... When I see children, I see the face of God. That's why I love them so much. That's what I see... KING OF POP
Group Blog
 
 
กันยายน 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
5 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
ไมเคิล แจ็คสัน ในหนังสือธรรมะ บททดสอบ ส่งตรงจาก ท่านว.วชิรเมธี





เมื่อไม่กี่วันก่อน ได้รับหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง จากเพื่อนสนิทค่ะ เป็นหนังสือที่แจกฟรีเป็นธรรมทาน ให้กับลูกเรือสายการบินที่เพื่อนทำงานอยู่ ชื่อว่า “ธรรมมะคลายใจ” แต่งโดยท่าน ว.วชิรเมธี ของสำนักพิมพ์อมรินทร์ เป็นหนังสือธรรมมะ ที่ต้องขอบอกว่า อ่านแล้ววางไม่ลง ... ด้วยเนื้อหาที่ตรงใจ เข้ากับยุคสมัย ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องครอบครัว ความรัก การงานไปจนถึงการเมือง ดำเนินไปในลักษณะถามมาตอบไป อีกสำนวนการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ของท่านว. ทำให้อ่านได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่น่าเบื่อ ... แต่เมื่อดิฉันอ่านเรื่อยมาจนถึงหน้าที่50 ... ก็ต้องพบกับบททดสอบ...ที่เหมือนท่านว.จงใจส่งมาถึงผู้อ่านคนนี้...โดยเฉพาะ


ชื่อบุคคลอันเป็นที่รัก...ได้ปรากฏขึ้นแก่สายตาในหน้านี้ ... กลายเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือธรรมะที่ดีมากเล่มหนึ่ง ที่ดิฉันได้อาศัยเป็นที่พึ่งพิงทางใจ ... ต่อการจากไปของเขา โดยท่านว.ได้นำชื่อของเขามายกเป็นตัวอย่างของบุคคลที่ต้องพบความทุกข์ชนิด “ทุกข์ขาจร” ทุกข์ที่เกิดจากความโง่ของเราเอง โดยในหนังสือได้กล่าวว่า

“หรือเหมือนไมเคิล แจ็คสัน เกิดมาผิวดำ แต่ไม่ยอมรับสีผิวของตัวเอง จึงพยายามลอกคราบจากผิวดำเป็นผิวขาว เขาต้องทุกข์จากการหนีเงาตัวเองแทบบ้า ทั้งๆที่ถ้าเขายอมรับสีผิวของตัวเอง เขาก็จะไม่ต้องทุกข์กับเรื่องผิวๆเชนนี้แม้แต่น้อย”


....ครั้งแรกที่ได้เห็นข้อความนี้ รู้สึก...โกรธ... ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ค่ะ แม้จะเจอมาไม่รู้กี่ครั้ง ก็ยังรู้สึกเจ็บในอก พาลไพล่นึกวิตกไปว่า นี่คนเขาอ่านไปกี่คนแล้วหนอ อีกกี่คนหนอ ที่ได้อ่านแล้วเข้าใจไมเคิลผิดๆ หรือแม้แต่ รู้สึกลบกับเขา ...

แต่เมื่อพิจารณาดูอีกที ก็พอจะเข้าใจถึงเจตนาดีของท่านว. ที่จำเป็นต้องยกเอาใครสักคนมาเป็นตัวอย่างของทุกข์ ไมเคิล แจ็คสัน คงมีภาพจำเช่นนี้ในใจหลายคน อันเป็นผลจากการที่สื่อทั้งไทยเทศประโคมข่าวเช่นนี้ตลอดมา ซึ่งดิฉันอยากขอกราบเรียนท่านในความจริง เรื่องสีผิวของไมเคิล ตามข้อมูลหลักฐานที่พิสูจน์ได้ ว่า...

“ จาก ประวัติการรักษา หลักฐานทางการแพทย์ และผลชันสูตรศพ ของไมเคิล แจ็คสัน ระบุตรงกันว่า เขาเป็นโรคผิวหนังชื่อ vitiligo (โรคด่างขาว) ซึ่งจะค่อยๆสูญเสียเม็ดสีใต้ผิวอย่างถาวร ไม่ใช่ผิวขาวขึ้น แต่เป็นผิวที่โปร่งใสไร้สี โดยคนผิวดำจะแสดงอาการของโรคอย่างเด่นชัดมากกว่าชาวผิวขาวหรือเหลือง นี่เป็นเหตุผลที่ไมเคิลต้องปกคลุมร่างกายอย่างมิดชิดและกางร่มเสมอเนื่องจากตัวเขาไร้เมลานินที่ช่วยปกป้องร่างกายจากแสงแดด”

คลิกเพื่ออ่านเรื่องราวของเธอDarcel de Vlugt



... ดิฉันมิได้ตั้งใจจะแย้ง หรือปฏิเสธในข้อที่ไมเคิลนั้น เป็นตัวอย่างหนึ่งของผู้เกิดทุกข์อันเกิดจากความโง่เขลา ...อย่างสิ้นเชิง ... ด้วยว่าความจริงแล้ว เขาเองก็เช่นเดียวกับเรา เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง ... แต่สิ่งที่คนทั่วไปจดจำเขานั้น หลายเรื่อง เป็นข้อมูลที่บิดเบือนจากการนำเสนอของสื่อประเภทแทบลอยด์ ... ทั้งที่ตัวเขาตอนมีชีวิตอยู่ได้อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และสัตว์ร่วมโลกมากมายโดยไม่สนใจว่าจะเป็นข่าวหรือทำให้เป็นข่าว (ส่วนนักข่าว ก็ไม่ใคร่สนใจในส่วนนี้ของเขานักเช่นกัน)

เขาอาจ ‘เป็นทุกข์แทบบ้า’ อย่างที่ท่านว.ได้กล่าวไว้ เมื่อคิดว่า นับแต่เยาว์วัย ชื่อเสียงโด่งดัง ต้องแลกมากับความสุขตามช่วงวัยที่ควรได้รับ แต่หนทางการบำบัดทุกข์ของเขานี้ เมื่อพิจารณาให้ดีจะพบว่า เขาบำบัดด้วยการให้ การบริจาคทานตลอดมา ยิ่งทุกข์มาก ก็ยิ่งบริจาค ด้วยว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสุขขึ้นได้ ในใจอันบอบช้ำนั่นเอง โดยเขาเคยกล่าวว่า เมื่อเห็นเด็กๆ ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้ประสบภัยเหล่านั้นคลายจากความทุกข์ เขาจะรู้สึกมีความสุขไปด้วย

... อนึ่ง ท่านว. ได้ยกตัวอย่าง และกล่าวยกย่อง 'บิล เกตส์' ว่ากำลังสร้างวัฒนธรรม “รวยแล้วให้ทาน”(p.194) ดิฉันเห็นว่า ไมเคิล แจ็คสัน ได้สร้างวัฒนธรรมนี้มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเขาเป็นเพียงนักร้องเด็กเสียด้วยซ้ำ

จากบทสัมภาษณ์ ในนิตยสารของชาวผิวสีฉบับหนึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อน นักร้องเด็กชื่อดัง เด็กชายไมเคิล แจ็คสัน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขารู้สึกอึดอัดกับการซ้อมและความเข้มงวดของบิดา ไม่มีโอกาสได้เล่นตามประสาเด็ก จนวันหนึ่งเกิดทนไม่ไหว จึงหลบหนีไปแอบดูเด็กตามถนนเล่นกัน ครั้นเมื่อเด็กเหล่านั้นเห็นก็พากันมารุมล้อมเขา เขาจึงล้วงลูกกวาดออกมาแจกเด็กๆเหล่านั้น เด็กๆต่างดีอกดีใจกันใหญ่ เขาผู้ยังเป็นเพียงเด็กน้อยในวันนั้น ได้กล่าวไว้ว่า ‘นั่นทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมาก’ นั่นอาจเป็นจุดเริ่มของการได้ลองลิ้มรสชาติความสุขของการให้ก็เป็นได้

เมื่อเซ็นสัญญาใหม่ ครอบครัวได้ย้ายมาอยู่แอลเอ เขาได้เข้าเรียนที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ชั่วโมงวาดรูป ครูให้เด็กๆวาดภาพตามอิสระ เด็กผู้หญิงอาจวาดเจ้าหญิง หรือนางฟ้า เด็กผู้ชายอาจวาดภาพยอดมนุษย์ฮีโร่ แต่เด็กชายไมเคิล กลับวาดภาพที่มีชื่อว่า Stop The War (ตามที่ท่านได้เห็นด้านล่างนี้ ) เนื่องจากขณะนั้น โลกเกิดเหตุการณ์สงครามเวียตนาม ซึ่งตัวเขาพูดเสมอว่า ผมเกลียดสงคราม...




....จนเมื่อนักร้องเด็กผู้นี้โตขึ้นมา จนเป็นนักร้องหนุ่ม กระทั่งเป็นราชาแห่งวัฒนธรรมป็อป เขาได้ช่วยเหลือผู้คนและสังคมมานับไม่ถ้วน ในทางตรงและทางอ้อม

ไมเคิล แจ็คสัน เป็นเจ้าของสถิติโลกมากมาย สถิติล่าสุดได้มาหลังการเสียชีวิต คือ สัญญาเพลงที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่อีกสถิติหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ก็คือ เขาคือซุปเปอร์สตาร์ ที่บริจาคเงินเพื่อการกุศลมากที่สุดในโลก ( กินเนสบุ๊ค เวิร์ล เรคคอร์ด)

... จะมีนักร้องคนไหนอีกในโลกนี้ ที่บริจาครายได้ในส่วนของตน ทั้งหมด ให้กับการกุศล ที่บอกว่าทั้งหมดนี้ มิใช่เพียงกำไรสำหรับคอนเสิร์ตเดียว แต่สำหรับทั้งทัวร์ ทัวร์รอบโลกที่ได้ชื่อว่า เป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ (Guinness world record_The world Most successful concert series) เป็นเงินจำนวนถึง 500 ล้านดอลล่าห์

... จะมีนักร้องคนไหน ที่ไม่ว่าไปที่ไหน ก็ต้องไปเยี่ยมเยียน และให้ความช่วยเหลือเด็กและผู้ยากไร้ ตามโรงพยาบาล สถานสงเคราะห์ แถมสร้างเงื่อนไขให้กับผู้จัดในประเทศ ว่าต้องพาไปอย่างเงียบๆ ไม่เปิดเผย ... คงไม่มีอีกแล้ว...(ตรงนี้อยากท่านให้อ่าน คำบอกเล่าของนายตำรวจท่านนี้ได้ทำหน้าที่อารักขาดูแลไมเคิล ตอนมาเมืองไทย เจ้าของคำกล่าว “โลกนอกจากสูญเสียนักร้องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไปแล้ว ยังสูญเสียคนดีที่สุดคนหนึ่งไปด้วย)
//topicstock.pantip.com/chalermkrung/topicstock/2009/10/C8479154/C8479154.html

แม้แต่ในพินัยกรรมของเขา ก็ยังระบุไว้ว่า รายได้ที่ได้มาจากชื่อเสียงของเขาเข้าสู่กองทรัพย์สิน จะต้องถูกแบ่งไปทำการกุศล 10% “นี่คือสิ่งที่ไมเคิล แจ็คสัน ได้ฝากไว้ กับทายาทผู้รับมรดกของเขา ....มรดกบุญ....”


... ไมเคิลแต่งเพลงเพื่อโลกและสังคมไว้หลายเพลง เช่น Heal the world ,Earth Song และเพลงการกุศลเพื่อเด็กและสังคมเช่น “We Are The World (USA for Africa), What more can I give ( for 9/11 incident), Little Susie(เพื่อเด็กที่เป็นเหยื่อความรุนแรงของผู้ใหญ่), The Lost Children (เพื่อเด็กที่ถูกลักพาตัวและสูญหาย , Gone too soon (แด่เด็กที่จากไปก่อนวัยอันควร)

ตามที่ท่านว.ได้กล่าวว่า เขาต้องทุกข์ทรมานกับเรื่องผิวๆ ดิฉันคิดว่าก็เป็นไปได้ ที่เขาอาจทุกข์ทรมานกับมันจริง แต่เชื่อว่าเขาไม่ได้ใส่ใจหรือให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ มากไปกว่าปัญหาของสิ่งแวดล้อม กับปัญหาของเด็กๆและผู้ด้อยโอกาสเลย

โดยจะเห็นได้ว่า ตัวเขาเอง แทบไม่เคยออกมาพูดแก้ตัวเรื่องสีผิว แต่กลับเอ่ยปากเป็นห่วง เรื่องสภาวะแวดล้อมและปัญหาสังคมตลอดมา

แม้แต่ก่อนวันสุดท้ายของชีวิต ที่เขาได้ไปซ้อมเพื่อการแสดงคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย เขายังได้แสดงความกังวลในเรื่องนี้ออกมา โดยได้กล่าวปิดการซ้อมกับทีมงานและแดนเซอร์ว่า “พวกคุณต้องช่วยกันดูแลโลกใบนี้ เรามีเวลากันอีกเพียง4ปีเท่านั้น” (ตรงนี้ยังคงเป็นปริศนาว่า ทำไม4 ปี ) เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นทุกข์อันแท้จริง จากก้นบึ้งจิตใจของเขา ... นั่นคือ ทุกข์ที่เกิดจาก ความห่วงใยที่มีต่อเพื่อนมนุษย์และโลกใบนี้นั่นเอง

... สุดท้ายนี้.. ดิฉันขอยืนยันว่า ไม่ได้รู้สึกในทางลบ ต่อหนังสือเล่มนี้ และยังเห็นว่า เป็นหนังสือที่ควรค่าแก่การแนะนำ เพียงแต่อยากแก้ไขความเข้าใจผิด เฉพาะส่วนที่กล่าวถึงไมเคิลเท่านั้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สร้างความเจ็บปวดให้กับแฟนเพลงมานาน และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจเกี่ยวพันไปถึงการแบ่งแยกสีผิวและเชื้อชาติ (หลายคนมีใจอคติกับไมเคิล ก็เพราะเข้าใจเขาผิดในเรื่องนี้ค่ะ)

ดิฉันขอจบบล็อคนี้ ด้วยคลิปคำยืนยันของไมเคิลเอง เกี่ยวกับเรื่องสีผิว คำยืนยันจากแพทย์ และคำยืนยันจาก ช่างประจำตัว และคลิปที่รวมภาพอาการของโรคที่ไมเคิลเป็นนะคะ

หากจะมีคนเข้าใจเขา แม้อีกสักคน....ก็ยังดี

มีความสุขมากๆกันทุกท่านค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=vbddupKAB3c&feature=related
https://www.youtube.com/watch?v=QBMHYkTbWaI
https://www.youtube.com/watch?v=9FZJR2E03rU
https://www.youtube.com/watch?v=aiYBRrRTwUg&feature=related







Create Date : 05 กันยายน 2553
Last Update : 6 กันยายน 2553 11:48:18 น. 22 comments
Counter : 4535 Pageviews.

 
รู้สึกขอบคุณที่มีข้อมูลอีกด้านมาให้ทราบ
น่าสงสารและน่าชื่นชมนักร้องท่านนี้มาก
จากใจ


โดย: sommai IP: 58.147.41.251 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:23:23:23 น.  

 
สวัสดีค่ะ

แอบหวังว่าท่านจะชอบค่ะ เพราะส่วนใหญ่ห้องนี้ทำตามใจท่านหมดค่ะ

ไมเคิลเค้าเป็นสุดยอดของทุกๆอย่างเลยจริงๆค่ะ

คืนนี้ฝันดีนะคะ


โดย: หัวใจแก้ว วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:1:51:00 น.  

 
สวัสดีครับ


ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันที่บล็อก

บล้อกนี้ของคุณ
ทำให้ผมนึกถึง
การรับรู้ข้อมูลด้านเดียว
แล้วตัดสินคนอื่น

ในบ้านเมืองเรากำไลังมีปัญหาแบบนี้เยอะแยะมากมาย
โดยเฉพาะความเห็นต่างทางการเมือง


ชอบครับชอบ

ผมเองก็ชอบและศรัทธาท่าน ว.
และชอบงานเขียนชิ้นนี้ของคุณ
เพราะเต็มไปด้วยเหตุด้วยผลและข้อมูลครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กันยายน 2553 เวลา:11:49:49 น.  

 
ขอบคุณค่ะ..บางเรื่องราวของ ไมเคิล แจ็คสัน อิชั้นก็ได้รับรู้จากการอ่านบล้อกของคุณนี่เอง..

ไม่ได้คิดว่าหนังสือของท่าน ว. ไม่ดีเหมือนกันค่ะ เพียงแต่การยกตัวอย่างนั้น อาจจะยก "เคส" ที่ผิดคนไปหน่อยเท่านั้น..คิดว่านั่นอาจจะเป็นเพราะข่าวจากแท็บลอยที่ไมเคิล ไม่มีโอกาสโต้ตอบได้ทั้งหมด คนเลยคิดว่าเป็นเรื่องจริงมากกว่าน่ะนะคะ


โดย: i'm not superman วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:9:32:09 น.  

 
ขอบคุณครับ กับข้อมูลที่ดีๆ มุมมองที่ดี อ่านแล้วทำให้ได้รู้ข้อมูลที่ถูกต้อง


โดย: คนนอกbloggang IP: 203.121.143.226 วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:19:13:16 น.  

 




ดูดีขึ้นมาโขเลยค่ะ

เห็น BF ตะไคร่ขึ้นเขียวอื๋อ น่ากลัวจะลื่นมากๆ ตอนนี้ดูสะอาดตาน่าเดิน กว่ากันเยอะเลยค่ะ



โดย: MJdrawer 10 กันยายน 2553 9:02:53 น.

ขอบอก ว่า มิได้ตัดต่อแต่อย่างใด BF มันขิเหร่เยี่ยงนั้นจริงๆ และ AF ซีซั่น นั้น สวยเหมือนพี่จริงๆ


คิดๆ ดูก็เหมือน พี่เคิล แกไม่ได้จากไปเน๊าะ ไปเร็วเกิน
ส่วนดีก็มีเยอะเลย


โดย: PaoTMTF วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:13:48:57 น.  

 
ฝันดีนะ


โดย: ทิพย์วารี วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:19:37:49 น.  

 
สวัสดีค่ะ

เรื่องราวของMJ ส่วนตัวเคยรับรู้มาก่อนแล้วค่ะ แต่ได้มาเห็นข้อมูลโดยละเอียดจากบล็อกนี้อีกที ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

คิดเหมือนคุณจขบ.ค่ะ เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ของท่านว.เพียงแต่ส่วนตัวอาจจะไม่ละเอียดอ่อนเพียงพอกระมัง ทำให้มองข้ามเนื้อหาบางส่วนไป

ทั้ง ๆ ที่จะว่าไป...สำคัญไม่น้อยเลยนะคะนั่น



โดย: แม่ไก่ วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:21:53:56 น.  

 
อ่านแล้วน้ำตาซึมเลย นึกไปถึงตั้งแต่วันนั้นที่เค้าจากไปแล้วเหมือนกับยังได้ยินเสียงร้องไห้ของพี่อยู่เลยนะ รูปสวยมากเลยพี่


โดย: แม่น้องอิน IP: 111.84.192.71 วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:23:28:30 น.  

 
ผมพอทราบข้อมูลนี้มาก่อนแล้วบ้างเหมือนกันครับ


ไมเคิลเป็นคนที่มีจิตใจดีและอ่อนโยนจริง ๆ ครับ
ถ้าเป็นคนอื่น อาจจะออกมาโวยวายและฟ้องร้องอย่างแรง
แต่เขากลับไม่ตอบโต้อะไร จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ ใจกว้างมาก ๆ

ส่วนเรื่องหนังสือเล่มนั้น...
ผมไม่อยากวิจารณ์อะไร...เพราะไม่ได้อ่าน
นอกจากจะทิ้งท้ายด้วยหลัก "กาลามสูตร" แค่นั้นครับ


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:1:07:20 น.  

 
สวัสดีวันจันทร์ค่าาา

เค้าน่ารักจริงๆค่ะ อื้ม..แอนก็เลี้ยงที่คอนโดเล็กๆนะคะ แต่เดี๋ยวจะย้ายไปบ้านใหม่แล้ว เจ้าหมูจะได้มีสนามวิ่งเล่นแล้่วล่ะ


มีความสุขมากๆในวันแรกของการทำงานนะคะ


โดย: หัวใจแก้ว วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:10:44:22 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:5:42:49 น.  

 
ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูล แต่วาดภาพเก่งมากเลยค่ะ น้องภีมไม่รู้จะได้แค่ไหน แต่เค้าชอบ คงต้องสนับสนุนและคอยดูต่อไปค่ะ มีอะไรช่วยนะนำน้องด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ


โดย: คุณแม่ (บ้านภีม ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:47:36 น.  

 
แวะมาทักทายด้วยค่ะ ชอบไมเคิลตอนเด็กๆ ค่ะ น่ารักดี


โดย: namfaseefoon วันที่: 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:21:10 น.  

 
คุณออฟคะ หวัดดีค่า ได้ยินว่าคุณออฟกำลังยุ่ง ภารกิจแม่บ้านแบบพวกเรา มากมายน่ะ เข้าใจค่ะ

แอบนับถือคุณออฟ ทั้งงานบ้านและงานข้างนอกบ้าน เราเองแค่งานในบ้านอย่างเดียวยังแย่เลยค่ะ

อีกอย่าง เราขยันตามสภาพอากาศแวดล้อมและอารมณืด้วยค่ะ
ยังงัยก็เอาใจช่วยด้วยค่ะ ขอให้ผ่านไปด้วยดีนะคะ
ใกล้จะสิ้นปีแล้ว

สิ่งดีดี กำลังก้าวเข้ามา สิ่งเลวร้ายทุกอย่างขอให้ผ่านไป พร้อมกับมันเลยค่ะ

ขอบคุณค่า


โดย: เราอุ้มนะ วันที่: 19 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:32:07 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปคุยด้วยที่บล็อก ขอให้มีความสุขเช่นกันครับ


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 19 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:35:55 น.  

 


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 มกราคม 2554 เวลา:8:06:26 น.  

 
//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A10440659/A10440659.html

ขออนุญาตเอาข้อความบางส่วนไปเผยเเพร่ความดี
ของไมเคิ่ลนะคะ


โดย: RoseTiara วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:0:23:34 น.  

 
รูปข้างบน blog นี้วาดเองหรือครับ
อย่างนี้ไม่ใช้สมัครเล่นแล้วครับ

เก่งมากๆ แล้วครับ ^^


โดย: Pop_Vet ^^ IP: 183.89.169.138 วันที่: 29 มิถุนายน 2554 เวลา:12:38:22 น.  

 
คุณ RoseTiara เข้าไปอ่านในกระทู้แล้ว ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ดีใจที่มีคนเข้าใจ และเห็นอีกด้านหนึ่งของไมเคิล ที่สื่อไม่สนใจจะนำเสนอนะคะ เรายินดีมากๆเลยค่ะ



โดย: MJdrawer วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:9:25:10 น.  

 
คุณหมอป็อป (ตึกตกลงเป็นยังไงคะ กระทู้หายไปเลย)
ภาพบนหัวบล็อก เราวาดเองค่ะ รวบรวมจากภาพที่วาดในโอกาสต่างๆ (ตรุษจีนก็ไม่เว้นค่ะ 55) แต่ตอนนี้ ไม่มีเวลาหยิบดินสอเลยค่ะ

อ้อ ยกเว้นภาพหนึ่ง ไมเคิลเค้าวาดตัวเค้าเองนะคะ ภาพเด็กถือไมโครโฟน นั่งขดซุกตัวตรงมุมห้องนั่นแหละค่ะ เป็นภาพที่สะเทือนใจมาก ว่าไหมคะ


โดย: MJdrawer วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:9:25:49 น.  

 
เห็นด้วยเป็นอย่างมากที่เรื่องแบบนี้สื่อไม่ลงที่เรื่องใส่ร้ายป้ายสีลงกันให้ถี่เลย เท่าที่ดิฉันทราบอ่านเจอจากข่าวนะค่ะพบว่าผลการชันสูญศพของไมเคิลเรื่องโรคด่างดำนั้นเริ่มดีขึ้นแต่เสียชีวิตก่อน ถึงจะเกิดมาไม่ทันช่วงไมเคิลดังมากกแต่ก็ปลื้มมากนับถือมากไม่รู้ว่าโลกนี้จะมีคนแบบไมเคิลอีกไหมจนถึงทุกวันนีิี้เข้าไปดูใน youtube ที่ไว้อาลัยเหมือนไมเคิลร้องไห้ตลอด แ้ก้วยังเศร้าไม่หายดูที่ไหร่อดร้องไห้ไม่ได้เลยหลับให้สบายนะค่ะไมเคิล ถึงจะเคยมีความเจ็บปวดหรืเคยเป็นอะไรมากเราจะขอจดจำความอ้อนน้อมถ่อมตนและเป็นคนดีของคุณตลอดไป ขอให้สิ่งศักดิ์ทั่วโลกดูแลไมเคิลด้วย คนดีของพวกเราทั่ว(แฟนคลับไมเคิล) michael jackson I love you too I miss you so much


โดย: แก้วตา ค่ะ IP: 61.90.82.234 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:12:57:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MJdrawer
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชั่งใจอยู่นานกับชื่อล็อคอินนี้นะคะ เกรงจะดูเป็นการไม่ประมาณตนเอง ก็ต้องขอออกตัวไว้ก่อนนะคะว่า เป็นแค่มือสมัครเล่น ไม่ได้ร่ำเรียนมาทางศิลปะ วาดMJ ก็ด้วยเพราะรัก ศรัทธา และด้วยความคิดถึงล้วนๆ เท่านั้นจริงๆค่ะ

"MJdrawer" จึงมีความหมายแค่เพียง คนวาดไมเคิลคนหนึ่งเท่านั้น มิได้อาจเอื้อม สำคัญตนว่าเป็น ‘นักวาด’ หรือ ‘ศิลปิน’ ของเดอะคิงออฟป็อปนะคะ เพราะศิลปินที่วาดไมเคิลนั้นมีอยู่ทั่วโลก มิอาจนำตัวไปเทียบได้ค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมบล็อกเราค่ะ :)
Friends' blogs
[Add MJdrawer's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.