หัวใจไร้สาระ -----กรุ๊กๆ โย่ฮับ--แวะมาอัพบล๊อกอีกแล้ว จะว่าไปทำบล๊อกนี่ก้อสนุกดีนะ ให้ความรู้สึกประมาณว่า อยากลองอะไรใหม่ๆ อะไรอย่างนี้ อย่างตอนนี้พยายามหาวิธีใส่กล่องเพลงในบล๊อกอยู่ ใครสามารถก็ช่วยกรุณาเม้นตอบด้วยนะฮะ เวลาผ่านไปวันวันจิงๆ วันพุธนี้ก็จะมีเอ็นท์รอบสองแล้ว ไม่ได้เปิดแม้หนังสือเพียง1หน้า ตายกู-ตาย ขี้เกียดว่ะ-ไม่ไปละดีก่า ไปสอบเยอวิชาเดียวก้อพอละ----วิชานี้ก็ไม่ได้อ่านเช่นเดียวกันนะคะ (ขอให้พัดมันจำไม่ได้เท้อด----ว่าเราเคยพูดว่าจาแข่งทำคะแนนกะมาน---ซ้าทุ) อ่ะนะ ตอนนี้ทักษะทางภาษาหดหาย ทุกภาษาเลย รวมภาษาไทยด้วย ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกะใคร พูดจาก้อเริ่มจะไม่ค่อยรู้เรื่อง แม่จะจับส่งสวนปรุงแร้ว-------กร๊าก.....> ไม่มีอะไรจะอัพว่ะ-จาว่าไปแล้วอ่านะ ไม่ค่อยมีไอเดีย-เวลามีก็จดไว้ไม่ทัน-หายไปซะละ เอาไอ้นี่มาอัพดีก่า-นึกออกตอนพิมอยู่นี่พอดี ประมาณเดือนนึงผ่านมาละ ได้คุยPirchกะคนเยอรมันคนนึง คือประมาณว่ามาหลงเสน่ห์เมืองไทยไงก็ไม่ทราบได้ ท่านก็เลยมาอยู่ซะนานเชียว ละก้อแบบว่า อยู่จนตังค์หมด ละกลับไปหาตังค์เพื่อจะมาเที่ยวใหม่ อะไรอย่างนี้ ดู mobile ดีเนาะ อิจฉาว่ะ อยากทำงั้นมั่ง------แต่ก็อดแล้ว มันบอกเราว่ามันชอบแมว เราก็บอกมันว่าเราชอบแมวเหมือนกัน Der Mann: Ich mag gar keine Hunde. Ich mag die Kaetzen. Poy: Ich auch. Die Hunde, sie stinken. Der Mann: Die Kaetzen, sie leben ihre eigene Leben. Man darf nur mitteilen, nie besitzen.โอ้วววววววว กินจาย ฉบับแปลเจ้าค่ะ เค้า: ผมไม่ชอบหมาเลยอ่ะ ชอบแมว ปอย: เราด้วย หมามันเหม็น เค้า: แมวอ่ะนะ มันมีชีวิตของมันเอง เราน่ะเข้าไปมีส่วนร่วมได้เท่านั้นแหละ ไม่เคยไปเป็นเจ้าของมันได้เลย ดูความคิดเค้ากะความคิดปอยนะเจ้าคะ คนละโทน ความลึกซึ้งนี่-----กินขาด เนาะ อีกอย่างนึงที่คิดขึ้นมาได้ตอนพิมพ์คำว่าเสน่ห์ ข้างบนเมื่อตะกี้ คือว่า หลังจากหันไปถามพ่อว่า ไอ้คำนี้มันสะกดยังไง ทีวีอีกห้องนึงก็มีโฆษณาM-150ออกพอดี ที่มันเป็นเพลงว่า----เธอลองมองดูซี เมืองไทยนั้นมีเสน่ห์ ------- คำที่เหมือนกัน จะเกิดขึ้นสองครั้งในเวลาแทบจะเดียวกันอย่างนี้-ไม่น่าทึ่งเรอะ ทำให้คิดไปถึงเรื่องละคร-ในนวนิยายต่างๆ ที่มันจะ แบบ มีcoincidentเกิดขึ้นเยอะๆ อย่างเช่น พระเอกต้องไปธุระที่หัวหิน นางเอกก็ถูกเพื่อนลากไปที่หัวหินเหมือนกัน พระเอกลืมรองเท้าแตะไว้ที่หาด นางเอกก็เกิดอารมณ์โลนลี่ไปเดินเล่นที่หาด ดันไปเจอกัน ตอนแรกก็เฉยๆ ตอนหลังได้รู้ว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นอนุบาลมาก่อน ก้อเลยสานสัมพันธุ์กันต่อมา เป็นต้น จริงๆเรื่องบังเอิญอย่างนี้มันก็เกิดขึ้นจริงๆอยู่เหมือนกันนา ถึงเราจายังไม่เคยเจอเองก็เหอะ บางทีมันอาจจะเป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่เราไม่ได้นึกถึง เคยลองคิดดูมั้ยเล่า เอ้อๆ-คิดออกละ จาเล่าให้ฟังนา ประมาณม.4อ่ะ ที่เราไปแคนาดากะUCE ไปอยู่เป็นเมทกะน้องคนนึง-เค้าอยู่ม.3มั้ง ละเค้าเนี่ย บ้าภาษาเยอรมันมาก ชอบพูดให้ฟังบ่อยๆ เราก็บอกเค้าว่า เราโคดไม่ชอบเลย ภาษาเยอรมันเนี่ย ละก็ไม่ได้สนใจ คือคิดว่าชาตินี้ ยังไงก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกะภาษาเยอรมันแน่ๆ แต่ดูดิ่อีกปี2ปีถัดมา เราก็ได้ไปสวิส ไปพูดภาษาเยอรมัน หุ- พอละๆ-----พล่ามมากละ-เลอะเทอะเนาะ พอก่อน เดี๋ยวจาอ่านกันไม่หมด miZ u aLL ปอยจ่ะ ขอโทษสำหรับขนาดfontนะคะ-แก้ไขทันทีค่ะ |