i'm home....at last ถึงบ้านซะทีค่า
บ่ายสองกว่าๆของเชียงใหม่
ติดอยู่ที่บ้านเพราะไม่มีใครอยู่
แม่ไม่ได้ทิ้งกุญแจไว้ให้
เลยออกไปไหนไม่ได้
เพราะถ้าล็อกแล้วจะเปิดบ้านไม่ได้
เหนื่อยจัง
แต่ในที่สุดก็มาถึงบ้านแล้ว
โอ้ย...เหนื่อยว้อย
เหยียบแผ่นดินไทยเมื่อหกโมงเย็นกว่าๆของเมื่อวานนี้
ตาลีตาเหลือกวิ่งมาอาคารในประเทศ
เพื่อที่จะพบว่า
ไฟลท์ไปเชียงใหม่เต็มทุกไฟลท์
อืม....กรูว่าละไงเล่า
พ่อบอกให้ซื้อไว้ก่อนก็ไม่เชื่อ เจอฤทธิ์วันหยุดติดกันสี่วันทำเอาตั้งตัวไม่ติด
ละทีนี้จะทำไง
เบอร์โทรเพื่อนในกรุงเทพก็มีอยู่แค่คนเดียว
(ดูความโง่ของคน ที่ไม่สนใจจะขอเบอร์เพื่อนๆเก็บไว้)
แต่ก็ไม่อยากไปรบกวนเค้า
ที่สำคัญ
ไม่อยากอยู่กรุงเทพแล้ว
ทำไงดีล่ะ.......
เฮ้ย ไปหมอชิตเหอะ
ไปรอบนรถ ก็ยังรู้สึกดีกว่ารอในโรงแรม
คิวแท๊กซี่สนามบินยาวเป็นกิโล
สาวเชียงใหม่ใจอึดก็ลากกระเป๋าหนักสามสิบโลที่ล้อพังแล้ว
ย้ำ ล้อพังแล้ว
ไปขึ้นแท๊กซี่หน้าสนามบิน
คุณพี่แท๊กซี่หน้าตาซื่อๆก็รับเราขึ้นรถ
โอ้ พระเจ้า ทางไปหมอชิต
เป็นเส้นทางที่คนมุ่งไปยังกะฝูงมด
รถติดยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หลังจากพยายามชวนพี่แท๊กซี่คุย
(ขอความเห็นใจ...คนภูธรเหมือนกัน)
พี่แกก็พยายามหาทางให้ ไปวนตรงนั้น ตรงนี้
ในที่สุดก็ถึงหมอชิตในราคาหนึ่งร้อยสี่สิบบาท
ซึ่งมาได้ข้อมูลทีหลังจากหลายคนที่รอรถอยู่ด้วยกันว่า
พวกที่มาจากดอนเมืองเนี่ย ปูดสองร้อยปลายๆกันหมด
เพราะรถมันติด
ขอบคุณพี่แท๊กซี่คนซื่อมา ณ ที่นี้
ซื้อตั๋วรอบสองทุ่มยี่สิบแปด แต่ได้ข่าวว่า พวกรอบทุ่มกว่ายังไม่ได้ไปเลย
เพราะรถติดอยู่ข้างนอก เข้ามาไม่ได้
เรารออยู่จนถึงสามทุ่มครึ่งถึงได้ข่าวว่าให้เดินไปขึ้นรถได้อีกที่หนึ่ง
คือไกลมากเลย
แล้วอย่าลืมว่า
ข้าพเจ้ามีสัมภาระหนักสามสิบกิโลซึ่ง.....ซึ่ง....ล้อพัง
ขอบคุณพี่สามคนบ้านเดียวกันที่ช่วยถือกระเป๋าโน้ตบุค
ช่วยลากช่วยถู
จนถึงรถด้วยความสวัสดี
ถึงรถแล้วก็ไม่รู้ทำไม รถมันก็ไม่ออกซะที
กว่าจะออกได้ ก็ห้าทุ่มกว่า
เวรกรรม
โทรศัพท์ก็ไม่มี
บอกพ่อก็ไม่ได้
แง
ที่สุดแล้ว
ก็ถึงเจียงใหม่บ้านเฮาอย่างมีสวัสดิภาพเมื่อเวลาเก้านาฬิกา
คือได้ข่าวว่าพ่อหนูมารอตั้งกะหกโมง
แง...ป๊ะป๋า หนูขอโต๊ด
ผลของการไม่เตรียมตัว
ก็ต้องเหนื่อยอย่างนี้
เหนื่อยว้อย
ซบป๊ะป๋าให้หายเหนื่อยซักที