ตอนนี้ก็เป็นแม่มาได้ 8 เดือนกว่าๆแล้ว อยู่กะลูกมาตลอด 8 เดือน กี่วัน กี่ชั่วโมงแล้วน้า ทุกๆวันของแม่เป็นวัน Sonday จริงๆ แล้วก็อารมณ์ Sunday ด้วยนะ คือ วันอาทิตย์ มีความสุขใช่มะ แต่ก็แอบเศร้าว่าพรุ่งนี้จะวันจันทร์อ่ะ เลี้ยงลูกก็เหมือนกัน มีความสุข แต่ก็มีแอบเหนื่อยเซ็งบ้าง ขอบอกว่าตอนนี้รู้แล้วว่าตัวเองไม่ได้มีพรสวรรค์ในความเป็นแม่เล้ยยยย
แต่เราก็เลี้ยงลูกในแบบที่เราเป็น ตามที่เราเห็นว่าควร สภาพแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลูกแต่ละคนก็เลี้ยงง่ายเลี้ยงยากต่างกัน บางคนมีคนช่วยเลี้ยง บางคนเลี้ยงเก่ง เกิดมาเพื่อเป็นแม่ สารพัดความแตกต่าง เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย ดังนั้นตัดสินไม่ได้ว่าแบบไหนดีหรือไม่ดี แล้วแต่สไตล์เนอะ นี่เป็นสไตล์ของเราล่ะกัน
เรื่องของเล่นลูก
มีคนบอกเสมอว่า ของเล่นที่ดีที่สุดของลูกคือพ่อกะแม่ ไม่เถียงเลยล่ะ เราก็เป็นแม่คนนึงที่ซื้อของเล่นให้ลูกบ้าง ของใหญ่ๆที่ซื้อ ก็ Bumbo Seat กะ Around we go อย่าง Around-we-go จริงๆไม่ใช่ของเล่นของลูกหรอก มันเป็นของที่มาช่วยแม่มากกว่า เพราะเอาลูกใส่ไว้ เวลาที่แม่ต้องทำงานบ้าน ล้างจาน แถมลูกก็ได้สนุกสนานกะมันด้วย ของอย่างอื่น เช่น รถหัดเดิน (ที่แม่ไม่ได้ใส่ล้อให้ เอาไว้โยกเฉยๆ) กะเจ้าหมีขาว เอาบอลใส่ปากหมีแล้วไหลไปตามราง (แต่ลูกเอามาใส่ปากตัวเองซะนี่) เป็นของที่เพื่อนๆให้ตั้งแต่คลอดลูกแล้ว
จริงๆอยากจะบอกว่า บางคนที่ไม่ได้อยู่กะลูกทั้งวันคนเดียวอย่างช้าน อาจจะไม่เข้าใจก็ได้ว่าทำไมต้องซื้อของเล่นเด็กเยอะ อยู่กันทั้งวัน ก็หมดมุขเล่นกะลูกเหมือนกันนะ จ๊ะเอ๋ไปแล้ว เล่นปี๊บโป้ ยกขาซิทอัพก็เล่นแล้ว เล่นคลานตามกัน เล่นนวดๆก็ทำหมดแล้ว จะเล่นอะไรต่อดีล่ะ ของเล่นมันเป็นตัวช่วยดึงเสียงหัวเราะของลูกออกมา มันเป็นวิธีเลี้ยงลูกของแต่ละคน ที่จะวิจารณ์กันไม่ได้หรอก
เรื่องเรียน
หลังจากพาไปเรียนว่ายน้ำ ที่เอเต้สนุกสนานมากโดยเฉพาะครั้งแรกๆ ก็ทำให้เอเต้เป็นเด็กที่แข็งแรง ปอดขยาย บ่นดังมากๆ ไม่เสียดายเงินเล้ย คุ้มจัง
แล้วเอเต้ไปเรียนที่ Gymboree ลงครอส 48 ครั้ง หรือ 1 ปีเพราะราคากะเงินในกระเป๋ามาประสานกันพอดี ไม่ได้ไปลองเรียนที่อื่นๆ นอกจาก Tumble Tots ที่ได้มาฟรี เลือกที่นี่ เพราะว่ามันใกล้บ้านมากๆ เดินมายังได้เลย และที่สำคัญ เราสามารถพาลูกมาเล่นเครื่องเล่นเค้าฟรี ในวันที่ไม่มีคลาสได้ ก็พาลูกมาค่อนข้างบ่อย เรียกว่าคุ้มเลยล่ะ อีกล่ะ แม่บางคนก็อาจจะบอกว่า ไปเรียนทำไม ฝึกลูกเองก็ได้ (บางคนถึงขนาดค่อนขอดว่าเราทำไฮโซ ไม่มีงานทำแล้วยังจะใช้เงินแบบนี้ ....ชั้นก็ประหยัดเรื่องของตัวเองไงยะ เพื่อลูกอ่ะ จะทำไมหา) สำหรับเรา มันไม่ใช่การฝึกหรือไม่ฝึก เราอยู่กันสองคนแม่ลูกทั้งวัน ลูกได้ออกไปเจอคนอื่นบ้าง น่าจะดีกว่า บางบ้านมีปู่ย่าตายาย อาอี๊ อาม่า อากง เพียบ มีเด็กๆอยู่หลายคน นั่นอาจจะไม่จำเป็น ลูกเราพอได้ออกจากบ้าน ได้ไปเจอคนอื่นบ้าง ลูกสนุกสนาน ก็เห็นได้ว่า นั่นไง ลูกได้เจอสังคม ลูกชอบ แล้วทำไมเราจะจ่ายไม่ได้
กลับมาจากญี่ปุ่น เราจะไปเล่นกันที่ Helen Doron พ่ออยากให้ลูกฝึกภาษา เพราะอายุช่วงนี้กำลังเรียนได้อย่างดีที่สุด
เรื่องอาหารเสริมของลูก
สนุกสนานมากๆกับการทำให้ลูกกิน เป็นอะไรที่ชื่นใจที่สุด วิธีทำของเรามันก็ง่ายๆ แค่ทำเป็นอย่างๆแยกกัน แล้วใส่ช่องแข็งไว้ จะแบ่งเป็น อาหารส่วนหลัก ส่วนเนื้อสัตว์ และ ส่วนผัก ส่วนหลัก ก็มีที่ลูกชอบก็ มันฝรั่ง แครอท ฟักทอง ส่วนที่ไม่ชอบก็ข้าวกล้อง ส่วนเนื้อสัตว์ (เริ่มกินได้ตอน 7 เดือน) ก็ ปลาช่อน หมู ไก่ ส่วนผัก ก็ตำลึง บร๊อคโคลี่ ผักกาดขาว ถั่วลันเตา ทุกๆวัน ก็จะเอาอาหารหลัก 4 oz + เนื้อสัตว์ 1-1.5 oz + ผัก 0.5-1 oz. มาผสมกัน อย่างข้าวกล้องลูกไม่ชอบ แต่พยายามให้กิน เพราะมีประโยชน์และไม่ทำให้ตัวเหลืองแบบฟักทอง แครอทหรือมันฝรั่ง (มีสารเบต้าแคโรทีนเยอะ กินเยอะไปก็ตัวเหลือง) ก็เอาข้าวกล้องผสมกับมันฝรั่งหรือฟักทองไป แล้วค่อยๆเพิ่มสัดส่วนให้ข้าวกล้องเยอะกว่า ทุกวันนี้ เอเต้ก็กินได้ตอนเช้า 4-6 oz แล้วตอนเย็น 3-4 oz (เริ่มอาหารเย็นตอนเดือน 8 นี่ล่ะ) มีผลไม้ตอนสี่โมง แต่อันนี้ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไหร่ เอเต้ชอบกินผลไม้ขวดแช่เย็นมากกว่า ไว้จะลองทำเองบ้าง (แหะๆ ทำไม่ทันน่ะ) สนุกๆ ใครไม่เคยทำอาหารต้องลองทำดู หลอกลูกกินได้นี่ มันชื่นใจแม่ชะมัด
เรื่องงาน
เดือนที่หก มีเจ้านายเก่าคนนึงชวนให้กลับไปทำงาน ทำให้จิตใจว้าวุ่นไปพักใหญ่ เพราะว่าอยากได้เงินเดือน แต่พอหันมามองเอเต้ทีไร พอคิดว่าจะเอาไปฝากเนิร์สเซอรี่ ก็เศร้า คิดถึงตอนที่เอาลูกไปส่งให้เค้าอยู่กะคนอื่น ทิ้งไว้กะคนที่เค้าไม่รู้จักก็สงสารเหมือนกัน ขนาดเราเลี้ยงเอง เราก็มีหงุดหงิดเลย คนอื่นไม่ใช่ลูกเค้า เค้าจะรักไม๊ ที่สำคัญ งานที่ทำ กว่าจะได้กลับบ้าน ลูกคงหลับไปแล้ว แถมคงแบกความเครียดกลับบ้านมากองโต แอบอิจฉานะ คนที่มีงานแบบที่กลับบ้านได้ตรงเวลา แล้วมีคนเลี้ยงดีๆอ่ะ ได้เงินด้วย ไปทำงานก็สบายใจ ช่วงเช้ากะเย็นยังได้มีเวลาเล่นกะลูก งานอย่างเรา เป็นไปไม่ได้เลยยยยย
ก็เลยตัดสินใจทำกิจการของตัวเองแบบที่คิดไว้ตั้งแต่ท้อง ต้องรีบทำ เพราะถ้ามันไม่ work อาจจะต้องทำใจกลับไปทำงาน เดี๋ยวแก่ไปกว่านี้ จะไม่มีใครชวนกลับเข้าวงการ (บันเทิง) ทำไงได้ เงินก็ต้องหานี่นะ ทุกอย่างก็ทำเพื่อคนนี้แหล่ะ มันไม่ได้เงินเท่าเงินเดือนแน่ๆ แต่ได้อยู่กะลูก น่าจะคุ้มกว่า แต่ก็ยุ่งมากๆๆๆๆๆๆ
เรื่องความงาม
อันนี้เน่ามากๆ ได้ไปกันคิ้วไฮโซที่ Anastasia ทีนึงตอนลูก 3 เดือน ชอบมาก แต่ไม่ได้ไปทำอีก เพราะเกรงใจกระเป๋าสามี ตอนนี้คิ้วเลยรก แถมสิวขึ้นอีก อยากไปหาหมอชะมัด แรกๆไม่ได้ไปหาหมอสิว กลัวมีผลกะนมที่ให้ลูกกิน จนทนไม่ได้ถามหมอสุธีรา (หมอเด็ก) เรื่องสิว หมอบอกว่า ไปหาได้สบายมากๆ ไม่มีปัญหา ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ไม่ได้ไปซะที จะไปได้ไง ต้องเลี้ยงลูกตลอดขนาดนี้ เฮ้อ อยากสวยนี่มันยากจัง โชคดีที่มีพื้นฐานความสวยอยู่แล้น เลยทนๆกันไป
น้ำหนักก็ลดไปจิ๊ดนึง แต่ตอนนี้จะกลับไปออกกำลัง fitness ตอนค่ำๆอีกรอบแล้ว สู้ๆ ทนตัวเองไม่ได้จริงๆ (แล้วใครจะทนเราได้ฟะ)
เดือนหน้า ต้องดีกว่านี้แน่นอน เพราะเราจะได้ไปเที่ยวแล้ว เย้ๆๆๆๆๆ แล้วสินค้าคงได้เป็นรูปเป็นร่าง คราวนี้คงยุ่งต่อ แต่หัวใจคงพองโต เอาน่า มีความหวัง ต้องดีน่า เพื่อลูกๆๆๆๆๆ พวกเราจะได้ไปเที่ยวกันอีกไง
ปีหน้าไปยุโรป....ไม๊ (ทำตัวไฮโซไปงั้นแหล่ะ แต่ขอให้ได้ไปนะ เพี้ยงๆๆ)
รักลูกมากๆ เจ้าลิงน้อยของแม่
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2552 |
|
17 comments |
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2552 10:51:37 น. |
Counter : 1545 Pageviews. |
|
|
|
เรื่องเรียน>เห็นด้วยน่ะค่ะ ถ้าเราแลกมากับความคุ้มค่าของลูก ได้ออกไปเจอคนข้างนอก
ได้เจอสิ้งใหม่ๆๆ ใครจะว่าอะไรก็ช่าง...เถอะคะ
กระเป๋าเรา...เรามีปัญญา...จ่ายจิงไหม
เรื่องของเล่น>ซื้อไปเถอะค่ะพี่ป้อม ซื้อแล้วสบายใจ ซื้อแล้วทำให้ลูกอารมณดี มันก็คุ้มสุดๆๆ แล้ว ลูกเรามีคนเดียว ดีกว่าเอาเงินไปทำอย่างอืิ่น
เรื่องอาหารเสริม>ตอนนี้บีก็เริ่มหาข้อมูลตามหนังสือและก็ internet และก็บล็อคของเพื่อนๆเนื่ยแหละ เป็นครูที่ดีเลย ขอบคุณน่ะค่ะสำหรับเมนู
เรื่องงาน> บีก็เคยทำงาน office แบบพี่ป้อมแต่ต้องออกมาเป็นนังแจ๋วอยู่บ้าน เซ็งสุดๆๆเพื่อนก็ชวนกลับไปทำน่ะ ทีทำงานเก่าแต่เหมือนพี่มองหน้าลูก แล้วนู๋จะอยู่กับใครหล่ะ ?? ก็ต้องทน
แต่บางทีเงิน...ก็เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งเนอะ
เรื่องความงาม> หมดสวยแล้วเหมือนกั้นเล้ย
แต่ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ยังไงพี่ก็อย่าปล่อยตัวเองน่ะ มีเวลาก็เสริมสวยเถอะคะ
ผู้หญิงเราความสวยมาเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว