BlogGang.com : : misspommy : Autumn in Japan :: ท้องโต โย้ไปดูใบไม้เปลี่ยนสี :: Day 2

มกราคม 2552

				1	2	3
4	5	6	7	8	9	10
11	12	13	14	15	16	17
18	19	20	21	22	23	24
25	26	27	28	29	30	31

13 มกราคม 2552

Autumn in Japan :: ท้องโต โย้ไปดูใบไม้เปลี่ยนสี :: Day 2 :: Kawaguchiko

Autumn in Japan :: ท้องโต โย้ไปดูใบไม้เปลี่ยนสี :: Day 2 :: Kawaguchiko

วันที่ 2 :: Nov 17,2008 :: ไปดู fuji ที่ Kawaguchiko

วันนี้ ตั้งใจจะออกจากโรงแรมตั้งแต่ 6.30
แต่ว่าอาหารเช้าฟรีจะเริ่มที่ 7 โมง เราเลยรอก่อน 55
Check-out แล้วฝากกระเป๋าไว้ก่อน
เพราะเย็นนี้ เราจะไปนอนโอซาก้ากันเลย

ใช้บัตรเบ่ง JR ขึ้นรถจาก Shinjuku เพื่อไปที่ Otsuki
เราก็เจอปรากฏการณ์ รถไฟ delay รอกันครึ่งชั่วโมงเลย
ทำให้เราพลาดรถไฟ local ที่เราจะต้องไปต่อด้วย
ส่วนต่อรถ local นี้ก็ต้องเสียค่ารถคนละ 1110 Yen เป็นรถธรรมดา
ถ้าจะขึ้นรถด่วนที่มีลายภูเขาไฟหรือลายการ์ตูนน่ารัก ก็ต้องเสียเงินเพิ่ม

ระหว่างรอรถเราออก เราก็เลยได้ถ่ายรูปกะรถไฟขบวนโน้น ขบวนนี้
พอรถเราออกไปสักพัก รถเราก็จอดรอนานมากๆ เพื่อรอให้เจ้ารถด่วนลายการ์ตูนมันผ่านไปก่อน พวกเรารอเหมือนข้าราชบริพาร รอต้อนรับเจ้าขุนมูลนาย

ในที่สุด ก็ปาเข้าไป 10.34 เราถึงจะถึงสถานี Kawaguchiko
เราก็ไฮโซ เรียก Taxi ให้ขับไปส่งที่สถานีกระเช้า ค่ารถ 710 yen คุ้มๆๆ
ประหยัดเวลา แล้วก็ประหยัดแรงงาน
อ่อ Taxi ที่ญี่ปุ่นเนี่ย จะมีหลาย size สนนราคาก็จะต่างกัน
แล้วก็ไม่ต้องเปิดปิดประตูรถเองนะ มันอัตโนมัติ

เราก็ซื้อตั๋วแบบรวม เรือและกระเช้า จะลดราคาจาก 1600 เหลือ 1200 yen
จริงๆแล้ว เรา plan จะนั่ง Retro Bus เที่ยวรอบเกาะด้วย แต่เรามาสายแล้วกลัวจะไม่ทัน เราว่าตั๋ว Retro Bus จะเหมาะกับคนที่มาค้างคืน เพราะตั๋วมันจะใช้ขึ้นลงรถได้ 2 วัน คุ้มกว่า

วิวจากกระเช้านี่ก็สวยมาก ทีแรกดูจากพยากรณ์ใบไม้แดงแล้ว คิดว่าที่นี่จะร่วงไปเยอะแล้วซะอีก

แต่ยังไงก็ตาม วันนี้อากาศไม่ดีเท่าไหร่ มีเมฆเยอะ ยังดีฝนไม่ตก
ขึ้นไปดูวิวจากภูเขา ก็เลยไม่เห็นภูเขาไฟฟูจิเลย
ระหว่างนี้ ก็มีทัวร์ขึ้นมาเป็นระยะๆ เค้าขึ้นมาได้แป๊บเดียว ก็ถูกต้อนกลับ
ในขณะที่พวกเรา ลั้นลามาก ไม่รีบไม่ร้อน
ไปถ่ายรูปกะตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา กดไอติมจากตู้มานั่งกินสู้ความหนาว

พออิ่มใจแล้วก็ชวนกันลงดีกว่า
เดินไปแถวๆทะเลสาบ เห็นใบไม้แดงเต็มไปหมด
คราวนี้ ไม่ได้ชวนแม่เดินไปรอบทะเลสาบหรอก กลัวเหนื่อย
แล้วเราสองคนเคยเดินไปแล้วตอนซากุระบานเมื่อปีก่อน
(จริงๆแล้ว อยากได้ของฝากน่ารัก จากร้านเครื่องหอม แต่เดินไปไกล สามีไม่อนุมัติ)

แล้วก็ไปหาอะไรหม่ำกัน ร้านนี้อยู่บนชั้นสองของตึก
ชั้นล่างจะขายพวกขนมฝาก (ประมาณร้านแม่กิมไล้ 55)
ร้านนี้ชื่อ Rest House Funatuya
เราได้นั่งโต๊ะ มองเห็นวิวทะเลสาบ ถ้าไม่มีเมฆบัง ก็จะเห็น Fuji ด้วย
อร่อยมากเลย แล้วก็เยอะ กินจนอิ่มแปล้ รวมจ่ายไป 3 คน 2940 yen

อิ่มแล้วก็มาเดินเที่ยวไปมาริมทะเลสาบ ถ่ายรูปกะใบไม้แดงตรงโน้นตรงนี้
แล้วเราก็ไปขึ้นเรือชมวิว เที่ยว 14.30
อยู่บนเรือ หนาวมาก เพราะพวกเราไปอยู่บนดาษฟ้าเรือตลอด
คนอื่นเค้านั่งกันชั้นล่าง ชมวิวกันอย่างสงบ
แต่ฟูจิก็ยังโดนเมหบังอยู่นั่น พวกเราก็พยายามช่วยกันเป่าไล่เมฆ
จนกระทั่งเห็นยอดภูเขาเป็นระยะ แค่นี้ก็ดีใจ อุตส่าห์พาแม่มาญี่ปุ่นทั้งที

หลังจากนั่งเรือประมาณ 30 นาที เราก็พยายามหา Taxi กลับไปสถานีรถไฟ
แต่ไม่รู้ว่าอู่มันอยู่ไหน เหมือนว่าต้องโทรเรียก
ไม่ได้เรียกแล้วกระโดดขึ้นได้ริมทางแบบบ้านเรา
เลยเดินกลับกันไปเรื่อยๆแบบรีบๆ
ต้องไปต่อรถที่ Otsuki ระหว่างรอรถ ก็หิวอีก (เด็กในท้องร้องกิน)
เลยไปนั่งหาขนมกินกันที่ร้านตรงข้ามสถานี อร่อยจัง

กว่าจะกลับไปถึง Shinjuku ก็ 17.38 น. มันมืดแล้วแหล่ะ
ต้องไปแถว Akihabara ไปซื้อกล้อง VDO
หาได้ถูกสุดที่ร้าน Wink Digital
คุณสามีก็วิ่งไปซื้อกล้อง เรากะแม่ก็ไป reserve seat ไปโอซาก้า
กระบวนการนี้ ทำกันภายในครึ่งชั่วโมง
แล้วก็วิ่งๆๆๆๆขึ้นรถแน่นๆ กลับไปที่โรงแรม ไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้
ในที่สุด ก็ตกรถที่จะไปโอซาก้า เลยต้องรอขบวนถัดไป
ซื้อข้าวกล่องเป็นเซตกะน้ำชาเขียว
พอขบวนนี้เราไม่ได้ reserve seat ต้องไปขึ้นตู้สำหรับพวกที่ไม่ได้จอง
แต่กลายเป็นดีกว่า เพราะเราขึ้นก่อนก็ได้นั่งก่อน
เปิดกล่อง หม่ำๆๆกัน แล้วก็หลับกัน
ไปถึงโรงแรม Kinki ก็เกือบห้าทุ่ม
คราวนี้ เราประหยัด เลยนอนกัน 3 คน โรงแรมนี้ถูก ถ้านอน 3 คน
แต่แพงสำหรับห้อง 2 คน ที่อื่นจะดีและถูกกว่านี้

ไว้ตอนสุดท้าย จะ review เรื่องโรงแรมล่ะกัน

Create Date : 13 มกราคม 2552

Last Update : 22 มกราคม 2552 11:31:20 น.

7 comments

Counter : 1605 Pageviews.