|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ของหวานอันตรายสำหรับเด็ก
อ่านเจอเลยเอามาบอกต่อค่ะ ของหวานอันตรายกับเด็กอย่างไรมาอ่านกันเลยค่ะ 1. เด็กที่กินหวาน กินน้ำตาล ขนม ตลอดจนแป้งที่มากเกินไป จะอ้วนทุกราย การที่เด็กอ้วนจะทำให้เสียบุคลิกภาพ ไม่กระฉับกระเฉง เหนื่อยง่าย ทำให้ข้อเข่าและข้อเท้าต้องรับน้ำหนักมากกว่าปกติ จะทำให้ข้อเสื่อมเร็ว นอกจากเด็กที่อ้วน จะมีไขมันในเลือดสูงร่วมด้วยเสมอ เพราะอาหารที่เด็กกินล้นเกินนี้นมักจะมีไขมันสูงด้วยจากนมวัว และผลิตภัณฑ์จากนมวัวเป็นส่วนประกอบหลักเช่น เค้ก ไอศกรีมช็อกโกแลต พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้เด็กจำนวนหนึ่ง หากโตขึ้นจะมีอัตราเสียงต่อโรคหัวใจและอัมพาตมากกว่าเด็กอื่น เด็กคนไหนก็ตามที่อ้วน ลองสังเกตดีๆ จะมีคราบไคลที่โหนกคอตรงด้านหลัง เป็นรอยดำปื้นที่ล้างหรือขัดไม่ออก หากเด็กคนไหนที่มีปื้นดำเช่นนี้ เมื่อโตขึ้นจะมีอัตราเสียงเป็นโรคเบาหวานสูง แต่มีข่าวดีก็คือ เมื่อผอมลง ปื้นนี้จะหายไป และอัตราเสียงต่อโรคเบาหวานจะลดลง วิธีแก้ปัญหานี้คือ ให้งดขนมหวาน น้ำหวาน ขนม ลูกอม ช็อคโกแลต นมหวานๆ (ไม่ว่าจะเป็นนมวัว หรือนมถั่วเหลือง) ยิ่งโยเกิตมีน้ำตาลมากกว่านมเสียอีก หากต้องการให้เด็กกินอาหารว่าง ให้หันมากินผลไม้แทน และต้องออกกำลังกายเผาผลาญไขมันส่วนเกินทิ้งไปด้วย 2. เด็กที่กินหวานๆ จะซนเกินกว่าเหตุ คงเคยได้ยินว่าถ้าอยากให้หมาดุต้องให้กินหวานๆ ทั้งนี้เพราะว่าน้ำตาลคือพลังงานเปล่า ไม่มีวิตามินบี เวลาร่างกายใช้น้ำตาลต้องไปแย่งวิตามินบีจากสมองมาใช้ เมื่อสมองขาดวิตามินบีจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ดังนั้นหมาจึงไม่อยู่ในคำสั่ง และฉุนเฉียวดุกว่าเดิม เด็กเราก็เช่นเดียวกัน หากให้กินหวานมากๆ สมองจะถูกแย่งเอาวิตามินบีไปใช้ เด็กจะบังคับตัวเองไม่ได้และจะแสดงอาการไม่อยู่นิ่ง ไม่ฟังผู้ใหญ่ และซนเกินกว่าเหตุ ลองให้เด็กหยุดกินของหวาน หันมากินผลไม้แทน อาศัยน้ำตาลธรรมชาติที่มีวิตามินบีจากผลไม้เขาไปร่วมกัน เด็กจะซนน้อยลงกว่าเดิม 3. เรียนรู้ไม่ดีเท่าที่ควรสมองของเด็กที่กินหวานมากๆ จะมีวิตามินบีไม่เพียงพอก สื่อประสาทในสมองไม่สมบูรณ์ เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ของเด็ก อาหารที่เหมาะสำหรับเด็กเก่งได้แก่ ผลไม้ ผัก และข้าวกล้อง เนื่องจากเด็กที่กำลังเรียนต้องการวิตามินบีหลายตัว รวมทั้งขาดวิตามินซีจากผักสดและผลไม้สดไม่ได้ 4. ฟันผุ เด็กรุ่นใหม่ฟันผุมากกว่าเดิม ผุหลายซี่กว่าเด็กรุ่นเก่า ทั้งนี้เพราะเด็กเริ่มกินน้ำตาลจากอาหารขยะตั้งแต่อายุ 6 เดือน นับตั้งแต่มีฟันซี่แรก การป้องกันฟันผุในเด็ก นอกจากจะต้องแปรงฟัน ตัองใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์แล้ว ยังต้องงดน้ำตาล งดอาหารขยะและขนมกรุบกรอบด้วย
Create Date : 06 มีนาคม 2554 |
|
5 comments |
Last Update : 6 มีนาคม 2554 14:12:52 น. |
Counter : 5167 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|