เช้านะบ้านเรา ตกตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว เมื่อวานทั้งลมทั้งฝน น้ำท่วมทางในเมืองบางสายนิดหน่อย เพราะน้ำระบายไม่ทัน ปั่นป่วนไปหมด พอตอนเช้าส่งลูกไปโรงเรียน ก็ตกอีก ช่วงนี้เขาระวังกันมาก กลัวน้ำแม่แคมเข้าด้วย บ้านเราใต้ถุนบ้านก็เกือบท่วมแล้ว พี่ไก่อยู่ก็เลยสบายหน่อย แกคอยเก็บของขึ้นได้ ใต้ถุนบ้านเราถ้าตกหนักนานหน่อยก็จะเข้าได้ เสาร์อาทิตย์ต้องอยู่ทำงานอีกแล้ว ว่างๆก็คุยมาเด้อ.....

 

โดย: แม่น้องกุ๊ก IP: 203.146.201.9 31 สิงหาคม 2549 9:19:41 น.  

 



สวัสดีตอนเช้าๆ จากนอร์เวย์ค้า ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่แปลเรื่องราวให้ได้อ่านน่ะค่ะ เก่งจัง


และดีใจมากๆ ที่แวะไปทักทายและดูรูปฝนค่ะ อย่าลืมติดตามตอนจบนะคะ


รักษาสุขภาพค่ะ

 

โดย: Malee30 31 สิงหาคม 2549 14:19:09 น.  

 

อิแม่จ๋า ฝนตกวันค่ำคืนฮุ่งบ่าเห้ย
บ่าลั่งน้ำจะท่วมประเทศไทยเหียละก้า งือๆๆๆๆๆๆๆ

ยะใดดี??? จะหนีไปอยู่เมกาละเน้อ



บล็อกพันทิบก็ช้าตวยน่ะอิแม่ ฝนตกรถติด บล็อกช้า บ่ะเห้ย
ตลกดี

 

โดย: กกซ.โดนเล่าขวัญ IP: 124.157.236.201 31 สิงหาคม 2549 15:49:13 น.  

 

แล้วจะตามไปอ่านความรักของคุณฝนค่ะ

กกซ.

ฝนต๊กก่ดีกว่าฮ้อนเน่อ อิแม่ชอบฝน
ต๊กก่ก๋างฮ่มเอา จิเสียเงินเสียทอง
เหมือนฮ้อน แปงค่าไฟ..อิๆ

จ่มมาๆ..บ่มีไผเล่าขวัญ เปิ้นด่าว่าเปิ้นเล่าขวัญได้จะได

 

โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.141.95 1 กันยายน 2549 2:33:46 น.  

 

ขอบคุณค่ะแม่น้องนิก ตอนนี้เริ่มเช็คแล้วว่าลูกดิ้นทุกวัน โดยเฉพาะตอนกินข้าว ลูกจะดิ้นตลอดเลย ไม่รู้ทำไมดิ้นตอนนั้นนะ สงสัยแม่ชอบกินเผ็ด

 

โดย: สร้อยสายรุ้ง 1 กันยายน 2549 5:32:08 น.  

 

ดีเหมือนกันนะคะคุณแม่น้องนิก ทำให้คุณแม่เองก็ได้อ่านเรื่องราวดี ๆ ไปด้วย แม่ปุ๊เห็นเรื่องลักษณะนี้แล้วนึกถึงหนังสือ Chicken soup for the soul ค่ะ แม่ปุ๊มีอยู่หลายเล่มเหมือนกัน

 

โดย: Lauderdale By The Sea 1 กันยายน 2549 8:36:53 น.  

 

อิแม่ๆๆๆ ดักปิ้งเลย ยุ่งก๋าเจ้า
ผ่อนคลายแม่ ผ่อนคลายยยย

 

โดย: อยากกิ๋นเค้กเบิ๊ดเดย์ IP: 124.157.236.212 1 กันยายน 2549 8:51:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Mommy and me
Location :
California United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Mommy and me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.