day 11
มีหลากหลายอาการในช่วง2อาทิตย์หลังใส่ตัวอ่อน ที่แสดงให้เห็นว่าคุณประสบความสำเร็จในการทำ IVF แต่บางคนก็ไม่มีอาการอะไรเลยในระหว่างนี้แล้วก็ประสบความสำเร็จอยู่ดี
ปกติแล้วผู้หญิงที่ตั้งครรภ์จะไม่รู้ว่าตัวเองท้อง เพราะมันแทบไม่มีอาการอะไรจนกระทั่งประจำเดือนขาดนั่นหละ ซึ่งก็เริ่มตั้งครรภ์ได้4-6สัปดาห์แล้ว แต่สำหรับคนที่ทำ IVF จะมีอาการที่แสดงว่าท้องเร็วกว่าคนที่ตั้งครรภ์ธรรมชาติ
ในช่วงระหว่าง2 อาทิตย์หลังใส่ตัวอ่อน มักจะมีอาการเหล่านี้: ท้องหดเกร็ง ปวดหัว(แต่การปวดหัวอาจเกิดจากยาที่ใช้ระหว่างทำIVFก็ได้)
แต่บางครั้งก็อาจจะมี ตกขาวสีใส หรือขาว ปริมาณเล็กน้อย (แต่ถ้าทำivf แล้วสอดยา ก็คงแยกไม่ออกหรอกว่าอันไหนตกขาว อันไหนยา) แต่ถ้าตกขาวมีสีเหลือง-เขียว และมีกลิ่น แสดงว่าช่องคลอดติดเชื้อราและจำเป็นต้องแจ้งแพทย์ อาการอีกอย่างที่อาจเกิดขึ้นคือ เหงื่ออกตอนกลางคืน สาเหตุเพราะการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนในระหว่างท้อง
คุณอาจรู้สึกถึงการเพิ่มขึ้น หรือ ลดลงของอุณหภูมิขณะตื่นนอนหรือหลังจากหลับสนิทติดต่อกันอย่างน้อย 5 ชั่วโมง (Basal Body Temperature: BBT) ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตัวอ่อนฝังตัวได้สมบูรณ์และอาจจะท้อง การวัดอุณหภูมิหลังตื่นนอนในระหว่าง2อาทิตย์หลังใส่ตัวอ่อนเป็นสิ่งที่นิยมมาก อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงบางคนที่ประสบความสำเร็จในการทำ IVF มักมีอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกายไม่ว่าจะลดลง หรือสูงขึ้นอย่างมีนัยยะ อาจหมายถึงความสำเร็จในการทำ IVF
คุณอาจมีอาการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นช่วงเวลาไหนของวัน หรือ กลางคืน และอาจเกิดไม่กี่ครั้ง อาการหมดแรงก็หมายถึงว่าตัวอ่อนฝังตัวได้สมบูรณ์เช่นกัน
แต่ก็อย่าไปคิดมากเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นถ้าทำ IVF สำเร็จ เพราะเครียดไปก็ไม่ดี ควรจะพักผ่อน ผ่อนคลายให้เยอะๆ เพื่อที่ตัวอ่อนจะได้ฝังตัว
ref: //www.ivfvictoryphilippines.com/blog/2013/07/30/initial-signs-of-pregnancy-during-the-first-two-weeks-after-ivf/
สรุป: เรามีอาการแค่ อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น นอนไม่หลับ+ไม่อยากอาหารช่วงแรก รู้สึกท้องหดเกร็งตอนday 5 แค่วันเดียว แล้วก็ช่องคลอดค่อนข้างแน่น สอดยายากขึ้น ซึ่งอาจเพราะยาสอดcyclogest ที่ทำให้ผนังมดลูกหนาขึ้น ท้องอืดไม่เกิน2วันแล้วก็หาย (ซึ่งอาจเพราะเข้าห้องน้ำสายวันนั้น)
อาการที่ไม่เกิดขึ้นเลย: ท้องผูก ท้องเสีย ง่วง ตกขาว มีหยดเลือด เจ็บหน้าอก คัดเต้านม
การใช้ชีวิต ปกติมาก พอday 2 ก็ไปเดินเล่นห้าง ขึ้นลงบันได หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตแทบปกติ ไปห้างซื้อของยกของหนัก(ไม่เกิน10โล) แต่คีย์ที่สำคัญคือ เราแทบไม่เครียด มีบ้างที่เผลอเครียด แต่เครียดเรื่องอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวกับการท้องเลยสักนิ้ด(ฮา)
อย่างที่บอกปัจจัยการฝังตัวมันมีปัจจัยหลายอย่าง สมมติทุกอย่างperfect แต่ถ้าข้างในตัวแม่ไม่แข็งแรง ก็อาจไม่ติดก็ได้ หรือถึงตัวแม่แข็งแรงมาก ก็อาจไม่ติดก็ได้! สำคัญที่สุดคืออย่าเครียด ถึงจะตรวจฉี่ไม่เจอสองขีด หรือเจอสองขีดแต่วันถัดมาขีดจางลง ก็อย่าเครียด เพราะคุณแอบตรวจฉี่เองโดยที่คุณหมอก็บอกแล้วอย่าแอบตรวจก่อนเพราะเดี๋ยวจะเครียด รอผลเลือดทีเดียวชัวร์สุด มั่นใจสุดดีกว่า เพราะขนาดเราตรวจฉี่เจอ2ขีดแล้ว ยังเฉยๆอยู่ รอดีใจวันตรวจเลือดเลยดีกว่า :)
ปล: ก่อนจะท้องเราเล่นเวทตลอด ยกน้ำหนักแทบเท่าผู้ชาย แต่พอตรวจเจอว่าเป็นpcos ก็หยุดเล่น ไม่ใช่ว่าการยกเวทไม่ดี แต่เราว่าไม่เหมาะสำหรับเรา เพราะคนที่เป็นpcos จากอ้วนกลายเป็นผอมเพราะยกเวท แต่สำหรับเรา เราเล่นแล้วเราอ้วนขึ้นทั้งที่กินคลีนตลอด ซึ่งหมออธิบายว่าเราออกกำลังกายเยอะ และหนักเกินไป ฮอร์โมนเพศชายเลยหลั่งออกมาเยอะ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเรารวนหมดเลย หลังจากนั้นเป็นต้นมาเราเลยหยุดยกเวท เน้นคาร์ดิโอโดยheart rate ไม่เกิน 135-140 มีทำ HIIT หรือทำ high interval บ้างอาทิตย์ละครั้ง
Create Date : 08 มีนาคม 2560 |
Last Update : 8 มีนาคม 2560 11:14:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 15976 Pageviews. |
|
|