Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
รู้จัก ทักทาย
อยากเล่าให้ฟัง
บันทึกประจำวัน
Spinning around
คิทเช่น(ไร)
ทำนู่น ทำนี่
หนังสือที่อ่าน
my shot
เรื่องดีดี
ความทรงจำสีจาง
365 days I draw
<<
มกราคม 2552
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
17 มกราคม 2552
เขียนบำบัด
All Blogs
ภาพลวงตา
เขียนบำบัด
เพลิน
มาเป็น CEO ของความตายกันเถอะ
แสงหนึ่งคือรุ้งงาม
เทคนิคถอนใจจากความเหงา
เขียนบำบัด
เมื่อวานได้อ่านหนังสือ ที่มีบทความเรื่อง การเขียนบำบัด
มีผลวิจัยว่าคนที่ได้เขียนระบายเรื่องต่างๆออกไป
จะมีเปอร์เซนต์การพบหมอ น้อยกว่าคนที่ไม่ชอบเขียน
เพราะได้รับการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่า การเขียนเพื่อปลดปล่อย
ความรู้สึกวันละ 15-20 นาทีทุกวัน จะส่งผลดีต่อร่างกายอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ทางด้านจิตใจก็ช่วยให้หายเครียดและช่วยคนที่มีปัญหานอนไม่หลับให้หลับได้สนิทขึ้น
อ่านไปก็นึกถึงตัวเอง ว่าจริงแฮะ ...
เมื่อก่อนที่เขียนไดอารี่ ช่วงไหนเครียดมาก มีเรื่องคิดเยอะ
ช่วงนั้นจะเขียนมากเป็นพิเศษ แต่ช่วงไหนมีความสุข ไดอารี่ก็แทบจะร้างเลย
ในหนังสือยังแนะนำวิธีการเขียนเพื่อบำบัดไว้ด้วย
เค้าบอกว่าต้องเขียนออกมาอย่างพร่างพรูต่อเนื่อง
ในสิบห้านาที ห้ามหยุดคิด ให้ปล่อยทุกอย่างออกมาจากความคิดคำนึง
ไม่ต้องปรุงแต่ง ไม่ต้องพยายามเขียนให้ตัวเองดูฉลาด
แค่ปล่อยทุกอย่างให้ไหลออกมาจากสมองมาสู่ปากกา
ซื่อสัตย์ต่อตนเองให้มากที่สุด ไม่ต้องคาดหวังและไม่ตัดสินสิ่งที่ตัวเองเขียน
ไม่ต้องกังวลเรื่องความถูกต้องของภาษา เพราะเราไม่ได้กำลังเขียนบทความ
แต่เราต้องการเขียน "ความจริง" เพื่อทำความรู้จักและยอมรับจิตใจที่แท้จริงของตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น การเขียนยังมีส่วนช่วยให้คนเรารับมือกับมรสุมชีวิตได้ดีขึ้น
เพราะการเขียนเป็นการสื่อสารแบบเปิด ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถปลดปล่อย
และเรียบเรียงสิ่งที่อยากจะระบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างเต็มที่
เราจึงมองเห็นอดีตและอนาคตของตนเองชัดเจนขึ้น และเล็งเห็นจุดบกพร่องต่างๆของตัวเอง
ทำให้เข้าใจว่าเราเป็นอย่างที่เป็นได้อย่างไร และต้องการจะดำเนินชีวิตต่อไปยังไง
อ่านถึงตรงนี้ เราก็มีคำถามว่า.. การเขียนจะกลายเป็นการความเพิ่มความเครียดได้หรือไม่
ถ้าเราเจอแต่เรื่องแย่ๆ คิดว่าตัวเองแย่ แล้วเขียนความคับแค้นใจลงไปหมด
มาอ่านดูเมื่อไหร่ ก็พบว่า เรานี่ช่างโชคร้ายเสียจริง ไดอารี่มันฟ้องว่า
ชีวิตเรามันไม่รื่นรมย์ขนาดนี้เลยเหรอ..อาจเครียดหนักกว่าเดิม
เมื่อตอนไปเจอไดอารี่เล่มเก่าวันก่อน
พบว่าเวลาเราเขียนไดอารี่ เรามักจะเขียนถึงความไม่พอใจคนอื่น
เราหงุดหงิดเรื่องนั้น เรื่องนี้ ซึ่งเราเก็บกดมันไว้ ไม่ได้แสดงออกมา
เราแทบจะไม่เคยเขียนด่าตัวเองในไดอารี่เลย (เป็นไปได้ไง)
ทั้งๆที่เราไม่ใช่คนดีเลิศแต่อย่างใด
มันทำให้เราได้เห็นตัวเองในอีกด้านนึงเลยว่าเรามันก็คนที่ยังชอบแบ่งแยก
คนที่ไม่เหมือนเรา เราคิดว่าเค้าไม่ดี
ทั้งๆที่จริงแล้ว เค้าก็แค่คิดต่างจากเรา เค้าแค่เป็นคนละประเภทกับเรา
ไม่ได้แปลว่าเค้าเป็นคนไม่ดีซะหน่อย
(นึกถึงเรื่องเสื้อเหลือง เสื้อแดง ขึ้นมาเลย)
แต่อย่างน้อย การอ่านบันทึกเกี่ยวกับอุปสรรคครั้งก่อนๆของตัวเอง
ก็สามารถช่วยสร้างกำลังใจให้เราต่อสู้และก้าวผ่านอุปสรรคใหม่ๆได้ดียิ่งขึ้น
ในหนังสือยังบอกอีกว่า การเขียนเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง
ขณะที่เราจดจ่ออยู่กับการเขียน ปล่อยให้ความคิดลื่นไหลออกมา
ชั่วขณะนั้น จิตเราจะเป็นสมาธิ
อืม..นอกจากจะบำบัดความเครียดแล้ว ยังได้ทำสมาธิไปด้วยในตัว
การเขียน มีดีขนาดนี้แล้ว มาเขียนไดอารี่ เพื่อบำบัดกันเหอะ
เขียนในสมุดก็ได้ จะด่า จะว่าอะไรใคร (หรือตัวเอง)
เขียนแล้วจะขีดฆ่าหรือ ฉีกทิ้ง ก็ไม่มีใครว่าอะไร
ขอให้ได้ระบายออกมาก็คงดี
credit picture : //www.thewritersworkshop.net/writing-2.jpg
inspired by : Secret Magazine
Create Date : 17 มกราคม 2552
Last Update : 17 มกราคม 2552 19:31:38 น.
21 comments
Counter : 1408 Pageviews.
Share
Tweet
ของรัชชี่ชอบเขียนไดอารี่ตอนมีความสุขค่ะ
ส่วนตอนขี้โมโห จะเขียน ๆ ๆ ในกระดาษ พอหนำใจแล้วก็เอากระดาษไปฉีกทิ้ง ลงถังขยะค่ะ
ที่ไม่อยากให้ความทุกข์อยู่ในไดอารี่ กลัวว่าตอนหลังกลับมาอ่านแล้วจะเศร้าใจค่ะ
โดย: รัชชี่ (
รัชชี่
) วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:20:01:21 น.
สวัสดีครับพี่มด
เมื่อก่อนผมชอบเขียนบันทึกมาก
เพื่อนตามอ่านเหมือนนวนิยายเลยครับ 555
มีมาเตือนด้วยนะ
ว่าไม่เขียนมากี่วันแล้ว 555
บางทีผมเขียนด่าเพื่อ
เพื่อนอ่านแล้วยังไม่รู้เลยครับ
เพราะเขียนแบบเปรียบเปรยครับ 5555
ผมว่าการเขียนบันทึกช่วงนั้น
ทำให้ผมได้ฝึกเขียนเต็มที่เลยครับ
โดย: กะก๋า (
กะว่าก๋า
) วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:20:31:29 น.
ผมก็คนหนึ่งที่ค้นพบว่าการเขียนระบายทำให้เราเติบโตขึ้น เข้าใจอะไรมากขึ้น แต่นานมากแล้วหลังจากที่รู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้นในด้านความคิด ก็เลยหยุดเขียนไป
มีความสุขมาก ๆ ครับ
โดย:
p_pyai
วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:20:38:46 น.
สวัสดีค่ะพี่มดเล็กซูเปอร์วัน ^^
เอ็มเป็นเหมือนพี่รัชชี่เลยค่ะพี่มด
ส่วนใหญ่เรื่องที่เขียนลงในไดอารี่มักเป็นเรื่องสุขสนุกสนาน
น้อยครั้งที่จะเขียนเรื่องแย่ๆ หรือ เอาอารมณ์ขุ่นมัวใส่ไปในนั้น
เหตุผลเดียวกันค่ะ อยากให้ไดอารี่เป็นที่เก็บความทรงจำดีดี
เมื่อเราเปิดออกมาอ่านเมื่อไหร่ จะได้ยิ้มได้
ส่วนเวลาทุกข์ใจ โมโห โทโสใครมา ก็เขียนลงกระดาษ
แล้วฉีกเป็นเป็นเสี่ยงๆ ขยำเป็นก้อนๆ ปาลงถึงขยะไปค่ะ (สะใจดี 555)
แต่ก็มีบ่อยนะคะที่เขียนวิเคราะห์การกระทำตัวเอง
ซึ่งมักจะเขียนเป็นภาษาเยอรมัน แล้วก็เก็บไว้คอมพ์ค่ะ
เห็นพี่มดบอกว่า แต่ก่อนเวลามีความสุข ไม่ค่อยเขียนไดอารี่เหรอคะ
แล้วพี่มดเก็บความสุขเอาไว้ในความทรงจำอย่างเดียวหรือยังไงเอ่ย
มีความสุขยามค่ำคืนวันเสาร์นะคะพี่มด
โดย:
discipula
วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:20:50:14 น.
แล้วถ้าเสพติดทั้งการเขียนและการอ่านนี่ต้องไปบำบัดมั๊ยคะ 555 แซวเล่นค่ะ
ตอนนี้มีคนเค้าหาว่าบ้าอยู่หน่ะค่ะ
โดย:
pinkyrose
วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:20:57:43 น.
แบบนี้อ้ายคงอาการหนัก เพราะเขียนเกินกว่าจะเรียกว่าบำบัดแหล่ว
แต่ก็จริงอย่างที่ว่าการเขียนนั้นทำให้เราได้อะไรมากกว่าที่คิดจริง ๆ อย่างน้อย ๆ ก็ปลดเปลื้องอารมณ์อ่ะนะ
โดย:
พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง
วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:21:56:51 น.
มีพี่คนนึงบอกว่า เผาไดอารี่ทิ้งทุกปี
แต่หลังมาก
เขียนไดอารี่ออนไลน์
พี่เค้าบอกว่า "คลิ๊กขวา delete" ง่ายกว่า
อุ้ยเพลงนี้ ฮ่าๆๆ คิดถึงน้ากฤษณ์ ขึ้นมาเลย
น้ากฤษณ์ชอบร้องเพลงนี้
you're my sunshine my only sunshine
โดย:
Ta Pling
วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:23:42:24 น.
พี่วิสกี้เป็นคนไม่ค่อยเขียนไดอารี่มาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ คงไม่ติดมากกว่านะคะ แต่พี่วิสกี้ก็มีวิธีบำบัดที่ดีเวลาเครียดนะคะซึ่งมันก็ช่วยได้ดีเลยค่ะ น้องมดพอนึกออกน๊าคะสำหรับวิธีบำบัดของพี่ คิคิ
โดย:
วิสกี้โซดา
วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:23:56:43 น.
โอ้ ดีจังเลยค่ะที่คุณมดเอามาฝาก
แล้วถ้าไม่เขียนใช้พิมพ์เอาจะได้ผลมั้ยคะ เดี๋ยวนี้เขียนช้ามากๆเลยค่ะ ลายมือก็
แบบว่ากลับมาอ่านอีกที เขียนอิหยังไปเนี่ย
หรือว่าเขียนๆๆๆรวดๆไปเลยดี อ่านออกไม่ออกบ้างช่างมัน เวลาเขียนเร็วๆลายมือเราเหมือนอักษรขอมเลยค่ะ
โดย:
KOok_k
วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:7:10:51 น.
สวัสดีครับพี่มด
วันนี้งดเดินห้างครับ
บอกมาดามไปแล้ว
แต่ไม่รู้เธอจะฟังรึเปล่านะครับ 555555
เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมาเดินไป 5 วันติดๆกันแล้วครับ 5555
โดย: ก.ก๋า (
กะว่าก๋า
) วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:8:01:33 น.
หวัดดีเช้าวันอาทิตย์ค่ะคุณมด...
บางเวลา พี่ก็อยากเขียนไดอารีเหมือนกัน แต่เวลาในแต่ละวันมันน้อยนิด มีอะไรที่ต้องทำหลายอย่าง ไม่อำนวยโอกาสให้มานั่งสงบๆ เขียนอะไรได้เลยค่ะ...
แต่ในอดีต (ประมาณปีหนึ่งปอตรี) เคยใช้ไดอารีเป็นตัวเขียนระบายความรู้สึกที่มีต่อใครบางคน..
เขียนบนสมุดเล่มสวยที่มีรูปเขียนของคุณจักรพันธุ์ โปษยกฤตด้วยนะคะ...เสียดายว่าสมุดเล่มนี้หายไปแล้วตอนย้ายบ้าน เสียด๊าย..เสียดาย สมุดที่มีรูปเขียนสวยมากๆ ของคุณจักรพันธุ์นะคะ...
แต่อีกใจนึง หายไปได้ก็ดี เพราะไอ้ที่เขียนๆ ไปเนี่ย ไร้สาระจริงๆ... ยังจำเนื้อความที่เขียนไปได้เป็นเลาๆ เขียนไปน้ำต่ร่วงไป ยังมีรอยน้ำตาเลอะเป็นดวงๆ เลย...
เชื่อว่าถ้าเอามาอ่านตอนนี้ ต้องรู้สึกว่าทำไมเรานี่ช่างโง่จัง ไปเสียเวลาหลงละเมอเพ้อพกกับอีตาบ้าหน้าอ้วนอืดพุงโต(ในวันนี้)อยู่ด๊าย...
โดย:
Devonshire
วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:8:57:14 น.
ม๊อนิ่ง แฟนคลับอาวุโส อิอิ
ไปวัดก่อนเน้อ ไว้มาใหม่จ้า
โดย:
Ta Pling
วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:10:33:23 น.
...สุขสันต์วันอาทิตย์ครับคุณมด...
โดย:
doctorbird
วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:13:05:50 น.
เป็นเรื่องจริงค่ะคุณมด
เวลาไม่สบายใจอะไร ได้เขียนระบายสักนิดจะรู้สึกดีขึ้นมาก
หรือบางทีไม่ได้เขียนเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจโดยตรง
แค่ได้เขียนอะไรบางอย่างออกมาบ้าง ก็รู้สึกเหมือนเป็นการปลดปล่อยพลังงานออกมาค่ะ
ทำให้สบายใจขึ้น และก็หลับสบายค่ะ ^^
โดย:
BeCoffee
วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:20:41:52 น.
ไม่เคยเขียนเลย
เดี๋ยวนี้ มาพิมพ์บ่นในบล็อก สนุกดี เวลาเราจิตตก ก็มีเพื่อนๆมาช่วยให้กำลังใจ แล้วห่างสักพัก กลับไปอ่านเม้นท์ในบล็อกเก่า ก็อมยิ้มกับไมตรีของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นะ
คราวนี้มาอ่านของน้องมด ดีละ มาระบายในบล็อกนี่แหละ
โดย:
วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:21:27:36 น.
สวัสดีค่ะ คุณมด
เรื่องเขียนไดอารี่ เนี่ยเห็นทีจะยอมแพ้
บอกตรงๆว่า เนื่องจากขี้เกียจ เขียน น่ะเอง
แถม ลายมือ ยังสุดจะบรรยายค่ะ
แต่คนรอบข้างส่วนใหญ่ที่รู้จักมักจี่
เค้าก็เขียนไดอารี่กันนะคะ
อืม ตั้งใจจะเข้ามาบอกว่า ช่วงนี้แอ๋มเห็นรถ ปอ.พ. เพียบเลยค่ะ
ว่าจะไปสำรวจซะหน่อยว่าไปไหนกันบ้าง
ขึ้นปุ๊บ จ่ายปั๋บ 20 บาทค่ะ
โดย:
c_brand
วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:23:29:51 น.
สวัสดีค่ะคุณ nanida แวะมาทักทายค่ะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อคน่ะค่ะ
โดย:
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:5:19:20 น.
สวัสดีครับพี่มด
โดย: ก.ก๋า (
กะว่าก๋า
) วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:8:24:40 น.
เมื่อก่อนเคยเขียนไดอารี่แบบเบาๆ ค่ะ
แต่ตอนหลังก็ลองเปลี่ยนมาระบายอย่างสะใจก็ช่วยอะไรได้มากจริงๆ
แต่ก็ไม่ดีอย่างนึงที่เวลากลับมานั่งอ่าน ก็กลับมาคิดว่า เมื่อก่อนมันเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรือ!!
เดี๋ยวนี้เวลามีความสุขก็ไม่เคยเขียน
เขียนแต่ตอนโมโหแควนอย่างเดียว...อิอิ
เค้าว่านักเขียนก็เริ่มมาจากเขียนไดอารี่นี่นา...
โดย:
Neilnuch_T
วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:9:52:33 น.
มาแล้วววว
หวัดดีตอนสาย ๆ จ้าพี่มด
แวะมาทักทายตอนเช้าก่อน
ไว้ตอนเย็นจะเข้ามาอ่านอีกรอบ
ภาพประกอบบล็อกวันนี้สวยดีอ่ะพี่มด
ไปน๊า (มีงานรออยู่)
ขอให้มีความสุขมาก ๆ น๊า
เป็นกะลังใจให้จ้า
สู้ ๆ สู้ตาย
โดย: ครูมาสาย (
minporee
) วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:10:01:35 น.
สวัสดีครับพี่มด
ผมเห็นด้วยครับว่าการเขียนเป็นการระบายความเครียดที่ดีและสร้างสรรค์อย่างหนึ่ง นอกจากนี้มันยังเป็นการเรียบเรียงความคิดเราไปในตัวด้วยครับ คล้ายๆกระบวนการ Defragment ทำให้สมองเราปลอดโปร่งมากขึ้นและเห็นทางแก้ปัญหาชัดเจนขึ้น
หนังสือเรื่อง The diving bell and the butterfly บางทีอาจจะไม่ได้ใช้อ่านอย่างเดียวครับ แต่อาจจะต้องเอามันวางไว้บนแท่นบูชา จุดธูปไหว้วันละดอกก่อนออกไปทำงานเพื่อเรียกกำลังใจครับ
โดย:
jonykeano
วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:10:30:36 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
nanida
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
++You can really do whatever you want++
เช็คข้อความหลังไมค์
Friends' blogs
วิสกี้โซดา
myover
ดอกหญ้าเมืองเลย
aston27
Bumu_Chan
KOok_k
BeCoffee
discipula
silly
ย่าชอบเล่า
Q.NUH
กะว่าก๋า
ถ่านหินจำศีล
c_brand
น้องผิง
UnderSunShine*
cruduslife
pimmetje
prunelle la belle femme
ภูติ
วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
Wild Strawberries
Lymphoma_man
C&C_BamBoo
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
Devonshire
minporee
Conglomerate
Neilnuch_T
jonykeano
Ta Pling
coji
tanjira
คุณม้าม
แฟนผมตัวดำ
ยายกุ๊กไ่ก่
Atas
pandaArchitect
oanotai
thai-secret
butbbj
JewNid
BeachBum
กาแฟดำไม่เผ็ด
~ Cerulean Blue ~
ลำเนา
อาบูด
The World&Hermit
Webmaster - BlogGang
[Add nanida's blog to your web]
Links
my hi5
สันติธรรม
dungtrin
paper museum
we blog cartoons
umoto
nicholas
camillaengman
takaki naoko
sylviapark
Black apple
carotte & lychee
Ideaforlife
วิมุตติ
เสียงธรรม
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ส่วนตอนขี้โมโห จะเขียน ๆ ๆ ในกระดาษ พอหนำใจแล้วก็เอากระดาษไปฉีกทิ้ง ลงถังขยะค่ะ
ที่ไม่อยากให้ความทุกข์อยู่ในไดอารี่ กลัวว่าตอนหลังกลับมาอ่านแล้วจะเศร้าใจค่ะ