เปิดจดหมายจากเรือนจำ "จาฟาร์ ปานาฮี" ผกก.อิหร่านที่ถูกคุมขัง จ่าหน้าถึง "เทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน"
T H A I PBS
2010-12-22 กลายเป็นข่าวที่บั่นทอนเสรีภาพในแวดวงศิลปะอย่างร้ายแรง เมื่อ จาห์ฟา ปานาฮี ผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นนำของอิหร่านถูกทางการตัดสินจำคุกเป็นเวลา 6 ปี และ ถูกห้ามสร้างภาพยนตร์ เขียนบทภาพยนตร์ รวมถึงการให้สัมภาษณ์กับสื่อทั้งในและต่างประเทศ และเดินทางออกนอกประเทศเป็นเวลา 20 ปี ในข้อหาส่องสุมและสมรู้ร่วมคิดด้วยเจตนาก่ออาชญากรรมต่อความมั่นคงของชาติและสร้างโฆษณาชวนเชื่อเพื่อต่อต้านสาธารณรัฐอิสลาม หลังจากทางการอ้างว่า ผู้กำกับดังกำลังสร้างสารคดีเหตุการณ์ประท้วงผลการเลือกตั้งครั้งใหญ่ของอิหร่านเมื่อปีที่ผ่านมา
ครั้งนี้ถือเป็นการถูกคุมขังครั้งที่ 3 แล้วสำหรับผู้กำกับผู้เป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวของกลุ่ม กรีน มูวฟ์เมน ที่ต่อต้านผลการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใสของรัฐบาลนายมาห์มุด อาห์มาดิเนจาด หลังจากที่เขาเคยถูกทางการบุกเข้าไปจับกุมถึงที่บ้านพักเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเขาใช้เวลาที่อยู่ในเรือนจำเป็นเวลา 88 วันด้วยการอดอาหารประท้วง จนเกิดกระแสเรียกร้องอิสรภาพแก่เขาจากวงการภาพยนตร์ทั่วโลก เช่นเดียวกับเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ที่ตัดสินใจเว้นที่นั่งกรรมการของปานาฮีไว้ตลอดทั้งเทศกาล
ในคำให้การต่อศาลเมื่อเดือนพฤษจิกายนที่ผ่านมา ปานาฮี กล่าวว่า การจำคุกของเขาถือเป็นสัญลักษณ์ของการลักพาตัวโดยอำนาจรัฐเพื่อข่มขู่ศิลปินทุกคนในประเทศแห่งนี้ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างจากรัฐบาลล่าสุดทางองค์กรภาพยนตร์ยุโรปนำโดยเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ และนิตยสาร Cahiers du Cinema ได้เปิดเว็บไซต์เพื่อเรียกร้องอิสรภาพให้กับ ปานาฮี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยทางเว็บไซต์อ้างว่า อาชญากรรมเดียวที่ผู้กำกับดังก่อขึ้นคือการแสดงออกอย่างเสรีในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ในอิหร่าน
ซึ่งบทลงโทษนี้ไม่เพียงเป็นภัยต่อ ปานาฮี แต่ส่งผลต่อวงการถาพยนตร์ของอิหร่านทั้งปวง ซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้เขียนบท ผู้กำกับ และนักแสดง รวมทั้งชายหญิงทุกคนที่รักในเสรีภาพและยึดถือสิทธิมนุษยชนเป็นพื้นฐานเข้ามาลงชื่อเพื่อกดดันรัฐบาลอิหร่านกันอีกมากมาย
มติชนออนไลน์
11 ก.พ. 2554 อิซาเบลล่า รอสเซลลินี ได้เปลี่ยนให้ค่ำคืนของงานเลี้ยงเปิดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน กลายเป็นการกล่าวประณามรัฐบาลอิหร่าน เมื่อเธอนำจดหมายของ "จาฟาร์ ปานาฮี" ผู้กำกับชาวอิหร่านซึ่งเขียนระหว่างการถูกจำคุกออกมาอ่านดังๆ ปานาฮี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินของเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลินในปีนี้ ถูกสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 ปี และถูกสั่งห้ามสร้างภาพยนตร์เป็นเวลา 20 ปี ในข้อหาการสร้างภาพยนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล
"เราทราบดีว่าการอ่านจดหมายฉบับนี้อาจจะส่งผลให้เกิดผลเสียยิ่งขึ้นต่อปานาฮี แต่เราได้พูดกับเขา และมั่นใจว่าเขาอยากให้ทำเช่นนี้ นี่อาจเป็นถ้อยคำสุดท้ายที่เราจะได้ยินจากเขา" นายดีเทอร์ กอสส์ลิค ผู้อำนวยการเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลินกล่าวขณะที่นายเบอร์นด์ นอยมานน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของเยอรมัน ซึ่งทำการเปิดงานอย่างเป็นทางการ ได้กล่าวประณามรัฐบาลอิหร่านเช่นกัน
"การโจมตีเสรีภาพของผู้สร้างภาพยนตร์ เท่ากับเป็นการโจมตีสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุดของเสรีภาพ"
"โลกของผู้สร้างภาพยนตร์ เป็นที่ที่ความจริงและความฝันส่งผลสะท้อนต่อกันและกัน ผู้สร้างภาพยนตร์ใช้ความจริงในฐานะแรงบันดาลใจ แต่งแต้มมันด้วยสีสันแห่งจินตนาการ และสร้างสรรค์ภาพยนตร์เพื่อฉายภาพแห่งความหวังและความฝัน ความจริงก็คือผมยังคงทำหนังเรื่อยมาในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และตอนนี้ผมก็ถูกลงโทษด้วยพรากสิทธินี้เป็นเวลาอีก 20 ปี แต่ผมรู้ว่าผมจะยังคงแปรเปลี่ยนความฝันของผมให้กลายเป็นภาพยนตร์ในจินตนาการต่อไป ผมยอมรับในฐานะผู้สร้างหนังที่มีสำนึกทางสังคมว่า
ผมจะไม่ได้ถ่ายทอดปัญหาและความกังวลใจที่ประชาชนประสบในแต่ละวันได้อีกต่อไป แต่ผมก็จะไม่ปฏิเสธตนเองให้ฝันว่า หลังจาก 20 ปีนี้ผ่านไป ปัญหาทุกอย่างก็จะเลือนหายตามไปด้วย และผมก็จะสร้างหนังเกี่ยวกับสันติภาพและความรุ่งโรจน์ของประเทศ เมื่อผมมีโอกาสได้ทำเช่นนั้นอีกครั้งความจริงก็คือ พวกเขาได้พรากความคิดและการเขียนของผมไปถึง 20 ปี แต่พวกเขาไม่สามารถห้ามผมให้ฝันว่า ในช่วงเวลา 20 ปีแห่งการข่มขู่และการสอบสวนหาความผิดนี้ มันจะถูกแทนที่โดยเสรีภาพและการคิดอย่างมีอิสระ
พวกเขาห้ามผมไม่ให้มองเห็นโลกถึงยี่สิบปี ผมหวังว่า เมื่อผมเป็นอิสระ ผมจะสามารถเดินทางท่องโลกโดยปราศจากอุปสรรคด้านภูมิศาสตร์ ชาติพันธุ์ และมโนคติ ที่ที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างอิสระและสงบสุข โดยไม่สนใจว่าพวกเขาจะมีความเชื่อ หรือทิฐิอย่างไรพวกเขาลงโทษผม ด้วยการสั่งให้ผมปิดปากเงียบถึงยี่สิบปี ในความฝัน ผมเฝ้ากรีดร้องต่อช่วงเวลาที่เราต่างฝ่ายต่างอดกลั้นซึ่งกันและกัน เคารพความเห็นซึ่งกันและกัน และมีชีวิตอยู่ซึ่งกันและกัน
ที่สำคัญที่สุด ความจริงที่ว่าผมต้องรับโทษ 6 ปีในคุก ผมจะมีชีวิตอยู่ในอีก 6 ปีข้างหน้าด้วยความหวังว่าความฝันของผมจะกลายเป็นความจริง ผมปรารถนาให้เพื่อนพ้องผู้สร้างภาพยนตร์ไม่ว่าจะอยู่ในซอกมุมใดของโลก ได้สร้างสรรค์ผลงานที่ยิ่งใหญ่เพื่อที่ว่าเมื่อผมหลุดพ้นจากการถูกจองจำ ผมจะได้มีแรงบันดาลใจเพื่อที่จะดำรงชีวิตอยู่ในโลกที่พวกเขาฝันถึงในภาพยนตร์ดังนั้น นับจากนี้ไป และอีก 20 ปีข้างหน้า ผมถูกบังคับให้ปิดปาก ผมถูกบังคับให้มองไม่เห็น ผมถูกบังคับไม่ให้คิด ผมถูกบังคับไม่ให้สร้างหนัง
ผมยอมรับความจริงของการถูกกังขังและการตกเป็นผู้ถูกขัง ผมจะเฝ้ารอถึงการปรากฏของความฝันของผมที่ปรากฏในภาพยนตร์ของพวกคุณ และผมหวังว่าจะได้พบในสิ่งที่ผมสูญเสียจากมัน"
กดโหวตให้ Blog นี้
ด้านล่างครับ
ดูกันชัดๆ อีกที โลโก้ WikiLeaks! จริงๆ แล้ว...เป็นรูปอะไร?//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=milansheva&month=02-2011&date=10&group=3&gblog=94
ด้านล่างครับ 
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
