เหลาเหลียง .. เกาะที่ไปแล้วคันที่สุด
สุขสันต์วันสงกรานต์นะครับทุกท่าน (ช้าไปมั้ยเนี่ย) ปีนี้หยุดยาวถึง 5 วัน แต่ผมก็ใช้ชีวิตวนเวียนระหว่างบ้านและโลตัสเอ็กเพรสหน้าหมู่บ้าน ทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น หาเงินไว้กินขนมตอนเรียนที่ UCI (เงินวันละ 200 มันจะกินได้สักกี่มื้อกัน T_T) ผมทำงานที่นี่ช่วงศุกร์ถึงอาทิตย์ ส่วนจันทร์ถึงพุธก็สอนพิเศษเด็กประถมครับ อิอิ
บล็อกก่อนทิ้งท้ายว่าจะกลับมาอีกทีพร้อมกับเขียนเรื่องไปเที่ยวเหลาเหลียง มาตามสัญญาแล้วนะครับ ที่ช้าเพราะกว่าจะได้ซีดีรูปรวมนั้นนานเหลือเกิน จนคนรอเหนื่อยไปเลย 555 ความจริงผมก็เอากล้องไปครับ แต่ไม่ได้ถ่าย เพราะฝีมือห่วยเกินคำบรรยาย เลยอาศัยรูปจากผู้มีอุปการะคุณดีกว่า เอาล่ะ ตามมาดูกันเลยครับท่านผู้ชม !! - - - - - ผู้ร่วมชะตากรรมในทริปนี้มีทั้งหมด 13 คน ผมและครอบครัว รวมทั้งเพื่อนพี่อีก 2 คน เดินทางไปโดยรถไฟตู้นอน พอตกลงที่นั่งกันได้เรียบร้อย ก็เหงื่อตกขึ้นมาทันที เนื่องจากผมนอนเตียงบน ส่วนเตียงล่างเป็นคุณยายพร้อมหลานวัยกำลังซน ร้องเสียงดังตลอด กลัวจะต้องฆาตกรรมเด็กกลางรถไฟ 555 แต่พอตอนดึกเสียงก็เงียบดี เลยรอดตัว เหอๆ
ตื่นมาก็ใกล้ถึงที่หมายแล้ว ส่วนใหญ่ก็นั่งกันสุดเส้นทาง พอถึงปั๊บ พี่จากบริษัททัวร์ก็มารับ เสียดายเรือออกเร็ว เลยอดทานอาหารเช้าที่ตรัง ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟหรือชา ทานกับหมูย่าง ซาลาเปา ติ่มซำ แต่เราก็ซื้อข้าวมันไก่มารองท้องแทน นั่งรถประมาณชั่วโมงกว่าก็ถึงท่าเรือ คนอื่นที่เหลือก็เดินทางมาสมทบกันที่นี่ครับ
หากใครเป็นโรคไส้เลื่อน หรือเมาเรือ แนะนำว่าอย่ามาเที่ยวที่นี่ โปรดฟังอีกครั้ง อย่ามาเที่ยวที่นี่ เนื่องจากถ้าคุณต้องนั่งสปีดโบ๊ท ที่กระแทกกับผิวน้ำอย่างแรงประมาณ 30 ครั้งต่อวินาที คุณอาจจะตายคาเรือก่อนถึงเกาะ - -" ระหว่างนั่งเรือมหาโหดนี้ เราก็ถ่ายรูปวิวกันไป บนเรือมีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่ม ซึ่งมองเราด้วยสายตาแปลกๆ และคงคิดในใจว่า "พวกนี้มันไม่เคยเห็นทะเลรึไง ถ่ายรูปอยู่ได้" (ฮา) ในที่สุดเราก็มาถึงที่หมาย เกาะเหลาเหลียง จ.ตรัง มีบริษัทที่ได้รับสัมปทานให้สร้างรีสอร์ทบริษัทเดียวคือ X-Zyte ผมเคยมาที่นี่เมื่อ 2-3 ปีก่อน ทุกอย่างยังสวยเหมือนเดิมครับ และนี่คือบรรยากาศหน้าหาด
ที่นี่รองรับนักท่องเที่ยวได้สูงสุดประมาณ 80 คน ด้านซ้ายเป็นเต้นท์ที่พัก หนึ่งเต้นท์นอนได้ 2 คน มีพัดลม ปลั๊กไฟ ห้องนั่งเล่น หลังจากเก็บของ พักเหนื่อยเรียบร้อย ก็เดินไปปีนผากัน (บริเวณภูเขาตรงกลางรูป) ครั้งก่อนปีนไปแล้วแทบลมใส่ แถมคราวนี้เข่าก็ไม่ค่อยดี เลยขอดูคนอื่นปีนดีกว่า หลังจากนั้นพวกเราก็เตรียมตัวดำน้ำ บริเวณเกาะ (ด้านขวาของรูป) ผมกับแม่ลองใช้ฟินเป็นครั้งแรก ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จอย่างแรง เพราะไม่ชิน - -" และแล้วก็ถึงที่มาของ "เกาะที่ไปแล้วคันที่สุดในชีวิต" เพราะระหว่างที่ดำน้ำตื้นอยู่นั้น ผมก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ไปทั้งแขน แรกๆ ก็ไม่เท่าไหร่ครับ พอตกกลางคืนเท่านั้นล่ะ คันคะเยออย่างรุนแรง ทั้งที่รู้ว่าเกาแล้วจะหายช้า แต่มันอดไม่ได้จริงๆ นี่คือสภาพแขนผมหลังจากเกิดเหตุ 24 ชม. น่ากลัวมาก กรี๊ดดด !!
พักภาพน่าสยองไว้ก่อน หลังจากนอนไม่สงบสุขตลอดคืน ก็มาถึงวันที่สอง วันนี้ออกเที่ยวนอกเกาะทั้งวันครับ ไปดำน้ำหลายที่ เนื่องจากมีทั้งคนดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกไปด้วยกัน กลุ่มเราเลยแยกกันเป็นระยะๆ สองเกาะที่ได้ไปเยี่ยมก็คือ เกาะตะเกียงและเกาะเหลาเหลียงพี่ จำไม่ได้ว่าไปเกาะไหนก่อน - -" แต่ภาพต่อไปนี้มาจากเกาะตะเกียงครับ ที่นี่จะเน้นดำน้ำรอบเกาะ แล้วแต่อัธยาศัยเลยครับ
"นี่ๆ เห็นลอบสเตอร์มั้ย" "เธอๆ เจอกุ้งมังกรรึเปล่า" "นู้ดดี้ที่นี่ตัวใหญ่น่ารักมากๆ"
พอขึ้นมาจากเรือต่างคนก็ต่างบอกเล่าสิ่งที่ได้เห็นมา ส่วนผมก็ตามมีตามเกิดครับ ดูไปเรื่อย มีการแอบทำสมาธิ นึกอยู่ตลอดว่า "เข้า-ออก" อีกต่างหาก (เผื่อต้องตายใต้น้ำจะได้ไปสู่สุคติ 555)
ที่เกาะเหลาเหลียงพี่ เราจะขึ้นชมทัศนียภาพบนเกาะ ริมฝั่งจะมีหมู่บ้านชาวประมง จะขึ้นมาอยู่ที่นี่กันเฉพาะช่วงที่ทำประมงได้ ส่วนเดือนอื่นๆ บ้านก็จะถูกทิ้งร้างไว้ รอการกลับมาครับ ที่ไปเห็นคือแต่ละบ้านกำลังง่วนอยู่กับการนึ่งปู เพื่อจะเอาไปส่งขายต่อไป น่ากินมากครับ แอบขอมาได้ตัวนึงด้วย ของเขาสดแท้อร่อยจริง !!
ส่วนอย่างอื่นที่ติดมาเป็นผลพลอยได้กับการจับปู ก็นำมาแปรรูปกินกันในครัวเรือนครับ เช่น ปลาตากแห้งอันนี้
ขณะที่คนอื่นกำลังง่วนถ่ายรูปหน้าหาด ผมและตากล้องอีกคนก็เดินไปจนสุดหมู่บ้าน เห็นถ้ำก็เลยลองเข้าไปดู อันนี้เป็นภาพมองจากถ้ำออกมา (ความจริงมีรูปเวอร์ชั่นที่มีผมยืนโด่เด่ด้วย แต่ทำให้รัศมีภาพดูตกต่ำไปในทันตา เลยเอาแบบวิวล้วนดีกว่า 55)
ส่วนรูปนี้ถ่ายกันหน้าหาดครับ โพสต์ท่ากันสุดฤทธิ์ ใครโดนยิงแบบนี้มีหวังตายไม่ฟื้นแน่ แต่ขอกระสุนเป็นความรักได้ไหม จะรีบรับไว้ในทันที อิอิ
หลังจากดำน้ำจนได้น้ำเกลือเต็มท้อง เอ้ย !! สนุกกันเต็มที่แล้ว ก็กลับมาที่พัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กินข้าวและพักผ่อน เวลาที่ไม่มีกิจกรรมอะไร ตากล้องซึ่งมีอยู่มากมายในทีมก็กวักมือเรียกนางแบบมาถ่ายรูป ขอนำเสนอพี่สาวผม หลังจากปรับแต่งรูปพองามก็ออกมาเช่นนี้แล .. ปิ๊งๆ
ส่วนผม ยามว่างก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน มีคนเคยแซวว่า อยู่ทะเลก็ดูทะเลสิ มัวแต่อ่านหนังสืออยู่ได้ ผมว่าริมหาดทรายนี่ล่ะเหมาะมาก ไม่งั้นคงไม่มีใครบ่นอยากเขียนและอ่านหนังสือริมทะเลหรอก จริงไหม
ตกดึกก็มีสิ่งบันเทิงเริงรมย์พิเศษขึ้นมาหน่อย วันนี้มีโชว์ของเจ้าหน้าที่บนเกาะ ผมเองเคยเห็นการแสดงชุดนี้แล้ว แต่พอเปลี่ยนคนเล่น ลีลาก็ต่างกันไป ดูรอบนี้ก็เลยไม่เบื่อครับ
ค่ำคืนนี้จบไป ค่ำคืนใหม่ก็เวียนมาแทน วันนี้เราพักผ่อนนิดหน่อยตอนเช้า โชคดีที่ผมไม่ออกไปดำน้ำหน้าหาดอีก เพราะคนที่ไปได้ร่องรอยแตนทะเลกลับมากันทุกคน เราบอกลาเกาะแห่งนี้ และเดินทางกลับกรุงเทพ ก่อนกลับแวะบ่อน้ำพุร้อน ความจริงน้ำที่นี่จะออกสีเขียวและไม่มีกลิ่นกำมะถัน อุณหภูมิประมาณ 70 องศา ถ้าหน้าหนาวได้มาอยู่แถวนี้ก็คงดีไม่น้อยครับ
อ่า.. หากเมื่อกี้ยังเห็นหน้าผมไม่ชัด ชมกันอีกรอบนะครับ ภาพนี้ถ่ายที่เกาะตะเกียง พยายามหารูปที่ดูดีที่สุดมาแล้ว ห้ามบอกว่าผมไม่เปิดเผยตัวอีกนะครับ ไม่ยอมไม่ยอม อิอิ
ปล.จากเหตุฝนตกหนัก ทำให้ก้อนหินที่เกาะเหลาเหลียงตกลงมาทับเจ้าหน้าที่ของเกาะเสียชีวิตหนึ่งคน ขอไว้อาลัยไว้ ณ ที่นี้ ขอให้พี่ "อับดุล" ไปสู่สุคติ เราจะจำความเป็นกันเองและความน่ารักของพี่ไว้ในใจ.. ตลอดไป
Create Date : 17 พฤษภาคม 2550 |
|
23 comments |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2550 17:58:27 น. |
Counter : 3830 Pageviews. |
|
|
|
เกรดออกเพิ่มอีกหนึ่งตัว เป็น A ครับพ่อแม่พี่น้อง อย่างน้อยก็ช่วยดึงเกรดขึ้นมาได้ รอลุ้นอีกหนึ่ง
ไม่แน่ใจว่าอาจารย์ลืมส่งเกรดวิชานี้รึเปล่า เพราะรอนานแทบขาดใจแล้ว ฮือๆๆ
เมื่อวานเป็นวันแรกพบ นึกถึงวันนี้แล้วมักจะย้อนคิดถึงวันแรกพบเมื่อสองปีก่อน วันนั้นผมกับแฟนเจอกันที่มหาลัย
วันนี้ก็เช่นกัน แต่เรากลายเป็นแฟนเก่าของกันและกันไปแล้ว ผมมีของที่จะให้เขา ซึ่งนานแล้วก็ไม่ได้ให้เสียที ..
ความจริง ผมมีบางอย่างที่อยากจะขอ ผมอยากจับมือเขา เพราะในช่วงที่เราคบกัน ผมไม่เคยได้สัมผัสเขาเลยสักครั้ง
บางครั้งที่หวนกลับไปนึกถึง ความปวดร้าวจะก่อตัวขึ้นภายใน ผมไม่แน่ใจว่าคนคนนี้มีตัวตนอยู่หรือไม่ ทำไมผมถึงไม่เคยสัมผัสเขาได้เลยสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นร่างกายภายนอก หรือแม้กระทั่งข้างในหัวใจ
แต่เอาเถอะ .. ในเมื่ออดีตยังคงเป็นอดีต .. ความหลังก็คงเป็นได้เพียงความหลัง .. หวังว่าเธอจะชอบของที่ฉันให้นะ
ปล.สำหรับแฟนปัจจุบัน อ่านแล้วไม่ต้องขุ่นเคืองหัวใจ ตอนนี้ฉันรักเธอมากแค่ไหน เธอเท่านั้นที่รู้ดี