เมษายน 2559

 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
All Blog
เที่ยวญี่ปุ่น ตอนที่ 2 หมู่บ้านชิราคาวะโกะ เดินเล่นย่านเมืองเก่า ทาคายาม่า Misasaki x Asahi



อุ๊ง อุ๊ง . . . สวัสดีค่ะ
หลังจากตอนที่แล้วที่มิกิพาไปเก็บสตรอเบอรี่ ไหว้พระ ช็อปปิ้งแล้ว วันนี้เราจะมาต่อกันด้วยความหนาวเย็นของหิมะกันต่อเลยละกันนะคะ

ช่วงต้นปีที่ญี่ปุ่นนี่หนาวได้ใจมากเลย ตอนที่มิกิไปคือช่วงต้น ๆ เดือน กพ. อากาศจะอยู่ที่ประมาณ 4 องศา ถึงติดลบนิด ๆ ค่ะ ( เย็นเหมือนอยู่ในตู้เย็นเลยล่ะ )
ถ้าไม่มีลมก็จะหนาวแบบยะเยือก แต่ถ้าลมมาเท่านั้นล่ะ ขนลุกเลย อิ อิ



วันนี้ก็เราก็จะเริ่มต้นกันที่ . . .
หน้าโรงแรม Breezbay Hotel and Resort Gero จังหวัด กิฟุ ค่ะ 5 5 5 
ตื่นเช้ามากกกกก และ ง่วงมาก
แถมตื่นไม่ทันกินอาหารเช้าด้วยนะ - -" ( ยังดีที่มีขนมตุนไว้จากเมื่อคืน )


บรรยากาศหน้าโรงแรมตอนเช้า ๆ ก็ดีคนละแบบกับตอนมืดเลยล่ะ
แต่เสียดายตรงที่ไม่มีเวลาออกไปเดินดูวิวแม่น้ำที่หน้าโรงแรม . . .
กับไม่ได้ไปแช่ออนเซ็น T^T มัวแต่ฟินกับห้องนวดอยู่ 5 5 5

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังลังเลอยู่ว่า ถ้ามาญี่ปุ่นแล้วจะแช่ออนเซ็นดีหรือเปล่านะ

อันนี้มิกิตอบให้เลยว่า ถ้ามีโอกาศมาแล้วก็ไม่ควรพลาดค่ะ
( แต่ . . . ที่นี่เขาก็มีกฏอยู่ว่าถ้าเรามีรอยสักที่ตัวห้ามเข้าค่ะ เขาจะมองว่าเป็นยากูซ่า ซึ่งคนที่นี่ไม่ค่อยจะต้อนรับเท่าไหร่ )

สาว ๆ อาจจะรู้สึกอาย แต่ว่าเขาก็มีผ้าผืนเล็ก ๆ ให้ค่ะ ขนาดก็พอดีปิดกันโป็ได้แบบเป๊ะ ๆ ( แต่ก็ต้องเลือกนะคะว่าจะปิดด้านหน้า หรือ ด้านหลัง เลือกได้แค่ 1 ด้านนะ อิ อิ )
แล้วที่นี่เขาก็มองว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครจ้องมองใครค่ะ ( เว้นพวกเรากันเองนี่ล่ะ 5 5 5 )
ตอนแช่นี่ ไม่เท่าไหร่ เพราะความสบายทำให้เราเพลินจนลืมนึกไป แต่จุดวัดใจจะอยู่ตอนที่ต้องถอดชุดฝากไว้ในล็อคเกอร์ค่ะ . . .
ไม่มีห้องส่วนตัวให้ใช้นะ ก็ถอดตรงนั้นเลย สำหรับบ้านเราอาจจะเป็นอะไรที่ไม่คุ้นเคยอย่างมากเลย
แต่ไปบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชิน ถึงไม่ชินแต่อยากบอกว่าแช่เถอะ สบายตัวมากกกกก

มาต่อ ๆ ๆ พอออกจากโรงแรม ขึ้นรถ ก็ดูวิวสวย ๆ ไปตลอดทาง
แล้วก็มาจอดเข้าห้องน้ำตรงจุดพักรถค่ะ


พอเข้าห้องน้ำเสร็จก็ออกมาถ่ายรูปเล่นกับหิมะแล้วก็วิวสวย ๆ หน่อยนึง
หิมะก็กำลังตกแบบปรอย ๆ อยู่เลย



แล้วก็มาถึงหมู่บ้านชิราคาวะโกะ ( Shirakawago ) แล้วววววว
ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่ความสวยไม่ได้เล็กตามขนาดเลยล่ะค่ะ
แล้วก็ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกด้วยล่ะ


มาถึงก็จะเจอหมู่บ้านสไตล์กัสโซ - สึคุริ ( Gussho - Zukuri )
( ไม่เกี่ยวอะไรใด ๆ กับ ปิกัสโซ นะ 5 5 )
คือหมู่บ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม หลังคาจะเหมือนสองมือที่พนมของพระพุทธเจ้า
กัสโซ แปลว่า พนมมือ
หลังคามีความชันมากประมาณ 60 องศา เพื่อที่เวลาหิมะตกจะได้ไหลลงไป ไม่กองบนหลังคาจนหลังคาถล่ม
ที่น่าทึ่งคือ โครงสร้างของบ้านที่นี่ไม่ใช้ตะปูเลยสักตัว แต่บ้านก็ยังแข็งแรง รองรับหิมะที่ตกหนักได้เป็นอย่างดี


ถ้ามาเป็นหมู่คณะ เขาก็จะมีจุดให้บริการถ่ายรูปด้วยน๊า
ส่วนรูปจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ แต่ . . . จะซื้อเก็บเป็นที่ระลึกสักใบก็ดีนะ


แผนที่ภาษาไทยมาแล้ว . . .
ตอนนี้เราก็สามารถแยกเดินไปตามทางของเราได้แล้ว 5 5 5
แต่ถ้ามากับทัวร์อาจจะมีเวลาเดินไม่ครบในแผนที่แน่นอน แค่แวะถ่ายรูปแตแ่ละจุดก็แทบจะหมดเวลาละ
วิวสวย แถมด้วยหิมะขาว ๆ สบายตา ( แต่พอแดดมาก็แสบตาได้อีก อิ อิ )
วันที่ไปไม่ค่อยมีลมเท่าไหร่ ก็เลยเดินได้อย่างสบายใจ


ต้องเดินข้ามสะพานนี้ไปจะเข้าสู่ตัวหมู่บ้านอย่างเป็นทางการ
แต่ . . . กว่าจะผ่านสะพานนี้ไปได้ก็ใช้เวลาหลายนาทีอยู่ เพราะวิวของจริงที่เห็นด้วยตานั้น สวยมากกกกก ทั้งซึมซับบรรยากาศ ไหนจะถ่ายรูปอีก ขนาดรีบก็หมดไปเกือบ 10 นาทีแน่ะ


พอข้ามมาถึงฝั่งปุ๊บ . . . เราก็จะเจอร้านขายของที่ระลึกก่อนเลย
( ทางเข้า ทางออก คือทางเดียวกัน )
ก็เลยโดนดักตั้งแต่ก้าวมาถึงฝั่งเลย กลัวขากลับไม่มีเวลาเดิน ^ ^


บ้านสไตล์กัสโซ - สึคุริ จะเป็นแบบนี้ค่ะ
ดูแล้วนึกถึงหนังญี่ปุ่นโบราณเลยใช่ม๊า


ไม่รอช้า . . . ขอเดินเข้ามาดูในร้านขายของที่ระลึกก่อนเลย

ที่ทาคายาม่านี่มี Mascot เป็นลิงตัวสีแดงที่ชื่อ さるぼぼ (Sarubobo)
さる (ซารุ) แปลว่า ลิง
ぼぼ (โบโบะ) แปลว่า ลูก , ทารก

เป็นเครื่องราง สำหรับความโชคดี
ในป้ายเขาเขียนว่า ให้ซารุโบโบะกับคนพิเศษจะทำให้คนนั้นปราศจากความโชคร้าย แล้ว ก็จะมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข
( อยากได้สักชิ้นไหมคะ ^ ^ )

เข้าซารุโบโบะ เป็นลิงน้อยที่ไม่มีหน้าตา -0- ( อ้าวทำไมเป็นงั้นอ่ะ )
เขาเล่ากันว่า สมัยก่อนนู้น . . . ตอนที่หิมะตกหนักมากแล้วเด็ก ๆ ก็ออกจากบ้านไปเล่นกับเพื่อนไม่ได้ คุณยายก็เลยเอาเศษผ้ามาเย็บให้เป็นตุ๊กตา แล้วก็ให้เด็กวาดรูปหน้าเพื่อนที่อยากจะไปเล่นด้วยลงไป ~ จะได้แก้เหงา
ไอเดียคุณยายน่ารักดีเน๊อะ

ปกติแล้ว ซารุโบโบะ จะเป็นสีแดง แต่ว่าตอนที่ไป มิกิ เห็นมีอยู่หลายสีเลย เหมือนเป็นเครื่องรางให้คนที่พกติดตัวโชคดีในด้านต่าง ๆ
อย่างสีชมพู : โชคดีเรื่องความรัก สีเขียว : โชคดีด้านสุขภาพ สีทอง/เหลือง : โชคดีทางด้านการเงิน 

มิกิซื้อสีแดงมานะ อิ อิ


บ้านสไตล์กัสโซ - สึคุริ ขนาดกระทัดรัด น่ารักดี
ใจจริงก็อยากจะซื้อกลับมาทำเมืองจำลองเล็ก ๆ เอาไว้เล่นกับพวกตุ๊กตาอยู่เหมือนกันนะ


ขนมที่มีขายที่นี่ ก็จะเป็นขนมที่มีส่วนผสมของของที่ขึ้นชื่อที่ทาคาย่าม่า
แล้วก็มีซารุโบโบะเต็มไปหมดเลย ~
แพ็กเกจน่ารักมาก ถ้าได้เดินเข้ามาดู ยังไงก็ต้องมีซื้อติดมือไปด้วยแน่นอน
( ละลายทรัพย์มาก >.< )


วิวแบบนี้ถ่ายรูปสวยดีนะ
แล้วก็มีแสงสะท้อนจากหิมะที่พื้น ทำให้หน้าดูผ่องขึ้นด้วย รีเฟล็กซ์จากธรรมชาติ


รอบนี้ มิกิ มาแบบทัวร์ ก็เลยมีเวลาเดินไม่มาก
แต่ถ้ามาด้วยตัวเอง ที่นี่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ เพียบเลยล่ะค่ะ
อืม . . . แต่เรื่องรูปที่ได้ ถ้าจะเป็นรูปที่มีตัวเองอยู่ด้วย อันนี้ก็แล้วแต่ละว่าเพื่อนที่มาด้วยกันมีฝีมือในการถ่ายรูปแค่ไหน ( ทุกทริปน้ำตาไหลพรากทุกที T^T ฮาาาา คนครบวิวหาย วิวมาคนชิ้นส่วนขาด เบลอบ้าง ไม่ได้มุมบ้าง แง๊ )


วิวแบบนี้ชอบกันบ้างไหมคะ ~
ยิ่งอากาศด้วยนะเย็น หนาว แต่ก็ชอบนะ


วิวตลอดทางแบบญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น
มัวแต่ถ่ายรูป อดซื้อของกินเลย - -" หมดเวลาซะก่อน


ว๊าาาา หมดเวลาซะละ ยังเดินไม่ครบเลย


วิวที่นี่ค่อนข้างถ่ายรูปสวยเลยล่ะค่ะ
จะมีบางจุดที่คนจะกระจุกตัวอยู่เยอะ อย่างเช่นที่สะพาน แล้วก็ทัวร์จีนมาลงตลอดเลย ^ ^
แต่พอข้ามสะพานไปแล้วก็มีหลายจุดที่คนน้อยถ่ายรูปได้อย่างสบายใจค่ะ
ครั้งนี้มิกิมีเวลาเดินแค่นิดเดียว ( ก็เป็นชั่วโมงอยู่นะ - -" ) คิดว่าจะต้องหาเวลากลับมาเดินที่นี่แบบจัดเต็มอีกสักที เพราะได้เดินแค่ 1 ส่วน 3 ของที่นี่เอง
( ถ้าไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ มิกิ แนะนำว่าพกกล้องที่ยกหน้าจอ 180 องศา แบบเห็นหน้าตัวเองได้ พร้อมเลนส์ Wide มาด้วยก็ดีนะคะ จะรอให้คนอื่นช่วยถ่ายให้มันก็เกรงใจ และ ไม่ทันใจอ่ะนะ )
ของกินระหว่างทาง ถ้าเจอก็อย่าพลาดน๊า ส่วนมากจะรสชาติดีเลยล่ะ

วิธีการเดินทาง
ค่าเข้า ฟรี

แล้วก็มาถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย . . . ก็คือมื้อเที่ยงนั่นเอง
( เรื่องกินนี่ขอให้บอกเถอะ ไม่เคยพลาด )

มื้อนี้มาแวะที่ร้าน Lucky จะอยู่ข้างทางแถว ๆ นั้นค่ะ


มาเป็น Set ของใครของมันเหมือนเดิม
ตอนที่เข้ามาก็คือยังไม่ได้กลิ่นหอมอะไรเท่าไหร่


แต่พอ หมูย่างบนใบโฮบะ เริ่มสุกเท่านั้นล่ะ ~
อยากจะบอกว่าหอมมากกกกกกก เขาใส่ถั่วเหลืองหมักลงไปด้วย
เรื่องรสชาติ อื้อหือ หวาน เค็มนิด ๆ หอม เนื้อหมูก็นุ่ม แบบมีต่อหม้อที่ 2  ( ถ้าไม่ติดที่ว่าหมดเวลาหม้อ 3 ตามมาติด ๆ แน่นอน )

อาหารย่างบนใบโฮบะนี่ถือว่าเป็นอาหารท้องถิ่นของที่นี่เลยล่ะค่ะ
ใครที่ไปทาคายาม่า ควรลองนะคะ


ปลาอายุย่าง
ปลาอายุ นี่เป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดกิฟุเลยค่ะ
รสขาติหวานอร่อย เป็นปลาที่แทบจะไม่มีกลิ่นคาว และราคาค่อนข้างจะสูง
เขามีขายแบบเป็นแพ็ค ๆ ให้ซื้อกลับบ้านได้ด้วย


ผงโรยข้าว รสพริด กับ วาซาบิ
ลองกินแล้วก็อร่อยทั้ง 2 รสเลยค่ะ โดยเฉพาะรสวาซาบิ คือมันจะขึ้นจมูก แต่แบบเบา ๆ มีรสเค็มแล้วก็ความหอมของส่วนผสมอื่น ๆ ด้วย
โรยกับข้าวร้อน ๆ นี่ฟินมากอ่ะ ขอบอก

ในร้านก็มีขายด้วยนะคะ แต่ว่าไม่ได้พกกระเป๋าเงินลงมาด้วยก็เลยอด - -

พออิ่มแล้วก็พร้อมเดินทางกันต่อแล้ว . . . 
จะไปเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ลิตเติ้ลเกียวโต กันค่ะ


ที่แรกที่มาเลยคือ จวนผู้ว่าทาคายาม่า ( Takayama Jinya
ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ ถือเป็นสิ่งปลูกสร้างแบบเก่ายุคคานาโมริหลังสุดท้ายที่สมบูรณ์และยังหลงเหลืออยู่ตอนนี้ค่ะ


ป้ายด้านหน้า . . . กว้างดีเหมือนกันนะ


ค่าเข้า จวนผู้ว่าทาคายาม่า
ผู้ใหญ่ 480 เยน
หมู่คณะ 380 เยน


ประวัติความเป็นมาของ จวนผู้ว่าทาคายาม่า ( Takayama Jinya )


ด้านหน้ามีอะไรอยู่ด้วย . . .
ที่ญี่ปุ่นเนี่ย ญี่ปุ่นจริง ๆ เลย ขนาดกองหิมะที่กวาดมากอง ๆ รวมกันยังใส่หน้าตาให้ด้วยนะ
น่ารักดีอ่ะ


เข้ามาถึงข้างในแล้วววววว
แต่ว่ายังเข้าไปข้างในไม่ได้นะคะ เพราะว่า . . . 


ต้องถอดรองเท้าก่อนน่ะสิ
ตอนที่เข้ามาจะมีเจ้าหน้าที่แจกถุงพลาสติกไว้ให้ใส่รองเท้าของเรา
แล้วก็ไปหยิบรองเท้าสำหรับใส่ในบ้านที่เขาเตรียมไว้ให้ใส่ก่อนเดินเข้าไปในตัวจวนผู้ว่าค่ะ


ตอนเช้า ๆ นี่แดดสวยจริง ๆ
ด้านในส่วนมากก็จะเป็นห้องที่ว่าง ๆ มีโต๊ะ นิด ๆ หน่อย ๆ
แต่ก็กว้างแล้วก็มีห้องซับซ้อนหลายห้องเลย
( ให้ความรู้สึกแบบอยู่ในหนังญี่ปุ่นโบราณเลยแฮะ )


มุมนี้จะเป็นห้องนั่งเล่น
พอมองออกไปด้านนอกนี่ จะเจอวิวสวนญี่ปุ่นสวย ๆ ที่จะเป็นฤดูไหนก็น่าจะดูเพลินทุกฤดูเลยล่ะค่ะ
. . .
มาขอนั่งเนียน ๆ นิดนึง อิ อิ
( ถุงที่ใส่รองเท้าวางอยู่ด้านหลังนี่ล่ะ )


มีจุดสวย ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้แวะดูตลอดทาง

ห้องที่เห็นก็จะมีห้องรับแขก สำนักงาน ศาลแแพ่ง ห้องประชุม ศาลและห้องสอบสวน ห้องน้ำชา ห้องอาบน้ำ ฯลฯ แล้วก็ยังมีโกดังข้าวด้วย
( มีห้องน้ำที่ห้ามเข้าด้วยนะ แอบไปส่อง ๆ แต่มองอะไรไม่ค่อยเห็น อิ อิ )

ที่นี่ใช้เวลาเดินไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ว่าถ้าคนที่ชอบดูหนังญี่ปุ่นเก่า ๆ สมัยก่อน จะชอบบรรยากาศแบบนี้แน่ ๆ ค่ะ


น่ารักกกกก . . . คุณกองหิมะคุง 555

เวลาทำการ 8.45 - 17.00 น.

วิธีการเดินทาง
เดินจากสถานี Takayama ( สาย JR ) ประมาณ 15 นาที  

พอเดินออกมาจากจวนผู้ว่าแล้วก็จะเจอแหล่งช็อปปิ้งอยู่ข้างหน้าเลยล่ะค่ะ
ส่วนมากจะเป็นของที่ระลึก แล้วก็ขนม ส่วนของกินข้างทางก็พลาดไม่ได้นะ


ออกมาจากจวนผู้ว่าทาคายาม่าแล้ว เลี้ยวขวา . . . จะเจอสะพานแดงค่ะ
เดินตรงไปเลย


แล้วเราก็มาถึง ซันมาชิซูจิ ( Sanmachisuji )
ที่นี่เป็นย่านเมืองเก่าที่อนุรักษ์บ้านเรืองเอาไว้เหมือนในสมัยเอโดะ . . . 


มาถึงร้านแรก . . .
มองจากด้านนอกมีของอยู่เต็มไปหมด แต่ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนะ


แล้วเราก็ไปพลาดกับของกินเหมือนเดิม
ที่นี่ก็จะเจอกับซารุโบโบะ เต็มไปหมดเลย
อาหารขึ้นชื่อของที่นี่อีกอย่างก็คือ เนื้อฮิดะ ( อร่อยมากกกกก ) มีมันฝรั่งทอดรสเนื้อฮิดะด้วย


Sarubobo ที่สามารถจะหน้าเหมือนใครก็ได้
อยากให้เป็นหน้าใครก็วาดลงไปเลย เป็นเครื่องรางนำโชคด้วยล่ะค่ะ


แพ็กเกจน่ารักสุด ๆ
ตัวขนมบางอย่างอาจจะไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ แต่พอเจอแพ็กเกจจิ้งเข้าไปเหมือนโดนมนต์สะกดให้หยิบมาเฉยเลย -0-


ของน่ารัก ๆ อย่างอื่นก็มีนะคะ ( ไม่ใช่มีแต่ของกินนะ 5 5 5 )
ผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้ ของจริงสวยมาก นุ่มด้วย ส่วนราคาก็ . . . อ่า


ซารุโบโบะเกาะแก้วก็มา


ตลอดทาง บริเวณหน้าร้านก็จะเป็นแนวโบราณแบบนี้ทั้งถนนเลยค่ะ
ของที่ขายก็คล้าย ๆ กัน บางอย่างคล้ายแต่ไม่เหมือนนะ


ของที่ระลึกน่ารักเพียบ
ต้องอดใจไว้ ไม่งั้นวันท้าย ๆ งบหมดแน่นอน
( จะลบหมดหรือไม่ โปรดติดตาม ~ )


Chocolate รสวาซาบิก็น่าสนใจอยู่น๊า


ร้านขายของน่ารัก ๆ ก็มี


ของกินก็ดีงาม . . .
( ของกินเดี่ยวรวมเป็นรวดเดียวเลยละกันเน๊อะ )


ดังโงะแบบนี้ อร่อยมาก เหมือนโมจิทาด้วยซอสโชยุ ไหม้นิด ๆ หอม ๆ ( แต่ต้องเลือกร้านที่ย่างแห้ง ๆ หน่อยนะคะ จะอร่อยกว่า )
กับไดฟุกุสตรอเบอรี่ ที่ไม่มีถั่วแดงเคลือบ
สุดยอดมาก อันนี้ห้ามพลาด

เดิน (ยังไม่ครบเลย ) เสร็จแล้วก็ถึงเวลาไปที่พักแล้วววววววว


คืนนี้พักที่ Hida Hotel Plaza ค่ะ




ห้องนอนเล็กกว่าที่แรกหน่อย แต่ความสบายพอกันนะ


อาหารค่ำวันนี้ . . .


เป็นแบบ ไคเซกิ เหมือนเดิม ( อาหารหลาย ๆ อย่างในเซ็ตเดียว )

กินเสร็จแล้วควรไปไหนต่อดี . . . ช็อปปิ้ง หรือ ออนเซ็น
ปิ๊งป่องงง !! คำตอบก็คือ ไปสำรวจร้านขายของในโรงแรมดีกว่า


ร้านนี้อยู่ในโรงแรมเลยค่ะ มีทั้งของกิน ของเล่น ของที่ระลึก
( แต่ว่าราคาจะแพงกว่าร้านข้างนอกหน่อยนะคะ )


ชุดน้ำชาจิ๋วน่ารักมากเลย ( ราคาก็ตามความน่ารักค่ะ 5 5 )
หยิบมาดูแล้วก็วางกลับที่เดิม


ขนมเพียบ
จะมีทั้งขนมทั่วไป และขนมที่เป็นรสของ ของขึ้นชื่อที่นี่ค่ะ
อย่าง คิทแคทสาเก ตอนมิกิไปเพิ่งออกมาวางขายเลย


ที่โรงแรมในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะมีชุดนอนให้ด้วย
แต่ละที่ก็แบบต่างกันไป ที่นี่จะเป็นเสื้อ กางเกง แล้วก็มีเสื้อนอกอีกชั้น
ดูเป็นซามูไรไม๊ ~*


ขนมที่ซื้อมาวันนี้ค่ะ . . . เยอะไม๊ อิ อิ
ทริปนี้เอาจริง ๆ กินตลอดทั้งวันเลยนะ พุงอืดมาก แต่พอเห็นขนมก็อดซื้อไม่ได้
แล้วก็กินไม่ไหว ต้องแบกขึ้นรถไปด้วย ( แล้วพอกินไม่ทัน ก็ต้องขนกลับมาบ้าน -0- )

เป็นอีกวันที่สนุกแล้วก็อิ่มมาก ๆ เลย อากาศก็หนาว ( ไม่อยากอาบน้ำเลยอ่ะ 5 5 5 )
แถมต้องตื่นเช้ามาก . . . ตี 4 ยังนั่งถ่ายคลิปกันอยู่เลย เดี๋ยวไปนอนต่อบนรถก็ได้ อิ อิ

ข้อมูลการเดินทางในทาคายาม่า

ไหน ๆ ก็พามาเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว มิกิ ก็มีประโยคง่าย ๆ มาชวนเพื่อน ๆ พูดไปพร้อมกันด้วยล่ะ
1. いただきます  ( อิตะดะคิมัส ) จะกินแล้วนะคะ/ครับ ใช้พูดตอนก่อนกินข้าวค่ะ
2. ごちそうさまでした ( โกจิโซซามาเดะชิตะ ) อิ่มแล้วค่ะ/ครับ ใช้พูดตอนกินเสร็จ เหมือนเป็นการขอบคุณค่ะ
3. お腹がいっぱい ( โอนากะอิปไป ) อิ่มแล้ว


วันที่ 3 จะไปที่ไหนต่อเจอกันวันพุธนะคะ
ใบ้ให้ว่ามีของกินที่น่ากิน แต่ห้ามกินด้วยล่ะ

Special Thank : Asahi Super Dry Beer

Clip จะตามมาเร็ว ๆ นี้นะคะ รอแป๊บนึงน๊า 




ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของ มิกิ ได้ที่

Hosting Thanks: THAIHOSTWEB.COM Hosting Thanks: THAIHOSTWEB.COM Hosting Thanks: THAIHOSTWEB.COM




Create Date : 03 เมษายน 2559
Last Update : 11 เมษายน 2559 20:48:41 น.
Counter : 3417 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Tisiny
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 88 คน [?]



ติดต่องาน : misasaki.in.wonderland@gmail.com

วีดีโอใหม่ ❤

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International.