welcome to my world
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
26 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
Full Metal Panic! The End of Day by Day แปลไทย (บทที่ 2 ส่วนที่ 3)

Full Metal Panic! The End of Day by Day

บทที่ 2 Under the Water's Surface(ส่วนที่ 3)

"จริงๆเล้ยยย...!!"

ระหว่างทางกลับบ้าน คานาเมะยังคงโกรธอยู่

"เราพานายไปเพราะนายบอกว่าอยากไป ทำไมนายต้องทำให้มันพังพินาศอยู่เรื่อยเลยนะ!?"

"ฉันผิดไปแล้ว" โซสึเกะพูดเสียงเศร้า ขณะเดินตามมาข้างหลังเธอ

หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ร้าน เขากับคานาเมะก็ได้ขอโทษขอโพยช่างตัดผมผู้โชคร้ายที่บอกกับพวกเขาว่า "ขอโทษนะครับ แต่พวกคุณได้โปรดไปที่อื่นเถอะครับ ไม่ๆ ไม่ต้องจ่ายหรอกครับ"แล้วเขาก็ทำท่าเหมือนกับว่าอยากจะโยนพวกเขาออกจากร้านใ ห้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

หลังจากนั้น เคียวโกะก็พูดขึ้นว่า"ช่วยไม่ได้นี่นะ" แล้วเธอก็หัวเราะก่อนจะแยกจากพวกเขากลับบ้านไป

"แต่มันอันตรายถ้าขยับตัวไม่ได้ แล้วต้องอยู่กับคนแปลกหน้าถือของมีคมแบบนั้นนะ" โซสึเกะพยายามอธิบาย

"อ้อ งั้นเหรอ งั้นก็อย่ามาพูดว่า "ไปร้านตัดผมกันเถอะ"สิยะ นายกำลังจะตัดผม ไม่เคยรู้เลยรึไงว่าเขาต้องทำยังไงกันบ้าง นายทำร้ายช่างตัด

ผมคนที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ทำไมนายไม่คิดจะปรับปรุงตัวแล้วก็เลิกคิดว่าทุกคนเป็นศัตรูหรือนักฆ่าซะที!"

"ทำแบบนั้นไม่ได้" เขายืนยันหนักแน่น "เรายังมีศัตรูอยู่ นั่นคือความจริง ไม่แปลกเลยถ้าพวกนั้นมุ่งจะมาโจมตีเธอ"

"นั่นมัน..." คานาเมะจะตอบกลับ แต่ก็พูดไม่ออก

ถ้าเขาไม่พูดขึ้นมา เธอคงจะลืมไปแล้ว เป็นความจริงที่ว่าเธอเป็นเป้าหมายของพวกนั้น เพราะว่าเธอเป็นหนึ่งใน"วิสเปอร์ด" ซึ่งเหตุผลในการมีอยู่นั้น เธอไม่อาจทราบได้

"การคุ้มกันเธอ เป็นหน้าที่หลักของฉันที่นี่" เขาพูดชัดเจน และคานาเมะก็หมดอารมณ์จะต่อว่าเขาอีกแล้ว

"แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากตอนนั้นนี่นา" เธอพูดราวกับเสียงกระซิบ

"ฉันรู้ แต่ฉันประมาทไม่ได้"

"ให้ตายเถอะ..."

นับตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อครั้งไปทัศนศึกษา ก็ไม่มีเลยสักครั้งที่พวกที่เรียกว่าศัตรูจะเล็งเป้าหมายมาที่เธอโดยตรง หรือวางแผนจะทำอะไรบางอย่าง อย่างน้อยนั่นก็เท่าที่เธอรู้ เธอตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายหลายต่อหลายครั้งก็จริง แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอไปอยู่"ผิดที่ ผิดเวลา"เท่านั้นเอง

แต่ที่นี่คือโตเกียว ทุกวันสงบสุข แต่ก็นะ ชีวิตของเธออาจจะวุ่นวายกว่านักเรียนม.ปลายทั่วไปนิดหน่อย ก็เพราะโซสึเกะนั่นแหล่ะ

ยังมีศัตรูอยู่จริงหรือ ไม่ใช่เพราะทั้งโซสึเกะกับมิธริลจะกังวลเกินเหตุไปหรอกเหรอ...?

ความสงสัยของคานาเมะนั้นเป็นเรื่องปกติ

โดยที่ไม่รู้ตัว ทั้งคู่ก็ก้าวเท้าไปอย่างช้าๆ

เขตที่อยู่อาศัยในตอนใกล้ค่ำนั้นเงียบสงัด ในฤดูใบไม้ร่วงเช่นนี้อากาศจะเริ่มเย็นลง เนื่องจากพระอาทิตย์ที่ตกเร็วขึ้นส่งผลให้อุณหภูมิยามเย็นลดลงเร็วกว่าปกติ

"ครึ่งปีแล้วสินะ..."

เธอหมายถึงช่วงเวลานับจากครั้งแรกที่โซสึเกะปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าเธอในฤดูใบไม้ผลิ หกเดือนมาแล้ว

"ผ่านไปเร็วมากเลยสินะ?"

"ใช่"

"แต่นายก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลยนะ โซสึเกะ"

"จริงรึ?"

"จริงสิ" เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ โซสึเกะส่ายศีรษะเล็กน้อยอย่างงงๆ สุดท้ายแล้วผมของเขาก็ไม่ได้ตัด มันยังเปียกและยุ่งอยู่ ท่าทางเขาเหมือนกับคนหมดกำลังใจ ดูคล้ายกับลูกหมาตกน้ำ ซึ่งดูแย่มาก ถ้าปล่อยไปแบบนี้ คงจะไร้ความรับผิดชอบไปสักหน่อยล่ะนะ

"นี่..." เธอพูดขึ้นมาหลังจากนิ่งคิดไปซักนาที

"อะไรเหรอ?"

"ทำไมนายไม่ไปที่บ้านฉันล่ะ? ฉันจะได้ตัดผมนายให้เสร็จไง"

ข้อเสนอของเธอเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดสำหรับเขา ตาของโซสึเกะเบิกกว้าง และกระพริบอยู่สองสามครั้งด้วยความประหลาดใจ ซึ่งเป็นท่าทางที่ไม่มีให้เห็นบ่อยนัก

"ไม่เห็นด้วยเหรอ?"

"เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น ...คือ..."

"กลัวว่าฉันจะทำอะไรนายรึไง?"เธอถาม เขาสั่นศีรษะทันที

"ไม่ใช่แบบนั้น" เขาปฏิเสธแข็งขัน รู้สึกมีความสุขที่เธอจะตัดผมให้ "ฉันไม่กังวลหรอก เธอเป็นข้อยกเว้น"

แม้ว่าอพาร์ตเมนต์ของคานาเมะจะใหญ่พอที่ครอบครัวหนึ่งจะอยู่ได้ แต่ห้องน้ำนั้นกลับเล็กและแคบ

คานาเมะพูดเลียนแบบช่างตัดผม"เอาล่ะครับ เชิญนั่งตรงนี้" เธอหิ้วเก้าอี้มาวางไว้ในห้องน้ำ

โซสึเกะทำตามอย่างว่าง่าย แล้วคานาเมะก็คลุมผ้าขนหนูกับผ้าใบรองผมรอบคอของเขา เธอเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว และกำลังสวมเสื้อยืดตัวบางกับกางเกงยีนส์

"เรียบร้อยดีไหม?"

"ดี ไม่มีปัญหา"

"งั้นก็ เริ่มกันเลย ฮิๆๆๆ.."เธอพูดพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย ขยับกรรไกรในมือ โซสึเกะเริ่มรู้สึกหวาดๆ แต่เป็นความรู้สึกที่ต่างกับการเจอศัตรูหรือนักฆ่า

"จิโดริ เธอเคยลองตัดผมใครมาก่อนรึเปล่า?"เขาถาม

"เปล่า" เธอตอบตามตรง "แต่ฉันเคยเล่นผมเคียวโกะมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้ลองตัดจริงเลยนะเนี่ย"

"..."

"ไม่เป็นไรหรอกน่า อย่างน้อยก็ดีกว่าให้นายตัดผมเองนั่นแหล่ะ"

"อย่าตัดหูฉันไปด้วยล่ะ"

"เข้าใจแล้ว ฉันจะพยายามเท่าที่ทำได้"เธอหัวเราะแล้วก็รวบผมของเขามาตัด ในตอนแรกเธอยังลังเลว่าจะเริ่มยังไงดี แต่พอเริ่มจับจังหวะได้แล้ว เธอก็เริ่มเล็มตรงนั้นตรงนี้ออกเรื่อยๆ

"นี่ โซสึเกะ..."คานาเมะพูดโดยไม่หยุดมือ "ที่นายขาดเรียนเมื่อวันก่อน เพราะมีงานงั้นเหรอ?"

"ใช่"

"นายไปรบอีกแล้วล่ะสิ?"

"ใช่...มีอะไรเหรอ?"

"เปล่า แล้วนายบาดเจ็บรึเปล่า?"

"ก็แค่แผลถลอกนิดหน่อย ไม่มีปัญหา"

"เข้าใจแล้ว..."

เธอเงียบลงแล้วก็ตัดผมของเขาต่อ

คานาเมะมองผมของโซสึเกะในกระจกเป็นระยะๆ พร้อมกับพึมพัม"อืมม..."กับตัวเอง บางครั้งก็ทำหน้ามุ่ย แล้วก็กลับไปลงมือต่อ ผมที่ถูกตัดร่วงหล่นลงจากผ้าใบคลุมตัว กระจายไปทั่วพื้น

"คือฉัน..." ในที่สุดคานาเมะก็พูดออกมา"ฉันได้ยินจากเทซซ่าว่า นายไม่ใช่คนเดียวที่คอยคุ้มกันฉัน"

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเปิดประเด็น บางที เธออาจจะคิดมาตลอดตั้งแต่ตอนที่สนทนากันระหว่างทางกลับบ้าน

"อ้อ"

"แต่...คือมันไม่รู้สึกแบบนั้นเลยจริงมั้ย? แบบว่า มันดูเหมือนไม่ใช้เรื่องจริงเลย เหมือนกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ รวมทั้งเรื่องของมิธริล ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องโกหก"

ภารกิจที่โตเกียวของโซสึเกะก็คือ "คุ้มกันคานาเมะ"

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาเป็นคนเดียวที่จับตามองเธออยู่ หน่วยข่าวกรองของมิธริลก็ส่งเจ้าหน้าที่มาด้วยเช่นกัน ซึ่งเขานั้นยังคงปิดบังตัวเองเอาไว้ คงต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่คนนั้นที่ทำให้โซสึเกะจากคานาเมะไปทำภารกิจในที่ไกล ๆได้

โซสึเกะ คาลินิน และคนอื่นๆในหน่วยปฏิบัติการ เรียกเจ้าหน้าที่คนนั้นว่า"เรธ(Wraith)"

"นายเคยพบกับเขาหรือเปล่า?"

"ไม่ ไม่เคยแม้แต่จะคุยกัน"

"รู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร?"

"ไม่ บางทีอาจจะเป็นคนที่เธอไม่รู้จัก"

"สงสัยจังว่าจะเชื่อใจเขาได้ไหม"

"..."

"...ทั้งนั้นน่ะแหล่ะ ทั้งเขา ทั้งมิธริล ทุกอย่างเลย"

ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากแฝงอยู่ในคำพูดนั้น

แม้ว่าปกติแล้ว คานาเมะจะเข้มแข็งและร่าเริงอยู่เสมอ แต่เธอก็รู้สึกหวั่นเกรง โซสึเกะจับความรู้สึกนั้นได้ เขาเข้าใจถึงสถานการณ์ของคานาเมะในตอนนี้ เธอกำลังตกเป็นเป้าหมาย เขารู้ดีว่าเธอพึ่งได้แต่มิธริลเท่านั้น ส่วนตำรวจนั้นช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย

"แน่นอน เธอเชื่อได้ เธอควรจะเชื่อใจเขา" โซสึเกะตอบ แต่เขานั้นกลับไม่เชื่อมั่นในคำพูดของตนเอง

"เรธ"นั้น อยู่ไกลออกไป

เขาอยู่นอกโรงเรียน ตอนเธออยู่ในห้อง เมื่อเธอกลับมาบ้าน เขาก็อยู่ห่างจากอพาร์ตเมนต์ของเธอไปหลายช่วงตึก เขาคอยคุ้มกันเธออยู่ณ.ที่ใดที่หนึ่ง อย่างไม่ใกล้หรือไกลเกินไป และเพราะเหตุนี้ โซสึเกะจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ติดกับเธอตลอดทั้งวันและคืน

เจ้าหน้าที่คนนี้ไม่เคยตอบสนองพวกเขาเลยไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าคานาเมะจะตกอยู่ในอันตราย "เรธ"ก็ไม่มีปฏิกริยาใดๆ ยิ่งไปกว่านั้น ในคราวที่เธอเจอปัญหาระหว่างทาง ถูกพาไปยังบ้านของคนแปลกหน้า หรือแม่แต่เมื่อคราวที่ผู้ก่อการร้าย A21 ลักพาตัวเธอไป "เรธ" ก็ยังคงไม่เคลื่อนไหว แม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะจบลงตรงที่คานาเมะนั้นปลอดภัย แต่โซสึเกะก็ยิ่งไม่มั่นใจมากขึ้น

ทำไมเขาไม่เคลื่อนไหว?

ทำไมเขาไม่คุ้มกันเธอแทนที่ฉัน?

ในรายงานที่เขียนส่งถึงผู้บังคับบัญชา โซสึเกะย้ำหลายครั้งว่า "ผมไม่มั่นใจอย่างมากถึงประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่จากหน่วยข่าวกรองที่มีชื่ อรหัสว่า"เรธ" อย่างไรก็ตาม คำตอบที่เขาได้รับก็ยังเหมือนเดิมว่า"กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ให้ทำตามภารกิจเดิม" ทั้งคาลินินและเทซซ่าต่างก็ไม่เคยจะพยายามอธิบายเหตุผลเพิ่มเติม พวกเขายังคงยืนยันเหมือนเดิม"ไม่เป็นไรหรอก ทำเหมือนอย่างที่เคยทำนั่นแหล่ะ"

นั่นยิ่งทำให้โซสึเกะรู้สึกเป็นกังวลเสมอเมื่อต้องจากคานาเมะไปโดยที่ฝากทุก สิ่งทุกอย่างไว้กับ"เรธ" แม้ว่านั่นจะเป็นคำสั่ง แต่เขาก็ยังไม่เชื่อว่า"เรธ"จะทำหน้าที่แทนเขาได้

"เรธ" จะรอจนกว่าศัตรูที่แท้จริงปรากฎออกมางั้นหรือ?

หรือว่าเขาจะใช้คานาเมะเป็นเหยื่อล่อปลาตัวใหญ่ให้มากินเบ็ด ถึงแม้ว่าทุ่นจะจมขึ้นๆลงๆ เขาก็ไม่สนใจจะม้วนรอกเลยใช่ไหม ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาก็เข้าใจแล้วล่ะว่า ทำไม"เรธ"ถึงไม่เคยโผล่หน้ามาหาเขาเลย

ไม่ เหลวไหลน่า

ถ้าคานาเมะตายไป "เรธ"ก็คงจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำมา แม้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่น่าจดจำนัก แต่จนถึงตอนนี้คานาเมะได้เผชิญหน้ากับอันตรายมาหลายครั้งแล้ว เธอคงจะตายไปแล้วถ้าเขาทำอะไรผิดพลาด แต่ถึงอย่างนั้น"เรธ" ก็ยังไม่เข้ามาช่วย

มีเหตุผลอะไรกันนะ...?

เขาไม่อาจทราบได้

ความสงสัยบางอย่างเกิดขึ้น นอกจากเรื่องของหน่วยข่าวกรองแล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่พวกนั้นปิดบังเขาไว้อยู่อีกหรือเปล่านะ...?

"โซสึเกะ?" คานาเมะเรียก ฉุดเขาขึ้นมาจากความคิดกังวล

"หือ..?"

"เป็นอะไรไป? ดูเหมือนนายจะคิดอะไรอยู่สินะ"

"ไม่มีอะไร..."

"เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันพูดหรือเปล่า? อย่ากังวลไปเลยน่านะ ฉันรู้ ฉันพูดแบบนั้นก็จริง แต่ว่า..."เธอหยุดตัดผมและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าเธอกำลังรวบรวมความกล้า เธอมองไปที่กระจกแล้วพูดว่า

"ฉันเชื่อนายทุกอย่างนะ"

ความรู้สึกประหลาดอาบอิ่มเขา มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จัก อบอุ่นและซาบซึ้ง มันรู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเขาพองโตคับอก

ความรู้สึกแบบนั้นแหล่ะ

ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเติมเต็มอยู่ในร่างกาย

ทำไมกัน เขาสงสัย ความรู้สึกแบบนี้ หรือว่ามันเป็นความรู้สึกที่เรียกว่า...?

เขาจำไม่ได้แล้ว

"...ขอบใจ" โซสึเกะพยายามพูดออกมา

"ไม่เป็นไรจ้ะ"เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงโล่งใจ แล้วก็ลงมือตัดผมต่อ "ไหนดูสิ ลองหันไปทางขวาหน่อย"

"หือ? ได้"

"ไม่ใช่ทางนั้น อีกด้านนึง"

เธอวางนิ้วมือเรียวบางลงบนแก้มของโซสึเกะ ความรู้สึกของปลายนิ้วเย็นๆบนผิวช่างรู้สึกดีเหลือเกิน เหมือนกับเป็นอากาศสดชื่นที่พัดผ่านป่าดงดิบเขตร้อน

ที่หางตา เขามองเห็นผมสีดำของตัวเองตัดกับเสื้อยืดสีขาวของคานาเมะที่กำลังเคลื่อนไหว เสื้อยืดราคาถูกที่ทำจากผ้าบางๆ ทำให้แสงนั้นส่องผ่านจนมองทะลุได้ เมื่อเธอขยับมาอยู่ตรงหน้าเพื่อจะตัดผมตรงหน้าผากของเขา เรือนร่างจากรักแร้ไปจนถึงเอวนั้นก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจนผ่านเสื้อยืด มันช่างเป็นโค้งที่เพรียวและบางเหลือเกิน โซสึเกะรีบหลบสายตาลง ราวกับว่าเขาพึ่งจ้องไปที่ดวงตะวัน

"ฮิๆ ฉันว่าพอจะคุ้นแล้วนะเนี่ย..."เธอพูด ท่าทางของเธอดูจะคล่องแคล่วกว่าตอนเริ่มตัด

เธอตัดผมเขาด้วยกรรไกรปลายมน แล้วใช้มีดโกนเล็มส่วนท้ายทอยออก เสร็จแล้วเธอจึงค่อยๆหวีผมเขาอย่างขมีขมัน ขณะที่เธอทำแบบนั้น โซสึเกะก็รู้สึกง่วงซึม

ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย เขาคิด แม้ว่าจะมีคนถือของมีคมอยู่ใกล้ๆ ฉันก็ยังรู้สึกอยากจะนอนได้

ฉัน... นี่ฉัน...

ไม่อยากจะเชื่อเลย

แต่ว่า ความรู้สึกที่บอกไม่ถูกนี่มันอะไรกันนะ

จิโดริ บางที ฉัน....

"เอาล่ะ ล้างผมซะหน่อย"

เธอกดศีรษะเขาลงไปในอ่าง แล้วราดด้วยน้ำเย็น ทำให้ความง่วงนั้นหายไปเป็นปลิดทิ้ง

"ฉันว่าไม่เลวนะเนี่ย" เธอพยักหน้า พร้อมกับเปิดไดร์เป่าผม

"ฉันไม่เห็นความแตกต่างอะไรเลย"โซสึเกะวิจารณ์ เขามองไปที่กระจกอย่างจริงจัง

ผมของเขาสั้นกว่าแต่ก่อนแน่นอน แต่เขาก็ไม่คิดว่าทรงผมของเขาเปลี่ยนไปเลย มันดูเหมือนกับมองตัวเองเมื่อเดือนที่แล้วมากกว่า ผมของเขาก็ยังคงยุ่งเหยิงเหมือนอย่างเคย แต่ความยาวของผมทั้งสองข้างนั้นดูจะสมดุลย์กัน

"พูดอะไรของนายน่ะ? มันต่างจากเดิมเห็นๆเลยนะ"

"จริงรึ...?"

"ช่ายย...มันดูดีขึ้น ไว้คอยฟังที่คนอื่นพูดที่โรงเรียนพรุ่งนี้สิ"

"อืมม..."

หลังจากมองกระจกอย่างพินิจพิจารณาอีกครั้งแล้ว โซสึเกะก็ยืนขึ้น

"ถ้างั้นแล้ว เพื่อเป็นการตอบแทน ถ้ามีโอกาส คราวหน้า ฉันจะตัดผมให้เธอบ้างนะ"

"ขอปฏิเสธเด็ดขาดเลยย่ะ ขอบใจ" คานาเมะพูด ทำหน้าบู้บี้

(จบส่วนที่ 3)


Create Date : 26 กรกฎาคม 2551
Last Update : 26 กรกฎาคม 2551 21:36:03 น. 0 comments
Counter : 573 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

คนรักมิวฟิล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add คนรักมิวฟิล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.