Bloggang.com : weblog for you and your gang
รองเท้า...ความรัก...นักเดินทาง
สามชุก ตลาดร้อยปี
ตลาดสามชุก & หอคอยบรรหาร - แจ่มใส
20092009
ทริปเที่ยวตลาดสามชุกเริ่มต้นก็เลขสวยแล้วป่ะหล่ะวันอาทิตย์ 20 ก.ย. 2009 เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 6 โมงครึ่งกว่า ๆ ใช้เวลาเดินทางจากหน้ากองสลาก ถนนราชดำเนิน ไปถึงตลาดสามชุกราว ๆ 2 ชม. (ค่ารถ 120 บาท/คน) ถึงตลาดเกือบ ๆ 9 โมง ได้เวลากินข้าวเช้าพอดี แต่ก่อนเริ่มมื้อเช้าก็ขอถ่ายป้ายเป็นอันดับแรก เพื่อยืนยันว่าเรามาถึงสามชุก ตลาดร้อยปีแล้วจริง ๆ
ป้ายตลาดสามชุก เป็นไม้สีค่อนข้างดำ เดินออกมาหน้าตลาดกี่รอบดูยังไง ๆ มันก็ขลังมาก ๆ แบบว่ามันดูเก่าและก็แข็งแรง เหมือนจะบอกให้รู้ว่าตลาดนี้ก็คงมีมานานสมชื่อ "สามชุก ตลาดร้อยปี"
มื้อเช้า @ ตลาดสามชุก
9 โมงกว่านิด ก็ได้เวลากินข้าวเช้า ของแปลกที่ต้องลองก็ ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวยำบก และข้าวห่อใบบัว แถมท้ายด้วยต้มแซบกระดูกหมูอ่อน อีก 1 ชาม ตอนแรกที่กิน ๆ กันนึกว่าราคาจะแพง เพราะในเมนูหน่ะไม่มีราคาบอก แต่พอคิดเงินแล้วก็ถูกดี มื้อเช้า 2 คน อาหาร 3 อย่าง อิ่มได้ด้วยเงินเพียง 75 บาทเท่านั้น ครับพี่น้อง
ก๋วยเตี๋ยวยำบก ก็เหมือน ๆ กับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนนั่นเอง ต่างกันแค่ก๋วยเตี๋ยวยำบก ไม่ได้ห่อเป็นคำ ๆ เหมือนก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เพราะเครื่องเคียงที่ใช้ก็เหมือน ๆ กัน มีเส้นใหญ่ และสารพักผัก ราดน้ำจิ้ม รสชาติคล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ดแต่หวานกว่านิดหน่อย ส่วนข้าวห่อใบผัวก็อร่อยดี กินกับอาจาด (ที่ใช้กินกับหมูสะเต๊ะ) รวม ๆ แล้วมื้อนี้ก็อร่อย ประหยัด และอิ่มท้อง พอให้มีกำลังเดินเที่ยวตลาดได้อีกครึ่งค่อนวัน
บ้านขุนจำนงจีนารักษ์
เป็นบ้านเรือนไม้ที่อยู่ซอยต้น ๆ ของตลาดสามชุก ลักษณะบ้านจะเป็นคล้าย ๆ พิพิธภัณฑ์ มีรูปภาพ ของใช้ต่าง ๆ ซึ่งยุคหนึ่งสมัยหนึ่งเจ้าของบ้านท่านคงเคยใช้มันจริง ๆ บ้านขุนจำนงเป็นเรือนไม้ 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นโถงมีโมเดล ของตลาดสามชุกทั้งตลาด ขึ้นไปชั้น 2 ก็จะเป็นส่วนของห้องนอน และบริเวณตัวบ้านที่เป็นเหมือนห้องนั่งเล่น มีโทรทัศน์ และตู้โชว์สิ่งของโบราณต่าง ๆ
ส่วนชั้น 3 ก็เป็นห้องโถงกว้าง ๆ มีรูปภาพเก่า ๆ รอบฝาบ้าน ทั้งรูปในหลวง รูปเก่า ๆ ของบ้านขุนจำนงฯ เอง ในบริเวณของชั้น 2 และ ชั้น 3 จะมีลมแทบตลอด เพราะมีหน้าต่างตลอดแนว ระเบียงบ้านก็ค่อนข้างโปร่ง ซึ่งเราว่าคนโบราณอยู่กันคงสบายไม่น้อยทีเดียว แดดร่มลมเย็น พัดลมคงไม่ต้องใช้ เพราะอากาศถ่ายเทมาก ๆ เนื่องจากมีหน้าต่างไม่ต่ำกว่า 5 บานในแต่ละชั้น
ร้านบ้านโค้ก
ร้านบ้านโค้ก เก็บค่าเข้าชมคนละ 5 บาท เป็นร้านส่วนตัวไม่ใช่ของบริษัทฯ โค้กแต่อย่างใด เพียงแต่เจ้าของมีความชื่นชอบในโค้ก และเก็บสะสมสิ่งของต่าง ๆ มานานมาก ๆ แล้วเท่านั้น
บ้านโค้ก มีของสะสมของโค้กตั้งแต่สมัยเรายังเด็กมาก ๆ ของบางอย่างเราไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ มีตั้งแต่ตุ๊กตาหมี ขวดหรือกระป๋องโค้กยุคเริ่มแรก จนพัฒนามาถึงยุคปัจจุบัน โปสเตอร์และพรีเซ็นต์เตอร์ของโค้ก แบบว่าสมัยพี่เอ็ม สุรศักดิ์ วงไทย กะป๋ากิ๊ก (ซูโม่กิ๊ก) ยังละอ่อนทั้งคู่อ่ะ
เจ๊อ้วน อวบ อึ๋ม โดดเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าร้านบ้านโค้ก พร้อมตู้ไปรษณีย์สีแดง เข้ากันมาก ๆ ใคร ๆ ที่เดินผ่านไปมาแถวหน้าร้านบ้านโค้ก คงอดไม่ได้ที่จะขอถ่ายรูปคู่กะเจ๊แกซักรูป หุ่นแกก็เช้งกระเด๊ะอย่างที่เห็นนี่แหล่ะ (แอบอิจฉาความอึ๋มของแกนิดอ่ะนะ)
โรงแรมอุดมโชค
โรงแรมแห่งเดียวของสามชุกในสมัยโบราณ ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ใช้แล้ว ด้านล่างปรับปรุงเป็นร้านกาแฟ จัดไฟ จัดโต๊ะสีสันค่อนข้างแนว น่านั่งไปอีกแบบ เข้าไปด้านในก็จะเป็นห้องน้ำ (ที่ไม่รู้ว่ายังใช้ได้รึเปล่า) และจักรยานเก่า ๆ สมัยคุณแม่ยังสาว อีก 1 คัน ให้ดูโบราณเหมาะกับโรงแรมโบราณ
ส่วนชั้น 2 ก็เป็นโถงโล่ง ๆ ตกแต่งเหมือนเป็นโรงหนังเก่า มีโปสเตอร์ และอุปกรณ์ฉายหนังแบบโบราณ รวมถึงยังคงมีห้องพักแบบโบราณอีก 2 ห้อง เสียอย่างเดียวที่ยังแอบติดแอร์ด้วย เลยดูไม่โบราณแท้ๆ
ร้านกาแฟอาม่า
ร้านกาแฟอีกร้านนึงในตลาดสามชุกที่คนเยอะไม่แพ้กับร้านกาแฟเจ้าไหน ๆ เราลองกินชาเย็นของร้านพี่เค้าก็อร่อยดี หวาน ๆ มัน ๆ หอม ๆ ได้บรรยากาศของตลาดเก่าช่วยด้วย เลยทำให้รสชาติของชาเย็นก็กลมกล่อมไปอีกแบบ
ร้าน Pause เป็นร้านขายของที่ระลึกเก๋ ๆ อีกร้านนึงที่ทำป้ายร้านได้แนวถูกใจวัยสะรุ่น เราชอบนะป้ายไม้ เข้ากับบรรยากาศดีอ่ะ ในร้านก็จะมีโปสการ์ดและของที่ระลึกต่าง ๆ ให้เลือกช้อปเลือกซื้อกันได้ตามอัธยาศัย
ในตลาดสามชุกจะมีร้านขายของเล่นเก่า ๆ น่ารัก ๆ สมัยเรายังเด็กอยู่หลาย ๆ ร้าน บางร้านเป็นของที่เราเคยเล่น เคยเห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ปัจจุบันก็ไม่มีให้เราเห็นกันง่าย ๆ แล้ว เด็กรุ่นใหม่สมัยนี้ก็อดเล่นของดี ๆ จากภูมิปัญญาชาวบ้าน แล้วก็ได้เล่นแต่เกมส์ตู้ เกมส์ออนไลน์แทน เสียดายป่ะหล่ะ
ร้านค้าที่ขายของเล่นในตลาดสามชุก ส่วนใหญ่จะก็เอาของเล่นเด็กมาเรียง ๆ วาง ๆ ไว้เต็มหน้าร้าน ให้เลือกซื้อเลือกถ่ายรูปกันได้ตามสะดวก เจ้าของร้านส่วนใหญ่ก็จะไม่หวงไม่ว่า ถ้าเข้าไปถ่ายรูปอย่างเดียวแล้วไม่ซื้อ แต่ก็จะมีบางร้านเหมือนกันที่เจ้าของจะบอกให้ระวัง ๆๆๆๆ ตลอดเวลา จนเราคิดว่าอย่าไปกวนพี่เค้าเลยดีกว่า ไปถ่ายรูป หรือไปซื้อร้านที่เค้าอยากให้เราอยู่ในร้านเค้าน่าจะดีกว่าเนอะ
หอคอยบรรหาร - แจ่มใส
หลังจากอยู่ที่ตลาดสามชุกประมาณครึ่งวัน คนก็เริ่มเบียดเสียดยัดเยียดกันเข้ามา แดดก็ร้อนขึ้น เพราะก็เริ่มบ่ายมากแล้ว แถมคนก็เยอะๆๆๆๆ แถมเราก็เดินครบทุกซอยของตลาดสามชุกแล้ว ก็เลยถึงเวลาอำลาตลาดสามชุก แล้วขึ้นรถเข้าเมือง ไปดูแสงสีศิวิไลย์ใน อ.เมือง ค่ารถจากสามชุกเข้าเมืองก็คนละ 25 บาท เราขึ้นรถ สุพรรณ-สิงห์บุรี มาลงที่ขนส่งในอำเภอเมือง แล้วต่อสองแถวไปหอคอยบรรหาร - แจ่มใส กว่าจะถึงก็เกือบบ่าย 3 โมง
หอคอยบรรหาร - แจ่มใส เก็บค่าเข้าชมและขึ้นหอคอย 40 บาท/คน แต่เราก็ถือว่าไม่แพงนะ หอคอยเค้าก็สวยดี สะอาด วิวทิวทัศน์ก็ดี มีทั้งน้ำพุ มีสวนหย่อม มีลานกิจกรรม ส่วนไฮไลท์ ก็คงเป็นน้ำพุเต้นระบำ ประหนึ่งอยู่ที่สิงค์โปร์ เพราะมีน้ำพุ พร้อมแสง เสียง สี ก็สวยงามแปลกตาไปอีกแบบ
บนหอคอยฯ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นัก แต่ก็จะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มต่าง ๆ ทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ เริ่มต้นที่การขึ้นลิฟท์แก้ว ขึ้นสู่ชั้น 4 ชั้นที่สูงที่สุดของหอคอยฯ เพื่อชมวิวมุมสูงรอบตัวเมืองสุพรรณ
บนหอคอยฯ มีส่วนของภาพเขียนผาผนังที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ดูใหม่เอี่ยมตลอดแนวแกนกลางของหอคอยฯ (อาจเป็นเพราะห้ามคนจับภาพมั้ง มันเลยดูใหม่เอี่ยมตลอดเวลา) มีโซนขายของที่ระลึกต่าง ๆ และที่สำคัญมีกล้องส่องทางไกลที่ใช้ซูมเพื่อมองบริเวรรอบตัวเมืองให้ใกล้ตาเข้าไปอีก
ปิดท้ายที่ สวนเฉลิมภัทรราชินี
เป็นสวนหย่อมอยู่บริเวณเดียวกับหอคอยบรรหาร - แจ่มใส เหมาะกับการพาครอบครัวไปนั่งพักผ่อน ชมบรรยากาศ ซึ่งค่อนข้างจะเงียบสงบ และคนไม่พลุกพล่านมากนัก ต้นหญ้าเขียวขจีและลานน้ำพลุ เป็นจุดที่มีครอบครัวหลายครอบครัวเลือกที่จะพาเด็ก ๆ มาเที่ยวเล่นกัน
รวม ๆ แล้วทริปเที่ยวสุพรรณฯ ของเรารอบนี้ ก็มีความสุขสนุกสนานไปอีกแบบ ทั้งของกิน ของเล่น สถานที่เที่ยว การเดินทางตลอดทั้งทริป ถือว่า OK ทีเดียว สำหรับคนที่ต้องการท่องเที่ยว ถ่ายภาพ และสรรหาของกิน แบบเช้าไปเย็นกลับ ไม่ใกล้ไม่ไกลกรุงเทพฯ และมีทั้งที่เที่ยวที่กินในที่เดียวกัน ตลาดสามชุกก็น่าจะเป็นอีกที่หนึ่งที่นักเที่ยว นักชิม น่าจะไปลองกันซักครั้ง
~The End~
Create Date : 23 กันยายน 2552
Last Update : 23 กันยายน 2552 15:53:01 น.
6 comments
Counter : 423 Pageviews.
Share
Tweet
อ่า...ไม่เคยไปอะ อยากไปจังเยย
เดี๋ยวไปหลอกล่อเพื่อน the gang ดีก่า จะได้มีรูปสวยๆ เหมือนน้อง คริ คริ
โดย:
wendyandbas
วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:10:32:09 น.
นางแบบน่ารักจัง
โดย:
kwan_3023
วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:12:17:05 น.
นางแบบยิ้มสวยจัง
โดย: c (
chaiwatmsu
) วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:13:53:40 น.
อยากไป
โดย:
ริวคิ-mawin-maji-minic
วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:1:59:57 น.
น่ารักทั้งคน ทั้งสถานที่เลยนะ
น่าสนุกด้วย
โดย: 9^ooooooตูน IP: 58.9.204.12 วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:18:38:39 น.
แวะกันไปเยอะ ๆ น๊า
บ้านเราเองอ่ะ
โดย: หญิงกัล (
kookkaijung
) วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:10:56:41 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Miss Herz
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Group Blog
ตะลอนทัวร์
Home sweet homE
Diary DK
Computer trick
<<
กันยายน 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
23 กันยายน 2552
สามชุก ตลาดร้อยปี
All Blogs
เกาะช้างหน้าฝน กะ คนกันเอง
Museum siaM
สามชุก ตลาดร้อยปี
ทุ่งทานตะวัน
ล่องแก่ง ลำน้ำเข็ก
เกาะสีชัง
Friends' blogs
TheShadow
apy
พี่รี่+ต๊อก
travelaround
moddang2
Webmaster - BlogGang
[Add Miss Herz's blog to your web]
Links
Jamsai
Longdo Dictionary
Major Cineplex
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
เดี๋ยวไปหลอกล่อเพื่อน the gang ดีก่า จะได้มีรูปสวยๆ เหมือนน้อง คริ คริ