มูลนิธิ นักเล่าเรื่อง
บ่าย..ขณะที่คอยลูกที่หน้าห้องเรียน หลังเลิกเรียน นิกเดินออกมาพร้อม กระดาษในมือหนึ่งชุด..บอกแม่อย่างตื่นเต้นว่า..แม่ๆ..แม่ต้องเซ็นต์ชื่อให้นิกนะ นิกอยากร่วมโครงการนี้มากเลย
แม่ก็ยังไม่ได้อ่านอะไรในตอนนั้น เพราะแม่ไม่มีแว่นสายตาไปด้วย แต่เห็น หนังสือที่ครูให้ลูกยืมเล่มใหม่ จึงเดินไปหาครูเพื่อขอบคุณและบอกครูว่า จะรักษาหนังสือให้ดีๆ ครูจึงเกริ่นเรื่องกระดาษในมือของฉันนิดๆว่า โครงการนี้ ดีมากทีเดียว หากมีคำถามอะไรก็ถามได้ ฉันบอกครูว่า ไว้พรุ่งนี้ เพราะต้องขอ ไปอ่านที่บ้านก่อน
กระดาษในมือ เป็นการแสดงความยินดีที่ลูกของเราได้รับเลือกให้เข้าร่วม โครงการของ มูลนิธินักเล่าเรื่อง เนื้อหาสาระของมูลนิธินี้..เป็นการสร้าง นักเล่าเรื่อง โดยคัดสรรเด็กที่มีจินตนาการ โดยทางมูลนิธิจะส่งเจ้าหน้าที่ มาสอนตัวต่อตัวที่โรงเรียนเป็นเวลา 7 สัปดาห์และในสัปดาห์สุดท้าย เด็กจะต้อง เขียนเรื่องที่ตัวเองแต่งเป็นละคร โดยมีนักแสดงของทางมูลนิธิมาแสดงให้ที่ หอประชุม จากนั้นเด็กจะต้องทำโปสเตอร์เชิญชวนให้คนมาดูผลงาน ซักซ้อมกับ นักแสดง และโรงเรียนจะมีจดหมายเชิญให้ผู้ปกครองมาร่วมงาน ที่สุดของงานคือ เจ้าของเรื่องจะได้แสดงตนหลังจบรายการด้วย
ตามปกติ..นิกเป็นเด็กที่รักการอ่าน เธอจะชอบอ่านแนวลึกลับ อ่านจนรู้มาก เลยคุยกับใครไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเพื่อนตามไม่ทัน นิกบ่นว่า..ทำไมนิกไม่ค่อย มีเพื่อน..ฉันบอกว่า..ก็คงเป็นเพราะนิกอ่านหนังสือมากไปมั๊งลูก พอนิกคุยถึง เรื่องหนังสือที่เพื่อนไม่ได้อ่าน เขาเลยไม่อยากเล่นกับนิก เพราะมันเหมือน คุยกันไม่รู้เรื่อง
เด็กที่จะได้เข้าร่วมโครงการนี้ จะต้องเป็นเด็กปอ 4-5 เพียงห้องละ 2 คน และจะต้องเรียนทุกอาทิตย์ๆละ 1 ชั่วโมง เป็นการสอนกันตัวต่อตัว อย่างน้อยๆ..นิกก็จะมีโอกาสเรียนรู้กลวิธีการเขียนเรื่องจากผู้เชี่ยวชาญ ที่จะมาแนะนำกลวิธีให้ อย่างไม่ปิดบัง โอกาสที่ได้มาทำให้ฉันรู้สึกดีใจไปกับลูก เพราะนิกเป็นเด็กที่..จินตนาการสูง ครูคงจะเห็น ถึงได้เลือกให้นิกไปเรียน และถ้าเรียนไม่ดี โอกาสที่จะได้รับเลือกก็ไม่มีเช่นกัน เพราะต้องแยกห้องใน ชั่วโมงที่ครูกำลังสอนแต่ละวิชาด้วย แม้กระทั่งเรียนดนตรีนิกก็ต้องทิ้งชั่วโมง ที่ครูสอนไปฝึกเป่าแคลริเนท พอนิกต้องสละชั่วโมงเรียนปกติ แม่จึงต้องทำหน้าที่ สอนทบทวนส่วนที่เหลือให้ลูกเองที่บ้าน
นิกบอกความฝันกับแม่ว่า..ถ้านิกสามารถเขียนหนังสือของนิกเองได้ นิกจะซื้อ แมนชั่นให้แม่อยู่ ความฝันของเด็กๆ ไม่ใช่เรื่องแปลก ใครจะรู้ว่า..วันหนึ่งเด็กคนนี้ อาจจะทำได้อย่างที่ฝันจริงๆ หรือถ้าแม้ไม่ได้อย่างที่ฝัน ก็ถือว่าเราได้มีโอกาส ได้ฝึกฝนการเขียนจากผู้เชี่ยวชาญ
Create Date : 01 เมษายน 2551 |
|
18 comments |
Last Update : 1 เมษายน 2551 9:17:02 น. |
Counter : 725 Pageviews. |
|
|
|
แต่หากโตขึ้น เขาจินตนาการจนน่ารำคาญ ก็อย่าไปขวางนะครับ แววนักเขียนกำลังผลิบานเชียว