อุบัติเหตุครั้งแรกในปักกิ่ง....เสียขวัญ...และเสียใจ
ไม่รู้จะเขียนเล่ายังไงดี....
แต่เป็นเรื่องที่เรากินข้าวไม่ลงไปสามวันเลยทีเดียว
เรื่องของเรื่องก็คือ...เราขี่จักรยานไปชนคนจีนอ่ะ
จริงๆแล้วไม่ถือว่าชนมั้ง พอดีเราแซงขวาไปโดยที่ไม่เห็นว่าเค้ากำลังจะเลี้ยวขวา
เราขับเร็วกว่า ก็ผ่านเค้ามาได้
แต่เค้าเสียหลักล้ม ทางฝ่ายนั้นเป็นเจ๊คนหนึ่งและลูกสาวแกอายุหกขวบ
น้องแกข้อศอกกะตาตุ่มถลอกนิดหน่อย
โดนแค่นี้เราก็ใจเสียแล้วนะ
ก็คนมันไม่ได้ตั้งใจอ่ะ เจ๊บอกไปโรงบาล โอเค..เราก็เดินไปโรงบาลเล็กๆใกล้ๆ
มันเป็นวันอาทิตย์ไง...ไม่มีคน หมอก็ทำแผลให้ เราก็จ่ายตังไป
พอออกมาจากโรงบาลเจ๊แกบอก...เอามาร้อยหยวน
พรุ่งนี้จะเอาลูกมาเอ๊กซเรย์
เฮ้ย....ป้า เล่นกันงี้เลยเหรอ
เรารู้นะว่าเราเป็นต้นเหตุ ค่าใช้จ่ายอะไรเรารับผิดชอบได้หมด
แต่มาพูดอย่างนี้เราเกิดความรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ
เหมือนโดนไถเงินอย่างแรง
แล้วคนจีนเสียงดังมาก ทั้งพ่อทั้งแม่เด็ก
ทั้งตะโกนทั้งตะคอก
คือมันน่ากลัวจริงๆนะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเค้าเป็นคนจีนรึเปล่า
ถึงได้เสียงแปดหลอด ตาปูดตาโปนอย่างนั้น
กรูน้ำตาจะหยด อารายฟร้า
เราบอกว่าจะเรียกตำรวจ เค้าก็ไม่ยอม
เราบอกเค้าว่าจะเอ๊กซเรย์เหรอ ได้ งั้นเรามาด้วยอีกทีพรุ่งนี้ เค้าก็ไม่ยอม
คือเราว่าเค้ารู้อยู่แล้วว่าเด็กมันไม่เป็นอะไรอ่ะ
จะเอาค่าทำขวัญ...ว่าอย่างนั้น
แล้วสุดท้ายเราก็แพ้
ควักเงินจ่ายไป
เราไม่ติดใจเรื่องเงินนะ เราผิดไง เรารับผิดชอบ
คือถ้าโรงบาลมันมีคนอยู่ ป้าแกจะจับลูกอันข้อศอกถลอกของแกไปแสกนสมองก็ตามใจแก
เราก็จะจ่าย
แต่แบบนี้ทำให้เรารู้สึกแย่มาก
เราเป็นคนชอบเอาชนะนะ ไม่ยอมใครง่ายๆ
แต่มันเถียงไม่ได้....ภาษามันเป็นอุปสรรคว้อย
นึกออกประโยคนึง ป้าแกซัดมาเป็นชุด
เอาเสียงดังเข้าข่ม...เซ็งเลย
รู้เลยว่าทำไมกีฬาพวกเทควันโดมันต้องแหกปากตะโกนขู่
มันได้ผลอย่างนี้นี่เอง
มานั่งคิดกลับไปอีกที
ก็ตลกดี
จากที่เค้าเป็นฝ่ายถูกกระทำในตอนแรก
ไม่กี่นาทีต่อมาเรากลับกลายเป็นคนที่ถูกกระทำแทน
คือเราว่าเราเสียขวัญมากกว่าเด็กอีกอ่ะ
บอกไปจะหาว่าโม้
บ่ายนั้นทั้งบ่าย ได้ยินเสียงเด็กจีนกะผู้หญิงจีนแล้วผวาอ่ะ
ละถึงตอนนี้...ก็ยังผวาเวลาเห็นเด็กซ้อนท้ายจักรยานคนจีน
แต่ทำไงได้
มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
และผ่านไปแล้ว
สุภาษิตเยอรมันเค้าว่า Was mich nicht umbringt, macht mich härter.
อะไรที่ไม่ฆ่าฉัน จะทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น
และหวังว่าฉันจะแข็งแกร่งขึ้น
ต่อไป