Gifted child เมื่อวานนี้สามีฉันไปประชุมผู้ปกครองของเด็ก Gifted ที่จะเข้าเรียนห้องเรียนพิเศษนี้ในปีการศึกษาหน้า มีผู้ปกครองไปร่วมประชุมร้อยกว่าคน ทั้งๆที่บรรยากาศไม่ค่อยเป็นใจนัก เพราะฝนตกหนักตั้งแต่เช้ายันค่ำ ลูกฉันก็จะเข้าเรียนห้องพิเศษนี้ในปีการศึกษาหน้าเช่นกัน ชั่วโมงแรกนั้นสามีฉันรู้สึกเบื่อที่จะต้องไปนั่งฟังผู้ปกครองซักถามวิทยากรซึ่งเป็นด๊อกเตอร์ทางจิตวิทยาที่ได้มาให้ความรู้ในเรื่องนี้ หนึ่งชั่วโมงให้หลังนั่นแหละที่สามีฉันรู้สึกว่าการไปประชุมนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ฉันก็แปลคำว่า Gifted ไม่ถูกเหมือนกัน แต่ฉันอยากจะใช้คำว่า เป็นเด็กที่มีความสามารถพิเศษ พ่อแม่บางคนมีลูกที่เป็นออทิสติก แต่เป็นออทิสติกที่มีความสามารถพิเศษเช่น เก่งคำณวน หรือสามารถจดจำได้แม่นมาก วิทยากรให้ความรู้ว่า เด็กกิ๊ฟเท็ดนี้ จะเป็นเด็กที่มีคุณลักษณะที่แสดงความสามารถเด่นออกมาในด้านในด้านหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะใช้สมองส่วนใดแสดงออกมา เช่น อาจจะฟังแล้วจดจำได้ดีกว่าการอ่านหรือมีความสามารถด้านการเขียน มีความสามารถด้านการวาดรูป คุณสมบัติเด่นๆเหล่านี้ถือว่าเป็นพิเศษ วิทยากรให้ความรู้นอกเหนือจากนี้ว่า เด็กกิ๊ฟเท็ดเหล่านี้ อาจจะได้ใบแดงที่เขาแสดงอาการต่อต้านในห้องเรียน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เด็กพวกนี้อาจจะนอนแล้วปลุกยาก เด็กพวกนี้มีจินตนาการที่ไม่เหมือนใคร ชอบเล่นของเล่นตามจินตนาการโดยไม่ชอบให้ใครมากวน หรืออาจจะสร้างเพื่อนขึ้นมาในโลกส่วนตัวของเขาเองก็ได้ และเหนืออื่นใด คนที่ทำให้เด็กมีพรสวรรค์หรือมีความสามารถพิเศษนี้ ไม่ใช่ครูในโรงเรียน แต่เป็นพ่อแม่นั่นเอง พ่อแม่ที่มองเห็นความสามารถที่ลูกมี พ่อแม่ที่เฝ้าสังเกตุเห็นลูกว่ามีความถนัดในด้านไหน แล้วดึงเอาความสามารถของลูกออกมาใช้อย่างไม่จำกัด จนทำให้ลูกมีความเด่นในด้านนั้นๆ ฉันถือว่า การไปประชุมครั้งนี้ทั้งฉันและสามีได้ความรู้อีกมากมายที่เราไม่เคยรู้และไม่เคยคาดคิดมาก่อน ฉันอาจจะเป็นแม่หัวโบราณที่คิดว่า การเป็นหมอ เป็นวิศวกร จะทำให้ลูกมีอนาคตที่ดี ฉันไม่เคยรู้ว่า การที่ลูกรักการอ่าน รักการเขียน การอดทนฟังลูกอ่าน ฝึกฝนเรื่องการท่องศัพท์ รวมถึงให้ความสนใจอ่านเรื่องที่เขาเขียนจากจินตนาการ จะเป็นการช่วยดึงเอาศักยภาพที่เขามีออกมาใช้ เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน และเด็กทุกคนมีความสามารถพิเศษอยู่ในตัว แต่ขึ้นอยู่กับพ่อและแม่จะเล็งเห็นและดึงมันออกมาตัวลูกได้อย่างไร ที่จะให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาถนัด ดีกว่าที่จะละเลยหรือมองข้ามความสามารถและความถนัดนั้นไปอย่างน่าเสียดาย   Create Date : 30 มีนาคม 2549 3 comments Last Update : 30 มีนาคม 2549 9:16:56 น. Counter : 795 Pageviews. Share Tweet

เคยอ่านเหมือนกันค่ะ เค้าบอกว่าถ้าเรารู้จักพัฒนาจุดเด่นของเค้า พวกเค้าจะเป็นอัจฉริยะได้เลยทีเดียว   โดย: Bee1st 30 มีนาคม 2549 16:08:34 น.

พี่เพิ่งกลับจากหัวหินค่ะ มาตามอ่านเรื่องทั้งหมดแล้ว ชอบเรื่องคิดถึงความหลังนะคะ เรื่องราวประทับใจ ความอดทนที่มีร่วมกันมานี่แหละ เป็นสายใยเหนียวแน่นอีกเส้นหนึ่งของชีวิตคู่ บ้านของแม่น้องนิกมีเสาเอกที่แข็งแกร่งพอดูเชียวนะ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ   โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.136.65.193 30 มีนาคม 2549 19:50:20 น.

สวัสดีค่ะคุณ Bee1st ที่แวะมาอ่านบล๊อก แล้วแม่น้องนิกจะแวะไปเยี่ยมนะคะ สวัสดีค่ะพี่ตะเบบูญ่า คิดว่าพี่ต้องไปทะเลแน่ๆ เห็นหายไปหลายวันไงคะ คงสนุกน่าดู อิจฉาคนมีลูกโตแล้ว บางทีแม่น้องนิกก็ไม่ได้อัพไดค่ะ เขียนไม่ออก และบางทีก็ไม่รู้จะเขียนเรื่อง อะไรดี ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ ดีใจที่พี่ชอบ เรื่องความหลัง เพราะแม่น้องนิกก็ชอบมัน เหมือนกัน   โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) 31 มีนาคม 2549 7:40:23 น.